กลยุทธ์เด็ด เสพติดรักภรรยาของผม - บทที่459 คาดหวังมาตลอดชีวิต
เฉิงยู่เวินยืนอยู่อีกฝั่ง ตามด้วยเสียงร้องไห้อย่างไม่ขาดสาย
“ชีวิตเธอช่างลำบาก”
จงจิ่งห้าวก็ยืนอยู่ข้างประตู ไม่ได้เข้าไปข้างใน เขาก้มหน้าลง เส้นผมบดบังสีหน้าของเขา
“ฉันจำได้ในปีนั้นตอนวันเกิดอายุ20ปีของเธอ ที่บ้านเกิดเรื่องขึ้น พ่อแม่จากโลกนี้ไป ฉันโดนจับ เธอวิ่งวุ่นอยู่ข้างนอกไปทุกที่ หาทางช่วยฉันออกมา……” เฉิงยู่เวินสะอึกสะอื้น
“ตอนนั้นฉันไม่รู้ ภายหลังถึงจะรู้ เพื่อที่ฉันจะไม่ต้องติดคุก เธอทำข้อตกลงกับผู้หญิงคนหนึ่ง ผู้หญิงคนนั้นชื่อว่าเหวินเสียน เธอคนนั้นให้เงินมาก้อนใหญ่ มากพอจะใช้หนี้ทั้งหมดได้ ฉันก็ไม่ต้องติดคุก ยู่ซิ่วน่ะ น้องสาวของฉันก็ได้ออกจากไป๋เฉิงไปกับเหวินเสียน”
“ผู้หญิงที่ชื่อเหวินเสียนคนนี้ ไม่ได้มีความรักกับสามีของตัวเอง ตัวเองรู้ดีอยู่แก่ใจ แต่ก็ยังรู้สึกผิดต่อสามีตัวเอง เลยเอายู่ซิ่วมอบให้แก่สามีของเธอ หวังว่าพวกเขาจะมีความรู้สึกต่อกัน และรักกัน… ต่อมายู่ซิ่วก็ตั้งท้อง เหวินเสียนบอกว่าอยากให้เด็กคนนี้มีฐานะที่ชัดเจน จึงประกาศต่อสาธารณชนว่าเธอท้อง… ”
“พอลูกคลอดออกมาก็กลับมาอยู่กับเหวินเสียน บอกว่าเด็กคนนี้เธอเป็นคนคลอดเอง โชคไม่ดี เหวินชิงค้นพบความสัมพันธ์ของจงฉีเฟิงและยู่ซิ่ว เขาคิดว่ายู่ซิ่วฉวยโอกาสที่เหวินเสียนท้อง ล่อลวงจงฉีเฟิง…ในตอนนั้นเหวินจิ่นยังอยู่ มีอำนาจมาก เหวินชิงเลยทำอะไรได้ตามอำเภอใจ จับตัวยู่ซิ่ว อีกทั้งบีบบังคับให้เธอโทรศัพท์หาจงฉีเฟิงเพื่อบอกเลิก ยู่ซิ่วไม่ยินยอม ไม่รู้เขาไปได้ยินมายังไงว่าก่อนหน้านี้ยู่ซิ่วเคยมีรักครั้งแรก ดังนั้นจึงจับไป๋หงเฟยมาด้วย ใช้ไป๋หงเฟยข่มขู่เธอ…… ”
“ไม่มีทางเลือก เธอทำได้แค่โทรศัพท์หาจงฉีเฟิง เธอยังคงรักไป๋หงเฟยอยู่ จึงเลือกที่จะจากไป อันที่จริงเธอไม่ได้ไปไหน แต่กลับถูกเหวินชิงขังเอาไว้ ขังนานถึง6ปี… ”
“เหวินเสียนเป็นคนพบว่าเธอไม่ได้หนีไปกับไป๋หงเฟย แต่เป็นโดนเหวินชิงขังไว้ เลยบังคับให้เหวินชิงปล่อยเธอซะ ในตอนนั้นผ่านมาแล้วตั้งหกปี เหวินชิงคิดว่ายู่ซิ่วและจงฉีเฟิงห่างกันตั้งหลายปี น่าจะไม่มีความรู้สึกใดๆแล้ว อีกอย่าง‘ลูก’ของเหวินเสียนและจงฉีเฟิงก็โตแล้ว เขาจึงตอบตกลงปล่อยเธอ…”
“หกปี สองพันกว่าวันสองพันกว่าคืน ตอนที่เธอโดนจับเข้าไปนั้น พึ่งจะคลอดเสร็จ และเป็นตอนนั้นที่ร่างกายได้รับบาดเจ็บ หลังจากนี้จะมีลูกไม่ได้อีก อีกอย่างดูเหมือนจะเสียสติไปบ้าง หนึ่งปีหลังจากนั้นถึงจะดีขึ้นมาหน่อย”
“ต่อมา เพื่อที่เธอจะได้อยู่กับลูกชายของเธอ จึงยอมแต่งงานกับจงฉีเฟิง แต่ว่าเหวินชิงไม่เห็นด้วย ต้องให้เธอเอางานฝีมือของบรรพบุรุษมาเป็นของแลกเปลี่ยน ถึงจะยอมที่จะตกลง ส่วนเรื่องเหวินเสียนตายยังไงนั้น ฉันก็ไม่ค่อยรู้เหมือนกัน”
เขานัยน์ตาแดงก่ำเงยหน้าขึ้นมองจงจิ่งห้าวที่ยืนอยู่ข้างประตู พูดอย่างน้ำตาซึม “นอนตรงนี้ ผู้หญิงที่ใช้ผ้าสีขาวคลุมอยู่คนนี้ คือแม่แท้ๆของนาย ”
ยังเน้นอีกว่า “อุ้มท้องสิบเดือน อดทนเจ็บปวดอย่างรุนแรงตอนให้กำเนิด แม่แท้ๆที่คลอดนายออกมา”
จงจิ่งห้าวยังคงไม่เงยหน้าขึ้นมา เห็นร่างที่สั่นเทาเบาๆของเขารางๆ
จงฉีเฟิงลุกขึ้นมา นัยน์ตาไร้ซึ่งอารมณ์ใดๆ เขาวางมือของยู่ซิ่วลงเบาๆอย่างระวัง รู้สึกอาลัย รู้สึกเจ็บปวดใจ สุดท้ายก็วางมันลงได้ เขามองไปที่เฉิงยู่เวิน “พวกเราออกไปเถอะ ให้เขาได้เจอเธอครั้งสุดท้าย เรียกเธอสักครั้ง……คาดหวังมาตลอดชีวิต……”
เฉิงยู่เวินเช็ดหน้า แล้วเดินออกมาจากห้องผู้ป่วย นอกห้องเสิ่นเผยซวนยืนอยู่ตรงระเบียงทางเดิน เสียงของเฉิงยู่เวินเมื่อกี้นี้ เขาได้ยินหมดแล้ว รู้สึกตกใจมาก คาดไม่ถึงว่าเฉิงยู่ซิ่วคือแม่แท้ๆของจงจิ่งห้าว
เวลานี้ เขาเป็นห่วงจงจิ่งห้าวจะทำยังไง
จะเผชิญหน้ายังไง
ในตอนที่จงฉีเฟิงเดินผ่านจงจิ่งห้าวนั้น ก็หยุดฝีเท้า มือหนักของเขาวางลงบนไหล่ของเขา “อย่าให้เธอจากไปพร้อมกับความเสียใจ”
จงฉีเฟิงออกแรงบีบที่ไหล่ของเขา ขอบตาแดงก่ำ “เธอคาดหวังมาตลอดชีวิต ตอนที่มีชีวิตอยู่ สุดท้ายกลับไม่ได้ในสิ่งที่หวัง ตอนนี้อย่าให้เธอจากไปพร้อมกับความเสียใจเลยนะ”
พูดจบเขาก็เดินออกมาจากห้องผู้ป่วย ปิดประตูห้องลง เมื่อประตูปิดลง ปิดกั้นสิ่งที่อยู่ภายนอกทั้งหมดออกไป แม้กระทั่งอากาศก็แบ่งแยกจากภายนอก
ทั่วทั้งห้องผู้ป่วยเงียบกริบ ไม่มีแม้แต่เสียงใดๆแม้แต่นิดเดียว
มองเห็นได้เพียงเลือนราง ตัวของจงจิ่งห้าวสั่นขึ้นแรงกว่าเดิมมาก เขาค่อยๆย่อตัวลง หลังพิงกำแพงและไหลลงมานั่งกับพื้น
แขนทั้งสองของเขากอดที่หัวเข่า ศรีษะของเขาก้มอยู่ระหว่างแขนทั้งสอง ไม่มีใครเห็นสีหน้าของเขา รวมถึงไม่มีใครเห็นเขาร้องไห้
เพียงแค่มีน้ำไหลผ่านแก้มของเขาลงมา แล้วหยดลงที่พื้น
ณ ตอนนั้น ความกล้าที่จะมองเธอสักนิดยังไม่มี
หลินซินเหยียนตื่นขึ้นมา ปลายจมูกได้กลิ่นน้ำยาฆ่าเชื้อ เสื้อผ้าบนร่างเปลี่ยนเป็นชุดผู้ป่วย เธอจำได้ว่าเฉิงยู่ซิ่วนั้นปกป้องเธอจากอันตราย เธอถึงได้ปลอดภัย ตอนนั้นเธอได้รับบาดเจ็บหนักมาก ตอนนี้ไม่รู้ว่าเป็นอย่างไรบ้าง
เธอดึงผ้าห่มออกลงจากเตียง รู้สึกว่าเท้าเจ็บมาก หลินซินเหยียนดึงกางเกงขึ้นก็พบว่าที่เท้าบาดเจ็บ ตอนเกิดอุบัติเหตุ เท้าของเธอเหมือนถูกอะไรบางอย่างทับจนขยับไม่ได้
น่าจะได้รับบาดเจ็บตอนนั้น แต่ดูเหมือนจะได้รับการดูแลเรียบร้อยแล้ว
เธอเดินออกจากห้องผู้ป่วยอย่างช้าๆ ห้องผ่าตัดไม่มีคนอยู่ เธอถามพยาบาลที่เดินผ่านมา “ขอโทษนะคะ วันนี้ผู้ป่วยที่ถูกส่งมาเพราะอุบัติเหตุทางรถยนต์ ตอนนี้เป็นยังไงบ้างคะ? ”
พยาบาลจ้องมองเธอ ชี้ไปที่ระเบียงทางเดินถัดไป “อยู่ที่ห้องนั้นค่ะ”
“ขอบคุณนะคะ” หลินซินเหยียนสบายใจ ถูกส่งเข้าห้องผู้ป่วย น่าจะไม่เป็นอะไรมากแล้ว ดีหน่อย ดีหน่อย เธอรู้สึกโล่งอก แล้วเดินไปทางนั้น เธอเห็นเสิ่นเผยซวนยืนอยู่ตรงระเบียงทางเดิน
จึงรีบเดินให้เร็วขึ้น
“เผยซวน ”
เสิ่นเผยซวนเดินเข้ามาพยุงเธอ “คุณไม่เป็นอะไรใช่ไหม?”
เธอพยักหน้า ถามว่า “เขามาหรือยัง?”
เสิ่นเผยซวนตอบอืมเบาๆ
หลินซินเหยียนได้ยินเสียงนี้ก็รู้สึกผิดปกติ เธอเงยหน้ามองเสิ่นเผยซวน
“คุณรู้ใช่ไหม?” เสิ่นเผยซวนถาม
“อะไร?”
“เฉิงยู่ซิ่วคือแม่แท้ๆของจิ่งห้าว”
มีลางสังหรณ์ไม่ดีไหลเข้ามา เธอเกาะแขนของเสิ่นเผยซวน “เขารู้แล้ว? ”
เสิ่นเผยซวนตอบอืม
ขณะเดียวกันหลินซินเหยียนก็ถอนหายใจโล่งอก ก็ดี แบบนี้ก็ดี ถึงจะเริ่มเผชิญหน้าได้ยาก แต่ว่า ปมเรื่องนั้นไม่ช้าก็เร็วต้องรู้เข้าสักวันอยู่ดี
อีกอย่างตอนนี้เฉิงยู่ซิ่วได้รับบาดเจ็บ ต้องการคนคอยดูแล
“ฉันจะเข้าไปดูสักหน่อย” หลินซินเหยียนกำลังจะเดินไปที่ห้องผู้ป่วย
เสิ่นเผยซวนดึงมือเธอไว้ “ จิ่งห้าวอยู่ข้างใน” เสียงของเขาต่ำลงและแหบพร่า “เฉิงยู่ซิ่วช่วยไว้ไม่ได้ ตอนนี้เขาต้องการพื้นที่สักหน่อย”
หลินซินเหยียนเบิกตากว้าง “คุณ คุณพูดว่าอะไรนะ?”
เฉิงยู่ซิ่วช่วยไว้ไม่ได้
อุบ—
ความรู้สึกเจ็บปวดที่รุนแรงเหมือนกับคลื่นทะเลซัดเข้ามา ทำให้เกร็งไปทั้งตัว แม้แต่ท้องของเธอก็ปวดบิดไปด้วย ตามด้วยอาการคลื่นไส้
เธอกุมหน้าอกของเธอ แล้วก็ทรุดลงไปกับพื้น
เสิ่นเผยซวนตกใจ จับไปที่ไหล่ของเธอ “คุณไม่เป็นไรใช่ไหม ให้ผมไปเรียกหมอให้หรือเปล่า?”
หลินซินเหยียนส่ายหัว “แค่เจ็บปวดหัวใจมากไป……เขาจะทำยังไง?”
เธอเงยหน้าขึ้นมองไปยังประตูที่ปิดสนิท น้ำตาไหลลงมาโดยไม่รู้ตัว สะอึกสะอื้น “เผยซวน เขาจะทำยังไง?”