กลยุทธ์เด็ด เสพติดรักภรรยาของผม - บทที่481 เขินจนโกรธ
เสิ่นเผยซวนตอบว่าเข้าใจแล้ว จากนั้นก็ส่งสายตาให้ลูกน้อง
เด็กชายตกใจจนตัวสั่น อยากจะขอร้อง แต่กลับเปล่งเสียงไม่ออกแม้แต่น้อย ตัวอ่อนไปทั่วร่าง ถูกดึงกระดูกและเลือด
“ผมพูดไปหมดแล้วจริงๆ” ร้องเสียงออกมา เด็กชายตกใจจนร้องไห้ น้ำมูกไหล ร้องไห้อย่างน่าสงสาร
ซูจ้านทำเสียงจุ๊ๆ และพูดเสียงเรียบ “เกิดมาเป็นคน ก็ควรทำสิ่งที่คนควรทำ คิดดูเอาเองละกัน”
พูดจบก็เอื้อมมือล็อคคอเสี่นเผยซวนเดินออกไปข้างนอก ถามเสียงเบา “คงไม่….
เขาใช้มือทำท่าปาดคอ
เสิ่นเผยซวนสายตาเย็นชา “คิดอะไรอยู่เนี่ย? สั่งสอนสักรอบแล้วส่งกลับบ้านเก่าไป อย่าให้มาโผล่ที่เมืองBก็พอแล้ว ก็แค่กุ้งฝอยตัวเดียว
ไม่มีประโยชน์อะไร”
อีกอย่างแค่เห็นก็รู้ว่าไม่มีการศึกษา อายุยังน้อยแต่ตามคนไม่ถูกเลยทำความผิด
แม้ว่าจะน่ารังเกียจ แต่ว่าคนที่บงการคนพวกนี้ ถึงจะเป็นคนที่น่ารังเกียจอย่างแท้จริง
ซูจ้านยิ้ม “ฉันนึกว่าเขาจะโหดเหี้ยมจริงๆ ไม่ห่วงว่ามือจะเปื้อนสิ่งสกปรก…โอ่ย”
เสิ่นเผยซวนใช้ศอกแทงเขา
เขาจับซี่โครงและจ้องไปที่เสิ่นเผยซวน “นายมือหนักขนาดนี้ จะให้ฉันตายเลยหรือยังไง?”
เสิ่นเผยซวนไม่ได้สนใจเขา เดินไปที่ข้างรถเปิดประตูรถแล้วเข้าไปนั่ง มองไปทางด้านหลังครู่หนึ่ง “ตอนนี้เราจะเอายังไงดี?”
จงจิ่งห้าวไม่ได้ตอบตามที่ถาม “ฉันได้ยินมาว่าที่ถนนจงซินไนต์คลับร้านนั้นเป็นของเขา?”
เสิ่นเผยซวนทำปากจู๋ “สิ่งที่มีอยู่ที่เยี่ยมที่สุดในวงการ”
สามารถไปเล่นที่นั่น ต่งมีหน้ามีตาอยู่บ้าง ว่ากันว่าลูกเล่นแบบไหนก็มีหมด ลูกคนรวยไม่น้อย ลูกนักการเมืองหนึ่งเดือนมีสามสิบวัน ก็จะ
ไปแช่อยู่ในนั้นประมาณยี่สิบกว่าวัน
แค่คิดก็รู้แล้วว่าข้างในจะสนุกแค่ไหนมีลูกเล่นมากมายขนาดไหน
ตอนนี้เองซูจ้านก็เปิดประตูรถออก มองเสิ่นเผยชวนที่นั่งเบาะข้างคนขับ ถลึงตามองอย่างดุร้าย ยังแค้นที่เขาแทงตนเองเมื่อกี้อยู่ “นายมา
นั่งรถของฉัน รถของตัวเองไม่เอาแล้วหรือไง?”
เสิ่นเผยซวยไม่แคร์ ยักไหล่กางแขนสองข้าง “มีคนขับ”
ลูกน้องของเขาล้วนอยู่ที่นี่ อีกอย่างตอนมาก็ไม่ใช่เขาขับ
ซูจ้านสบถออกมาอย่างเย็นชา “นายเป็นแบบนี้ไง ไม่รู้จักการทะนุกนอมอ่อนโยนต่อสตรี มิน่าล่ะถึงหาแฟนไม่ได้”
เสิ่นเผยซวน “…”
นานๆที่จะใช้สีหน้าที่จริงจังสุดๆมองซูจ้าน พูดชัดถ้อยชัดคำ “ต่อไปนายอย่าพูดเรื่องแบบนี้กับฉันอีก”
หาแฟนไม่ได้ก็ควรโดนล้อเล่น?
แถมแม่งล้อเล่นทุกวันอีกตางหาก
สนุกมากสินะ
คิดว่าเขาไม่มีความรู้สึกรึไง?
“ทำไม เขินจนโกรธงั้นหรอ?” ซูจ้านเหยียบคันเร่ง ขับรถออกไป เหล่มองเขาอย่างเฉยชา “หรือว่านายจะบอกฉันว่า นายเสียซิงแล้ว?”
เสิ่นเผยซวนโกรธจนกระอักเลือด
ยิ่งทำให้เขาโมโหก็คือ ไม่สามารถโต้กลับได้
เขากุมขมับ รู้สึกว่าถ้าซูจ้านยังพูดต่อไป เขาคงจะโกรธตาย
“เราจะไปไหนกัน?” ซูจ้านถาม
เสิ่นเผยชวนไม่ได้ลืมตาขึ้น ตอบนิ่งๆว่า “ไนต์คลับถนนจงซิน”
“ฮ่าๆ จะไปเปิดซิงหรือไง?” ซูจ้านหัวเราะร่า ไนต์คลับร้านนี้ได้ชื่อว่าเป็นร้านที่เจ๋งที่สุดแห่งเมืองB มีแม็คอัใหญ่ ไปเที่ยวที่นั่นต่างก็ไม่ใช่
คนธรรมดาทั่วไป ข้างในนั้นอยากได้บริการแบบไหนล้วนมีหมด ได้ยินว่าผู้หญิงในนั้นโดดเด่นที่สุด สามารถทำให้คนจมอยู่ที่นั่นได้ทั้งคืน
เสิ่นเผยชวนพูดแบบนี้ อย่างแรกที่เขานึกถึงก็คือพระกำลังจะแตกเจ
เสิ่นเผยซวนอยากจะด่าส้กรอบ ต่ำทรามจริงๆ แต่ว่าฉลาดมีไหวพริบ ทำเอาซะเขาดูไม่มีจุดอ่อนอย่างไรอย่างนั้น หัวเราะอย่างได้ใจแถม
ดูดี “อื่” เขาหันหน้าไปมองข้างหลัง “ฉินยายังไม่เสร็จอีกหรอ? นานแล้วนะ”
ชายที่นังอยู่เบาะหลังนัง ขว่ห้างอย่างใจเย็น สุขุมเย็นชา พอได้ยินเสียงของเสินเผยซวน ค่อยๆลืมตาขึ้น ตอนแรกที่ฉินยาออกนอก
ประเทศ เป็นเพราะหลินซินเหยียนขอให้เขาช่วย เขาเป็นคนจัดการเรื่องหมอและโรงพยาบาล ฉินยาหายดีแล้วจากไป เขารู้อยู่แล้วแน่นอน
ไม่ได้กลับมาเมืองB ถ้าหากไม่ได้กลับไปที่ประเทศA ดูจากความมพันธ์ของเธอกับหลินซินเหยียน ก็คงจะไปหาหลินซินเหยียนล่ะมั้ง
เขานวดระหว่างคิ้ว “พวกนายสองคนหยุดสักพักได้มั้ย?”
เสียงดังจนเขาปวดหัว
“เสิ่นเผยซวนเขาไม่ใช่คน จี้ตรงจุดที่ฉันเจ็บ” ครั้งนี้เปลี่ยนมาเป็นซูจ้านที่หงุดหงิด
เสิ่นเผยซวนยิ้มนิ่งๆ “ทำอย่างกับนายเป็นคนงั้นแหละ”
“ฉันจะไม่ถือสาเอาความกับนายละกัน” ซูจ้านไม่สนใจ ก่อนอื่นสงบอารมณ์ลงก่อน จากนั้นก็มองจงจิ่งห้าวอย่างจริงจังผ่านทางกระจก
หลัง ถามอย่างระมัดระวัง “ฉินยาเสร็จหรือยัง?”
จงจิ่งห้าวไม่ได้เงยหน้า เผยเค้าร่างเงามืดดำๆก้อนหนึ่ง ตอบอิ่มด้วยน้ำเสียงที่เบามาก
ไม่รอให้ซูจ้านถามต่อว่าเธอไปไหน เขาพูดเสริมอีกประโยคหนึ่ง “ฉันไม่รู้”
ซูจ้านรู้สึกหดหู่ ท่าทางก็ไม่ชิวเหมือนเมื่อกี้ ไม่กลับมาจะต้องจงใจหลบหน้าเขาแน่นอน
เธอมีความสัมพันธ์ที่ดีกับหลินซินเหยียน ตอนนี้หลินซินเหยียนก็ไม่อยู่แล้ว เธอยิ่งไปอย่างไม่ต้องกังวลอะไรแล้ว
ซูจ้านมองไปที่เสิ่นเผยซวนถามอย่างเศร้าใจสุดๆ “ฉันเสียใจ นายสบายแล้วใช่มั้ย?”
เสิ่นเผยซวนเลิกคิ้ว มองดูอย่างนิ่งๆ คำพูดที่พูดออกมากลับทำให้สำลักตาย “ไม่สบาย เห็นนายอารมณ์ไม่ดี ฉันรู้สึกปลอดโปร่งใจ”
ซูจ้านจ้องเขาอย่างเย็นชาแวบหนึ่ง “ไม่ใช่ของเล่นจริงๆ”
“นายเป็นของเล่นหรอ?”
“ฉันเลิกคบนาย” ซูจ้านพูดแรงๆ
เสิ่นเผยซวนพบว่าชายที่นั่งอยู่เบาะหลัง กำลังโมโหจนถึงขีดสุด คำพูดที่ตั้งใจจะพูดในตอนแรกก็หยุดอยู่ที่ปาก แล้วกลืนมันลงไป
แค่ส่งสายตาไปใส่ซูจ้านเท่านั้น ให้เขามองไปทางข้างหลัง ซูจ้านเข้าใจเหลือบมองไปด้านหลังผ่านทางกระจกแวบหนึ่ง ลมหายใจที่เย็น
ยะเยือกนั้นแผ่ซ่าน ท่วมทั้งคันรถ ตึงเครียดอย่างมาก
ทั้งสองคนไม่กล้าปะทะฝีปากกันอีก ทั้งคันรถมีเพียงเสียงหายใจเบาๆ
ไม่นานรถก็หยุดลงที่ใจกลางของไนต์คลับร้านนั้น