กลยุทธ์เด็ด เสพติดรักภรรยาของผม - บทที่485 ใครเป็นผู้หญิงหากิน
สายตาของกู้เป่ยค่อยๆหันไป มองลงบนตัวของซางหยู ฉีกยิ้มอย่างไม่เป็นธรรมชาติ “หัวหน้าเสิ่นไม่ใช่ว่าคิดจะจริงจังหรอกนะ? เด็กมหาลัยที่มาโผล่ที่นี่ได้ ไม่ใช่เพราะว่าเงิน ก็เพราะอยากได้สามีที่ร่ำรวย หัวหน้าเสิ่นคิดจะเป็นสามีที่ร่ำรวย? หรือกะว่าจะเอาเงินมาโปรยเล่นให้กับสาวน้อยพวกนี้ล่ะ? เล่นๆไม่คิดอะไร ถ้าจริงจังก็ไม่สนุกน่ะสิ”
ขณะพูดสายตาของเขาก็ชำเลืองไปที่ร่างของจงจิ่งห้าว “คุณกับประธานจงความสัมพันธ์ไม่ธรรมดา ตัวคุณเองก็เป็นคนมีฐานะ ทำไมถึงอยากจะหาผู้หญิงหากินมาเป็นภรรยา? ที่เสียหน้าไม่ใช่แค่ตัวคุณเองหรอกนะ”
“ใครเป็นผู้หญิงหากิน?!” ซางหยูนั่งนิ่งๆไม่ไหวแล้ว ถ้าไม่ใช่เพราะต้องรีบใช้เงินเลยไม่ได้ถามเพื่อนนักเรียนให้ชัดเจนก็ตามมาด้วย เธอไม่มีทางมาโผล่ที่นี่ได้หรอก
บอกว่าเธอเป็นผู้หญิงหากิน ก็คือกำลังดูถูกเธอ!
เสิ่นเผยซวนกดไหล่ของเธอ สายตาจ้องเธออย่างนิ่งขรึม ราวกับบอกว่าวู่วามไปมีแต่จะไม่เป็นผลดีต่อเธอ
ถ้าวันนี้ที่เจอไม่ใช่พวกเขา ซางหยูหนีไม่พ้นเงื้อมมือของกู้เป่ยแน่นอน
ซางหยูก็รู้ว่าตนเองวู่วามเกินไป เพียงแค่ถูกเรียกว่าเป็นผู้หญิงหากินในใจก็รู้สึกอึดอัด เธอขยันเล่าเรียน สอบเข้ามหาลัยในฝันได้ ใช้สองมือของตนเองเลี้ยงดูตนเองมาโดยตลอด ตอนที่ลำบากที่สุดยากเย็นที่สุด ก็ไม่เคยคิดจะขายตัวเพื่อแลกเงิน
เธอกำมือสองข้างไว้แน่น จ้องกู้เป่ยอย่างไม่พอใจ
“เจ้านายกู้”จงจิ่งห้าวพูดขึ้น เขากระตุกมุมปากข้างเดียว แสงไฟที่รวมตัวกันแวบผ่านใบหน้าของเขา น้ำเสียงเยือกเย็น “เรามาพูดตรงๆแบบไม่อ้อมค้อมกันดีกว่า คุณอยากได้ประโยชน์อะไร บอกมาได้เลย ขอแค่ผมให้ได้ จะไม่หักหน้าเจ้านายกู้แน่นอน พี่น้องผมนานๆทีจะถูกใจผู้หญิงคนหนึ่ง ผมไม่สามารถไม่ใส่ใจได้”
สีหน้านี้เห็นได้ชัดว่าไม่พอใจ กู้เป่ยลองชั่งน้ำหนักในใจ ผู้หญิงคนนี้ก็ไม่ใช่ของเขาจริงๆ ตามที่ซางหยูพูดมาทั้งหมด เขาไม่เคยจ่ายค่าจ้าง เธอก็ยังไม่ได้ทำงานให้ตน พูดให้ลึกลงอีก จริงๆแล้วก็ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกันเลย
สู้ไว้หน้าจงจิ่งห้าวดีกว่า สำหรับมิตรภาพต่อหน้าก็ต้องมีภาพลักษณ์ที่ดี อนาคตข้างหน้ามีตรงไหนที่ใช้งานเขาได้จริง ก็ไม่ยากที่จะเอ่ยปากขอ
คิดผลได้ผลเสียชัดเจนแล้ว กู้เป่ยก็เอ่ยปากออกมาด้วยรอยยิ้ม “ประธานจงถึงกับเอ่ยปาก ผมยังคงกัดไม่ปล่อย ก็จะกลายเป็นว่าผมเป็นคนใจแคบน่ะสิ ผู้หญิงแค่คนเดียวเท่านั้นเอง”
เขาชี้ไปที่หญิงสามคนที่ยืนอยู่หน้าประตู “นี่ต่างก็เป็นสาวๆทั้งนั้น สู้เรียกมาเล่นกับเราดีกว่ามั้ย?”
หญิงสาวอายุไม่มากสามคน มาสถานที่แบบนี้เป็นครั้งแรก ที่ได้เจอล้วนเป็นผู้ชายหน้าตาดีมีฐานะ ไม่เคยพบกับความล้มเหลว ไม่รู้จักความโหดร้ายในสถานเริงรมย์ คิดอยากที่จะลอง
โดยเฉพาะเพื่อนนักเรียนที่ผลักซางหยูออกมาลู่หว่านหว่านอยากจะเข้ามาใจจะขาด อีกทั้งเป้าหมายก็คือจงจิ่งห้าว
อยากให้ผู้ชายคนนี้ถูกใจเธอขึ้นมาอย่างบ้าระห่ำ จากนั้นก็หลงรักเธอ สุดท้ายก้าวกลายเป็นภรรยาเศรษฐี ไม่ต้องทนลำบากเรียนหนังสือและเครียดเรื่องหางานทำตอนเรียนจบอีกต่อไป
หาผู้ชายแบบนี้ ไม่เพียงแค่มีหน้ามีตา แถมยังทำให้หมดกังวลเรื่องกินเรื่องอยู่
จงจิ่งห้าวเดิมทีก็ไม่ได้สนใจอยู่แล้ว ด้านหน้าตอนที่กู้เป่ยให้ซางหยูมานั่งข้างเขา เขาไม่มีข้ออ้างมาปฏิเสธ แต่ว่าตอนนี้ไม่เหมือนเดิม เขามองกู้เป่ยอย่างไร้อารมณ์ “หมดอารมณ์แล้ว”
กู้เป่ยกลับไม่สังเกตเห็นอะไรผิดปกติ แค่คิดว่าเพราะเกิดเรื่องของซางหยูขึ้น ของเล่นเขามีเยอะแยะ ไม่เล่นกับผู้หญิง ก็ยังมีอย่างอื่น “ถ้างั้นเรามาเล่นอะไรที่ตื่นเต้นกันหน่อยมั้ย?”
“ผมได้ยินเรื่องหนึ่งมา เจ้านายกู้ช่วยทำให้ผมหายสงสัยได้หรือไม่?” จงจิ่งห้าวเปลี่ยนบทสนทนาอย่างกะทันหัน
กู้เป่ยเดิมทีก็มีใจอยากจะสนิทกับเขา แต่ว่าแค่ไม่ได้ประจบประแจงออกมา แค่ถามด้วยสีหน้านิ่งๆว่า “อ้อ เรื่องอะไร ไหนพูดมาสิ”
จงจิ่งห้าวพูดเรื่องเฉิงยู่ซิ่วเกิดอุบัติเหตุออกมา แล้วถามขึ้น “เหวินชิงมาหาคุณ มีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นมั้ยครับ?”
กู้เป่ยไม่รู้บุญคุณความแค้นที่ซับซ้อนระหว่างจงจิ่งห้าวกับเหวินชิง ยังไงก็ไม่มีประกาศอย่างเอิกเกริก ไม่มีใครรู้เรื่องราวที่ซับซ้อนข้างใน เห็นพวกเขายังคงมีความสัมพันธ์เป็นลุงกับหลานชายกัน
เมื่อก่อนความสัมพันธ์ระหว่างจงจิ่งห้าวกับเฉิงยู่ซิ่วไม่ค่อยดี ทุกคนต่างรู้กันดี ไม่ใช่ความลับอะไร
ดังนั้นเลยไม่ได้คิดอะไรมาก เขายกแก้วไวน์ขึ้น ชนกับแก้วไวน์ของจงจิ่งห้าวที่วางอยู่บนโต๊ะ “เราดื่มกันสักแก้ว?”
จงจิ่งห้าวก็สดชื่นเช่นกัน ยกขึ้นมา ดื่มเหล้านอกแก้วหนึ่งลงท้อง กู้เป่ยทำปากบู้บี้ ยกขวดเหล้าขึ้นมารินต่อ “คุณก็ไม่ใช่คนนอก ไม่มีอะไรต้องปิดบัง ถ้าจะให้นับจริงๆ ความสัมพันธ์ของพวกเราก็ใกล้ชิดกัน คุณตาของคุณและพ่อของผมความสัมพันธ์ในตอนนั้นก็ไม่ธรรมดา”
ท่านปู่กู้อายุน้อยกว่าเหวินจิ่นเล็กน้อย แต่ก็เป็นรุ่นเดียวกัน สาเหตุที่กู้เป่ยยังหนุ่มขนาดนี้ นั่นก็เพราะว่าท่านปู่กู้ของเขามีลูกตอนอายุเยอะแล้ว
ว่ากันว่าพี่สาวหกคน เพราะฐานะเลยไม่ได้เลี้ยงอยู่ในบ้าน ต่างก็ให้ญาติๆเป็นคนเลี้ยง มีเพียงแค่พี่สาวคนเดียวที่อยู่บ้าน เขาอยู่ในนามลูกคนที่สอง ที่จริงแล้วเป็นลูกคนที่เจ็ด นี่ไม่ใช่ความลับอะไร ต่างก็รู้กันดี
“มีความสัมพันธ์ขั้นนี้กันเขามาหาผมขอความช่วยเหลือ ผมจะปฏิเสธได้อย่างไร? คุณว่าใช่หรือไม่?”
จงจิ่งห้าวเอนตัวไปข้างหลัง ทั้งตัวเข้าไปในมุมมืด คาดเดาสีหน้าของเขาไม่ออก เพียงแค่ได้ยินเสียงที่เย็นราวน้ำแข็งจากลำคอ “ผมกลับสนใจที่จะตั้งใจฟังว่าเรื่องมันเป็นยังไงกันแน่”