กลยุทธ์เด็ด เสพติดรักภรรยาของผม - บทที่561 เป็นหมาก็มีความทุกข์ใจ
ในข่าวนั้นมันเกี่ยวกับวัดหนานซาน มันไม่ได้มีอะไร หลักๆ คือตัวเอกทำให้เกิดข่าวนี้ คือคนที่แกล้งเธอที่เมืองC ในครั้งก่อน
สาเหตุที่เรื่องนี้กลายเป็นข่าว เพราะว่าคนคนนี้ปรากฏตัวอยู่ที่วัดในลักษณะเปลือยกาย แถมยังมีบาดแผลอยู่ทั่วทั้งร่างกาย ภาพนั้นสามารถดึงดูดการคาดเดาจากประชาชนได้มากมาย
อย่างไรก็ตาม ทุกคนก็ต่างรู้ว่าวัดเป็นสถานที่ที่สะอาด หลีกเลี่ยงสิ่งสกปรก แต่ว่าตอนนี้กับเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น
เธอนั่งอยู่บนโซฟาและดูต่อไปเรื่อยๆ ก็รู้ว่าคนคนนี้ถูกพบในห้องที่ดูไม่เตะตามากที่สุดในวัด
หลินซินเหยียนกับรีโมทแล้วก็ตกอยู่ในห้วงความคิด
เธอพยายามนึกถึงเรื่องทุกอย่างที่เกิดขึ้นในช่วงนี้
รูปภาพในตอนแรกนั้น หลังจากนั้นทันทีก็มีคนแกล้งเธอ แถมยังเล่นบทเป็น ‘ฮีโร่กอบกู้สาวงาม’ ตอนนั้นช่าวหยุนบอกว่าผู้ชายคนนั้นเป็นคนรวย เราก็ไม่ใช่คนเมืองC
แบบนี้ก็หมายความว่าเป็นคนเมืองB เพราะว่าตอนนี้คนคนนั้นปรากฏตัวที่เมืองB คนรวยคนนั้น น่าจะเป็นกู้เป่ยที่จงจิ่งห้าวพูดถึง
อย่างไรก็ตาม คนคนนี้ให้ความร่วมมือกับ กู้เป่ยในการเล่นละครเรื่อง ‘ฮีโร่กอบกู้สาวงาม’ แสดงว่าต้องเป็นคนที่กู้เป่ยค่อนข้างจะไว้ใจ
แต่ว่าตอนนี้เขากลับปรากฏตัวที่วัดในสภาพนี้
ฉินยาต้องถูกจับอยู่ในสถานที่ที่มิดชิดมากแน่ๆ วัดหนานซานก็เป็นหนึ่งในสถานที่แบบนั้น
เรื่องต่างๆ ชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ เธอก็ยิ่งกว่ากลัว ถ้าเกิดว่าฉินยาถูกซ่อนไว้ในวัดอย่างที่ฉันคิดจริงๆ ถ้าอย่างนั้นคนร่างเปลือยคนนั้น คืออยากทำร้ายฉินยาอย่างนั้นเหรอ?
หลินซินเหยียนรู้สึกเหมือนตัวเองจะหายใจไม่ออก เธอตีหน้าอกของตัวเองแรงมาก แต่ก็ยังคงหายใจไม่สะดวก
“หม่ามี๊ หม่ามี๊ พวกเราออกไปข้างนอกได้ไหมคะ? ” จงเหยียนซีวิ่งเข้ามา พุ่งเข้าไปในอ้อมแขนของเธอ กอดเธอแล้วก็ออดอ้อน “หม่ามี๊ หนูอยากไปร้านขายอาหารสัตว์เลี้ยงซื้ออาหารหมาให้เจ้าขาว แล้วก็อยากเปลี่ยนปลอกคอให้มันด้วย……”
“วันนี้ออกไปไหนไม่ได้ทั้งนั้น” จงเหยียนซียังไม่ทันจะพูดจบ ก็ถูกหลินซินเหยียนตัดบทซะก่อน เธอลูกผมลูกสาวของตัวเอง “เป็นเด็กดี เชื่อฟังหม่ามี๊ วันนี้เราต้องอยู่ที่บ้านไปไหนไม่ได้ทั้งนั้น”
“ทำไมล่ะคะ”จงเหยียนซีเงยหน้ามองเธอด้วยสีหน้าที่ผิดหวัง
หลินซินเหยียนไม่รู้ว่าจะอธิบายกับลูกสาวยังไงดี คนที่ชื่อกู้เป่ย ถ้าไม่แน่ใจว่าเขาเป็นคนยังไงกันแน่ พวกเขากล้าจับฉินยาไปก็แสดงว่าคนที่ชื่อกู้เป่ยอะไรนี่ไม่ใช่คนที่ดีเท่าไหร่นะ ทำอะไรซ้ำแล้วซ้ำเล่า ถ้าเกิดว่าเขาเพ่งเล็งมาที่ลูกทั้งสองคนของเธอจะทำยังไง?
ในคฤหาสน์ค่อนข้างที่จะเงียบ เธอพยายามหาข้ออ้างเพื่อปลอบกับลูกสาว “ข้างนอกมันร้อนเกินไป……”
“พวกเรานั่งอยู่ในรถ คุณลุงคนขับรถก็สามารถพาเราไปได้ไงคะ ไม่จำเป็นต้องตากแดด แล้วอีกอย่างต่อให้มีแต่ พวกเราก็ใช้ร่มก็ได้ ถ้าไม่ได้ ก็ใส่หมวกก็ได้” จงเหยียนซีโต้แย้งคำพูดของหลินซินเหยียนอย่างไม่สามารถโน้มน้าวได้
หลินซินเหยียน,“……”
เด็กคนนี้พูดเก่งขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?
เธอทำสีหน้าจริงจัง เก็บรอยยิ้มแล้วก็พูดอย่างเคร่งขรึมว่า “วันนี้ออกไปไหนไม่ได้”
จงเหยียนซีกะพริบตา ผละออกมาจากอ้อมแขนของเธอแล้วก็วิ่งเข้าไปในห้อง
เธอโกรธแล้ว
ป้าหยูไม่รู้เรื่องราวที่เกิดขึ้น ก็อดไม่ได้ที่จะเห็นจงเหยียนซีรู้สึกผิดหวัง ตอนที่อาบน้ำให้เจ้าขาวก็คิดว่าจะซื้ออะไรให้มันดี แล้วก็โน้มน้าวว่า “ลูกอยากออกไป ก็พาพวกเขาไปเถอะ มีคนขับรถหนิ ถ้าพวกเขาสองคนไปได้แหละ”
หลินซินเหยียนไม่ยอม เงยหน้ามองป้าหยู “ช่วงนี้อยู่บ้านดีกว่า”
ป้าหยูยังอยากจะพูดอะไรบางอย่าง หลินซินเหยียนก็รีบตัดบทเธอในทันที “ฉันจะออกไปข้างนอก เดี๋ยวต้องใช้คนขับรถ วันนี้ให้พวกเขาทั้งสองคนอยู่บ้าน”
พอพูดจบเธอก็ลุกขึ้นเดินไปชั้นบนเพราะว่าไม่ได้คิดจะออกไปไหน ก็เลยสวมใส่เสื้อผ้าอยู่บ้านสบายๆ จากเห็นข่าวแล้ว เธอก็ต้องออกไปข้างนอก เมื่อคืนจงจิ่งห้าวบอกว่าฉินยาหนีออกไป เพราะว่าเกิดเรื่องอะไรแล้วไม่กล้าบอกเธอ จงใจโกหกเธอ
ถ้าเกิดว่าไม่ทำให้มันชัดเจนเธอก็ไม่สามารถสบายใจได้
ป้าหยูก็ไม่ใช่คนที่เข้าใจอะไรยาก หลินซินเหยียนพูดขนาดนี้แล้ว เธอก็ไม่ควรพูดอะไรอีก เธอเดินเข้าไปกล่อมจงเหยียนซีในห้อง จงเหยียนเฉินถอนหายใจ เทอาหารในลงในชามตรงหน้าของเจ้าขาว ก้มตัวลงและลูบหัวมัน “นายนี้มีความสุขจริงๆ ”
เป็นหมาที่ปราศจากความกังวลใดๆ ขอแค่เจ้าของให้อาหารก็พอแล้ว
ถ้าเกิดว่าเจ้าขาวรู้ว่าจงเหยียนเฉินกำลังคิดอะไรอยู่ ก็คงจะพูดว่า เป็นหมาก็มีความทุกข์เหมือนกัน เขาต้องการให้เจ้าของเขามีความสุข แล้วก็ต้องกังวลเสมอว่าจะถูกทิ้ง
ในฐานะที่เป็นหมาที่มีเจ้าของ ก็ไม่ได้ง่ายเหมือนกันนะ อย่าคิดว่าพวกมันอยู่อย่างสบายๆ สิ
หลินซินเหยียนเดินลงมา มองดูลูกชายกำลังนั่งยองๆ ให้อาหารเจ้าขาว แล้วพูดว่า “หลับน้องสาวลูกด้วยนะ”
จงเหยียนเฉินเงยหน้าขึ้นมองเธอ “ผมจะดูแลน้องเอง แม่ออกไปสบายใจเถอะครับ”
หลินซินเหยียนเดินไปจุ๊บหน้าผากลูกชายตัวเอง ลูกชายของเธอคนนี้รู้เรื่องรู้ราวจริงๆ “ขอบคุณนะเจ้าลูกชาย”
“แต่ว่าถ้าเกิดว่าแม่มีเวลา ก็พาน้องไปร้านอาหารสัตว์สักหน่อยเถอะครับ ยาFRONTLINEที่เจ้าขาวใช้ไม่มีแล้ว ต้องซื้อ”จงเหยียนเฉินพูด
หลินซินเหยียนไม่เคยเลี้ยงสัตว์เลี้ยงมาก่อน ก็เลยไม่รู้ว่าเขากำลังพูดถึงอะไรเลยถามว่า “เจ้าขาวไม่สบายเหรอ
จงเหยียนเฉินพูดอย่างซุกซน “มีสิ่งที่หม่ามี๊ไม่รู้ด้วยเหรอ”
หลินซินเหยียนดึงหูเขาเบาๆ ท่าทางดูโหดร้ายแต่จริงๆ แล้วไม่ได้ออกแรงอะไร “แม่เลี้ยงลูกกับน้องสาวโตขึ้นมาได้ก็ดีเท่าไหร่แล้ว จะมีเวลาจะเอาเงินที่ไหนไปเลี้ยงสัตว์? ”
จงเหยียนเฉินรีบขอความเมตตาทันที “หม่ามี๊ผมผิดไปแล้วครับ ผมผิดไปแล้ว อันนั้นมันไม่ใช่ยาสำหรับอาการป่วย มันคือยาถ่ายพยาธิ คุณปู่เล็กเอามาแค่นิดเดียว เมื่อกี้อาบน้ำให้มันเสร็จแล้วก็ใช้หมดแล้ว”
ยาถ่ายพยาธิ เป็นยาที่จำเป็นสำหรับสัตว์เลี้ยงในบ้าน โดยเฉพาะถ้าในบ้านมีเด็กเล็ก ในขนสุนัขนั้นเห็บหมัดสามารถเติบโตได้อย่างง่ายดาย ถ้าเกิดว่าไม่ใช้ยานี้ มันอาจจะติดไปยังเด็กๆ หรือว่ากระจายไปตามบ้าน
หลินซินเหยียนลูบหัวเขาเบาๆ “รอให้พ่อของลูกมีเวลา ก็ให้เขาพาพวกลูกออกไปนะ”
“หม่ามี๊ไปกับพวกเราไหมครับ?”จงเหยียนเฉินยิ้มแล้วก็ถาม
“แน่นอน หม่ามี๊ ต้องออกไปข้างนอกก่อนนะ” หลินซินเหยียนลุกขึ้นยืน จงเหยียนเฉินบอกว่าบ๊ายบายอย่างเชื่อฟัง หลินซินเหยียนก็โบกมือให้กับเขา หลังจากนั้นก็เปลี่ยนรองเท้าแล้วก็ออกจากบ้านไป ก่อนหน้านี้ตอนออกไปก็ไม่ได้เอาอะไรออกไปด้วย เพราะฉะนั้นที่บ้านก็ยังมีของใช้ทุกอย่าง
คนขับรถเปิดประตูให้เธอ แล้วก็ถามด้วยความเคารพว่า “จะไปที่ไหนเหรอครับ?”
หลินซินเหยียนคิดอยู่ครู่หนึ่ง “ไปบริษัทค่ะ”
คนขับรถปิดประตู แล้วก็วิ่งไปยังที่นั่งคนขับ
ไม่นานรถก็เล่นมาถึงหน้าประตูบริษัท หลินซินเหยียนไม่ได้ลงรถได้ทันที ตอนที่มาเธอไม่ได้คิดให้ดี ไม่รู้ว่าจงจิ่งห้าวอยู่ที่บริษัทหรือเปล่า เธอหยิบโทรศัพท์ออกมาเตรียมจะโทรหาเสิ่นเผยซวน เกรงว่าถามเสิ่นเผยซวนจะน่าเชื่อถือกว่าถามจงจิ่งห้าว
หลินซินเหยียนรู้ดีว่าเขาไม่อยากให้เธอกังวลเรื่องนี้ แต่ว่าฉินยาไม่ใช่คนนอก เธอเห็นฉินยาเป็นญาติแท้ๆ ของตัวเองมาโดยตลอด แล้วอีกอย่าง เรื่องนี้ฉินยาก็ต้องรอถูกจับไปด้วยเพราะพวกเขา
ตอนที่กดโทรออกหาเสิ่นเผยซวนแล้วเอาโทรศัพท์แนบหูนั้น ก็มีรถคันหนึ่งมาจอดลงที่ด้านข้างรถของพวกเขา และเปิดประตูออก มีชายคนหนึ่งสวมใส่ชุดสูทและรองเท้าหนังเดินลงมา เขาเดินเข้าไปในบริษัท หลินซินเหยียนเห็นใบหน้าของเขาอย่างชัดเจน
เธอเบิกตาโพลงในทันที เขานั่นเอง