กลยุทธ์เด็ด เสพติดรักภรรยาของผม - บทที่565 ฉันจะอิจฉาเอาได้นะ
เขาสับสนมาก ไม่รู้ว่าควรจะทำยังไงถึงจะดี
หลินซินเหยียนย่อตัวลงแล้วตบไหล่ของเขา “ฉันเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าควรจะทำตัวยังไง แต่ฉันคิดว่า ถ้าเกิดว่าคุณแคร์ฉินยาจริงๆ ก็ให้เวลาเธอหน่อย ไม่ต้องรีบไปขอให้เธออภัย ให้การกระทำของคุณทำให้คุณประทับใจ”
ทำให้เธอเปิดใจ และยินยอมที่จะคบกับเขา
ซูจ้านหัวเราะอย่างขมขื่น “ผมเข้าใจในสิ่งที่คุณพูด ผมแค่เข้าใจว่าตัวเองจะทำได้ไม่ดี กลับทำให้เธอผลักไสผมห่างออกไปเรื่อยๆ ”
“ขอแค่คุณใช้หัวใจ ไม่รู้สึกละอายใจที่จะตรวจสอบตัวเอง เธอต้องสัมผัสได้อย่างแน่นอน” หลินซินเหยียนก็ไม่รู้เหมือนกันว่าควรจะปลอบใจเขายังไง ได้แต่พยายามทำให้เขาสบายใจได้มากที่สุดเท่านั้น
เธอคิดในใจว่า ตอนนี้ซูจ้านต้องรู้แล้วว่าก่อนหน้านี้เขาได้ทำอะไรผิดไป
ตอนบ่ายพอฉินยาตื่นขึ้นมา ฉีดยาลดไข้ นอนหลับลงไปอีกครั้งพอตื่นขึ้นมาแล้วรู้สึกดีขึ้นมาก
ซูจ้านรู้ว่าเธอยังไม่ได้กินอะไร ก็ไปซื้อของกินกลับมา แต่เขากลัวว่าฉินยาเห็นเขาแล้วจะรู้สึกไม่มีความสุข ก็เลยเอาของกินที่ซื้อมาให้หลินซินเหยียนถือเข้ามา
หลินซินเหยียนถือของกินเข้ามา พยุงฉินยาให้ลุกขึ้น ซูจ้านซื้อบะหมี่ที่ค่อนข้างจะย่อยง่ายมาให้ ฉินยาไม่ได้กินอะไรมาสามวันแล้ว กระเพาะโล่ง การหิวมานานไม่ควรจะกินของหนักหรือว่าเผ็ด และก็ไม่ควรจะกินเยอะ ดังนั้นซูจ้านก็เลยไม่ได้ซื้ออะไรมามากมาย
พอเห็นว่าเธอกินเสร็จแล้ว หลินซินเหยียนก็ส่งน้ำอุ่นให้เธอ เก็บกล่องข้าวให้ดีแล้วก็ทิ้งลงถังขยะ หลังจากนั้นก็นั่งข้างเตียงแล้วก็พูดคุยกับฉินยา
รู้ดีว่ายังไงเธอก็ไม่มีวันยอมให้ซูจ้านดูแลเธอหรอก แต่ว่าก็ยังคงอยากถามความคิดเห็นของเธอ “แกมีแผลที่เท้า ช่วงนี้ยังเดินไม่ได้ ต้องมีคนคอยดูแล ซูจ้านเขา……”
“ฉันไม่ได้ต้องการให้เขามาดูแล ช่วยหาพยาบาลให้ฉันหน่อยแล้วกัน” หลินซินเหยียนยังไม่ทันจะพูดจบ ฉินยาก็ตัดบทเธอ “แล้วอีกอย่าง มันก็ไม่ได้ใช่แผลที่หนักอะไร”
หลินซินเหยียนมองเธอ แล้วก็ไม่ได้พยายามเกลี้ยกล่อมอะไรอีก เพราะว่าสิ่งที่ฉินยาต้องการไม่ใช่การเกลี้ยกล่อม แต่ว่าเป็นความประทับใจที่ได้รับการดูแล แล้วก็ใจเต้น นั่นต่างหากคือความรู้สึกที่แท้จริง เกลี้ยกล่อมไปก็มีแต่จะทำให้เธอลำบากใจเท่านั้น
เธอไม่อยากให้ฉินยาไม่สบายใจ
เธอจับมือของฉินยาเอาไว้ “ฉันเข้าใจแล้ว ถ้ายังงั้นแกก็กลับไปที่คฤหาสน์กับฉันเถอะ ที่บ้านมีเด็กน้อยสองคนนั้น แถมฉันก็อยู่บ้านด้วย แกจะได้ไม่เบื่อ ดีไหม? ”
ฉินยาลังเลเล็กน้อย “แล้วแบบนี้พวกเธอจะรู้สึกไม่สะดวกรึเปล่า? ”
“มีอะไรที่ไม่สะดวกกัน? ” หลินซินเหยียนทำน้ำเสียงหนักแน่น “ตอนนี้แกเป็นแบบนี้ แล้วจะให้ฉันวางใจปล่อยแกไว้กับพยาบาลได้ไง? ”
ฉินยาไม่รู้ว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่ เธอพูดว่า “ฉันเองก็ไม่ได้รับบาดเจ็บร้ายแรง ไม่ได้จำเป็น ……”
“แกเห็นฉันเป็นคนนอกเหรอ? ” หลินซินเหยียนตัดบทเธอ
เธอกับซูจ้านเข้าใจผิดเหมือนกัน ต่างก็นึกว่าฉินยาถูกพี่สี่ล่วงเกิน เธอเองก็ไม่กล้าพูดอย่างชัดเจน ซ่อนความรู้สึกเจ็บปวดไว้ในใจ กลัวว่าจะเพิ่มความกังวลให้กับเธอ
ยังไงก็ตามเรื่องนี้ ก็ไม่มีทางมีใครอยากให้คนอื่นรู้หรอก
หลินซินเหยียนกลัวว่าเธออยู่คนเดียวแล้วจะคิดไปเรื่อยเปื่อย ท่าทางที่สบายๆ ของเธอในตอนนี้ ในสายตาของหลินซินเหยียนแล้ว มันคือการแสดงออกแบบฝืนของเธอ ดังนั้นในเมื่อเธอไม่อยากให้ซูจ้านดูแล เธอก็ต้องพาเธอกลับไปที่คฤหาสน์ด้วย
“เปล่า” แน่นอนว่าฉินยาต้องยอมที่จะอยู่กับเธออยู่แล้ว แค่ที่นี่ไม่ใช่เมืองC ที่ที่บ้านจะมีแค่พวกเธอกับเด็กๆ แต่ว่าตอนนี้มีจงจิ่งห้าวอยู่ด้วย ครอบครัวของพวกเขาพึ่งจะกลับมารวมตัวกันได้อีกครั้ง เธอที่เป็นคนนอกเข้าไปอยู่ด้วย กลัวว่าจะทำให้พวกเขาไม่สะดวกสบาย
หลินซินเหยียนรู้สึกได้ว่าเธอเป็นกังวล แล้วก็พูดว่า “วางใจได้ ในคฤหาสน์ในห้องเยอะ ฉันให้ป้าหยูทำความสะอาดห้องชั้นล่างไว้ให้แก แกก็แค่อยู่ที่นั่นอย่างสบายใจ เดี๋ยวฉันจะดูแลแกเอง”
ฉินยาเม้มปากแล้วไม่ได้ปฏิเสธอะไรต่อ หลินซินเหยียนก็ให้เธอพักผ่อนช่วงหนึ่ง เธอก็ไปจัดการขั้นตอนการออกจากโรงพยาบาล ที่จริงเธอก็แค่หาข้ออ้างไปเจอซูจ้าน
พอฉินยาฟื้นซูจ้านก็ไม่กล้าเข้าไปในห้องอีก กลัวว่าจะทำให้ฉินยาอึดอัด
ซูจ้านนั่งอยู่บนเก้าอี้ยาวตรงทางเดิน เอาศอกท้าวขา ท่าทางดูผิดหวัง หลินซินเหยียนเรียกเขาเบาๆ “ซูจ้าน”
“หืม?”เขามองมา
หลินซินเหยียนพูด “เดี๋ยวฉันจะให้คนขับรถช่วยมารับฉินยากลับไป คุณก็รักษาแผลตัวเองให้ดีนะ”
ซูจ้านพยักหน้า หลังจากนั้นก็หลุบตาลงอย่างรวดเร็ว
หลินซินเหยียนถอนหายใจออกมา ไม่ได้พูดอะไรอีก หันหลังแล้วเดินออกไปด้านนอก ออกไปเรียกคนขับรถ เธอยืมรถเข็นจากพยาบาล ด้วยความช่วยเหลือจากคนขับ เธอก็พยุงฉินยาขึ้นไปนั่งบนเก้าอี้ แล้วก็เข็นนางออกจากโรงพยาบาล
เมื่อเธอมาถึงรถ เธอกับคนขับก็ช่วยพยุงเธอขึ้นรถไป ซูจ้านยืนอยู่ที่ช่องระบายอากาศตรงปลายทางเดินบนชั้นสาม มองดูฉินยาถูกพยุงขึ้นรถและขับออกไป
ไม่นานรถก็หายไปจากสายตา เขาก็หันหลังเดินจากไปโดยไม่ได้พักรักษาตัวในโรงพยาบาล
ทางฝั่งนี้ หลินซินเหยียนพาฉินยาไปที่คฤหาสน์ ป้าหยูได้เก็บกวาดห้องไว้เรียบร้อยแล้ว เธอประคองฉินยาขึ้นไปนอนบนเตียง ถึงแม้ว่าจะถึงฤดูร้อนแล้ว แต่เพราะว่าเป็นคฤหาสน์เดี่ยว ทั้งด้านหน้าและด้านหลังก็ปลูกต้นไม้ไว้มากมาย ฤดูร้อนเป็นช่วงที่กิ่งและใบเขียวชอุ่มบังแสงแดดมาก
หลินซินเหยียนถามว่าเธอร้อนไหม
ฉินยาส่ายหน้า “ไม่ร้อน”
เธอมีไข้เล็กน้อย ในห้องแอร์แห้งและอึดอัดเกินไป เธอเดินไปตรงข้างเตียง แล้วพูดว่า “เดี๋ยวฉันเปิดหน้าต่างให้นะ”
ฉินยาตอบ “โอเค”
“ถ้าแกหิวน้ำ อยากจะไปห้องน้ำก็เรียกป้าหยูมาประคองไปนะ เดี๋ยวฉันจะออกไปซื้อเสื้อผ้าให้แกหน่อย”
เธอยังคงสวมใส่ชุดผู้ป่วย แล้วก็ถูกคนลักพาตัวมา ไม่มีอะไรเลย อากาศแบบนี้ควรเปลี่ยนเสื้อผ้าทุกวัน เธอกับฉินยาหุ่นค่อนข้างจะคล้ายคลึงกัน สามารถใส่เสื้อผ้าของเธอได้ แต่ว่าชุดชั้นในนั้นจำเป็นต้องซื้อใหม่ เสื้อผ้าใส่ของกันและกันได้ แต่ว่าชุดชั้นในไม่ได้
ดังนั้นออกไปซื้อให้ใหม่น่าจะดีกว่า
ฉินยายิ้มและหยอกล้อว่า “ให้คนท้องอย่างแกวิ่งไปวิ่งมา ถ้าเกิดว่าผู้ชายของแกรู้เข้า ไม่รู้ว่าจะด่าฉันไหมนะ”
หลินซินเหยียนเอายาที่ได้มาจากโรงพยาบาลวางไว้ตรงโต๊ะข้างหัวเตียงพร้อมกับมองเธอ “เขาไม่ด่าคนอื่นหรอก”
ฉินยาเบะปาก แล้วก็ทักเธอก่อน “ฉันรู้ว่าพวกเธอไม่ได้อยู่ด้วยกันมานาน พอกลับมาอยู่ด้วยกันก็ต้องสวีทหวานแหวว แต่ว่าอย่ามาแสดงความรักต่อหน้าสาวโสดอย่างฉันสิ ฉันอิจฉาได้นะ”
บางทีหลินซินเหยียนก็รู้สึกว่าเธอกับซูจ้านช่างเหมาะสมกันจริงๆ ขนาดพูดจายังเหมือนกันยังกับแกะ
“แกพักผ่อนนะ ฉันไปก่อน”
“อืม แกไปเถอะ เดี๋ยวฉันจะพักผ่อนต่ออีกหน่อย” ฉินยานอนลงบนเตียง
หลินซินเหยียนเห็นว่าท่าทางของเธอดูเหมือนอยากนอนจริงๆ ก็ปิดประตู จงเหยียนซียังคงโกรธหลินซินเหยียนอยู่ ตั้งแต่เธอกลับมาก็ไม่ยอมคุยกับเธอแล้ว ได้แต่นั่งเล่นกับเจ้าขาวอยู่บนโซฟา จงเหยียนเฉินกางมือออก ไม่รู้เหมือนกันว่าครั้งนี้เด็กน้อยคนนี้เป็นอะไร เขาก็ไม่สามารถกล่อมได้
หลินซินเหยียนไม่มีเวลาไปโอ๋เธอ แล้วก็พูดกับป้าหยูว่า “ฉินยานอนอยู่ในห้อง เดี๋ยวรบกวนป้าเข้าไปเฝ้าเธอหน่อยอย่าให้เธอมีไข้ขึ้นมานะคะ”
ป้าหยูตอบรับ “ได้ค่ะ”
เธอพูดกับลูกทั้งสองคนว่า “พวกลูกอย่าเสียงดังมากนะ คุณน้าฉินยาของพวกลูกกำลังพักผ่อนอยู่ เธอไม่ค่อยสบาย พวกลูกเป็นเด็กดีนะ”
“แน่นอนครับ” จงเหยียนเฉินตอบ
จงเหยียนซีทำเหมือนไม่ได้ยิน นั่งอยู่บนโซฟาแล้วหยอกล้อ เจ้าขาวต่อไป
หลินซินเหยียนถอนหายใจ เด็กคนนี้เริ่มมีอารมณ์แล้ว เธอมองลูกสาวของตัวเอง แล้วก็หันหลังเดินออกจากบ้านไป เธอได้สั่งไว้แล้ว คนขับรถก็รอเธออยู่ในรถ
พอเห็นว่าเธอเดินออกมาคนขับก็ลงจากรถมาเปิดประตูให้เธอ หลินซินเหยียนเข้าไปในรถ “ไปห้างสรรพสินค้าค่ะ”
คนขับรถตอบรับ แล้วก็วิ่งไปที่นั่งคนขับด้านหน้า
ผ่านไปไม่นานเท่าไหร่นักรถก็แล่นมาถึงห้างสรรพสินค้า พอคนขับรถจอดรถเสร็จแล้วก็เดินตามหลังเธอเข้าไป
เป้าหมายของหลินซินเหยียนนั้นชัดเจนมาก พอเข้าไปที่ห้างสรรพสินค้าก็เดินเข้าไปที่โซนเสื้อผ้าผู้หญิงทันที
“หลินซินเหยียน?”
ตอนที่หลินซินเหยียนกำลังจะเข้าไปในร้านเสื้อผ้าผู้หญิงนั้น ด้านหลังก็มีคนเรียกชื่อเธอ