กลยุทธ์เด็ด เสพติดรักภรรยาของผม - บทที่568 ความคิดชั่วร้าย
โทรศัพท์ตกลงที่พื้นดังกึก มีรอยแตกเกิดขึ้นบนหน้าจอ หลินซินเหยียนมองโทรศัพท์ที่หน้าจอแตกของตัวเองที่ตกอยู่ที่พื้น สีหน้ามืดมนขึ้นเรื่อยๆ หันหน้าไปแล้วพูดกับคุณผู้หญิงด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา “ฉันก็บอกไปแล้ว อธิบายไปแล้วแต่ว่าคุณไม่เชื่อ แล้วจะทำให้ฉันทำอะไรได้อีก หรือว่าคุณจะจับฉันอยู่ยังงี้ไปเรื่อยๆ เหรอ?!”
คุณผู้หญิงก็ยังไม่ยอมปล่อยมือ “แล้วจะให้ฉันเชื่อได้ยังไง ?”
ยังไงก็ต้องสนิทสนมกันมากถึงจะแตะต้องตัวกันได้ ลูกสาวของเธอเป็นแบบนี้ เธอก็ต้องกลัวว่าลูกสาวจะโดนรังแก
หลินซินเหยียนชี้ไปที่โทรศัพท์ของตัวเอง “ฉันจะโทรเรียกสามีของฉันมา มันสามารถพิสูจน์ได้รึยัง? ”
คุณผู้หญิงลังเลอยู่ครู่หนึ่ง แต่ก็ยังคงไม่วางใจ “แล้วถ้าคุณเรียกตัวปลอมมาล่ะ? ”
หลินซินเหยียน:“……”
เรื่องนี้มันไม่สมเหตุสมผลเลย ความคิดของหลินซินเหยียนเหมือนจะล่มสลาย ไม่สามารถอธิบายอะไรกับผู้หญิงคนนี้ได้จริงๆ
ดูการแต่งตัวของเธอ ก็ดูเหมือนคนมีฐานะ แต่ทำไมท่าทางถึงเหมือนเป็นเจ้าตลาดที่ไม่มีเหตุผลยังไงยังงั้น?
โจวฉุนฉุนที่อยู่ด้านข้างดึงแม่ของตัวเองไว้ “แม่อย่าเป็นแบบนี้สิคะ คนมองเราเยอะมากแล้วนะ”
คุณผู้หญิงคนนั้นไม่ได้สนใจมองรอบข้าง แค่เสียหน้าสำหรับเธอนั้นมันไม่ใช่เรื่องใหญ่โตอะไร ความสุขของลูกสาวตัวเองต่างหากที่สำคัญกว่า ไม่สามารถถูกคนอื่นทำลายได้
โจวฉุนฉุนไม่สามารถเกลี้ยกล่อมแม่ตัวเองได้ ก็เลยแอบแม่ส่งข้อความหาไป๋ยิ่นหนิง
“คุณคิดจะดึงฉันไว้แบบนี้เหรอ? ” มือของหลินซินเหยียนทั้งสองข้างกำแน่นและเริ่มสั่น หน้าอกของเธอขยับขึ้นลงอย่างรุนแรง ถ้าเกิดว่าเธอไม่แคร์เรื่องร่างกายของเธอนะ ตอนนี้เธอจะผลักคุณผู้หญิงคนนี้ออกอย่างแรงแล้ว
มันไม่สมเหตุสมผลเลย!
“ในเมื่อไม่เชื่อใจไป๋ยิ่นหนิงขนาดนั้นแล้วจะให้ลูกสาวตัวเองแต่งงานกับเขาทำไม? แค่เห็นผู้หญิงคนเดียวคุณก็สงสัยแล้ว ไม่เหนื่อยเหรอ? คุณจะดูแลลูกสาวคุณได้อีกนานแค่ไหนเชียว ตลอบชีวิตเลยเหรอ? ถ้าเกิดว่าวันหนึ่งคุณไม่อยู่ แล้วเธอจะทำยังไง? ”
หลินซินเหยียนพยายามปรับอารมณ์ตัวเองอย่างมาก ลองพยายามเกลี้ยกล่อมคุณผู้หญิง “ฉันว่าตอนที่คุณตัดสินใจให้ลูกสาวตัวเองแต่งงานกับไป๋ยิ่นหนิง ก็คงต้องมีจุดไหนที่รู้สึกชื่นชมเขา ยกลูกสาวให้เขาไปแล้ว ก็ควรจะเชื่อใจเขาสิ ไม่ใช่มาสงสัยอยู่แบบนี้ ถ้าเกิดว่าไป๋ยิ่นหนิงรู้เรื่องวันนี้เข้า เขาจะคิดกับคุณยังไง? ”
คุณผู้หญิงคนนั้นพูดอะไรไม่ออก ตอนนั้นที่ตัดสินใจให้ลูกสาวแต่งงานกับเขา ก็เพราะว่าค่อนข้างที่จะชื่นชมไป๋ยิ่นหนิงจริงๆ โดยเฉพาะสามีของเธอที่ค่อนข้างจะพึงพอใจในตัวของไป๋ยิ่นหนิง
ลูกสาวของเธอเป็นแบบนี้ ได้แต่งงานกับไป๋ยิ่นหนิงเธอก็รู้สึกปลื้มอกปลื้มใจแล้ว แน่นอนว่าการที่ยกลูกสาวให้เพราะว่าเธอเชื่อว่าไป๋ยิ่นหนิงจะดูแลลูกสาวของเธอได้ดี เธอสามารถช่วยลูกสาวดูได้บางช่วง บางช่วงก็ไม่ได้
ถ้าเกิดว่าไป๋ยิ่นหนิงเป็นคนที่เปลี่ยนใจง่าย เธอเองก็ทนดูไม่ได้เหมือนกัน
คุณผู้หญิงคนนั้นเริ่มคลายลงเล็กน้อย “คุณกับไป๋ยิ่นหนิงไม่ได้เป็นอะไรกันจริงๆ เหรอ? ”
หลินซินเหยียนมองไปที่คุณผู้หญิงด้วยท่าทีที่สงบมาก “ฉันให้สามีฉันเอาทะเบียนสมรสมาให้คุณดูก็ได้นะ โอเคไหม? ”
คุณผู้หญิงคนนั้นปล่อยข้อมือของเธอ “งั้นโทรสิ”
หลินซินเหยียนถอนหายใจออกมา ตอนที่จะก้มลงไปเก็บโทรศัพท์นั้น โจวฉุนฉุนก็ก้มเก็บโทรศัพท์ให้เธอ แล้วก็ส่งมาให้ “ฉันเห็นว่าคุณไม่ค่อยสะดวก”
เธอมองดูหน้าจอที่แตก แล้วก็พูดอย่างขอโทษว่า “แม่ฉันไม่ได้ตั้งใจนะคะ เดี๋ยวฉันจะชดใช้ให้”
หลินซินเหยียนเงยหน้ามองโจวฉุนฉุน เธอคือผู้หญิงที่ดีมากจริงๆ ถูกแม่ดูแลมาดีมาก ไม่เคยเห็นความมืดในโลกใบนี้ ดูเหมือนว่าจะมีน้ำใจกับทุกคน
เธอยื่นมือไปรับโทรศัพท์ที่โจวฉุนฉุนส่งมาให้แล้วพูดว่า “ขอบคุณค่ะ”
“ไม่ต้องหรอกค่ะ ที่แม่ฉันใจร้อนขนาดนี้ก็เพราะว่าเป็นห่วงฉัน แต่ว่าเชื่อฉันเถอะนะคะ ยิ่นหนิงเขาไม่มีทางหลอกฉันหรอก ฉันเองก็เชื่อว่าเขาเป็นคนดี” โจวฉุนฉุนพูดอย่างจริงจัง
ก่อนหน้านี้หลินซินเหยียนเคยรู้สึกว่าไป๋ยิ่นหนิงแต่งงานกับเธอ มันไม่ค่อยยุติธรรมกับไป๋ยิ่นหนิง แต่ว่าตอนนี้ดูแล้ว ไม่ใช่ไป๋ยิ่นหนิงไม่ได้รับความยุติธรรม แต่ว่าเขาโชคดีต่างหาก
ถ้าเกิดว่าเขาทำตัวไม่ดีกับผู้หญิงคนนี้ เธอจะด่าไป๋ยิ่นหนิงเป็นชุดเลย แล้วก็เตะเขาสักสองที
ผู้หญิงที่ดีขนาดนี้ ถ้าเกิดว่าเขาจะใช้แค่ประโยชน์ด้านภูมิหลังของครอบครัว เพื่อเป้าหมายด้านธุรกิจของตัวเอง ก็ถือว่าต้อยต่ำเกินไปแล้ว
“ทำไมไม่โทรล่ะ? คงไม่ได้โกหกฉันหรอกใช่ไหม? ” พอคุณผู้หญิงไม่เห็นว่าหลินซินเหยียนโทรออก ก็รู้สึกว่าเธอกำลังโกหกอยู่ ก็เลยออกปากเร่ง
หลินซินเหยียนไม่ได้มองคุณผู้หญิง เธอรู้สึกดีกับโจวฉุนฉุน แต่ว่าเธอไม่มีทางขอบผู้หญิงคนนี้ได้เลย มันไม่ผิดหรอกที่จะเป็นห่วงและอยากปกป้องลูกสาว แต่ว่าการจะกระชากมือคนอื่นตามอำเภอใจ เธอรับไม่ได้จริงๆ
ผู้หญิงคนนี้เซ้าซี้มาก เกรงว่าถ้าวันนี้เธอไม่อธิบายให้ชัดเจน คงจะไม่ได้กลับออกไปจากที่นี่ ถึงแม้ว่าเธอจะไม่ได้อยากให้จงจิ่งห้าวมาที่นี่ แต่ว่าสุดท้ายก็เปิดโทรศัพท์และโทรออกหาเขา เพียงแต่ว่าจอโทรศัพท์มันแตก ก็เลยไม่ค่อยสะดวกเท่าไหร่
แต่ว่าหลินซินเหยียนไม่รู้ว่า คนขับรถที่รออยู่ด้านนอกเห็นเธอถูกคนก่อความวุ่นวายผ่านทางกระจกนั้น ก็ได้ติดต่อจงจิ่งห้าวเรียบร้อยแล้ว
หน้าประตูห้าง มีรถสีดำคันหนึ่งแล่นเข้ามาจอด ประตูรถเปิดออกอย่างรวดเร็ว สิ่งแรกที่ดึงดูดสายตาก็คือขาที่เรียวยาวภายใต้กางเกงแสล็ค ร่างกายที่แข็งแกร่งก็ก้าวเดินลงมาจากรถ
เขาเดินเข้าไปในห้าง ตอนนี้เอง ก็มีรถอีกคันหนึ่งจอด ไป๋ยิ่นหนิงลงจากรถภายใต้การช่วยเหลือจากเกาหยวน
พอเห็นจงจิ่งห้าวเขาก็ทักทาย “ประธานจง”
จงจิ่งห้าวหยุดเดินแล้วก็หันไปมองไป๋ยิ่นหนิง แต่ว่าเขาไม่ได้ตอบอะไร เดินต่อไปเรื่อยๆ ตรงสถานที่ที่คนขับรถบอก
ไป๋ยิ่นหนิงก็ตามไปเหมือนกัน แล้วก็ไปถึงร้านชุดชั้นในอย่างรวดเร็ว
ท่าทางของพนักงานในร้านนั้นเหมือนจะรอดูความสนุก ไม่ได้มีใครเข้าไปช่วยเกลี้ยกล่อมคุณผู้หญิงคนนั้นเลย และไม่ได้มีความคิดที่จะให้พวกเธอออกไปจากที่นี่ แค่รู้สึกว่าสถานการณ์นี้จะทำให้คนมาที่นี่มากขึ้น
พอเห็นจงจิ่งห้าวคนขับก็ก้าวมาด้านหน้าแล้วพูดว่า “คุณนายมาซื้อของ แต่กลับโดนผู้หญิงคนนั้นก่อเรื่อง”
“เพราะอะไร? ” จงจิ่งห้าวเดินไปด้วยแล้วก็ถามไปด้วย
คนขับตอบตามความจริง “ตอนนั้นผมไม่ได้อยู่ด้านใน เรื่องรายละเอียดว่าทำไมผมก็ไม่ค่อยแน่ใจเท่าไหร่ครับ แค่เห็นว่าผู้หญิงคนนั้นจับคุณนายไว้ ไม่ยอมปล่อย”
จงจิ่งห้าวเดินเข้าไปในร้านชุดชั้นในด้วยสีหน้าที่เยือกเย็น ตอนที่เห็นหลินซินเหยียนกำลังยืนมองดูโทรศัพท์ของตัวเองอยู่นั้น อันที่จริงหลินซินเหยียนก็กำลังจะโทรหาเขา แต่เพราะว่าหน้าจอเสียเลยไม่สะดวก ก็เลยค่อนข้างช้า เขาเดินเข้ามาแล้วถามว่า “นี่มันเรื่องอะไรกัน? ”
หลินซินเหยียนเงยหน้าขึ้นมองเขา เหมือนกับได้เห็น ‘ฟางช่วยชีวิต’ เธอดีใจจนอยากจะวิ่งเข้ามากอดเขา
เธอพยายามควบคุมอารมณ์ของตัวเอง ก็เลยไม่ได้เดินไปกอดเขา ได้แค่เข้าไปคล้องแขนของเขา เหมือนกับว่าแสดงให้ผู้หญิงคนนี้เห็นได้ชัดเจน ว่าเธอเป็นคนที่มีสามีแล้ว
หลินซินเหยียนซบจงจิ่งห้าว แล้วก็พูดอย่างไร้เรี่ยวแรง “ฉันเหนื่อยมาก คุณช่วยอธิบายกับคุณผู้หญิงคนนี้หน่อยได้ไหม ว่าพวกเราเป็นอะไรกัน”
จงจิ่งห้าว,……?
ทำไมพอมาถึงก็ให้อธิบายความสัมพันธ์เลยล่ะ?
มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?
ถึงแม้ว่าคุณผู้หญิงจะไม่ค่อยได้เข้าสังคมเท่าไหร่ แต่ว่าในเมืองB นี้ไม่มีใครไม่รู้จักจงจิ่งห้าว และเธอก็ไม่ใช่ข้อยกเว้น แต่ว่าเธอไม่เคยได้ยินเลยนะว่าเขาแต่งงานแล้ว
เธอเริ่มรู้สึกตื่นตระหนกแล้ว ตระหนักได้ว่าเหมือนตัวเองจะเข้าใจผิดไปจริงๆ
เธอไม่รู้ว่าจะพูดอะไรดี
“ยิ่นหนิง” ตอนนี้เองไป๋ยิ่นหนิงก็เข้ามา โจวฉุนฉุนวิ่งเข้าไปเข็นรถเข็นของเขา ไม่รอให้ไป๋ยิ่นหนิงถามอะไรเธอก็พูดขึ้นมาก่อน “เหมือนกับว่าแม่จะเข้าใจผิดเรื่องความสัมพันธ์ของคุณกับคุณผู้หญิงคนนี้ ก็เลยดึงเธอไว้ไม่ยอมให้ไป คุณช่วยอธิบายกับแม่หน่อยสิ”
พอโจวฉุนฉุนพูดแบบนี้ จงจิ่งห้าวก็เข้าใจแล้วว่าทำไมหลินซินเหยียนถึงได้ถูกจับไว้ สีหน้าของเขามืดมนลงเรื่อยๆ คำพูดถากถางล้นออกมาจากลำคอของเขา “ความคิดชั่วร้ายจริงๆ ”
พอไป๋ยิ่นหนิงรู้เหตุผล สีหน้าก็ไม่ค่อยดีเท่าไหร่นัก เขาถามด้วยเสียงที่ทุ้มต่ำ “เกิดอะไรขึ้นกันแน่? ”
ไม่ยังงั้นคุณนายโจวก็ไม่มีทางเข้าใจเรื่องความสัมพันธ์ของเขากับหลินซินเหยียนผิดอย่างไม่มีเหตุผลหรอก
โจวฉุนฉุนย้อนกลับไปคิดถึงเรื่องก่อนหน้านี้แล้วก็พูดว่า “เหมือนกับว่าตั้งแต่ตอนที่ฉันพูดว่าคุณลูบท้องของพี่สาวคนนี้ แม่ก็ไม่แฮปปี้เท่าไหร่”
ไป๋ยิ่นหนิงเข้าใจในทันทีว่ามันเกิดอะไรขึ้น
พอเขาเข้ามาแล้วก็เอ่ยปากขอโทษหลินซินเหยียนก่อน “ขอโทษด้วยนะที่สร้างความวุ่นวายให้คุณ”
หลินซินเหยียนไม่ได้เงยหน้ามองหน้าเขา แน่นอนว่าเธอต้องรู้สึกไม่โอเคอยู่แล้ว ไม่ว่าใครก็แล้วแต่ถ้าถูกเรียกว่าชู้ ถูกจับไว้ไม่ให้ไปไหน แล้วก็ถูกคนจับตามองและชี้นิ้วมาที่ตัวเอง เป็นใครก็คงไม่ได้อารมณ์ดีเท่าไหร่หรอก
“ไม่ต้องมาขอโทษฉัน อธิบายกับภรรยากับแม่ยายของคุณก่อนเถอะ”
“แม่ครับ นี่คือภรรยาของประธานจง คุณหลิน พวกเราเคยรู้จักกัน ค่อนข้างสนิท ครั้งที่แล้วผมหยาบคายเกินไป เลยทำให้แม่เข้าใจผิด” ไป๋ยิ่นหนิงสีหน้าเรียบเฉย เขาก็อารมณ์ไม่ดีเป็นอย่างมาก เห็นได้ชัดว่าคุณนายโจวไม่ไว้ใจเขาเลย
ไม่ยังงั้นก็คงไม่ทำกับหลินซินเหยียนแบบนี้หรอก
คุณนายโจวรู้สึกกระอักกระอ่วนเล็กน้อย เธอไม่คิดว่าไป๋ยิ่นหนิงจะมาที่นี่ หันหน้าไปมองลูกสาวของตัวเอง คิดในใจว่าเธอต้องบอกไป๋ยิ่นหนิงอย่างแน่นอน ก็อดถอนหายใจไม่ได้ ลูกสาวของเธอช่างซื่อบื้อจริงๆ
แต่ว่าลูกสาวของเธอก็เป็นคนแบบนี้ เธอด่าไม่ลงก็เลยจำใจต้องทนเอาไว้
เธอเองก็นึกไม่ถึงเลยว่าสามีของหลินซินเหยียนคือจงจิ่งห้าว
เธอพยายามฝืนยิ้ม “ขอโทษด้วยนะคะ ฉันเข้าใจผิดไปเอง”