กลยุทธ์เด็ด เสพติดรักภรรยาของผม - บทที่587 ภรรยาเพื่อนห้ามรังแก
เห็นใบหน้าที่กำลังจะโกรธจัดของเสิ่นเผยซวน ซูจ้านรีบไปหลบอยู่หลังหลินซินเหยียนทันที “ที่ฉันพูดก็เป็นเรื่องจริงนี่นา นายเองตางหากที่ไม่ยอมรับ ฉันกล้าบอกได้เลยว่าซางหยูต้องรู้สึกดีต่อนายแน่นอน ไม่อย่างนั้น ตอนที่นายเกือบจะเกิดเรื่อง เธอไม่เป็นห่วงขนาดนั้นหรอก จริงๆเรื่องอายุก็ไม่ใช่ปัญหาใหญ่อะไร ถ้าอย่างนั้นพี่สะใภ้กับจิ่งห้าวอายุห่างกันตั้ง8ปี พวกเขาก็ไม่ต้องรู้สึกดีต่อกันมากสิ”
หลินซินเหยียนหันหน้าไปมองซูจ้านครู่หนึ่ง “นายพูดถึงเผยซวนก็พูดถึงเผยซวนสิ ทำไมต้องลามมาถึงพวกฉันด้วย?”
เธอไม่ชอบให้คนอื่นพูดถึงเรื่องในอดีต
ตอนนั้นเธอเองก็อายุไม่มากจริงๆนั่นแหละ อายุ18เป็นวัยที่ยังต้องเรียนมหาลัย แต่เธอกลับแต่งงานแล้ว
เสิ่นเผยซวนเสริมเข้าไปอีก “เขาก็นิสัยแบบนี้ไม่ใช่หรอ? นิสัยเสียไม่เปลี่ยน”
ซูจ้าถลึงตามองเสิ่นเผยซวน “อย่ามามีโอกาสแล้วก็ว่าร้ายฉันนะ ฉันชนะนายไม่ได้ ฉันจะไม่หาผู้ช่วยรึไง?”
หลินซินเหยียนตบไหล่ของซูจ้านเล็กน้อยพูดเตือนว่า “เงียบๆหน่อย ฉินยาอยู่ในบ้านไม่แน่อาจจะได้ยินเข้า”
ถ้าหากว่าซูจ้านรู้ที่ฉินยาพูดวันนี้ ไม่รู้ว่ายังจะไม่คิดอะไรมากแบบนี้ได้อีกรึเปล่า
ฉินยาชื่อนี้สำหรับซูจ้านเหมือนจะใช้ได้ดีเป็นพิเศษ เขารีบเงียบเสียงทันที
เสิ่นเผยซวนหัวเราะเยาะเขา “โอ้ว ยังมีของที่นายกลัวด้วยแฮะ?”
“ไปไกลๆ!” ซูจ้านหย่อนก้นนั่งลงบนโซฟา ไม่ได้พูดอะไรออกมา
หลินซินเหยียนถือเหล้านอกมาสองขวด ตอนกลับมาก็พูดกับพวกเขาว่า “กินข้าวได้แล้ว”
เธอวางเหล้าลงบนโต๊ะ ไปที่ห้องของฉินยา ช่วยเธออาบน้ำแต่งตัว เรียบร้อยแล้วถึงพยุงเธอออกมา เธอใช้เท้าตรงที่ไม่เป็นแผลแตะกับพื้น เดินมาที่ห้องโถงโดยมีหลินซินเหยียนช่วยค้ำ ซูจ้านลุกยืนขึ้นอยากจะไปช่วย แต่พอเห็นฉินยาที่ไม่แม้แต่จะมองมาที่ตน ก็ถอยกลับ กลัวว่าเธอจะรำคาญตนเอง
หลินซินเหยียนพยุงเธอไปที่โต๊ะ จงเหยียนเฉินสายตาเฉียบแหลมรีบวิ่งมาลากเก้าอี้ตัวหนึ่งออก “คุณน้าเยี่ยนเยี่ยนระวังหน่อยครับ”
ฉินยายิ้มแย้มลูบหัวจงเหยียนเฉินเล็กน้อย “นายนี่นะ อบอุ่นขนาดนี้ อนาคตจะต้องมีผู้หญิงมาชอบหลายคนแน่นอน”
จงเหยียนเฉินรีบโบกมืออย่างไว “ผมเอาแค่คนเดียวก็พอแล้วครับ ผู้หญิงเรื่องมากจะตาย มีเยอะแล้วผมกลัวจะเกิดเรื่อง”
คำพูดของเขาทำให้เกิดเสียงหัวเราะไปรอบหนึ่ง หลินซินเหยียนหยิกใบหน้ารูปไข่ของเขา “พูดอะไรเหลวไหล”
“ก็มันจริงนี่นา” จงเหยียนเฉินบ่นพึมพำเบาๆอย่างไม่ยอมแพ้ประโยคหนึ่ง “หม่ามี๊กับแด๊ดดี้ไม่ใช่ชอบถกเถียงกันอยู่บ่อยๆรึไง นี่พึ่งจะดีกันได้แค่ไม่วัน?”
“นายว่าไงนะ?” เสียงของเขาเบามากหลินซินเหยียนฟังไม่ชัด
จงเหยียนเฉินรีบส่ายหัวทันที “ผมบอกว่าผมรู้แล้วครับ ต่อไปจะไม่พูดไร้สาระอีกแล้ว”
ป้าหยูถือจานอาหารอันสุดท้ายวางลงบนโต๊ะ หลินซินเหยียนช่วยจัดวางตำแหน่งให้แต่ละคน “ทุกคนมานั่งประจำที่เถอะ”
เสิ่นเผยซวนกับซูจ้านเดินเข้ามาด้วยกัน
“เยอะแยะมากเลย” วางจนเต็มโต๊ะ อีกทั้งสีสันหน้าตาและกลิ่นก็ดี ไม่แพ้ร้านอาหารเลยแม้แต่น้อย
เสิ่นเผยซวนยิ้มและพูดว่า “ลำบากพี่สะใภ้แล้ว”
หลินซินเหยียนนำตะเกียบมาวางบนผ้าปูโต๊ะอย่างเป็นระเบียบ เงยหน้าขึ้นมองเขาครู่หนึ่ง “ฉลองให้นายที่เลื่อนขั้น ทำอาหารแค่นี้จะเป็นไรไป”
เสิ่นเผยซวนรู้สึกเขินเล็กน้อย ไม่ได้เป็นผู้กำกับซะหน่อย ก็แค่รอง
ทุกคนต่างนั่งประจำที่จงจิ่งห้าวถึงพึ่งลงมาจากข้างบน เขานั่งตรงหัวโต๊ะ หลินซินเหยียนเปิดเหล้า “แก้วแรกวันนี้ต้องเทให้เผยซวน”
เสิ่นเผยซวนยืนขึ้น หยิบเหล้ามาจากในมือหลินซินเหยียน “ผมเทเอง”
จะให้เธอเทให้ตัวเองได้อย่างไร
หลินซินเหยียนก็ไม่ได้บังคับเลยย่อตัวนั่งลง พูดด้วยรอยยิ้ม “เผยซวน พูดจริงๆนะ ซางหยูคือใคร?”
เมื่อกี้ขัดจังหวะเธอเลยไม่ได้ถาม ยังรู้สึกสงสัยซางหยูคนนี้พอสมควร
เสิ่นเผยซวนเป็นผู้ใหญ่นิ่งสุขุม จะไปสนิทสนมกับเด็กสาวที่ไหน จะต้องมีต้นตอแน่ๆ ยังไงเขาก็ไม่ใช่คนง่ายๆ
เสิ่นเผยซวน “…”
เรื่องนี้ทำไมยังไม่ผ่านไปอีกล่ะเนี่ย?
ซูจ้านวางแก้วเหล้าของตนเองวางตรงหน้าเสิ่นเผยซวน ให้เขาเทเหล้าให้แก่ตน “เอาอย่างงี้ ฉันไปรับเธอมาดีมั้ย?”
“นายอย่ามายุ่งเรื่องคนอื่นได้มั้ย?” เสิ่นเผยซวนจ้องเขาแวบหนึ่ง “นายจะอยู่เฉยๆสักพักไม่ได้รึไง ไม่เห็นหรอว่าฉินยายังนั่งอยู่ด้านหน้า?”
ซูจ้าน “…”
จงเหยียนเฉินกับจงเหยียนซีปิดปากแอบหัวเราะ คุณอาซูเหมือนว่าจะแพ้อีกแล้ว
ฮ่าๆ ตลกชะมัด
เสิ่นเผยซวนหยิบเหล้าที่อยู่ตรงหน้าจงจิ่งห้าวเทจนหมด วางขวดเหล้าแล้วถึงจะอธิบายกับหลินซินเหยียน “ผมเองก็อยากมีครอบครัวเร็วๆเหมือนกัน ยังไงก็อายุขนาดนี้แล้ว แต่ว่าซางหยูเป็นแค่เรื่องเข้าใจผิดจริงๆ เธอยังเป็นวัยรุ่นอยู่ ไม่เหมาะสมกันจริงๆ”
“พี่เสิ่นน่าเชื่อถือที่สุดมาโดยตลอด ฉันเชื่อว่าพี่เสิ่นจะต้องหาเด็กสาวที่เยี่ยมมากๆแน่ๆ” ฉินยาพูด
เสิ่นเผยซวนยิ้ม “ขอบคุณที่อวยพรนะ”
“ฉันพูดความจริงนะ เฮ้อ ยังไงฉันก็ไม่มีโอกาสแล้ว ไม่อย่างนั้นฉันก็อยากจะจีบคุณเหมือนกัน” เธอทำท่าเสียดาย ไม่ได้สังเกตบรรยากาศบนโต๊ะที่เปลี่ยนไปแม้แต่น้อย หรืออาจจะรู้แล้ว แต่แกล้งทำเป็นไม่รู้ พูดต่อว่า “เมื่อก่อนฟังเขาพูดมาว่าการแต่งงานเป็นการเกิดใหม่ครั้งที่สองของผู้หญิง ครั้งที่หนึ่งเลือกไม่ได้ แต่ว่าครั้งที่สองต้องเลือกให้ดี ถ้าหากว่าหาผู้ชายเลวก็จะเจ็บปวดไปตลอดชีวิต คำพูดนี้ไม่ผิดจริงๆ แต่ว่าคนแบบพี่เสิ่น ไม่มีทางเป็นผู้ชายเลวแน่นอน”
เสิ่นเผยซวนหันไปมองซูจ้านโดยสัญชาตญาณ
ซูจ้านก็จ้องฉินยานิ่งๆอยู่แบบนี้ เธอทำไมถึงไม่รู้เวล่ำเวลา ไม่ดูสถานการณ์ ไม่เลือกสถานที่ที่จะทิ่มแทงเขา ทำลายศักดิ์ศรีของเขาแบบนี้?
เสิ่นเผยซวนอยากจะโน้มน้าวฉินยา แต่ก็ไม่รู้จะพูดอะไรดี
ฉินยาได้รับบาดเจ็บ จุดนี้ซูจ้านมีส่วนต้องรับผิดชอบ เขาไม่มีที่ว่างให้อธิบายเลย สุดท้ายได้แต่ถอนตัวออกมา “พวกเธอพูดเรื่องของพวกเธอเถอะ อย่าดึงฉันเข้าไปด้วย จะได้ไม่ถูกเข้าใจผิด ภรรยาเพื่อนห้ามรังแก จุดนี้ฉันจดจำไว้ในใจอย่างดี”
ฉินยายิ้ม “ดูสิทำคุณตกใจเชียว ฉันรู้ตัวเองดีน่า”
เสิ่นเผยซวนรีบอธิบาย “ฉันไม่ได้หมายความแบบนั้น…”
เขาไม่ได้จะดูหมิ่น ไม่ได้คิดว่าเธอไม่บริสุทธิ์ถึงพูดแบบนี้
“งั้นคุณหมายความว่าไง หรือว่าคุณก็ชอบฉันเหมือนกัน?” ฉินยาขัดจังหวะเขา
เสิ่นเผยซวน “…”
รู้แบบนี้แต่แรกเขาจะไม่มา
ทั้งเนื้อทั้งตัวต่างบอกไม่ถูก
หลินซินเหยียนตีฉินยาเล็กน้อย “พูดพอแค่นี้เถอะ”
ฉินยายิ้มและพูดว่า “ฉันรู้ พี่เสิ่นหัวแข็งจะตาย ฉันก็แค่ล้อเขาเล่นนิดหน่อย”
เสิ่นเผยซวน “…”
เขาสีหน้าเคร่งขรึม “ต่อไปล้อเล่นแบบนี้ไม่เอานะ”
ถ้าหากว่าเป็นคนที่ไม่รู้จักนิสัยของเขาดี อาจจะเข้าใจผิดได้ ยังไงความสัมพันธ์นี้มันก็อ่อนไหวเกินไป
“เอาล่ะ กินข้าว” หลินซินเหยียนคุมสถานการณ์ เธอแนะนำหม้อตุ๋นประณีตตรงกลาง “ในนี้คือห่านเค็ม ป้าหยูบอกว่ารสชาติดีมาก พวกเธอลองชิมดู”
ห่านเค็มใช้เกลือหมักตอนฤดูหนาว ล้างให้สะอาดหั่นชิ้นเล็กๆ ใส่โสมเก๋ากี้และเห็ดยานางิเข้าด้วยกันใช้ไฟอ่อนๆตุ๋นสองชั่วโมง โสมและรสชาติเค็มอ่อนๆผสมกัน มีกลิ่นหอมที่แตกต่างอย่างหนึ่ง
เธอคีบชิ้นหนึ่งให้ลูกชาย
“หนูก็เอาด้วยค่ะ” จงเหยียนซีคิดว่าตนเองถูกลืม
หลินซินเหยียนไม่ได้ลืมเธอ แต่ว่าลูกชายอยู่ใกล้เธอ เลยให้ลูกชายก่อน ตะเกียบอันเดียวคีบสองชิ้นไม่ได้
จงจิ่งห้าวคีบปีกกลางวางลงในจานของลูกสาว เด็กหญิงกระพริบตาปริบๆ “เป็นแด๊ดดี้ที่รักหนู หม่ามี๊ตอนนี้ชอบแต่พี่ชายคนเดียว”
“หม่ามี๊หนูตะเกียบอันเดียวจะคีบสองชิ้นได้มั้ย?” จงจิ่งห้าวถามลูกสาวด้วยน้ำเสียงอบอุ่น
จงเหยียนซีส่ายหัว “ไม่ได้ค่ะ”
ครั้งนี้เธอตอบสนองอย่างไว “หนูรู้แล้วค่ะ รู้ว่าหม่ามี๊ก็รักหนู ยังบอกว่าจะพาหนูไปร้านสัตว์เลี้ยงด้วยค่ะ”
พูดจบก็อดใจใช้มือหยิบปีกชิ้นนั้นขึ้นมากัดไม่ไหว ตุ๋นตั้งนาน เนื้อเปื่อยมากแถมยังมีกลิ่นโสมหอมมาก เธอทำปากจู๋ “อร่อย”
“คุณน้าเยี่ยนเยี่ยนกินสิครับ อร่อยจริงๆนะครับ” จงเหยียนเฉินเคี้ยวเนื้อ ในปากเคี้ยวตุ้ยๆก็ยังไม่ลืมเตือนฉินยา
ฉินยายิ้ม “ดีกับฉันจริงๆเลย อะไรก็ไม่ลืมฉัน เห็นนายกินอร่อยขนาดนั้น ฉันก็ชิมดูหน่อยละกัน”
เธอคีบขึ้นมาชิ้นหนึ่ง กินไปแล้วก็พูดว่า “อร่อยจริงๆ”
มีเด็กสองคนอยู่ทำให้บรรยากาศคึกคัก
บรรยากาศทานอาหารบนโต๊ะเริ่มมีความสุขขึ้นเรื่อยๆ มีแค่ซูจ้านที่ไม่ค่อยสนุก แล้วก็ไม่ชอบพูดมากเหมือนปกติ นั่งดื่มเหล้าเงียบๆ
พอกินอาหารไปได้ครึ่งหนึ่งเสียงกริ่งก็ดังขึ้น ป้าหยูลุกขึ้นไปเปิดประตู หลินซินเหยียนให้เธอพักผ่อน อาหารวันนี้ส่วนใหญ่เธอเป็นคนทำ เหนื่อยพอสมควร “ฉันไปเปิดเองค่ะ”
“ฉันไปละกันค่ะ” สาวใช้คนใหม่รีบเดินเข้ามา
หลินซินเหยียนตอบโอเค แต่ว่าไม่ได้กลับไปนั่งที่เดิม แต่ยืนอยู่ในห้องอาหารมองดูหน้าประตู ทุกคนต่างก็อยู่ที่นี่ ใครกันที่มาหาตอนดึกขนาดนี้