กลยุทธ์เด็ด เสพติดรักภรรยาของผม - บทที่589 อยากจะให้กู้เป่ยฆ่าเขาให้ตายจริงๆ
คุณนายโจวมองดูลูกสาว “ดึกมากแล้ว เธอไม่กลับบ้านอยู่ที่นี่มันจะเหมาะสมได้ยังไง?”
ตอนนี้เธอดูออกแล้วว่าความสัมพันธ์ของไป๋ยิ่นหนิงกับพวกเขาไม่ได้ดีอย่างที่คิด
ถ้าหากเป็นเพื่อนสนิทกันจริง รู้ว่าไป๋ยิ่นหนิงถูกจับ ทำไมถึงยังสงบนิ่งไม่ร้อนรนเลยสักนิด?
“แม่คะ กลับไปหนูก็นอนไม่หลับ ยิ่นหนิงไม่อยู่ หนูเป็นห่วงเขา” โจวฉุนฉุนถึงแม้ไม่รู้ว่าหลินซินเหยียนรู้สึกอย่างไรกับไป๋ยิ่นหนิง แต่ว่าเธอรู้ หลินซินเหยียนไม่มีทางทำร้ายไป๋ยิ่นหนิงแน่นอน”
“ฉุนฉุน” ลูกสาวไร้เดียงสาเกินไป คุณนายโจวกลัวเธออยู่ที่นี่จะถูกเอาเปรียบ
“แม่กลับไปเถอะค่ะ” โจวฉุนฉุนท่าทางเด็ดขาด คุณนายโจวไม่รู้จะทำยังไง ได้แต่บอกว่า “พรุ่งนี้เช้าแม่มารับนะ”
“ได้ค่ะ” โจวฉุนฉุนรีบตกลงทันที
จงจิ่งห้าวขมวดคิ้ว เหมือนว่าไม่ต้องการให้โจวฉุนฉุนอยู่ที่นี่ และไม่อยากให้เธอทำให้หลินซินเหยียนเสียเวลา “ดึกมากแล้ว พรุ่งนี้ผมจะเอาตัวคนให้พวกคุณ วันนี้พวกคุณกลับไปกันเถอะ”
“รบกวนคุณบอกพี่สาวให้หน่อย หนูอยากเจอเธอ” โจวฉุนฉุนรู้ว่าเขาไม่อยากให้ตนเองอยู่ที่นี่ ตอนนี้ไม่รู้ว่าไป๋ยิ่นหนิงจะเป็นไงบ้าง เป็นห่วงว่าจะถูกคนรังแก มีแค่พี่สาวที่จะช่วยได้ เธอยังไปไม่ได้
“ฉุนฉุน” คุณนายโจวอยากจะโน้มน้าวลูกสาว แต่ยังพูดไม่จบ ก็ถูกขัดขึ้นมาก่อน
โจวฉุนฉุนพูด “แม่อย่ายุ่งกับหนูเลยค่ะ”
“ลูกเป็นคนโง่หรือไง? ฟังไม่ออกหรอว่าคนอื่นเขาไม่อยากให้ลูกอยู่ที่นี่?” คุณนายโจวเพราะว่าความดื้อรั้นของลูกสาวเลยโมโหเล็กน้อย คำพูดที่พูดออกมาเลยพูดอย่างเปิดเผย แต่ว่าพอพูดออกมาก็รู้สึกเสียใจ
“ฉุนฉุน ขอโทษ แม่ไม่ได้ตั้งใจ…”
“ไม่เป็นไรค่ะ หนูมันโง่เอง” โจวฉุนฉุนน้ำตาคลอ ในใจรู้สึกเสียใจ คนอื่นจะพูดยังไงก็ไม่เป็นไร แต่ว่าคนในครอบครัวพูดมันทำให้เธอรู้สึกเจ็บ
“เธอเข้ามาเถอะ” หลินซินเหยียนยืนอยู่หน้าประตูพูดกับโจวฉุนฉุน
เธอได้ยินบทสนทนาเมื่อกี้
โจวฉุนฉุนหันหน้ามามองหลินซินเหยียนแล้วรีบวิ่งเล็กน้อยเข้าไปหา เธอเช็ดหน้าแล้วส่งยิ้มให้หลินซินเหยียน “พี่สาว ขอโทษนะคะที่ดึกขนาดนี้แล้วยังมารบกวนคุณพักผ่อน ยิ่นหนิงไม่อยู่ ฉันเป็นห่วงเขามาก ฉันนอนไม่หลับ แต่ก็ไม่มีเพื่อนคุยกับฉัน”
หลินซินเหยียนเข้าใจรู้ว่าเธอเป็นเด็กสาวที่ดีคนหนึ่ง และกุมมือเธอ “ไม่รบกวนเลย เธอเรียกฉันว่าพี่สาวขนาดนี้แล้ว ฉันจะดูแลเธอเอง”
พูดจบเธอมองไปทางคุณนายโจวที่อยู่ไม่ไกลมองดูลูกสาวด้วยสายตาเป็นห่วง แม้ว่าเจอกันครั้งแรกจะไม่ค่อยมีความสุขเท่าไหร่ แต่ว่า เห็นแก่หน้าของโจวฉุนฉุน ก็ไม่คิดเล็กคิดน้อยกับเธอแล้ว คิดอย่างรอบคอบแล้ว ถึงแม้เธอจะตื่นตูมไปหน่อย ก็เพราะเธอรักลูกสาวมาก กลัวลูกสาวของตนเองจะถูกทำร้าย
สงสารหัวอกคนเป็นพ่อเป็นแม่
“ฉันจะดูแลเธอเองค่ะ” เธอพูดกับคุณนายโจว
คุณนายโจวพยักหน้าและพูดว่า “ขอบคุณ ครั้งก่อนต้องขอโทษด้วยนะคะที่สร้างความลำบากให้แก่คุณ”
“เรื่องครั้งก่อนฉันลืมไปหมดแล้วค่ะ ฉุนฉุนอยู่ที่นี่ไม่เกิดเรื่องหรอกค่ะ สบายใจได้”
คุณนายโจวกล่าวขอบคุณอีกครั้ง ท่าทางของหลินซินเหยียนทำให้เธอวางใจไปได้สักหน่อย พูดกับลูกสาวว่า “ฉุนฉุน แม่ไปละนะ”
โจวฉุนฉุนพยักหน้า “ไปเถอะค่ะ ตอนเช้าหนูกลับเอง”
คุณนายโจวไม่รู้จะบอกกับลูกสาวยังไง ที่นี่มีรถให้เธอนั่งกลับไปซะที่ไหน?
“ฉันให้คนขับรถไปส่งเธอเองค่ะ” หลินซินเหยียนมองความคิดของคุณนายโจวออกเลยพูดขึ้น
“ถ้างั้นขอบคุณมากค่ะ” คุณนายโจวขอบคุณจากใจ
หลินซินเหยียนยิ้มจูงมือโจวฉุนฉุนเข้ามาในบ้าน ฉินยานั่งอยู่บนโซฟาห้องโถง หลินซินเหยียนบอกที่มาที่ไปให้เธอฟัง พอรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น เธอไม่อยากให้ทุกคนต้องลำบาก เธอไม่เป็นอะไร
“เธอบอกกับประธานจง ให้เขาส่งตัวคนคืนเถอะ” ฉินยาก็ไม่อยากให้หลินซินเหยียนติดค้างน้ำใจไป๋ยิ่นหนิง ความในใจของไป๋ยิ่นหนิงนั้นทุกคนรู้ดี
“เรื่องนี้เขาจัดการแน่นอน เธอไม่ต้องคิดมาก ฉันพยุงเธอกลับห้องนะ” หลินซินเหยียนเดินเข้ามา
“พี่สาวฉันช่วยค่ะ คุณท้องอยู่คงไม่สะดวก” โจวฉุนฉุนเห็นฉินยาบนเท้ากับบนขามีผ้าก๊อซ ก็รู้ว่าเธอได้รับบาดเจ็บ เอื้อมมือไปจับแขนเธอไว้
ฉินยามองหลินซินเหยียนใช้สายตาถามว่านี่คือใคร?
หลินซินเหยียนกล่าวแนะนำ “เธอเป็นภรรยาคนใหม่ของไป๋ยิ่นหนิงชื่อโจวฉุนฉุน เป็นเด็กสาวที่ดี”
ฉินยาพยักหน้า พูดว่า “ดีใช้ได้เลยล่ะ”
ท่าทางไร้เดียงสามาก
พยุงฉินยามาถึงห้อง หลินซินเหยียนรินน้ำให้เธอ “กินยาซะ”
ฉินยารับน้ำที่เธอยื่นมา กินยาเสร็จเรียบร้อย “พวกเธอตามสบายเถอะ ฉันจะนอนแล้ว”
หลินซินเหยียนพยักหน้า “มีอะไรก็ตะโกนเรียกฉันนะ”
“ฉันไม่เรียกเธอหรอก ฉันกลัวประธานจงเกลียดฉัน ฉันจะเรียกป้าหยูละกัน หรือเรียกสาวใช้คนใหม่คนนั้นน่ะ” ฉินยาเบ้ปาก “สามีเธอ เป็นคนที่เห็นเธออยู่ในสายตาก็ไม่รู้สึกเจ็บ ฉันไม่กล้าเรียกใช้หรอก”
หลินซินเหยียนจ้องเธอแวบหนึ่ง “นอนเถอะ พูดมากมาทั้งวันแล้ว เรียนแบบมาเหมือนซูจ้านเป๊ะเลย”
ซูจ้านชื่อนี้หลุดออกมา สีหน้าของฉินยาก็ไม่ร่าเริงเหมือนเมื่อกี้แล้ว ไม่ยิ้ม “ฉันนอนละ”
หลินซินเหยียนห่มผ้าห่มให้เธอ พูดขอโทษเบาๆ “ฉันไม่ได้ตั้งใจพูดถึงเขา”
“ฉันรู้ เธอก็รีบไปพักเถอะ อย่าทำให้ลูกชายบุญธรรมของฉันเหนื่อยล่ะ” ฉินยาไม่ได้โกรธ แค่ได้ยินชื่อซูจ้านแล้วอารมณ์ไม่ดีเฉยๆ
หลินซินเหยียนยิ้มและพูดว่ารู้แล้ว
เธอให้โจวฉุนฉุนออกมา ปิดประตูแล้วถามเธอ “เธอกินข้าวเย็นหรือยัง?”
โจวฉุนฉุนส่ายหน้า “ยังค่ะ ยิ่นหนิงหายไป ฉันกินไม่ลง”
“เธอต้องกินข้าวนะถึงจะมีแรงรอเขา ที่นี่พอมีอาหารบ้างกินซะหน่อยนะ” หลินซินเหยียนตะโกนเรียกป้าหยู “หยิบถ้วยสะอาดมาใบหนึ่งให้หน่อยค่ะ”
ป้าหยูหยิบจานชามสะอาดออกมา พูดว่า “หายากที่ทุกคนจะกินข้าวด้วยกัน แต่ก็จบไปแบบนี้ ยังเหลืออาหารตั้งเยอะ”
โจวฉุนฉุนก้มหน้า “ขอโทษค่ะ”
“ไม่เกี่ยวกับคุณหรอกค่ะ ป้าหยูไม่ได้ว่าคุณ” หลินซินเหยียนปลอบเธอ ป้าหยูก็ไม่ได้ต่อว่าเธอจริงๆ ก็แค่พูดความจริงออกมาเพราะรู้สึกเสียดายที่มื้ออาหารมื้อนี้ถูกทำลายเท่านั้น
หลินซินเหยียนให้เธอนั่งลง ตักอาหารให้เธอ “กินอาหารก่อนนะ ไม่อย่างนั้นไป๋ยิ่นหยิงจะเป็นทุกข์เอานะ”
โจวฉุนฉุนหยิบตะเกียบขึ้นมา คีบอาหารที่หลินซินเหยียนตักให้เธอเข้าปาก
เธอไม่อยากให้ไป่ยิ่นหนิงเป็นห่วง แล้วก็ไม่อยากให้เขาเป็นทุกข์เพราะตนเอง ที่จริงเขาถึงจะเป็นคนที่น่าสงสารที่สุด ชอบคนคนหนึ่ง กลับไม่ได้อยู่กับคนที่ตัวเองชอบ
“พี่สาว ยิ่นหนิงชอบคุณใช่มั้ย?”
สติของหลินซินเหยียนแตกกระเจิง เธอมองโจวฉุนฉุนและรีบอธิบาย “ฉุนฉุนจ๊ะ…”
“พี่สาว” โจวฉุนฉุนเงยหน้ามองเธอ พูดอย่างจริงจัง “ คุณไม่ต้องอธิบายหรอกค่ะ ฉันเข้าใจ ฉันไม่ได้เกลียดคุณ แล้วก็ไม่รังเกียจคุณด้วย คุณทั้งสวยฉลาดและใจดี เขาจะชอบคุณก็เป็นเรื่องปกติ แต่ว่าจากนี้ไปเขาบอกว่า เขาจะควบคุมตัวเองไม่ให้ชอบคุณ พยายามชอบฉันแทน ฉันเองก็อยากเป็นผู้หญิงที่เปล่งประกายในสายตาเขาเหมือนกัน”
หลินซินเหยียนนิ่งเงียบไม่รู้จะพูดอะไร ได้แต่นั่งมองเธอเงียบๆ
“พี่สาว คุณไม่มีพี่น้อง ต่อไปฉันให้คุณมาเป็นพี่สาวจริงๆของฉันได้มั้ยคะ?” โจวฉุนฉุนหลุบตาต่ำอย่างหดหู่ “เพราะว่าฉันไม่ค่อยฉลาด คนอื่นก็ไม่อยากเป็นเพื่อนกับฉัน มีแค่ยิ่นหนิงที่ไม่รังเกียจฉัน คุณก็ไม่รังเกียจฉันเหมือนกัน”
หลินซินเหยียนเอื้อมมือเอาผมข้างหูของเธอทัดหูให้ “เธอเป็นคนจิตใจดี แล้วก็ฉลาดมาก ไม่มีใครรังเกียจเธอหรอกนะ อย่างน้อยฉันก็ชอบเธอมาก เธอจำไว้นะ ชีวิตเป็นของเธอ คนอื่นจะพูดอะไรอย่าได้แคร์ เพราะเธอก็คือเธอ บนโลกนี้มีเพียงหนึ่งเดียว เธอจะใช้ชีวิตยังไง จะพูดอะไรก็เป็นเรื่องของเธอ ขอแค่เธอมีความสุขก็พอ ถ้าหากว่าวันหนึ่งเธอป่วย คนอื่นมาป่วยแทนเธอได้รึเปล่า?”
โจวฉุนฉุนส่ายหน้า “ไม่ได้”
“เพราะงั้น เพราะคำพูดของคนอื่นมาทำร้ายตนเอง มันไม่คุ้มค่า คุณเจ็บมากแค่ไหนคนอื่นก็มาเจ็บแทนไม่ได้ ดังนั้น ไม่ว่าคนอื่นจะพูดยังไง เธอก็แค่ใช้ชีวิตของเธอให้ดีก็พอแล้ว”
โจวฉุนฉุนมองหลินซินเหยียน เมื่อก่อนคุณแม่มักจะบอกกับเธอเสมอว่าเวลาพูดให้คิดก่อนว่าควรพูดหรือไม่ควรพูด สุดท้ายก็ไม่ต้องพูด พูดออกมาไม่ดีจะถูกคนอื่นหัวเราะเยาะ พฤติกรรมก็ต้องระวัง อย่าทำเรื่องที่ทำให้คนอื่นขบขัน
วันนี้พี่สาวกลับบอกว่าให้เป็นตัวของตัวเอง
เธอรู้สึกว่าพี่สาวพูดถูก ไม่ควรเอาความคิดเห็นของคนอื่นมาใช้ชีวิต
อย่างไรจะมีความสุขหรือไม่มีก็มีแต่เธอที่รู้สึก เธอเจ็บปวดคนอื่นก็มาเจ็บแทนเธอไม่ได้
เธอพยักหน้าแรงๆ “พี่สาวฉันรู้แล้ว”
“ขอบคุณค่ะพี่สาว” โจวฉุนฉุนกอดเธออย่างตื่นเต้น
หลินซินเหยียนตบหลังเธอ “ไม่ต้องห่วง ไป๋ยิ่นหนิงไม่เป็นอันตรายหรอก”
“อืม” โจวฉุนฉุนพยักหน้า
หลินซินเหยียนอยู่คุยเป็นเพื่อนโจวฉุนฉุนมากมาย ส่วนมากก็เพื่อชี้แนะเธอ ให้เธอไม่ต้องกังวลว่าไป๋ยิ่นหนิงจะเกิดเรื่อง
พอเวลาดึกๆ หลินซินเหยียนให้เธอพักผ่อนในห้องโถง
เพราะว่ามีสาวใช้มาใหม่ ข้างล่างเลยไม่มีห้องแล้ว หลินซินเหยียนให้จงจิ่งห้าวอุ้มเด็กทั้งสองคนขึ้นไปข้างบน ให้โจวฉุนฉุนพักอยู่ในห้องของเด็กทั้งสองคนชั่วคราวคืนหนึ่ง
เด็กทั้งสองคนหลับสนิท จงจิ่งห้าวอุ้มขึ้นมาทีละคนก็ไม่ตื่น
หลินซินเหยียนง่วงเล็กน้อย ไม่อยากอาบน้ำและก็เอนตัวลงข้างเด็กทั้งสองคน
จงจิ่งห้าวใช้กะละมังเทน้ำร้อนลงไปแล้วก็วางไว้ข้างเตียง “ลุกขึ้นมาล้างเท้าก่อนค่อยนอน”
หลินซินเหยียนลุกขึ้น เอาเท้าจุ่มลงในน้ำที่อยู่ในกะละมัง ถามขึ้น “คุณจะปล่อยตัวคนมั้ย?”
จงจิ่งห้าวล้างเท้าให้เธอ เท้าของเธอผอมยาว เล็ก ขาวราวหิมะ นิ้วเท้าก็เหมือนราวกับรากบัวอ่อน เขาหยิกหลังเท้าเธอ แล้วก็หยิกขาเล็กๆของเธอ ถามว่า “ขาของคุณบวมขึ้นรึเปล่า?”
หลินซินเหยียนเอื้อมมือไปลูบๆและพูดว่า “ไม่นะ”
“ในหนังสือบอกว่าคนท้องจะบวม”
“นั่นมันตอนท้องแก่เจ็ดแปดเดือนถึงจะเกิดขึ้น” หลินซินเหยียนพูด
จงจิ่งห้าวท่าทางเข้าใจขึ้นมากะทันหัน “เป็นแบบนี้นี่เอง”
หลินซินเหยียนใช้เท้าถีบเขา “ไม่ต้องมาขัดฉันเลย ฉันถามคุณอยู่นะ จะปล่อยคนรึเปล่า”
ขณะนั้นหลินซินเหยียนก็รู้ตัว เขาตั้งใจเปลี่ยนบทสนทนา ไม่อยากพูดเรื่องของไป๋ยิ่นหนิง
จงจิ่งห้าวจับเท้าที่ถีบเข้ามา “คุณว่าผมเกลียดเขาขนาดนั้นเลยหรอ? อยากจะให้กู้เป่ยฆ่าเขาให้ตายจริงๆ จะได้ไม่ต้องมาปรากฏต่อหน้าผม ให้ผมรำคาญใจ”