กลยุทธ์เด็ด เสพติดรักภรรยาของผม - บทที่595 ฉลามกินคนหรือเปล่า
กู้เป่ยได้ฟังดังนั้นก็โกรธจนกัดฟันโกรธ ตอนแรกที่ไป๋ยิ่นหนิงปลูกความสงสัยเอาไว้ในใจเขา หลังจากที่ได้ฟังคำของเสิ่นเผยซวนก็ยิ่งไม่เชื่อพี่สี่เข้าไปใหญ่
อีกอย่างเรืองที่เสิ่นเผยซวนพูดนั้นมันเคยเกิดขึ้นจริงๆ เรื่องเมื่อสองปีก่อน หญิงปรนนิบัติที่มาใหม่เพื่อดูแลคนใหญ่คนโตนั้น ไม่รู้กฎเกณฑ์ เลยทำให้คนใหญ่คนโตนั้นไม่พอใจ กู้เป่ยส่งให้ลูกน้องเอาเธอไปสั่งสอน ลูกน้องของเขามีแต่ชายร่างกำยำ ลงมือเพียงไม่เท่าไหร่ก็ตายแล้ว
เรื่องนี้มันเกิดขึ้นนานแล้วจนเขาแทบจะลืมไปแล้ว ตอนนี้มาได้ยินอีกครั้ง กลับถูกคนของตัวเองเอาข้อมูลไปขายเสียอย่างนั้น
กู้เป่ยหันมามองหลัวซาน ก่อนจะพูดเสียงต่ำ “ขอบคุณมากนะวันนี้”
เมื่อพูดจบก็เดินออกไปด้วยความโกรธ
หลัวซานที่ยืนอยู่ตรงข้ามก็เบ้ปาก เหมือนเป็นการเข้าใจเรื่องเมื่อครู่แล้ว ดูเหมือนว่าเสิ่นเผยซวนกับจงจิ่งห้าวจะจับมือกันเพื่อหลอกกู้เป่ย
อันที่จริงมันก็ไม่ใช่การหลอกลวงกู้เป่ยอะไร พี่สี่นั้นสารภาพเรื่องของกู้เป่ยจริงๆ ก่อนหน้านี้เขาไม่ได้รู้เรื่องของกู้เป่ยน้อยไปกว่าคนดังข้างกายเลย เรื่องนี้เป็นเรื่องที่เสิ่นเผยซวนสืบออกมา เพียงแต่เพื่อให้กู้เป่ยคิดไปก่อนว่าพี่สี่จะหักหลังเขา เลยตั้งใจบอกไปว่าพี่สี่เป็นคนสารภาพ
เรื่องที่ผู้หญิงเสียชีวิต ตามที่เสิ่นเผยซวนสืบออกมา เรื่องในครั้งนั้นพี่สี่เองก็มีส่วน ดังนั้นเขาเลยไม่พูดออกมา
เรื่องที่พี่สี่สารภาพเรื่องของกู้เป่ยนั้น เป็นเรื่องเล็กๆ ไปเลย แถมยังไม่มีเรื่องแย่ๆ ที่เขาทำเองด้วย ถึงแม้ว่าเขาจะไม่ซื่อสัตย์ แต่ว่าก็รู้จักการเก็บสิ่งที่ไม่เป็นประโยชน์เอาไว้ได้ดี
กู้เป่ยออกไปจากคลับก็ให้คนพาพี่สี่ไปที่บ้านพักตากอากาศ
เขากลับไปที่บ้านพักตากอากาศด้วยความโกรธเคือง พี่สี่เองก็ถูกพาไปด้วย
จู่ๆ เมื่อถูกพากลับไปพี่สี่ก็ไม่สบายใจเท่าไหร่ เลยพูดอย่างระวัง “ประธานกู้……”
เขายังไม่ทันพูดจบ กู้เป่ยก็ยิ้มมุมปากขึ้นด้วยความร้ายกาจ เขาไม่พูดพร่ำทำเพลง ก็เตะไปเต็มแรง พี่สี่ล้มลงบนพื้น จากที่บาดเจ็บอยู่ไม่น้อย ตอนนี้ถึงกับลุกไม่ขึ้นอีก แล้วก็เอามือกุมท้องด้วยความเจ็บปวด
“คุณบอกว่าเขาไม่ได้ซักถามไม่ใช่เหรอ?” กู้เป่ยนั่งยองลงมาบีบกรามของเขา “แล้วขายเรื่องของฉันงั้นเหรอ?”
พี่สี่เบิกตาโพลง ก่อนหน้านี้ไม่ใช่ว่าเชื่อเขาแล้วเหรอเขา?ทำไมจู่ๆ มารู้อีกแล้วล่ะ?
“คุณอย่าไปเชื่อคำพูดของคนกระจอกคนนี้เด็ดขาด……”
เพี๊ยะ!
พี่สี่ถูกตบเข้าที่ใบหน้าอีกครั้ง กู้เป่ยโกรธเป็นอย่างมาก “ฉันได้ยินเองกับหูมันจะผิดได้อย่างไร?ฉันว่าแล้ว คุณไปอยู่ในมือของพวกเขา จะไม่ซักถามคุณ แถมยังปล่อยคุณกลับมา ที่แท้คุณไม่ได้แค่ขายข้อมูลของฉัน แต่ยังเป็นสายสืบให้พวกเขาอีก พี่สี่ ฉันทำดีกับคุณนะ คิดไม่ถึงเลยว่า คุณจะกล้ามาทำแบบนี้กับฉัน?!”
กู้เป่ยโกรธเคืองเป็นอย่างมาก และคิดทุกทางเพื่อปกป้องเขา เขากลับขายข้อมูลของตัวเอง มันรู้สึกแย่กว่าการที่แฟนนอกใจอีก
เขาอยากจะฆ่าพี่สี่ให้ตายไปตอนนี้เลย เพื่อระบายความเกลียดในใจ!
พี่สี่ไม่รู้จะทำตัวอย่างไร เขาพูดเรื่องเหล่านั้นของกู้เป่ยไปจริงๆ แต่ว่ามันก็ทำอะไรกู้เป่ยไม่ได้ แล้วเขาไปตกลงจะเป็นสายสืบให้พวกเขาตั้งแต่เมื่อไหร่?
“มันต้องเกิดความผิดพลาดแน่นอน……”
“ข้อผิดพลาด!” ยิ่งคิดกู้เป่ยก็ยิ่งหงุดหงิด แล้วก็ตบหน้าของพี่สี่อีก เพราะใช้แรงมากเกินไป มือของเขาเลยชา พี่สี่นั้นปากเต็มไปด้วยเลือด ตอนแรกใบหน้าที่ดูไม่ได้อยู่แล้ว ยิ่งแดงมากขึ้นไปอีก เหมือนหัวหมูย่างเลยล่ะ
“ฉันไม่ได้หูหนวก!” กู้เป่ยโกรธแต่ก็หัวเราะขึ้นมา “พี่สี่ยังจำได้ไหมว่าฉันเคยพูดอะไรเอาไว้?”
พี่สี่ตกใจจนตัวสั่น เลือดที่ปากไหลลงบนเสื้อ มันยิ่งเห็นได้ชัดเมื่ออยู่บนชุดผู้ป่วยสีขาวน้ำเงิน
เพื่อให้มีชีวิตต่อ เขากอดขาของกู้เป่ยเอาไว้ “ประธานกู้ คุณต้องเชื่อฉันนะ ฉันไม่ได้บอกข้อมูลของคุณ ฉันสาบาน ถ้าฉันบอกข้อมูลไป ขอให้ฉันถูกฟ้าผ่าตาย”
จู่ๆ ตอนนั้นก็มีเสียงฟ้าผ่าลงมาจากด้านนอก
พี่สี่ “……”
กู้เป่ย “……”
“ดูเหมือนสวรรค์อยากจะลงโทษคุณแล้วล่ะ” กู้เป่ยเตะเขาก่อนจะเรียกลูกน้องมา “เอาเขาไปโยนให้ปลากินในทะเล!”
“ประธานกู้ คุณต้องเชื่อฉันนะ” พี่สี่ปีนมา ก่อนจะกอดขาของกู้เป่ย “ฉันไม่ได้ขายข้อมูลของคุณจริงๆ ขอร้องล่ะ คุณจะต้องเชื่อฉันนะ”
กู้เป่ยมองพี่สี่ที่เหมือนหมา ก่อนจะยิ้มเสียงเย็นชา “ฉันเองก็เชื่อคุณ แต่ดูท่าทีที่คุณดูแย่ขนาดนี้สิ ถ้าคุณไม่ได้ขายข้อมูลฉัน ฉันถึงจะว่าแปลก!”
ไม่มีเลือดเลยแม้ต่น้อย โดนทำร้ายขนาดนั้น ถ้าเขาไม่สารภาพสิถึงจะแปลก!
“ยืนอึ้งอะไรอยู่?” กู้เป่ยตะโกนด้วยความโกรธ ลูกน้องหลายคนเลยรีบมาพาตัวพี่สี่ไป
“ขอร้องล่ะ ต้องเชื่อฉันนะ ฉันไม่ได้บอกข้อมูลของคุณจริงๆ” ไม่ว่าอย่างไรพี่สี่ก็ไม่ยอมรับ ถ้ายอมรับเขาคงจะต้องตายสถานเดียว
แต่ว่าไม่ยอมรับกู้เป่ยเองก็ตัดสินไปแล้วว่าเขาปล่อยข้อมูลของตัวเอง
กู้เป่ยใช้โอกาสนี้เชือดไก่ให้ลิงดู เพื่อให้คนที่ติดตามเขาเห็นว่าถ้าเกิด ปล่อยข้อมูลเขาแล้วจะต้องเป็นแบบไหน!
“คนที่ติดตามฉัน ฉันไม่มีทางทำไม่ดีด้วย แต่ว่า คนที่ปล่อยข้อมูลของฉันจะต้องตายเท่านั้น!” กู้เป่ยโกรธเป็นอย่างมาก วันนี้ไม่มีใครจะช่วยพี่สี่ได้ทั้งนั้น!
เพื่อทำให้ลูกน้องตกใจกลัว กู้เป่ยเลยจับพี่สี่ออกไปข้างนอกด้วยตัวเอง
พี่สี่ร้องห่มร้องไห้อ้อนวอน กู้เป่ยได้ยินแล้วก็รำคาญ เลยให้ปิดปากเขาแล้วใส่เอาไว้ในกระสอบ ก่อนจะโยนเข้าไปในท้ายรถแล้วตรงไปที่เขตที่ติดกับทะเล
ลูกน้องที่ตามไปนั้นคิดว่าแค่อยากจะทำให้พี่สี่กลัวเท่านั้น แล้วก็ทำให้พวกเขาตกใจ แต่คิดไม่ถึงเลยว่ากู้เป่ยจะให้พวกเขาโยนพี่สี่ลงทะเลไปจริงๆ
ลูกน้องทั้งหมด ถึงแม้ว่าจะไม่ชอบพี่สี่ แต่ว่าก็กลัวว่าตัวเองจะมีวันนี้ เลยขอร้องแทนพี่สี่
“ถึงเขาจะไม่ได้เครดิตแต่ก็ยังลงแรงอยู่บ้าง ไว้ชีวิตเขาเถอะ” ชายหนวดเฟิ้มคนหนึ่งเปิดปากขอร้อง
กู้เป่ยพึมพำเล็กน้อย จากนั้นเขาก็พิงกระโปรงหน้ารถ ก่อนจะกอดอก “เขาหักหลังฉัน ก็จะมีผลลัพธ์แบบเดียวเท่านั้น ก็คือความตาย พวกคุณเองก็เหมือนกัน ถ้าวันไหนใครหักหลังฉัน ก็จะมีทางเดียวเท่านั้น!ใครกล้าขอร้องอีก ฉันจะให้เขาลงไปพร้อมกับพี่สี่เลย”
เหมือนกับว่าตอนนั้นลูกน้องทั้งหมดต่างพากันเงียบลง ไม่มีใครกล้าพูดอะไรออกมาอีก เพราะกลัวว่าตัวเองจะถูกโยนลงไปเป็นอาหารปลาเหมือนกัน
“ยังไม่รีบลงมืออีก จะให้ฉันเป็นคนทำเองหรือไง?” กู้เป่ยพูดเสียงเย็นชา
ลูกน้องหลายๆ คนต่างถอยออกไป ก่อนจะเข้าไปจับสิ่งที่ขยับอยู่ไม่หยุดในถุงพร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมาย พี่สี่ถูกปิดปากแน่น แต่ว่ากลับไม่ได้ถูกอุดหู เขาได้ยินหมดว่าพวกเขาพูดอะไร ในใจเลยกลัวเป็นอย่างมาก
เลยพยายามขยับสุดกำลัง แต่ว่าเขาถูกมัดแน่นมาก เลยไม่มีทางทำให้เชือกหลุดได้
ถ้าตอนนี้สามารถเห็นหน้าเขาได้ จะต้องเห็นใบหน้าที่กลัวจนหน้าซีดแน่นอน
บนโลกใบนี้คงมีใครสงบได้เวลาเผชิญกับความตาย
ถึงอย่างไรชีวิตก็มีชีวิตเดียว ถ้าตายก็ตายเลย ไม่มีอะไรอีกแล้ว
สีหน้าของกู้เป่ยนั้นนิ่งมาก เขาไม่เกรงกลัวอะไร เลยเปิดกระจกดูตอนที่เกิดเรื่องและเขาเองก็ดูอยู่ได้ โดยที่ไร้ความกลัวใดๆ
เกิดเสียงตูมดังขึ้น ผิวน้ำเองก็กระจายขึ้นมาใหญ่มาก เพียงไม่นานก็เงียบสงัดไป และไม่เห็นการดิ้นรนอะไรเลยด้วย
ลูกน้องหลายคนที่ยืนอยู่ตรงหาด ต่างมีสีหน้าไม่ดี มีคนหนึ่งในนั้นถาม “ฉลามกินคนจริงๆ หรือเปล่า?”
“ไอ้โง่ ไม่กินอยู่แล้ว เพราะคนเป็นสัตว์ที่อยู่เหนือห่วงโซ่อาหารนะ”
“คุณสิโง่ ใครบอกว่าฉลามไม่กินคน?” ลูกน้องคนหนึ่งที่มั่นใจว่าฉลามนั้นกินคนรีบโต้ตอบคำที่อีกคนพูดเมื่อครู่
“คุณเคยเห็นเหรอ?” คนคนนั้นเองก็ไม่ยอม เขาคิดว่าคนเป็นควบคุมของโลก ส่วนฉลามเป็นสัตว์ในน้ำ มันจะกินคนบนบกได้อย่างไร?
“คุณไม่เคยเห็นฉลามขาวเหรอ?ฉลามที่อยู่ในนั้นก็กินคน” ทั้งสองคนต่างยึดมั่นใจความคิดของตัวเอง และไม่ยอมรับความคิดของคนอื่นๆ
“นั่นมันในหนัง!ฉลามจริงๆ ไม่กินคน!”
“พวกโง่ ฉันเลี้ยงพวกคุณมาเพื่ออะไรอย่างนี้เหรอไง?” กู้เป่ยรำคาญเพราะเสียงดังจนปวดหัว “ไปกันเถอะ”
เมื่อพูดจบเขาก็ขึ้นรถไป ก่อนจะมีเสียงสตาร์ทรถดังขึ้น มีไฟสาดมา ท่าทีเหมือนฝนกำลังจะตกแล้ว
ลูกน้องหลายๆ คนรีบวิ่งขึ้นรถกันมา โดยที่ลืมไปหมดแล้วว่าพวกเขาเพิ่งทำอะไรลงไป
โชคของพี่สี่นั้นไม่ดี เมื่อได้อำนาจก็ไม่มีใครสนใจ มีเรื่องกับคนไม่น้อยเลย ดังนั้นเลยไม่มีใครขอร้องให้เขาอย่างจริงใจ เมื่อครู่ที่มีคนพูดแทนเขานั้นก็เป็นเพราะตัวเองไม่อยากจะเจออะไรแบบนี้เหมือนกัน
หลายๆ คนต่างคิดในใจ ว่าจะไม่มีทางปล่อยข้อมูลของกู้เป่ย ไม่อย่างนั้น พวกเขาเองก็จะถูกโยนให้ปลากิน
ในซุเปอร์มาเก็ตนั้น หลินซินเหยียนพาลูกชายกับลูกสาวมาที่ร้านสัตว์เลี้ยงเพื่อซื้อของใช้ของเจ้าขาวจากนั้นจงเหยียนซีก็อยากจะไปที่สวนสนุก
หลินซินเหยียนเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้า ไม่แน่ว่าวันนี้ฝนอาจจะตก เลยปลอบลูกสาว “พวกเราไปซูเปอร์มาร์เก็ต แล้วซื้อของกินกันดีไหม?”
จงเหยียนซีคิดสักพัก “ก็ได้ ฉันตกลงแม้จะลังเลที่จะทำเพราะมันเกินความสามารถของฉันก็แล้วกัน”
หลินซินเหยียนไม่รู้จะขำดีไหม ก่อนจะยื่นมือมาจับใบหน้าของเธอ “น่ารักน้อยกว่าตอนเด็กๆ แล้วนะ”
“ป้าของร้านสัตว์เลี้ยงยังชมว่าฉันสวยอยู่เลยนะ ทำไมไม่น่ารักแล้วล่ะ?” จงเหยียนซีไม่พอใจ
หลินซินเหยียนอธิบาย “น่ารักกับสวยมันไม่ใช่คำอธิบายที่เหมือนกันนะ”
“รีบขึ้นรถ” เธอเร่งขึ้น
เมื่อออกจากร้านสัตว์เลี้ยง พวกเขาก็ไปที่ซูเปอร์มาร์เก็ต
เมื่อเดินเข้าไปในซูเปอร์มาร์เก็ตก็เกิดฟ้าร้อง ก่อนจะมีฝนฟ้าคะนองตกลงมา
เหมือนฟ้ารั่วเลยล่ะ
จงเหยียนซีมองมองฝนที่ตกอยู่ด้านนอกพลางพูด “ยังดีที่ไม่ได้ไปสวนสนุก ไม่อย่างนั้นคงจะตัวเปียกเหมือนลูกหมาตกน้ำแน่ๆ”
หลินซินเหยียนจูงมือของลูกสาวทั้งสอง ป้าหยูกับคนใช้ที่มาใหม่ตามหลังมา คนขับรถก็เดินอยู่เป็นคนสุดท้ายก่อนจะเข้าไปในซูเปอร์มาร์เก็ต
ป้าหยูเข็นรถเข็นพลางพูด “ที่บ้านไม่เหลือผลไม้แล้ว”
พวกเขาไปที่แผนกขายผลไม้ จากนั้นก็ซื้อผลไม้ตามฤดูกาล ฤดูนี้มีผลไม้เยอะมาก ราคาก็ไม่แพง แถมยังสดอีกด้วย
เมื่อเดินผ่านแผนกที่ขายขนมหวาน จงเหยียนซีก็อยากจะกินโดนัท ตัวเองเลยวิ่งไปหยิบถาดมาใส่ จากนั้นเธอก็เห็นคนตรงเคาน์เตอร์ที่มีกระจกกั้นอยู่ เมื่อเห็นชัดเจน ก็ร้องขึ้นด้วยความตกใจ “คุณเองเหรอ?”