กลยุทธ์เด็ด เสพติดรักภรรยาของผม - บทที่596 สามีภรรยาต่อสู้กันอย่างดุเดือด
เด็กชายที่ยืนอยู่ตรงด้านหน้าเคาน์เตอร์เงยหน้าขึ้นมามองไปตามทางของเสียง ก็เห็นเด็กหญิงที่ยืนอยู่ตรงข้ามตู้กระจก จงเหยียนซีลุกขึ้นมาจากหน้าตู้กระจก เด็กชายคนนั้นก็เห็นใบหน้าของเธอชัดเจน เหมือนคิดขึ้นมาได้ทันทีว่าเคยเห็นเธอจากที่ไหนมาก่อน
แม่พาเขามาหาพ่อ ตอนที่คนเอารถมาจอดนั้น เขาเห็นเธอจากซูเปอร์มาร์เก็ตของแผนกบริหาร
“ยังจำฉันได้เหรอ?” จงเหยียนซียิ้มพลางถาม แต่ก็ไม่รู้ว่าทำไมถึงจำได้แม่นยำขนาดนี้
วันนี้เธอใส่ชุดเดรสสีแดงปักด้วยคอตุ๊กตาสีขาว แล้วมัดผมหางม้าอย่างง่ายๆ ใบหน้าสีขาวสวยเหมือนเครื่องเคลือบ ดวงตากลมโตนั้น เวลายิ้มขึ้นมามันโค้งงอเหมือนกับดวงจันทร์เสี้ยวเลยล่ะ
เด็กชายนี้ไม่ได้พูด แต่ว่าในใจกลับจำท่าทีของเธอได้แม่น
“เสี่ยวลุ่ย” หลินซินเหยียนเดินเข้ามา
เด็กชายมองไป ก็เห็นหญิงสาวที่ตามเธอมาด้านหลังแล้วกำลังก้มลงเลือกบ๊วยจีนกับป้าหยูอยู่ ดวงตาสีดำเปล่งประกาย เพียงไม่นานเขาก็ผลุบตาลง
ก่อนจะตามพ่อจากไป
จงเหยียนซียืนอยู่กับที่ พลางกะพริบตาปริบๆ แล้วจ้องเด็กชายที่เดินจากไป ในใจก็สงสัยว่าทำไมเขาไม่มีมารยาทพื้นฐานเลย?
เธอกำลังทักทายเขาอยู่นะ ทำไมถึงไม่ตอบเธอล่ะ?
“กินของหวานอีกแล้วเหรอ” หลินซินเหยียนมองโดนัทในมือของลูกสาว ก่อนจะขมวดคิ้ว “กินเยอะๆ แล้วไม่ดีกับฟันนะ”
จงเหยียนซีเบ้ปาก “ฉันชอบกินอันนี้ไง พวกเราไม่ได้มาที่ซูเปอร์มาร์เก็ตทุกวันสักหน่อย ฉันอยากจะซื้อเยอะหน่อย เก็บไว้ในตู้เย็นแล้วค่อยๆ กิน”
หลินซินเหยียนมองลูกสาวด้วยความจนปัญญา เด็กคนนี้พูดมากขึ้นเรื่อยๆ เลยนะ ปากคมเหมือนกรรไกรเลยแฮะ
“หม่ามี๊ ซื้อเถอะ” จงเหยียนซีดึงชายเสื้อของหลินซินเหยียน พลางออดอ้อน “ได้ไหม”
หลินซินเหยียนทำอะไรลูกสาวไม่ได้ “วันหนึ่งกินได้แค่อันเดียว จะกินเยอะไม่ได้นะ”
“สองอัน” จงเหยียนซีต่อราคากับเธอ
“งั้นไม่ซื้อแล้ว”
หลินซินเหยียนตั้งใจหันตัวและกำลังจะไป จงเหยียนซีลากเธอ ก่อนจะตอบรับด้วยความไม่ยินยอม “โอเค งั้นกินอันนี้ งั้นฉันจะไปให้คนทำขนมห่อให้”
เมื่อพูดจบก็รีบวิ่งไป กลัวว่าหลินซินเหยียนจะเสียดาย
หลินซินเหยียนยิ้มอย่างจนปัญญา
จงเหยียนเฉินมาดึงมือของเธอ “แม่ คิดว่าน้องเปลี่ยนไปหรือเปล่า?”
หลินซินเหยียนก้มหน้าลงมองลูกชาย พลางพยักหน้าเห็นด้วย “เปลี่ยนไปแล้ว แต่คุณถอนหายใจด้วยอารมณ์อะไรเหรอ?”
จงเหยียนเฉินพูด “ไม่ได้ถอนหายใจด้วยอารมณ์อะไร ฉันแค่อยากบอกคุณ ก่อนหน้านี้ลูกสาวคุณติดคนมาก เพราะเธอเพิ่งมีพ่อ ขาดความรัก ตอนนี้รู้ว่าพ่อเป็นของเธอแล้ว ไม่มีทางหนีไป หลังจากที่ได้รับความรักเยอะ ดังนั้นเลยไม่ติดคนแล้ว”
หลินซินเหยียนไม่รู้ว่าจะวิจารณ์ลูกสาวลูกชายทั้งคู่ของตัวเองดี ก่อนหน้านี้ลูกสาวน่ารัก ตอนนี้เปลี่ยนไปเหมือนกับลูกชายแล้ว
แต่เหมือนจะเป็นเหมือนที่ลูกชายพูด
เธอรู้สึกได้ว่าลูกสาวเปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัด มีชีวิตชีวา แถมยังชอบพูดอีกด้วย
แต่เป็นลูกสาวก็ต้องเรียบร้อยสักหน่อย แต่ว่าเธอยังเด็ก เดี๋ยวโตขึ้นก็อาจจะดีเอง
“คุณอยากจะได้อะไรไหม?” หลินซินเหยียนถามลูกชาย ถึงเด็กคนนี้จะมีความคิดเป็นผู้ใหญ่ แต่ถึงอย่างไรก็ยังเป็นเด็ก ลูกสาวซื้อหมดแล้ว จะไม่ซื้อให้ลูกชายไม่ได้ เธอกลัวว่าจะทำให้ลูกรู้สึกว่าไม่ยุติธรรม
“ฉันอยากได้ แต่ว่าชั้นหนึ่งไม่มีเลย” จงเหยียนเฉินพูด
“งั้นพวกเราไปที่ชั้นสามไหม?” หลินซินเหยียนรู้อยู่แต่ก็แกล้งถาม รู้ว่าลูกชายไม่อยากซื้อของกินแต่อยากซื้อของเล่น แล้วชั้นสามก็มีของเล่นข่น
จงเหยียนเฉินรู้ว่าหลินซินเหยียนกำลังหยอกเขา เลยหัวเราะแหะๆ ขึ้นมา “เกลียด”
เมื่อกินหมด พวกเขาก็ไปที่ชั้นสาม
จงเหยียนเฉินซื้อหมากรุกสากล ครั้งก่อนหลังจากแพ้ที่ไป๋เฉิง ถึงจะถูกจงฉีเฟิงสอนไปแล้ว แต่ก็ไม่แตะอีกนาน ตอนนี้คิดได้อย่างเข้าใจแล้ว
ไม่ต้องกลัวเรื่องยากๆ แต่กลัวความท้อแท้มากกว่า เขาสามารถเผชิญหน้ากับความเอาชนะได้ถึงจะเติบโต
“เมื่อพ่อมีเวลา พวกเรามาเล่นกันเถอะ” จงเหยียนเฉินพูดด้วยความเต็มไปด้วยความตื่นเต้น
หลินซินเหยียนลูบหัวของลูกชาย พลางถามเขาว่ายังอยากจะได้อะไรอีกไหม เขาส่ายหัว จากนั้นพวกเขาก็ลงไปเช็กบิล
วันนี้คนในซูเปอร์มาร์เก็ตเยอะมาก เลยต้องต่อแถวตอนจะจ่ายเงิน
ป้าหยูพูดขึ้น “พวกคุณหาที่กินอะไรก่อนเถอะ เดี๋ยวฉันจะไปจ่ายเงินเอง”
จงเหยียนซีเองก็ไม่อยากจะรออยู่ที่นี่ เลยจูงมือของหลินซินเหยียนพลางพูด “หม่ามี๊ พวกเราไปที่นั่นเถอะ”
เธอชี้ไปที่ร้านขนมในซูเปอร์มาร์เก็ต
หลินซินเหยียนรู้ว่าในใจของลูกสาว เธอเองก็เริ่มหิวแล้วเลยพาเด็กทั้งสองไปที่ร้านนั้น
ป้าหยูเข็นรถเข็นไป ให้คนใช้ที่เพิ่งมาใหม่ตามพวกหลินซินเหยียนไป คนท้องคนหนึ่งกับเด็กสองคนนั้นเธอไม่ไว้ใจ
ร้านขนมหวานนั้นมีน้ำผลไม้และนมแล้วก็มีกาแฟมากมาย จงเหยียนซีอยากจะกินสิ่งที่ตัวเองชอบ แล้วก็ยังเลือกน้ำผลไม้ให้คนขับรถกับคนใช้ที่มาใหม่ด้วยความใส่ใจ
ตั้งแต่เช้าจนถึงตอนนี้ก็ใกล้ถึงเที่ยงแล้ว หลินซินเหยียนสั่งขนมหวาน ให้พวกเขานั่งลงกิน คนขับรถชินกับการที่หลินซินเหยียนเป็นคนเข้าถึงง่ายแล้ว ไม่ได้บอกอะไรก็นั่งลงได้ คนใช้หดตัวเล็กน้อย ก่อนจะปฏิเสธ “ฉันไม่หิว”
หลินซินเหยียนยิ้มพลางพูดว่า “ทุกคนอยู่ด้วยกันหมด คุณช่วยฉันดูแลลูก ไม่ใช่คนอื่นไกลไม่ต้องเกรงใจหรอก นั่งลงเถอะ”
คนใช้ที่มาใหม่เห็นว่าปฏิเสธไม่ลงแล้ว เลยต้องนั่งลง มาเพียงไม่กี่วัน เธอก็มองออกแล้วว่าครอบครัวนี้ใจดีเป็นอย่างมาก
ถึงแม้ว่าจะเป็นครอบครัวที่มีเงินมาก แต่ว่าเจ้าของหญิงนี้ก็ใจดีกับคนอื่นมาก ส่วนเด็กหญิงคนนี้เพียง เธอได้เห็นก็รู้สึกเหมือนได้เจอที่ไหนมาก่อน
อาจจะเคยเห็นผ่านๆ เธอเองก็จะตัวเองไม่ได้ แถมตัวเองกับตอนนั้นก็มีความต่างกันมาก
ตอนนั้นตัวเองดำกว่าตอนนี้เล็กน้อย เด็กน้อยยังจำไม่ได้ก็เป็นปกติ
ไม่ว่าเธอจะมองจงเหยียนซีอย่างไรก็รู้สึกว่าน่ารัก
เธอคิดในใจ ว่าสวยขนาดนั้นได้อย่างไร?
เพียงไม่นานหลินซินเหยียนก็ถือขนมหวานที่สั่งมา
“คุณน้าหวาง คุณชิมอันนี้หน่อยเถอะ” จงเหยียนซีตักพุดดิ้งช้อนหนึ่งให้เธอก่อนจะเอามาวางไว้ที่จานขนมด้านหน้าของเธอ
คนใช้ที่มาใหม่อายุสามสิบกว่า ถึงแม้ว่าจะโตกว่าหลินซินเหยียนสักหน่อย แม้ไม่ได้อายุประมาณป้าหยูเลย แต่หลินซินเหยียนก็ยังให้เรียกว่าป้า
เธอเรียกตัวเองว่าพี่สาว เธอนั้นปฏิบัติด้วยความจริงใจ ถึงอย่างไรคนที่ดูแลนั้นต่างเป็นคนที่เธอสนิทที่สุด ดังนั้นเลยทำดีต่อเธออย่างจริงใจ
ในร้านเงียบมาก โซฟาเองก็นุ่มมากจนนั่งสบาย เหมาะกับการนั่งพักหลังจากที่เดินเล่นจนเหนื่อย
เด็กทั้งสองคนกินช้า คนขับรถกับคุณน้าหวางกินเร็ว พวกเขาออกไปข้างนอกเพื่อช่วยป้าหยู พวกเขาเอาของไปวางไว้ในรถ แล้วให้ป้าหยูเข้ามาพักและกินอะไรสักหน่อย
หลังจากที่กินเสร็จ พวกเขาก็ออกจากซูเปอร์มาร์เก็ตแล้วกลับบ้านไป
เพราะกินของว่างไปแล้ว ตอนเที่ยงเลยไม่ได้หิวขนาดนั้น หลินซินเหยียนให้ป้าหยูทำข้าวเที่ยงช้าหน่อย เธอขึ้นไปพักข้างบน เพราะเดินมานานแล้วเลยอยากจะนอนสักหน่อย
ป้าหยูกับคุณน้าหวางเอาผลไม้ที่ซื้อมาไปไว้ในตู้เย็น ก่อนจะเอาออกมาล้างเล็กน้อยให้เด็กกิน
“คุณนายดูแลดีจริงๆ เลยดูเด็กเป็นอย่างมาก แถมยังเมตตาอีกด้วย” คุณน้าหวางพูด
ป้าหยูยิ้ม “เธออายุน้อยอยู่แล้ว”
ตอนแต่งงานเพิ่งจะสิบแปด จะอายุไม่น้อยได้อย่างไร
คุณน้าหวางคิดว่าหลินซินเหยียนน่าจะอายุสามสิบแล้ว ถึงอย่างไรลูกก็โตขนาดนี้แล้ว น่าจะแต่งงานตอนนี่สิบ พอมีลูกก็น่าจะอายุสามสิบ
มองแล้วเหมือนนักศึกษาเลยล่ะ
ติ๊งต่อง มีเสียงกริ่งดังขึ้น คุณน้าหวางพูด “ฉันจะไปเปิดประตูนะ”
ของเองก็เก็บกวาดเสร็จแล้ว ป้าหยูเลยทุบเข่าพลางอยากจะเข้าห้องไปพัก แล้วพูดออกมา “โอเค งั้นคุณไป”
คุณน้าหวางเดินมาเปิดประตู พลางเห็นคนส่งพัสดุอยู่หน้าประตู
พนักงานส่งของถาม “ถามหน่อยว่าที่นี่มีหญิงชื่อหวางซินฮั่วหรือเปล่า?”
คุณน้าหวางมองพนักงานส่งของ พลางพูด “ฉันนี่ไง คุณคือ……”
“ที่นี่มีพัสดุของคุณ มาเนต์รับสักหน่อย” พนักงานส่งของถือกล่องเล็กๆ มาให้
บริเวณที่ให้เซ็นด้านบนมีชื่อของเธอเขียนอยู่จริงๆ ด้วย
“ใครส่งมาให้ฉัน?” เธอถาม
“ฉันมีหน้าที่ส่งอย่างเดียว ใครส่งมานั้นฉันก็ไม่แน่ใจ คุณเซ็นรับของเถอะ” คนส่งของเอาใบเซ็นชื่อรับของส่งให้เธอ
หลังจากที่เธอหยิบมาเซ็นชื่อแล้ว ก็รับกล่องกระดาษเล็กๆ มา
ในห้องรับแขกนั้นไม่มีใครอยู่ ทุกคนก็อยู่ในห้องเพื่อพักผ่อน เธอนั่งอยู่บนโซฟาพลางเปิดกล่อง ในกล่องมีกล่องดินสอ ข้างในมีแต่เงินทั้งหมด มีทั้งสิบ ร้อย และห้าสิบ ใส่อยู่เต็มกล่องดินสอไปหมด
ด้านล่างยังมีการ์ดอยู่อีกใบ
เธอเปิดออก บนนั้นเป็นข้อความของลูกชาย เขียนอยู่ว่า 【แม่ฉันคิดถึงคุณ ฉันเลือกพ่อเพราะฉันกลัวว่าคุณจะรับผิดชอบฉันไม่ไหว ดังนั้นฉันเลยเลือกพ่อ แบบนี้คุณก็จะสบายแล้ว แม่รอฉันโตขึ้น หาเงินได้เยอะๆ แล้วรับคุณมาอยู่กับฉันนะ】
น้ำตาของเธอไหลออกมา เธอกับสามีนั้นมาจากชนบท เพื่อใช้ชีวิตสามีเลยออกไปทำงานข้างนอก เธออยู่บ้านดูแลคนในบ้าน ปีที่แล้วตายายตายไป เธอเลยพาลูกชายมาอยู่กับสามี ใครจะรู้ ว่าสามีจะมีเมียน้อย
สามีที่ทำงานได้อย่างสำเร็จ กลับไม่ชอบเธอที่ไม่แต่งหน้า และไม่สาวแล้ว
เพื่อแย่งสิทธิ์ในการเลี้ยงลูกชาย สามีภรรยาต่อสู้กันอย่างดุเดือดและเลือกที่จะฟ้องศาล สามีมีหน้าที่การงานและเงิน เธอแพ้ด้านการเงินไป แต่เพื่อที่จะให้ลูกชายอยู่ข้างกาย เธอเลยยังอยากจะต่อกลอนกับสามี
ศาลจัดการด้วยความเห็นใจ เพราะเห็นใจแม่คนนี้ ที่พยายามจะแย่งลูกมา พลางถามว่าอยากจะใช้ชีวิตกับใคร
ลูกชายของเธอพูด “กับพ่อ”
ตอนนั้นเธอรู้สึกเหมือนใจมันด้านชา
คิดไม่ถึงเลยว่า……