กลยุทธ์เด็ด เสพติดรักภรรยาของผม - บทที่72 เธอก็เคยโหยหาความรักเช่นกัน
เมื่อไม่ได้ยินเสียงตอบรับ เธอเลยหันไป” เสี่ยว…. ”
จากนั้น คนที่ยืนอยู่ข้างหลังเธอนั้นไม่ใช่คนเดียวกับที่เธอคิด และยิ่งไปกว่านั้นก็เป็นคนที่เธอคาดไม่ถึง
” คุณมาได้ยังไง ” หลินซินเหยียนหดนิ้วกำดินสอแน่นโดยไม่รู้ตัว
จงจิ่งห้าวมองสำรวจไปรอบห้อง สไตล์การตกแต่งที่ใช้สีขาวเป็นหลัก ทำให้ดูดีสะอาดตา
” นี่คือที่ทำงานของคุณงั้นเหรอ ” เข้าเดินไปตรงหน้าต่าง แล้วมองออกไปด้านนอก
หลินซินเหยียนวางมือจากปากกา แล้วยืนขึ้น” ฉันกำลังถามคุณอยู่นะ ”
จงจิ่งห้าวหันกายกลับมา แล้วมองไปที่เธอ ก่อนจะยิ้มน้อยๆ แล้วตอบว่า” ผมมาที่นี่ ก็ต้องมาดูคุณสิ ”
หลินซินเหยียนเอามือไพล่ไว้ด้านหลัง ก่อนจะเอี้ยวตัวไปตรงเก้าอี แล้วจ้องมองไปที่เขา เธออยากจะทะลุเนื้อหนังนั่นแล้วเข้าไปดูถึงใจของเขาเสียจริงๆ
ว่าเขาคิดจะทำอะไรกันแน่
แต่เธอจะมองยังไงก็มองไม่ออก
” คุณเคยเจอคุณนายเวลเลี่ยนใช่ไหม “ถึงดูเหมือนเธอกำลังถาม แต่น้ำเสียงที่แสดงออกไปกลับเป็นประโยคบอกเล่า
เธอนึกไม่ออกอีกแล้ว ว่าจะมีใครอยากบังคับให้เธอกลับไปที่นั่น
จงจิ่งห้าวเดินเข้ามา ก่อนจะลากเก้าอี้ที่อยู่ด้านหลังของเธอแล้วนั่งลง แล้วพูดอย่างเปิดใจ ” ใช่แล้วล่ะ ”
” ทำไมล่ะ ” หลินซินเหยียนแทบจะตะคอกออกมา
เธอไม่รู้ว่าสิ่งที่เขาทำมันเพื่ออะไรกันแน่!
” ก็ไม่ทำไม ” จงจิ่งห้าวจับข้อมือของเธอเอาไว้ แล้วลากตัวเธอให้ลงมานั่งบนขาของเขา หลินซินเหยียนไม่ยอม เธอใช้แรงเพื่อให้หลุดจากมือของเขา
” ผมบาดเจ็บน่ะ ”
” คุณบาดเจ็บแล้วมันเกี่ยวอะไรกับฉันมิทราบ ” หลินซินเหยียนตอบอย่างไม่เกรงใจ
จงจิ่งห้าวถอนหายใจออกมา ” คุณไม่แปลกใจหน่อยเหรอ ว่าผมให้อะไรกับคุณนายเวลเลี่ยนไป”
หลินซินเหยียนสงสัย ว่าของในนั้นมันคืออะไร ถึงทำให้คุณนายเวลเลี่ยนยอมพังทลายข้อกำหนดของตัวเองแบบนั้น
” คุณให้อะไรเธอไป ” หลินซินเหยียนถาม
” คุณเข้ามาในLEO คงจะเคยได้ยินเรื่องที่เกี่ยวกับคุณชายเวลเลี่ยนใช่ไหมล่ะ ” จงจิ่งห้าวตะล่อมเธอเบาๆ เพื่อที่จะทำให้เธอเคลิ้มตาม
หลินซินเหยียนพยักหน้า ” เคยได้ยิน เหมือนว่าสองสามีภรรยาจะรักกันมากๆ แต่ว่าคุณชายเวลเลี่ยนจากไปเร็วมาก ตอนนั้นภรรยาของเขายังสาว แต่เพราะเขา เธอเลยไม่ยอมแต่งงานใหม่กับใคร”
” ถ้างั้นคุณรู้ไหมว่าสามีของเธอ คุณชายเวลเลี่ยนน่ะ เขาทำงานอะไร ” จงจิ่งห้าวก็ทำให้หลินซินเหยียนค่อยๆคิดตามทางที่เขาปูไว้ได้สำเร็จ ทำให้เธอหลุดโฟกัสไป
หลินซินเหยียนก็ยังไม่รู้อีก เลยส่ายหัวไปมา
จงจิ่งห้าวคว้าเอวของเธอไว้ ให้เธอนั่งลง หลินซินเหยียนไม่เต็มใจเลยต่อต้าน จงจิ่งห้าวพูดด้วยเสียงทุ้มต่ำ ” ผมบาดเจ็บอยู่นะ คุณเชื่อฟังผมหน่อยไม่ได้หรือไง ”
หลินซินเหยียนรู้สึกขัดใจ นี่เขาไม่รู้จริงๆเหรอ ว่าแบบนี้มันไม่เหมาะสมน่ะ
การกระทำพวกนี้ มันจะสนิทเกินไปหน่อยไหม
ทำไมชอบทำอะไรแบบนี้กันนะ
” คุณชายเวลเลี่ยนเป็นช่างออกแบบอัญมณี ” จงจิ่งห้าวพูด
หลินซินเหยียนเลิกคิ้ว ตกใจเมื่อรู้สถานะของเวลเลี่ยน ที่แท้ก็เป็นช่างออกแบบอัญมณี
” แต่มันเกี่ยวอะไรกับของที่คุณให้คุณนายเวลเลี่ยนไปล่ะ ” หลินซินเหยียนไม่เข้าใจ ว่ามันเกี่ยวอะไรกัน
” เมื่อก่อนที่คุณนายเวลเลี่ยนเจอกับคุณชายเวลเลี่ยน เธอไม่ได้เป็นนักออกแบบเสื้อผ้าที่มีชื่อเสียงเรียงนามอะไร แต่ตอนนั้น ที่งานแฟชั่นโชว์ ก็เป็นครั้งแรกที่งานออกแบบของคุณนายเวลเลี่ยนได้ขึ้นเวที บังเอิญก็คือ คุณชายเวลเลี่ยนก็ได้มาร่วมงานแฟชั่นโชว์นั้นด้วย.. ”
” ดังนั้น พวกเขาก็ได้พบกันน่ะสิ ” หลินซินเหยียนเหมือนจะนึกฉากๆนั้นออก ” ต้องโรแมนติกมากแน่ๆเลย ”
สายตาของเธอมีความอิจฉาออกมาเล็กๆ เมื่อตอนยังวัยรุ่น เธอก็เคยโหยหาความรักเช่นกัน แต่เธอไม่มีโอกาสแล้ว เธอเสียสิทธิ์นั้นไป
ตอนนี้เธอก็เป็นแค่คุณแม่เลี้ยงเดี่ยวคนหนึ่งเท่านั้น
จงจิ่งห้าวรับรู้ได้ถึงอารมณ์ในสายตาของเธอ เขารั้งเอวเธอไว้แน่นขึ้น ” ก็เจอนะ แต่ไม่โรแมนติกหรอก ควรจะเรียกว่าเป็นความโหดร้ายมากกว่า ”
หลินซินเหยียนขมวดคิ้ว ” ตอนนั้นเกิดเรื่องอะไรขึ้นล่ะ ”
” อืม เพราะมีคนแจ้งว่า คุณนายเวลเลี่ยนลอกผลงานของคนอื่น… ”
” เป็นไปไม่ได้! ” หลินซินเหยียนเชื่อว่าเป็นผลงานของคุณนายเวลเลี่ยน เชื่อว่าต้องเป็นความสามารถของเธอแน่!
เธอไม่มีทางลอกงานของใครหรอก
จงจิ่งห้าวที่มองเห็นท่าทีโกรธเคืองของเธออย่างเงียบๆ ก่อนจะดรอปลง ” ฉันแค่เชื่อว่าคุณนายเวลเลี่ยนไม่มีทางลอกงานใครหรอก ”
” จริงๆ แล้วเธอ…. ” จงจิ่งห้าวค่อยๆ มองเธอ เธอขมวดคิ้ว หายใจถี่ๆ เหมือนจะระเบิดออกมาได้ทุกเมื่อ
” งานออกแบบของเธอเหมือนกับสร้อยคอที่มีชื่อโด่งดังรุ่นหนึ่ง แถมชื่อยังเหมือนกันอีก แต่คุณนายเวลเลี่ยนไม่รู้จักสร้อยคอรุ่นที่ว่านั่น ที่บังเอิญไปกว่านั้น ทั้งการตั้งชื่อ และจุดกำเนิดของแรงบันดาลใจยังเหมือนกันอีกด้วย แต่เพียงแค่การออกแบบนั้นไม่เหมือนกัน ” เขาดึงความสนใจของเธอ และใช้ปลายนิ้วเกี่ยวเส้นผมของเธอเล่นไปมา แล้วพูดด้วยน้ำเสียงเรียบๆ” คุณคิดว่ามันไม่ใช่พรหมลิขิตหรอกเหรอ ”
ใช่ มันคือเรื่องบังเอิญที่คาดไม่ถึง
แต่ที่หลินซินเหยียนยังคิดไม่ตกก็คือ ทำไมพวกเขาถึงรู้ล่ะว่าที่มาของแรงบันดาลใจมันเหมือนกัน
” เด็กโง่ ” จงจิ่งห้าวหยิกแก้มเธอหนึ่งที หลินซินเหยียนก็นึกขึ้นได้” ถ้ามันเหมือนกันละก็ โดยปกติแล้วก็ต้องทำการตรวจสอบ จากนั้นทั้งสองก็คงได้พบกัน ดังนั้นก็ทำให้รู้ที่มาของแรกบันดาลใจของทั้งสองฝ่ายว่ามันเหมือนกัน ก็เลยตั้งชื่อให้เหมือนกันใช่ไหมล่ะ ”
” ก็ไม่โง่เท่าไหร่นี่ ” จงจิ่งห้าวยิ้มบางๆ
หลินซินเหยียนดรอปสีหน้าลง ที่พูดมานี่ คือจะบอกว่าเธอโง่มากเลยเหรอ
” แสดงว่าสิ่งที่คุณมอบให้คุณนายเวลเลี่ยน ก็คือสร้อยเส้นนั้นเหรอ ” หลินซินเหยียนทายออกไป
จงจิ่งห้าวพยักหน้า
” ทำไมสร้อยเส้นนั้นถึงไปอยู่ในมือคุณได้ล่ะ ”
ตอนแรก สร้อยถูกซื้อไปโดยผู้ชายคนหนึ่ง เขามอบให้กับภรรยาของตัวเอง
คนคนนั้นเป็นนักธุรกิจที่มีหัวมาก และรวยมากเช่นกัน
ดังนั้น เมื่อคุณชายเวลเลี่ยนเสียชีวิตไป คุณนายเวลเลี่ยนก็ไล่ตามหาสร้อยเส้นนั้นทุกหนทุกแห่ง ถึงจะเจอแล้วว่าสร้อยเส้นนั้นอยู่กับใคร แต่เขาก็ไม่ยอมปล่อยขายให้
แม้ว่าเธอจะเสนอเงินมากเท่าไหร่ ก็ถูกปฏิเสธตลอดมา
แต่โชคร้ายไปหน่อย ที่จงจิ่งห้าวดันทำธุรกิจไปๆมาๆกับชายคนนั้น
หลินซินเหยียนเข้าใจทันที ที่จงจิ่งห้าวให้ในสิ่งที่คุณนายเวลเลี่ยนต้องการมาโดยตลอด หล่อนจึงยอมตกลงตามเงื่อนไขของจงจิ่งห้าวโดยการแบ่งสาขาในประเทศ
เดี๋ยวก่อน หลินซินเหยียนนึกอะไรได้บางอย่าง เธอพึ่งรู้ตัวว่าโดนเขาทำให้ไขว้เขว
สิ่งที่เธอต้องรู้ไม่ใช่เขามอบของอะไรให้กับคุณนายเวลเลี่ยน
แต่เป็น ทำไมเขาถึงอยากให้เธอกลับประเทศกันล่ะ
แล้วแบบนี้มันเป็นประโยชน์กับเขาตรงไหน
เขาต้องการอะไรกันแน่
หลินซินเหยียนค้นพบว่า ในระหว่างที่เธอกำลังสนทนากับเข้า ตัวเธอเข้าไปนั่งอยู่ในอ้อมอกของเขาโดยไม่รู้ตัว
เธอรีบดีดตัวลุกขึ้นมา แล้วมองไปที่เขา ” คุณต้องการอะไรกันแน่ ”
อ้อมอกของเขาว่างเปล่า ทำให้รู้สึกไม่ค่อยชินเท่าไหร่ เขามองไปที่หลินซินเหยียน ” จะอะไรเสียอีกล่ะ นอกจากคุณ ”
” ฉันอะไรล่ะ ”
” ทำไมคุณถึงไม่อยากกลับไป ” จู่ๆ น้ำเสียงจงจิ่งห้าวเปลี่ยนเป็นอบอุ่นและคมคาย ” ที่นั่นทำให้คุณมีเรื่องที่เสียใจงั้นเหรอ ”
” ไม่มี ” หลินซินเหยียนโต้แย้งโดยทันที!
” แล้วทำไมคุณกลัวที่จะกลับไปล่ะ ”
” ใครกลัว ”
จงจิ่งห้าวยิ้มกับแผนที่วางไว้แล้วมันสำเร็จตามคาด ” ถ้าไม่กลัว คุณจะลุกลี้ลุกลนทำไม ”
หลินซินเหยียนพบว่าตัวเองเมื่ออยู่ต่อหน้าเขา ไอคิวเธอของเธอกลายเป็นศูนย์
เธอไม่อยากยอมรับเลยว่า ชายหนุ่มผู้นี้ได้ก่อกวนความคิดในจิตใจของเธออยู่
เธอทำเป็นสงบจิตสงบใจ แล้วปากแข็งตอบกลับไป ” คุณเอาลูกตาอันไหนมามองเหรอว่าฉันลุกลี้ลุกลนมิทราบ “