กลยุทธ์เด็ด เสพติดรักภรรยาของผม - บทที่979 พี่อย่าตื่นตระหนก
จงเหยียนซียิ้มเย็นชา “เสียใจเหรอ? ถ้าหากครั้งนั้นฉันตายไปแล้ว ความเสียใจของเขามีประโยชน์อะไรสำหรับฉันงั้นเหรอ?”
เจียงโย่เชียนถูกถามจนเป็นใบ้เงียบ ไม่พูดออกมาสักประโยค
“แต่……แต่ว่า พวกเธอเคยรักกัน……”
จงเหยียนชีรู้แค่ว่านำชันสุด 1 สิ่งที่เธอพูดไปนั้นยังชัดเจนไม่มากพอเหรอ?
“เจียงโย่เซียนคุณช่างโง่เขลาเสียจริง หรือจงใจแสร้งโง่ใส่ฉัน? พวกเราเคยรักกันใช่ไหม? ใช่ ฉันเคยรักเขา สวนเขามีเพียงแค่คิดร้ายกับฉัน ตอนนี้ฉันไม่รักเขาแล้ว ดังนั้น พวกเราไม่เคยรักกัน
ตั้งแต่ต้นจนจบเลย เข้าใจหรือยัง?”
เธอกดอารมณ์ไว้ถึงจะพูดคำเหล่านี้ได้
เจียงโย่เขียนเข้าใจ รู้ความหมายของคำที่จงเหยียนซีพูดมา แต่ว่า จุดประสงค์ที่เขามาคือเกลี้ยกล่อมให้เธอเปลี่ยนความคิดใหม่ ย่อมไม่สามารถมองปัญหาจากมุมมองของเธอ
แน่นอนว่า หากมองจากมุมมองของเธอนั้นไม่สามารถให้อภัยได้เลย
แต่มองจากมุมมองของเจียงโม่หาน เขากระทำผิด แต่ว่าตอนนี้เขาเสียใจแล้ว สำนึกผิดและเต็มใจแก้ตัวใหม่
ไม่ใช่ว่ามีคำพูดว่า คนเสเพลกลับตัวกลับใจเป็นคนดีเป็นสิ่งที่มีค่ายิ่งไม่ใช่เหรอ?
“ให้โอกาสพี่ชายฉันอีกสักครั้งหนึ่งเถอะนะ เขาได้รับบาดเจ็บ คิดถึงเธอมาก เธอกลับไปดูเขาหน่อยดีไหม?” เจียงโย่เชียนพูด
จงเหยียนซีปฏิเสธ “ไม่มีทาง! คุณกลับไปเถอะ!”
“เธอเห็นแก่คนแก่อย่างฉันมาหาเธอไกลถึงนี่ แล้วกลับไปหาเขาจะได้ไหม?”
ที่เรียกว่า การพบเจอสามเรื่อง
ขอเพียงเธอยอมกลับไปพบเจียงโมหาน เรื่องนี้ก็ยังมีทางหนีทีไล่ให้หันกลับ
“คุณไปเถอะ”
จงเหยียนซีหันตัวเดินไปในลานบ้านอีกครั้งหนึ่งเจียงโเชียน ร้อนใจ “ต้องทำยังไงเธอถึงจะยอมให้โอกาสกับพี่ชายฉัน?”
“คำสารภาพผิดของเขา ไม่สามารถแลกกับบาดแผลที่ฉันเคยได้รับได้คืนมาได้ และไม่สามารถแลกชีวิตของลูกฉันกลับคืนมาได้ ทำไมฉันต้องให้อภัยเขาด้วย?!! ส่วนคุณ ทางที่ดีรีบไปเดี๋ยวนี้ เว็บสล็อต
ไม่อย่างนั้นฉันจะเรียกคนมา!”
จงเหยียนซียุ่งยากกับเขามาพอแล้ว ไม่อยากอธิบายมากเกินความจำเป็นอีก
ซงเก้นยืนอยู่ไม่ไกล สังเกตการเคลื่อนไหวของพวกเขาตลอด
เขาไม่ได้ต้องการตรวจสอบเรื่องส่วนตัวของจงเหยียนซี เพียงแต่กลัวเธอจะพบเจอเรื่องลำบาก เห็นเจียงโเชียนฉดดึงเธอ จึงเดินไปหา
อีกทั้งขวางเจียงโย่เชียนไร “เชิญคุณออกไป”
เจียงโยเชียนมองซงเกัน สังเกตตั้งแต่ห้วจรดเท้า “นายเป็นใคร? มีความสัมพันธ์อะไรกับพี่สะใภ้ฉัน?”
เขาทำท่าทีข่มเหงพลางชี้ไปทางจงเหยนซี “ฉันบอกคุณให้นะ เธอเป็นคนของพี่ชายฉัน ทางที่ดีคุณอยู่ห่างเธอไว้หน่อย ไม่อย่างนั้นฉันจะไม่เกรงใจนายล่ะนะ!”
ซงเก้นตะลึงงันไปชั่วครู่ เขานึกว่าเจียงโเชียนเป็นอดีตสามีของจงเหยนซีมาตลอด ได้ยินเขาเรียกจงเหยียนซีว่าพี่สะใภ้ จึงเข้าใจว่าเขาไม่ใช่อดีตสามีของจงเหยียนซี ทว่าเป็นอดีตอาของ
ในใจทอดถอนหายใจอย่างประหลาด เขากลัวอดีตสามีของจงเหยนซีมากวนใจจงเหยียนซี้ ที่กลัวยิ่งกว่านั้นคือจงเหยียนซีจะใจอ่อน
โชคดีที่คนที่มานั้นไม่ใช่เจ้าตัว
เขาบอกกับจงเหยียนซีด้วยเสียงต่ำ “เธอเข้าบ้านไปก่อน ที่นี่ให้ฉันช่วยเธอแก้ไขปัญหาเอง”
จงเหยียนซีเหลือบมองเจียงโเซียน “ฉันกับเจียงโม่หานไม่มีความสัมพันธ์กันแล้ว ดังนั้น คุณกลับไปเถอะ”
พูดจบก็บอกขอบคุณกับซงเก้น จากนั้นเดินเข้าบ้านไป
เจียงโย่เขียนลนลาน “พี่สะใ……”
“เชิญคุณออกไปเดี๋ยวนี้ ไม่อย่างนั้นฉันจะเรียกคนมา” ซงเก้นขวางผีเท้าที่เขาอยากจะเดินเข้าไปในบ้าน และพูดตัดบทเขา
“หึ นายนึกว่าฉันไม่รู้ว่านายจงใจพูดตัดบทฉันอย่างนั้นเหรอ ไม่อยากให้ฉันคุยกับพี่สะใก้ฉัน นายชอบพี่สะใภ้ฉันเหรอ?”
แม้ว่าเขาใช้ประโยคคำถาม แต่ว่าเอ่ยด้วยน้ำเสียงอย่างมั่นใจ “ไม่อย่างนั้นนายก็คงไม่ขวางฉันไว้”
“คุณจงโสด ฉันจีบเธอ มีอะไรไม่เหมาะสมเหรอ?” ซงเก้นย้อนถาม
“นาย…..” เจียงโย่เชียนหวั่นวิตก “นายอย่าได้คิด”
จงเหยียนซีเป็นผู้หญิงของพี่ชายเขา ใครก็อย่าได้คิดแย่งไป
“ฉันบอกนายให้นะ ทางที่ดีนายเลิกล้มความคิดนี้เสียดีกว่า” เจียงโเชียนพูดเตือนอย่างโหดเหี้ยม
ซงเก้นสีหน้าราบเรียบมาก ทว่าคำที่พูดออกมานั้นมีความคุกคามมาก “ฉันก็ขอแนะนำว่าทางที่ดีคุณประพฤติตัวดี ๆ หน่อยตอนอยู่ที่นี่ ไม่อย่างนั้นฉันจะทำให้คุณกลับไปไม่ได้”
เจียงโย่เชียน”……”
เขากำลังวู่าม และก็รู้กาวะแวดล้อมที่ตัวเองอยู่ในตอนนี้ จึงเงยศีรษะมองคฤหาสน์ที่ตระการตาหลังนี้ จึงว้ว่าผู้ชายที่อยู่เบื้องหน้า เกรงว่าเป็นบุคคลที่มีอำนาจและอิทธิพล
ในใจเขาคิด จบกัน พี่ชายเขาพบกับคู่ต่อสู้แล้ว
พูดตามความจริง ก็เป็นบุคคลที่มีความสามารถ ไม่แตกต่างจากเจียงโม่หาน
เขาน้ำเสียงอ่อนลง “เอ่อ แม้ว่าพี่ชายฉันจะหย่ากับพี่สะใภ้แล้ว แต่ว่า เมื่อก่อนความสัมพันธ์ของพวกเขาดีมาก…..”.
“เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับฉันเหรอ?” ซงเก้นพูดตัดบทเขาอีกครั้ง “ฉันรู้พวกเขาหย่ากัน พวกเราต่างก็โสด ต่อให้พวกเราพัฒนาความสมพันธ์กัน ก็ไม่ฝ้าฝืนศีลธรรมและภาระหน้าที่อะไร ฉันมี
ประโยคหนึ่งอยากให้คุณไปบอกต่อ ไม่ว่าคุณมาครั้งนั้ เป็นเพราะคุณเองหรือพี่ชายคุณให้คุณมา ก็ต้องไปบอกต่อแทนฉัน บนโลกใบนี้ไม่ใช่ทุกคำสารภาพผิดจะทดแทนเป็นการให้อภัยได้ เขาไม่
เห็นคุณค่า แต่มีคนเห็นคุณค่า ถ้าหากเขายังคิดถึงมีความผูกพันอยู่ ก็ไม่ควรมารบกวนเธออีก”
พูดจบเขาก็หันตัวเข้าในลานบ้าน อีกทั้งให้คนใช่ในบ้านปีดประตูใหญ่
เจียงโย่เชียน”……”
“เห้ เห้ นายหยุดนะ!” ตะโกน
ซงเก้นไม่สนใจ
เจียงโย่เชียนลนลาน “นายพูดดี อันที่จริงไม่ใช่อยากให้ตัวเองไปได้ด้วยดีกับเธอเหรอ แต่ว่านายอย่าลืมล่ะ เมื่อก่อนเธอเป็นผู้หญิงของพี่ชายฉัน เธอเป็นสามีภรรยากับพี่ชายฉันสามปี ร่วมหลับ
นอนบนเตียงเดียวกัน เคยท้องลูกของพี่ชายฉัน แล้วคุณเป็นใคร?”
เขายิ่งพูดก็ยิ่งเกินเลย “เธอเป็นผู้หญิงที่หย่าแล้ว นายอยากเป็นคนรับของเหลือเหรอ?!”
เจตนาเดิมของเขาไม่เลวร้าย แค่อยากให้ซงก้นปล่อยมือและเลิกล้มความคิดของเขา แต่ว่าคำพูดที่พูดออกมานั้นไม่น่าฟังจริง ๆ
ซงเก้นหันศีรษะมามองเขา สีหน้าอิ่มครีม “คุณพูดอีกประโยคหนึ่ง ฉันจะทำให้คุณกลับบ้านไปไม่ได้อย่างเด็ดขาด คุณจะลองดูก็ได้”
เจียงโย่เชียน”……”
เขาตกใจกลัวสายตาบีบบังคับของซงเก้น จึงหุบปากในชั่วพริบตา
ตอนที่ซงเก้นสาวเท้าขึ้นบันได ก็เห็นจงเหยียนซียืนอยู่บนบันได เมื่อกี้เจียงโเซียนพูดเสียงดังขนาดนั้น เธอต้องได้ยินแน่นอนเลยใช่ไหม?
“เธออย่าฟังคำพูดไร้สาระของเขาเลย” ซงเก้นอยากปลอบใจเธอ
แต่ว่าไม่สามารถหาคำพูดที่เหมาะสม หรือดีกว่านี้ได้
จงเหยียนซีสีหน้าราบเรียบ ไม่สนใจ “เขาพูดถูกทั้งหมด”
ความรู้สึกในช่วงนั้น หรือก็คืออดีตที่ไม่สามารถหันหลังกลับไปได้ในตอนนั้น เธอประสบเจอมาด้วยตัวเอง ต่อให้ปล่อยมือแล้ว แต่ว่าเธอเช็ดความทรงจำสีเทาช่วงเวลานั้นออกไปไม่ได้ มันเกิด
ขึ้นในชีวิตของเธอจริงๆ
เธอมองซงเกัน “ฉันจองตั๋วเครื่องบินไว้แล้ว ธุระของคุณฉันก็ช่วยเสร็จแล้ว อันที่จริงดีใจมากที่ได้รู้จักคุณ……และนียาด้วย”
เวลานี้นียาหลับไปนานแล้ว
พอซงเก้นได้ยินว่าเธอจะไป ในใจก็โหรงเหรง
มือที่อยู่ข้างกาย กุมจนแน่นโดยไม่รู้สึกตัว
“ตัดสินใจดีแล้วเหรอ?” เขาอยากปกปิดความลุกลี้ลุกลนของตัวเอง แต่ว่าคำพูดที่พูดออกมานั้นกลับขายเขา
ต้องตัดสินใจดีแน่นอนอยู่แล้ว ตั๋วเครื่องบินก็ซื้อแล้ว
จงเหยียนซีหัวเราะเล็กน้อย “ใช่แล้ว สองสามวันนี้ขอบคุณสำหรับการดูแลของคุณนะ”
ซงเกันเม้มปาก ลังเลอยากจะพูด กลับไม่รู้ควรจะพูดอะไรดี
โน้มน้าวให้เธออยู่ต่อ ก็ไม่มีเหตุผล
“เครื่องบินรอบกี่โมง? ฉันจะไปส่งเธอ” ซงเก้นพูด
“สี่โมงเย็น” เธอพูด “จริงด้วย สิ่งนี้ให้คุณ…..”
เธอยื่นมือไปถอดสร้อยที่คอ
“เอ่อคือ……” ซงเก้นเรียกเธอ “ฉันอยากมอบให้เธอ”
จงเหยียนซียังคงถอดออกมา “สิ่งนี้ล้ำค่าเกินไป ฉันไม่สามารถรับไว้ได้ ได้รับค่าตอบโดยที่ยังไม่ได้ทำอะไรให้เลย”
เธอหันตัวเข้าบ้าน เตรียมนำเครื่องประดับที่ถอดเก็บในกล่อง
เจียงโยเซียนที่ถูกขังให้อยู่นอกประตูก็ไม่นิ่งนอนใจ
พี่สะใภ้เขาถูกคนแย่งไปแล้ว เขาต้องรีบบอกเจียงโม่หาน ให้เขาคิดแผนรับมือ
ด้วยเหตุนี้กลางดึก
เจียงโย่เชียนโทรเข้ามาหา ไม่นานเจียงโ’ม่หานก็เห็น เขาตื่นจากฝันจึงนอนไม่หลับ นั่งอยู่ที่ระเบียงคนเดียว
หน้าจอมือถือเปล่งแสงไม่หยุด เขาเพียงมองดูด้วยสีหน้าราบเรียบ และดูไม่อยากจะรับสาย
ทางฝั่งเจียงโย่เชียนกระวนกระวายใจจนจะเป็นจะตาย
กดโทรหาไม่หยุด เจียงโม่หานรำคาญเสียงดังจึงรับสายไป
“พี่ตื่นแล้วใช่ไหม?” เจียงโม่เชียนนึกว่าเขาเพิ่งตื่น
อย่างไรก็ตามกลางคืน ถ้าไม่ใช่เรื่องด่วน เขาก็ไม่โทรหาในเวลานี้
“นายมีเรื่องเหรอ?” เจียงโม่หานเอ่ยปากพูดอย่างราบเรียบ
“พี่อย่าตื่นตระหนก ฟังผมพูดนะ”