กลยุทธ์เด็ด เสพติดรักภรรยาของผม - บทที่982 อะไรคือความจริง
หยางเจินเจินไม่พูดไม่จา สองตาถมึงทึงจ้องไปยังรถคันหรูที่ขับไกลจนพ้นสายตาไป
เพื่อนที่อยู่ข้างๆ ก็พูดต่อ ” เธอคิดว่าหล่อนจะแค้นแล้วมาเอาคืนไหม? ”
หยางเจินเจินทำเป็นไม่สะทกสะท้านแล้วพูดว่า ” ฉันก็แค่เข้าใจผิดก็เท่านั้นเอง หล่อนจะมาแค้นอะไรกัน? อีกอย่างนะ ฉันก็ไม่ได้ทำอะไรผิด หล่อนจะมาเอาอะไรกับฉันได้?”
ในรถ
” คุณไปมีเพื่อนแบบนั้นได้ยังไงกัน? ” จวงเจียเหวินเลิกคิ้วเล็กน้อย
เสิ่นซินเหยาพูด ” ฉันไม่ได้สนิทอะไรกับพวกเธอ แค่บังเอิญเจอกันเฉยๆ น่ะ ”
พูดจบเธอก็หันหน้าไปมอง ” คุณโกรธเหรอ? ”
“มีอะไรให้ผมโกรธล่ะ? ” จวงเจียเหวินจงใจเปลี่ยนเรื่องคุย ” วันนี้ตอนกลางคืนพี่สาวผมจะมาที่นี่ คุณกับผมไปรับเธอด้วยกันเถอะ ”
เสิ่นซินเหยาพยักหน้า ” เอาสิ ”
เรื่องที่เกี่ยวกับจงเหยียนซี เธอเองก็รู้ รู้มาจากที่จวงเจียเหวินกับพวกผู้ใหญ่คุยกัน
เธอไม่ได้ถามอะไรมากมาย
” อ่ะ ให้ ” จวงเจียเหวินเอาเค้กที่ตัวเองซื้อมาวางไว้บนตักของเธอ ” กินสิ ”
เสิ่นซินเหยามองเค้กที่อยู่ในกล่อง แล้วถามขึ้นมาด้วยความอุตลุด ” ถ้าฉันกินแล้วอ้วนขึ้นมาจะทำยังไง? ”
” ไม่เป็นไรหรอกน่า เวลากอดกระดูกจะได้ไม่ห่มไง ” จวงเจียเหวินยิ้มน้อยๆ
” น่าเกลียด ” เสิ่นซินเหยากลอกตา แต่ในแววตานั้นก็ยังมีความขบขันอยู่เล็กน้อย แต่ก็ทำที่เป็นโกรธ
ไม่นานรถก็จอดลง
นี่คือบ้านที่เพิ่งจะถูกซื้อใหม่ วันนี้มีกำหนดว่าจะเอาเฟอร์นิเจอร์ใหม่เข้าบ้าน จึงจำเป็นที่จะต้องให้เสิ่นซินเหยามาดูว่าจะจัดวางตรงไหน
เมื่อลงมาจากรถแล้ว เสิ่นซินเหยาก็ยังคงถือเค้กที่ยังกินไม่หมด เธอกินไปสามชิ้นแล้ว จะเหลือก็แต่คำสุดท้าย แต่เธอก็กินไม่ไหวแล้วจริงๆ เธอจึงเดินไปหยุดอยู่ตรงหน้าจวงเจียเหวิน ” คุณอ้า
ปากสิ ”
จวงเจียเหวิน”
” จะทำอะไร? ”
” อ้าปากเลย ” เสิ่นซินเหยาทำอ้อน
จวงเจียเหวินทำทีระแวงแต่ก็ค่อยๆ อ้าปากออกช้าๆ เมื่อสบโอกาสเธอก็รีบเอาเค้กก้อนนั้นใส่ปากเขาทันที จากนั้นก็พึมพำอะไรออกมา ” ฉันกินไม่ไหวแล้วจริงๆ คุณกินแทนฉันทีนะ ”
จวงเจียเหวินเหลือบตามองเธอ แต่ก็กลืนค้กก้อนนั้นลงไป จากนั้นก็ยื่นแขนไปดึงเธอเข้ามาอยู่ในอ้อมกอด ” เจ้าจิ้งจอกน้อยอย่างเธอนี่นะ ”
เสิ่นซินเหยาผลักเขา ” นี่มันข้างนอกนะ ทำตัวให้มันปกติหน่อยสิ ”
“โอ้โห ทีคุณวิ่งไล่แล้วผมวิ่งหนีล่ะ? ” จวงเจียเหวินแกล้งพูดแขวะเธอ
เขาไม่ได้มา เมืองCตอนที่เสิ่นเผยซวนยังไม่ได้เลื่อนตำแหน่งและไม่ได้ออกจากเมืองนี้ ตอนประถมพวกเขาก็เรียนโรงเรียนเดียวกัน เสิ่นซินเหยาก็ตามตูดเขาแล้วเอาแต่เรียกลูกพี่ๆๆ
หลังจากที่เขามา เมืองCแล้ว ทั้งสองก็แยกจากกัน
แต่ความรู้สึกก็ยังคงอยู่
จวงเจียเหวินมักจะเอ็นดูเธอเหมือนน้องสาวเสมอ
เขาไม่รู้ว่าความรู้สึกที่ตัวเองมีต่อเธอคือความรัก หรือความใกล้ชิดกันแน่ แต่เขาก็ไม่รู้สึกว่ามันแปลกแยก และชอบความรู้สึกที่ได้อยู่กับเธอเสมอ
เสิ่นซินเหยารู้สึกอายจึงผลักเขาแล้วิ่งเข้าบ้านไป เรื่องขายหน้าตอนเด็กมียอะนัก พอได้ยินผู้ใหญ่เล่าว่า ตัวเองกับเขาคือคู่ที่มันใหม่ตั้งแต่เด็ก เพราะว่าตอนเด็กนั้นยังไม่รู้เรื่องรู้ราว ก็มักจะ
พูดว่า เมื่อก่อนมันแล้วตัวเองจะไปเป็นเจ้าสาวของเขา พอโตขึ้นมาแล้ว คิดไปคิดมามันก็น่าเอาอยู่เหมือนกัน พอถูกจวงเจียเหวินเอ่ยถึงเรื่องตอนเด็ก ก็มักจะทำให้เธอนึกถึงเรื่องที่เคยพูดตอนนั้น
เสมอ
จวงเจียเหวินก็วิ่งตามเข้ามา
เมื่อเข้าบ้านมาแล้วก็เห็นฉินยากำลังดูแลคนงานที่ขนเฟอร์นิเจอร์มาวางไว้ในบ้น เมื่อเห็นเสิ่นซินเหยาเข้ามาก็ยิ้มและพูดว่า ” เธอมาพอดีเลย ลองดูซิว่าวางออกมาแบบนี้เหมาะไหม? ”
หลังจากที่จวงเจียเหวินมาอยู่ เมืองCฉินยากับซูานก็ดูแลเขามาโดยตลอด และมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน
ตอนนี้ เมื่อเขาจะแต่งงานแล้ว ฉินยากับซูจ้านยังดูยุ่งกว่าพ่อแม่ที่แท้จริงของเขาเสียอีก แล้วยังใส่ใจมากด้วย
ประจวบเหมาะกับที่รู้ว่าจะจัดเฟอร์นิเจอร์เข้าบ้านใหม่ในวันนี้ ก็พากันมาช่วยตั้งแต่เช้า
เสิ่นซินเหยายิ้มแล้วตอบไปว่า ” ดีแล้วค่ะ”
ฉินยาถอนให้ใจ เธอไม่ได้ดูเปลี่ยนแปลงอะไรไปเลย ไม่น่ามีเพียงริ้วรอยบางๆ เท่านั้น เพราะว่าเธอไม่เคยผ่านการมีลูก รูปล่างก็ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง บวกกับว่าตอนที่ท่านย่าจากไป ซูจ้านก็
ดูแลเธอดีกว่าเดิม ก็ทำให้เกิดความสบายอกสบายใจ ท่ทีดูดีขึ้น ” เวลาผ่านไปเร็วมาก พริบตาเดียวพวกเธอก็จะแต่งงานกันแล้วสินะ”
” ประโยคนี้ พูดไปกี่รอบแล้วเนี่ย “จวงเจียเหวินเดินเข้ามาก็โอบไหล่ของเธอไว้ ” กลัวตัวเองจะแก่หรือไง? วางใจเถอะน่า คุณอาซูเอาอกเอาใจขนาดนั้น แก่แล้วก็ไม่มีทางทิ้งหรอกนะ ”
” ไม่รู้จักเด็กไม่รู้จักผู้ใหญ่จริงๆ เจ้าคนนี้ ” ฉินยาเมือนหน้ามาถลึงตาใส่เขา
จวงเจียเหวินหัวเราะ ” ผมผิดไป แล้วอย่าโกรธเลยนะ เดี๋ยวก็แก่จริงๆ หรอก ”
ฉินยายกมือขึ้นเตรียมที่จะฟาดชายหนุ่มหนึ่งที่ แต่เขารีบวิ่งออกไปก่อน ” ระวังภาพลักษณ์หน่อยสิครับ ทุบตีคน แถมถลึงตาแบบนั้นดูไม่แพงเลยนะ”
จวงเจียเหวินเป็นคนนิสัยร่าเริงสนุกสนาน ถึงแม้จะต้องแยกจากพ่อแม่เร็วตั้งแต่เด็ก แต่ก็เติบโตมาอย่างดีท่ามกลางทุกคน ฉินยากับซูจ้านไม่มีลูก แต่ก็ดูแลเขา เป็นห่วงเป็นใยราวกับลูกของตัว
เอง และเขาก็ยังเป็นลูกเขยของเสิ่นเผยซวนอีก เป็นทั้งลูกเขยและลูกชายอย่างละครึ่ง นี่ก็เป็นเรื่องที่ดีสำหรับเขาในใจลึกๆ เลยทีเดียว
อายุน้อยแต่ก็สามารถรับหน้าที่ได้เพียงคนเดียว เสิ่นเผยซวนก็คอยชี้แนะเขาไม่น้อย
” เมื่อไหร่แกจะโตสักที นี่ก็จะแต่งงานอยู่แล้ว ” ฉินยาก็หยิบหมอนอิงของโซฟาดวางอย่างเป็นระเบียบ พรางสายหัวไปด้วย ราวกับว่าไม่มีวิธีที่จะจัดการกับเจ้าเด็กคนนี้ แต่พอนึกอะไรขึ้นมา
ได้ก็ไงหน้าขึ้นมามองจวงเจียเหวินแล้วหุบยิ้ม จ้างนั้นก็พูดด้วยท่าทีที่ดูจริงจังและสุขุม ” เหยียนซีจะมาถึงที่นี่เมื่อไหร่?”
ระหว่างที่พูดเธอก็ถอนหายใจไปด้วย ” สุขภาพแม่แกไม่ค่อยดีเท่าไหร่ เพราะเรื่องนั้น พ่อแกก็เลยโกรธเข้า ก็เลยใช่โอกาสที่แกไม่กลับมา คนทางนั้นยังน่าเป็นห่วงอยู่หรือเปล่า?”
เมื่อพูดถึงจงเหยียนชี จวงเจียเหวินก็เก็บไว้น่าทะเล้นทะลึ่งเมื่อกี้ลงไป ” เดี๋ยววันนี้ตอนกลางคืนผมจะไปรับที่สนามบิน ”
” จริงเหรอ? ในที่สุดเธอก็ยอมกลับมาเจอหน้าพวกเราแล้วใช่ไหม? ” ฉินยาถามออกมาด้วยความตื่นเต้น
” จริงครับ ”
” จริงอะไรกัน ? ” ซูจ้านที่ยืนอยู่บนชั้นสอง ในมือก็ยังสวมถุงมืออยู่ เหมือนจะย้ายอะไรบางอย่างอยู่ เขาถอดถุงมือพลางเดินลงมาชั้นล่าง