กลยุทธ์เด็ด เสพติดรักภรรยาของผม - บทที่983 ไม่ใช่เธอเพียงคนเดียว
” ถามพวกเธออยู่นะ ทำไมไม่พูดไม่จา? ” ชูจ้านเอาถุงมือที่พึ่งถอดวางไว้บนโต๊ะ
ฉินยาเดินเข้ามา แล้วพูดเสียงต่ำ ” เหยียนซีจะกลับมาน่ะ ”
ซูจ้านชะงักไปชั่วครู่ จากนั้นก็พูดต่อว่า ” ก็เป็นเรื่องดีน่ะสิ เธอกลับมานี่ แสดงว่าเธอยอมเจอหน้าพวกเรา เรื่องแย่ๆ พวกนั้นต้องผ่านไปอยู่แล้วสินะ ”
ฉินยาปัดฝุ่นบนเสื้อผ้าของซูจัานที่ติดมาตอนกำลังขนของออก แล้วพูดเสียงเรียบกับเขาว่า ” เจียเหวินกับเหยาเหยามาแล้ว เดี๋ยวพวกเขาจัดการบอกคนงานให้จัดแจงเองนั่นแหละ พวกเรากลับ
เถอะ ”
เธอมีสิ่งที่คิดเอาไว้แล้ว อย่างนึงก็ไม่อยากรบกวนทั้งสองที่กำลังจัดแจงบ้านใหม่ และอย่างที่สองก็คือจะกลับไปบอกจงจิ่งห้าวกับหลินชินเหยียนเรื่องที่จงเหยียนซีกำลังจะกลับมา
ซูจ้านพูดออกมาอย่างไม่รู้งาน ” เจียเหวินแต่งงานทั้งที พ่อแม่แท้! ของเขายังไม่คิดจะใส่ใจ ไม่ใช่เราที่ต้องดูแลหรอกเหรอ?”
ฉินยาได้ยินก็ไม่พึ่งใจนัก ” แล้วคุณซื้อบ้านหลังนี้รึไง? เงินที่ใช้แต่งงานคุณเป็นคนออกเหรอ? คนในครอบครัวจะไม่ใส่ใจได้ยังไงกัน? ”
” แค่ออกเงินมันจะไปมีประโยชน์อะไร? ควรจะใช้ใจไม่ใช่เหรอ? ” ชูจ้านส่งสายตาให้จวงเจียเหวิน ประมาณว่านี่คือสายตาที่รักและเป็นห่วง
จวงเจียเหวินยิ้มแต่ก็ไม่ได้พูดอะไร
ฉินยาไม่สนใจซูจ้านเมื่อบอกลาเด็กทั้งสองเสร็จก็เดินออกไป
ซูจ้านเมื่อเห็นก็รีบเดินตามออกไป ” รอผมด้วย ”
ฉินยาก็ยังทำเป็นไม่สนใจเขาเหมือนเดิม
” โถ่เอ้ย ยังจะงอนผมอีกเหรอ กลับเพราะกลับสิ ทำไมคุณต้องโมโหด้วยล่ะ? ” ซูจ้านพยายามพูดง้อดีๆ
ฉินยาใจเย็นแล้วเหลือบตามองเขา แล้วทำสีหน้าเหยียดหยามราวกับกำลังจะพูดว่า คุณคิดว่าคุณเป็นใคร? สำคัญขนาดที่ฉันต้องโกรธเลยเหรอ?
ซูจ้านกอดแขนของเธอไว้ ” เราไปหาอะไรกินแล้วกลับกันเถอะ ”
“ไม่กิน ” ฉินยาตอบเสียงเรียบ
” ทำไมอ่ะ? ” ซูจ้านกอดแขนเธอแน่นกว่าเดิม อายุก็ปาเข้าไปเท่านี้แล้ว ซูจ้านก็ยังคงทำตัวเหมือนเดิม ชอบทำให้คนที่อยู่ด้วยทั้งบำและรู้สึกอบอุ่น
เมื่อคนอายุถึงคราวนี้แล้ว แต่ยังคงทำตัวเอาใจภรรยาอยู่ ก็นับว่าเป็นสามีที่ดีจริงๆ
” ไม่หิว”
” ถ้างั้นคุณไปกินเป็นเพื่อนผมหน่อยสิ ”
” คุณก็ไปเองสิ ”
“ชั่งมันเถอะ ผมไม่กินแล้วก็ได้ ” ซูจ้านทำหน้าหงอยๆ แล้วเปิดประตูรถให้เธอขึ้นไปนั่งก่อน
ฉินยากัมตัวลงแล้วเข้าไปนั่งในรถ ” กลับไปฉันทำให้คุณกิน ”
ทันทีที่ได้ยินใบหน้าของซูจ้านก็ปรากฎรอยยิ้มขึ้นมาทันที จากนั้นก็รีบวิ่งไปด้านข้างที่เป็นฝั่งคนขับแล้วขึ้นรถ
ไม่นานรถก็จอดลง
ที่นี่คือที่ที่หลังจากท่านย่าเสียไปแล้ว จึงสร้างบ้านที่นี่ขึ้นมาใหม่ บริเวณนี้ค่อนข้างห่างจากตัวเมือง แต่ก็เงียบสงบ และเป็นบ้านที่หลังใหญ่มาก ทั้งชั้นบนชั้นล่างมีห้องห้บมากกว่าสิบห้อง แล้ว
ยังมีลานบ้านที่ใหญ่โตอีก
อันนี้ซื้อพวกเขาก็ได้คิดเอาไว้แล้ว เพราะว่าจวงเจียเหวินอยู่ทางนี้ อีกหน่อยเกรงว่าเวลาทุกคนมารวมกันก็กลัวจะไม่มีที่อยู่ ก็เลยเลือกที่จะสร้างบ้านหลังใหญ่ขึ้นมา
ตอนนี้ซูจำานไม่ได้ดูแลเกี่ยวกับบริษัทแล้ว และทั้งหมดก็ให้จวงเจ็ยเหวินเป็นคนจัดการแทน หลังจากที่เขาว่างแล้วก็มักจะขลุกอยู่รอบๆ ตัวฉินยาเสมอ กิจการร้านเสื้อผ้าของฉินยาเธอก็จัดการ
บริหารอยู่เสมอ ธุรกิจไปได้สวย ชูซูานจึงรับหน้าที่เป็นคนขับรถและบอดี้การ์ดคอยตามติดเธอทั้งวันแทน
ว่าลงจากรถแล้วฉินยาก็ตรงเข้าไปในบ้าน แล้วไม่ลืมที่จะหันมาสั่งผู้ชายที่อยู่ข้างๆ เธอ ” คุณไปล้างผักอะไรไว้ก่อน เดี๋ยวฉันลวกบะหมี่ให้คุณเอง”
เมื่อพูดจบแล้วก็ตรงไปยังห้องของหลินซินเหยียน
ซูจ้านที่ยืนอยู่ตรงห้องรับแขก ก็ถามต่อ ” คุณไม่ได้บอกว่าจะทำอาหารให้ผมเหรอ? ยังจะให้ผมล้างผักเองอีก?”
” ถ้างั้นคุณก็ทำกินเองเลยแล้วกัน ” ฉินยาตอบกลับเขาไป
ซูจ้าน”..
รู้งี้เขาไม่น่าถามเลย
ก๊อกๆๆ ……
มาถึงหน้าประตูแล้ว ฉินยาก็เริ่มเคาะ
แต่ไม่มีใครเปิด เธอจึงขออีก แต่ก็ยังคงไม่มีใครมาเปิดอยู่ดี
เกิดอะไรขึ้นนะ?
ฉินยาจึงลองเอามือบิดลูกบิดประตูดู ในห้องนั้นก็ไม่มีใครจริงๆ ขณะเดียวกันซูจานก็รีบวิ่งเข้ามา ” จริงสิ ผมลืมบอกคุณเลยว่าพวกเขาทั้งสองคนวันนี้มีธุระข้างนอก อาจจะไม่อยู่บ้านน่ะ ”
” แล้วทำไมคุณไม่รีบบอกให้เร็วกว่านี้? ” ฉินยาจึงดึงประตูให้ปิดเหมือนเดิม ซูจ๋านมองไปที่เธอ แล้วทำหน้าตาน่าสงสาร ” ผมก็แค่ลืมไหมล่ะ? ”
ฉินยาก็เดินไปที่ครัว แล้วถามต่อ ” แม่บอกหรือเปล่าว่าไปทำอะไร?”
“ดูเหมือนจะไปเยี่ยมจวงจื่อจิ๋นกับเฉิงยู่เวินนะ ร่างกายของเฉิงยู่เวินไม่ค่อยแข็งแรงไม่ใช่เหรอ เหมือนหมอจะพูดว่าอยู่ได้นานสุดก็คงเป็นสิ้นปีนี้ ”
ซูจ้านก็เดินตามเข้าไปในครัวด้วย จากนั้นก็หยิบผักเอามาจากตู้เย็น จากนั้นก็ล้างผักที่ซิงค์น้ำ ” คนเราแก่แล้ว ก็ต้องมาถึงจุดนี้กันหมด ”
ฉินยาพิงไปที่เคาน์เตอร์ด้านข้าง แล้วมองไปที่เขา ” ปลงอะไรล่ะทีนี้?”
” ผมพูดความจริงนะ ” ชูจ้านเงยหน้าขึ้น ” คุณว่าถ้าเฉิงยู่เงินไม่ได้อยู่กับจวงจื่อจิ่นคอยมีเธอดูแล เค้าจะสามารถอยู่ได้ถึงตอนนี้เหรอ?”
” นี่คุณพูดอะไรออกมา? ไม่ใช่ว่าเฉิงยู่เวินก็คอยดูแลจวงจื่อจิ๋นหรือไง? พวกเขาต่างดูแลซึ่งกันและกันต่างหาก ”
” โถ่ ผมก็ไม่ได้ว่าอะไรสักหน่อย ” ชูจ้านยิ้มตาหยี ” เราจะเหมือนพวกเขาที่อยู่ได้ถึงอายุเก้าสิบปีไหมนะ? ”
” คุณอยู่ได้ถึงร้อยปีเลยล่ะ ” ฉินยาเปิดฝาหม้อเมื่อเห็นว่าน้ำเดือดแล้ว เธอก็หย่อนเส้นหมี่ลงไป
” คุณอยู่นานแค่ไหน ผมก็อยู่นานเท่านั้นแหละ ” ซูจ้านก็หยิบผักที่ล้างเสร็จแล้ววางไว้ในตะกร้า
ทำไมคุณยังเป็นแบบนี้อยู่นะ ” ตอนที่ยังหนุ่มยังสาวก็เป็นยังไง ตอนนี้ก็ยังคงเป็นเหมือนเดิม
ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปเลยสักนิด
ซูจ้านทำเหมือนไม่สนใจอะไร
พอตกกลางคืน
จวงเจียเหวินกับเสิ่นซินเหยาก็รีบตรงไปยังสนามบิน ขณะที่เดินทางเสิ่นซินเหยาก็ถามขึ้นว่า ” พี่สาวก็กลับมาแล้ว แล้วพี่ชายจะกลับมาไหม?”
” ติดต่อเขาไม่ได้เลย ” จวงเจียเหวินตอบ
แน่นอนว่าเขาก็หวังให้ทุกคนกลับมา จึงใช้โอกาสนี้ให้ทุกคนกลับมาปรองดองกัน
แต่งานของจงเหยียนเฉินนั้นพิศษไปหน่อย เขาก็เข้าใจ
เสิ่นชินเหยาพยักหน้า ” พี่ใหญ่คงจะเหมือนพ่อสินะ ”
จวงเจียเหวินได้ยินก็หันหน้าไปทางเธอ ” คุณจะบอกว่าผมไม่เหมือนเหรอ?”
” คุณกับคุณอาซูอยู่ด้วยกันมานาน นิสัยของคุณก็คงเหมือนกันไม่น้อย ” เสิ่นซินเหยาอธิบายออกมา
จวงเจียเหวินไม่ได้จะคาดคั้นอะไร นิสัยของเขาจริงๆ ก็เป็นคนที่อยู่ใสประเภทค่อนข้างร่าเริง
มาถึงสนามบินแล้วก็ยังไม่ถึงเวลา พวกเขาจึงมานั่งห้องรับผู้โดยสารพลางๆ
เมื่อได้ยินประกาศเอาเครื่องลงของสายการบิน พวกเขาจึงเดินไปตรงประตูทางออก
คนที่ออกมาทางประตูนั้นมากมาย จวงเจียเหวินที่ตัวสูงจึงพยายามกวาดสายตามองกลุ่มคนพวกนั้น ในที่สุดเขาก็เจอ
แต่ทว่า
เขาไม่ได้เจอเธอแค่คนเดียว