กลยุทธ์เด็ด เสพติดรักภรรยาของผม - บทที่99 รู้สึกถึงความไม่ปลอดภัย
เธอจับที่จับไว้ บิดลง แล้วผลักประตูห้องเบาๆ ก็มองเห็นจวงจื่อจิ่นนั่งที่ข้างเตียง สะอื้นเบาๆ
หลินซินเหยียนเดินเข้ามาปิดประตูห้อง ได้ยินเสียงเคลื่อนไหว จวงจื่อจิ่นรีบเช็ดหน้า“ลูกไม่ดูพวกเขาสองคนข้างนอกล่ะ เข้ามาทำอะไร?”
“ฉันมาดูแม่”หลินซินเหยียนยื่นมือไปกอดเธอ“แม่ เรื่องเมื่อก่อน พวกเราไม่ต้องคิดแล้วโอเคไหม?”
หน้าของเธอหนุนไปที่ไหล่ของจวงจื่อจิ่น“แม่แก่แล้วฉันจะเลี้ยงแม่ รอฉันแก่แล้ว ให้หลินซีเฉินเลี้ยงฉัน……”
“พูดอะไรน่ะ?”จวงจื่อจิ่นตบหลังของหลินซินเหยียน“ลูกยังสาวอยู่ หมอเหอนั้นดีมากจริงๆ”
หลินซินเหยียนจับผมไว้ กลัวว่าจวงจื่อจิ่นจะพูดคำแบบนี้
“เหยียนเหยียน……”
“แม่”
หลินซินเหยียนรู้ว่าจวงจื่อจิ่นจะพูดอะไร เดิมทีเธอก็จะยอมรับเหอรุ่ยเจ๋อ แต่ว่า ตอนนี้กลัวว่าจะไม่ได้แล้ว
ถ้าเธอไปสืบหาความจริงของอุบัติเหตุเมื่อปีนั้น กับเหอรุ่ยเจ๋อก็คงเป็นไปไม่ได้แล้ว
“แม่ แม่ของเหอรุ่ยเจ๋อมาหา”
“อะไรนะ?”จวงจื่อจิ่นตกใจมาก จับไหล่ของลูกสาวไว้ แล้วมองเธอ“เธอมาหาลูกทำไม?”
หลินซินเหยียนเม้มปาก อยากให้เธอหยุดความคิดลง แล้วพูดไปตามความจริง“ก็หกปีก่อนแหละ เธอเห็นฉันอยู่กับเหอรุ่ยเจ๋อ คิดว่าพวกเราคบกัน เลยมาหาฉันโดยเฉพาะ บอกว่าฉันไม่เหมาะกับเขา จากภูมิหลังของเขาแล้วนั้น ต้องหาคนที่มีภูมิหลังที่เหมาะสมกัน”
จวงจื่อจิ่นอ้าปาก ไม่พูดออกมาอยู่นาน
สุดท้าย น้ำตาก็ไหลลงมาอีก
“แม่ ทำไมแม่ร้องไห้อีกแล้ว”หลินซินเหยียนยื่นมือไปเช็ดน้ำตาให้เธอ
ไม่ง่ายเลยที่จะเปลี่ยนความสนใจของเธอ
ทำไมร้องไห้อีกแล้ว
“จะไม่เสียใจได้ไงล่ะ?”พอจวงจื่อจิ่นคิดว่าลูกสาวถูกเขาหา ในใจก็เสียใจ“ถ้าหาก ตอนนั้นลูกไม่ทำเพื่อแม่…”
“แม่ เรื่องเมื่อก่อน พวกเราไม่ต้องพูดแล้วโอเคไหม?”หลินซินเหยียนรู้ว่าเธอห่วงอะไร อธิบายกับเธออย่างอดทน“ฉันไม่ชอบเหอรุ่ยเจ๋อ ถึงฉันคบกับเขา ฉันก็ไม่มีความสุข แม่ ……”
หลินซินเหยียนจับมือของเธอ“แม่หวังว่าฉันจะมีความสุขใช่ไหม?”
“แน่นอนสิ”จวงจื่อจิ่นฝันก็ยังอยากให้ลูกสาวมีความสุข
เธอยังสาวขนาดนี้ น่าจะมีผู้ชายดีๆสักคนมารักเธอ
“แม่เชื่อฉันไหม?”
“เชื่อสิ”จวงจื่อจิ่นมองลูกสาว“ลูกสุดยอดที่สุดแล้ว ในใจแม่”
เธอมองลูกสาว ที่ค่อยๆเดินมาจนถึงวันนี้ ข้างในเธอเคยลำบาก เคยได้รับความทุกข์ทรมาน ตอนนี้มีธุรกิจของตัวเองแล้ว
ในใจของเธอนั้น ลูกสาวของเธอคือคนที่สุดยอดที่สุด
“ถ้าแม่เชื่อฉัน ก็ไม่ต้องห่วงเรื่องแต่งงานของฉัน ปัญหาทุกอย่างมีทางออก”หลินซินเหยียนถือโอกาสพูดโน้มน้าวจวงจื่อจิ่น
เธอไม่อยากให้จวงจื่อจิ่นเอาเรื่องแต่งงานของตัวเองมาไว้ในใจ คิดถึงทุกวัน
เธอมีความกดดัน จวงจื่อจิ่นก็มีความกดดัน
มักจะรู้สึกว่าตอนนี้ตัวเองเป็นแบบนี้เพราะว่าเธอ
“แม่ ดูสิฉันเพิ่ง24ปี ยังสาวอยู่มาก หนทางต่อไปยังอีกยาวไกล บางทีฉันอาจจะเจอ ผู้ชายที่ไม่สนว่าฉันเคยมีลูก ยอมดูแลเสี่ยวซีกับเสี่ยวลุ่ยกับฉัน”
จวงจื่อจิ่นไม่แน่ใจ“จะได้เจอจริงๆไหม?”
เรื่องในอนาคตใครจะไปพูดได้ล่ะ?
“ไม่แน่นี่?แม่เอาแต่คิด ในใจฉันก็มีความกดดัน ฉันไม่มีทางหาใครสักคนไปงั้นๆ คนๆนั้นจะต้องเสี่ยวซีกับเสี่ยวลุ่ยได้ ไม่งั้น ฉันก็ไม่พิจารณาแน่”วันนี้หลินซินเหยียนก็อยากพูดความในใจออกมาจากก้นบึ้งหัวใจให้จวงจื่อจิ่น
จวงจื่อจิ่นรู้ความสำคัญของเด็กสองคนนี้ที่มีต่อเธอ ตอนนั้นเธอไม่สนชีวิตของตัวเอง ต้องการแค่ลูก จะเห็นถึงความสำคัญของสองคนนี้ที่มีต่อเธอ
“โอเค ต่อไปแม่ไม่พูดแล้ว พรหมลิขิตมาแล้ว ก็คงจะมาเอง”จวงจื่อจิ่นลูบหัวของลูกสาว“แม่ไม่กดดันลูก”
ผ่านเรื่องเหอรุ่ยเจ๋อนี้ไป เธอก็คิดดีแล้ว
สถานการณ์อย่างหลินซินเหยียนนี้ ถึงมีผู้ชายชอบเธอ แต่ครอบครัวฝ่ายตรงข้ามก็สำคัญ
ใครจะยอมให้ลูกชายของตัวเองแต่งงานกับผู้หญิงที่มีลูกติดสองคนล่ะ?
เธอเข้าใจว่าทำไมแม่ของเหอรุ่ยเจ๋อไม่เห็นด้วย ตระกูลอย่างพวกเขานั้น แน่นอนว่าต้องหาครอบครัวที่คู่ควร
ก็แค่ลูกสาวของเธอ ไร้เดียงสาเหลือเกิน
จวงจื่อจิ่นรับปากได้ หลินซินเหยียนก็รู้สึกโล่งอกไปเยอะ ทั้งวันถูกจวงจื่อจิ่นเอาแต่จับจ้องเรื่องนั้น เธอหดหู่จริงๆ ไม่กล้าคุยกับเธอ กลัวเธอพูดถึงเรื่องนี้
ตอนนี้ดีแล้ว
เวลานี้กริ่งที่ประตูก็ดัง หลินซินเหยียนลุกขึ้น“พิซซ่าที่ฉันซื้อน่าจะมาแล้ว”
เปิดประตูห้องออก ก็เป็นพนักงานส่งของที่สวมชุดสีเหลือง
“ใช่หลินซินเหยียนไหม?”
“ใช่ค่ะ”
“กรุณาเซ็นรับหน่อยครับ”
หลินซินเหยียนลงชื่อไปที่ใบเสร็จ เอาพิซซ่าสองถาดเข้ามาในบ้าน วางไว้ที่โต๊ะอาหาร“เสี่ยวซี เสี่ยวลุ่ยพวกลูกไปเรียกยายมากินข้าว แม่จะเทนมให้ลูกๆ”
“โอเค”หลินซีเฉินตอบไป แล้วจูงมือของน้องสาวไปห้องของจวงจื่อจิ่น
หลินซินเหยียนหันไปมองลูกชาย แล้วหัวเราะ
วันนี้อารมณ์ของจวงจื่อจิ่นไม่ดี เธอไปเรียก จวงจื่อจิ่นอาจจะไม่ออกมากินข้าว ให้สองคนไปเรียก เธอไม่ปฏิเสธเด็กสองคนนี้แน่
หลินซินเหยียนเทนม แล้วเสิร์ฟไปที่โต๊ะ วางจานของพวกเขาให้เรียบร้อย
เปิดถาดพิซซ่าออก
หลินซีเฉินกับหลินลุ่ยซี จูงมือของจวงจื่อจิ่นคนละข้างเดินออกมา
หลินซินเหยียนช่วยพวกเขาดึงเก้าอี้ออก เธอรู้ว่าให้เด็กสองคนไป จวงจื่อจิ่นจะออกมากินข้าวแน่
“วันนี้เสี่ยวลุ่ยจะกินพิซซ่า ฉันไม่ได้หุงข้าว”
จวงจื่อจิ่นมองไปที่โต๊ะ พิซซ่าสองถาดใหญ่ขนาดนี้ก็พอแล้ว“เสี่ยวลุ่ยของพวกเราเป็นเด็กชอบกิน”
หลินลุ่ยซีไม่รู้ว่านี่คือคำพูดที่ดีหรือไม่ดี กะพริบตา แล้วถาม“เด็กชอบกินคืออะไร?”
“ก็คือน้องกินได้หมด กินได้เยอะ นอกจากกินแล้วก็ทำอะไรไม่เป็น”หลินซีเฉินอธิบายให้เธอฟัง
หลินลุ่ยซีกะพริบตา“นั่นใช่คำชมฉันไหม?”
“ใช่”
หลินซีเฉินมองน้องสาว แล้วถอนหายใจข้างในใจ
เด็กคนนี้ ชอบให้คนอื่นชมทั้งวัน
“ว้าว”หลินลุ่ยซีร้องออกมาอย่างดีใจ“งั้นพี่ก็เป็นพี่ที่ชอบกิน นอกจากกินแล้วก็ทำอะไรไม่เป็น”
หลินซีเฉิน“……”
จวงจื่อจิ่นตลกเด็กสองคนนี้ อารมณ์หดหู่ก็หายไปบ้าง
“ยายบอกว่าน้องเป็นคนชอบกิน”หลินซีเฉินหยิบพิซซ่ารสทุเรียนหนึ่งชิ้นให้ในจานของน้องสาว
“ใช่ พี่ก็เป็นคนชอบกิน ฉันกำลังชมพี่”หลินลุ่ยซีหยิบพิซซ่าที่พี่ชายยื่นมาให้ อ้าปากกัดไปคำหนึ่ง พูดอย่างดีใจ“อร่อย”
หลินซีเฉิน มองน้องสาวอย่างทำอะไรไม่ได้ ถามหลินซินเหยียน“หม่ามี๊ น้องสาวเหมือนใคร?”
ทันใดนั้นบรรยากาศก็เงียบไปสามวินาที
“พวกลูกนั้นแม่คลอดเอง แน่นอนว่าต้องเหมือนแม่สิ”หลินซินเหยียนเอานมวัวไว้ตรงหน้าลูกชาย“ตอนกินข้าวห้ามพูด”
หลินซีเฉินเบะปาก
กินข้าวเสร็จหลินซินเหยียนก็เก็บอาหารที่โต๊ะ หลินลุ่ยซีก็ยุ่งกับจวงจื่อจิ่นให้พาเธอไปเดินเล่น ส่วนหลินซีเฉินแอบเข้ามาในครัว กอดขาของหลินซินเหยียน แล้วออดอ้อน“หม่ามี๊ หม่ามี๊เอาแท็บเล็ตกับนาฬิกาโทรศัพท์ให้ผมได้ไหม?”
“งั้นลูกบอกแม่ ลูกผิดไหม?”หลินซินเหยียนก้มหน้าลงมองลูกชาย
หลินซีเฉินท้อแท้“ไม่ให้ก็ช่างแล้ว”
ให้เขาละทิ้งความคิดที่จะแก้แค้นผู้ชายที่ชอบหักอกผู้หญิงคนนั้นเป็นไปไม่ได้
อีกอย่างเทียบกับที่เขาทิ้งพวกเขาแล้ว เขาก็แค่ให้เขาเสียหน้านิดหน่อยเท่านั้น
เสียเปรียบก็จะเป็นพวกเขา
หลินซีเฉินปล่อยหลินซินเหยียนแล้ววิ่งกลับห้อง
นิสัยของเด็กคนนี้ไม่รู้ว่าได้มาจากใคร
หลินซินเหยียนถอนหายใจ วางแก้วน้ำในมือ เช็ดมือให้สะอาด อยากจะไปคุยกับหลินซีเฉิน ปมในใจที่เขามีต่อจงจิ่งห้าวนั้นฝังลึกเกินไป
ทำให้เธอไม่สบายใจหน่อยๆ
เธอเดินไปที่หน้าห้องของลูกชาย จู่ๆโทรศัพท์ในกระเป๋าก็ดังขึ้น เธอหยิบโทรศัพท์ออกมา มองชื่อที่โชว์ด้านบน ก็สูดหายใจลึกๆ