กลยุทธ์เด็ด เสพติดรักภรรยาของผม - บทที่996 คุณคิดลึกหรือเปล่า
” ผมไม่ได้ไปเจอเขา แต่ผมแค่ส่งคนตามไปปกป้องเหยียนซีเงียบๆ ก็เลยรู้ว่าก่อนหน้านั้นเขาอยู่ที่ไทยไม่ได้อยู่ที่ เมืองB”
จงจิ่งห้าวปิดบังเรื่องที่เจียงโม่หานมาที่ เมืองC
” แล้วเขาไปทำอะไรถึงที่ไทย ” หลินซินเหยียนถามเสียงเย็น ” ไม่กลัวว่าจะเจอฉันเหรอ?”
” ถึงเจอคุณ แล้วคุณจะทำยังไงกับเขา? ก่อนหน้านี้ผมก็อยากจะซัดมันเข้าไปสักหมัด คุณยังไม่ให้ทำเลย”
หลินซินเหยียนไม่ได้เสริมต่อ ” ล้างมือล้างเท้าเข้านอนได้แล้ว ”
ไม่ใช่ว่าเธอไม่เกลียดเจียงโม่หาน ปล่อยเขาสำกหมัดมันก็ไม่ได้คลายความเกลียดที่เธอมีต่อเขา เธอแค่เข้าใจว่า คนแบบนี้อยู่ให้ไกลจะดีที่สุด จนแก่ตายแล้วไม่ต้องเจอหน้ากัน
อีกก็ยิ่งดี
เธอจึงไปรองน้ำ จงจิ่งห้าวคว้าเอวเธอแล้วให้เธอนั่งลงบนเตียง
หลินซินเหยี่ยนคิดแล้วก็พูดขึ้นมา ” คุณคิดว่าลูกสาวของเราปล่อยวางได้แล้วจริงๆ หรือเปล่า? เพราะก่อนหน้านี้ แกชอบเจียงโม่หานมากจริงๆ คุณยังจำที่ลูกทะเลาะกับเราตอน
นั้นได้ไหม? ”
” ยังไงก็ปล่อยวางให้ได้ “จงจิ่งห้าวไม่อยากให้เธอคิดมาก ” หลังจากนี้จะไม่เกิดเรื่องที่เป็นอันตรายแบบนี้ขึ้นอีก คุณวางใจเถอะ ”
“ลูกชายลูกสาวต่างเป็นสมบัติของพ่อแม่ ไม่ว่าจะตอนไหนเราต่างร้อนใจแทนพวกเขาทุกเรื่อง ไม่มีทางที่จะไม่สนใจได้เลย ” พูดไปมันเธอจะคิดอะไรขึ้นมาได้ ไม่ล้างเท้าแต่ก็
นอนลงไปทันที
จงจิ่งห้าวที่จะไปรองน้ำ เขายืนอยู่ปลายเตียงแล้วชะงัก จากนั้นก็มองมาที่เธอ เหมือนพอจะรู้ว่าเธอคิดอะไรอีกแล้ว เขาจึงหลุบสายตาลง แต่สุดท้ายก็ไม่ได้พูดอะไร แล้วยังทำตัว
เข้าไปรองน้ำในห้องน้ำ
จากนั้นเขาก็ยกกะละมั่งที่ใส่น้ำอุ่นมาวางข้างเตียง ” ล้างแล้วค่อยนอน ”
หลินซินเหยียนได้ยินแต่ก็ทำเป็นไม่ได้ยิน แล้วก็ทำขยับตัวแสร้งว่าหลับ
จงจิ่งห้าวเลิกผ้าห่มออกแล้วดึงเท้าของเธอออกมา
จงจิ่งห้าวกระเถิบตัวขึ้นมา และใช่นิ้วเขี่ยไปที่หน้าของเธอ เพื่อให้มองเขา ” อายุเท่านี้แล้ว คุณไม่กลัวเด็กๆจะล้อเอาเหรอ?”
” ฉันแก่แล้วหรือไง? ” หลินซินเหยียนเบิกตาถามเขา
จงจิ่งห้าวยิ้ม ” ไม่แก่ ในสายตาของผมคุณยังอายุ18ตลอดไป”
หลินซินเหยี่ยนทั้งโมโหทั้งขำ จากนั้นก็ผลักเขา” ลุกไปเลย ทำอย่างกับตัวเองยังหนุ่มอย่างงั้นแหละ ”
” คุณยังไม่แก่ แล้วผมจะแก่ได้ยังไงล่ะ ” จงจิ่งห้าวลุกขึ้น แล้วเอาเท้าของเธอจุ่มลงไปในกะละมัง
ตอนนี้บนชั้นสอง เสิ่นซินเหยานั่งอยู่หน้าจอคอม คอยดูบทสนทนาที่ขึ้นมาทีละอันทีละอันบนจอ เธออุ้มตูตูไปด้วย อ่านไปก็ยิ้มไป
ตูตูคือแมวลายตัวน้อยที่เธอเลี้ยง มันไม่ใช่แมวที่ป็นพันธุ์พิเศษอะไร ก็แค่แมวจรจัดที่เธอเก็บกลับบ้านมาด้วยเท่านั้น
จวงเจียเหวินเข้ามาในห้องก็เห็นเธอนั่งหัวเราะคิกคักอยู่หน้าคอมพิวเตอร์ เลยถามขึ้นมาว่า ” คุณดูอะไรอยู่น่ะ?”
” ดูคนอื่นคุยกันน่ะสิ ” เสิ่นซินเหยาหันหน้ามา แล้วโบกไม้โบกมือไปทางเขา ” คุณมานี่เร็ว”
จวงเจียเหวินเดินเข้าไป
” คุณดูบทสนทนานี้ ” เสิ่นชินเหยาบอกให้เขามองไปที่จอคอมพิวเตอร์
จวงเจียเหวินเหลือบไปดูไม่กี่ประโยค เขาก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย ” คุณกำลังดูคนอื่นคุยกันเนี่ยนะ?”
เสิ่นซินเหยาพูดต่อ ” บริษัทเราไม่ได้เพิ่งเปิดตัAPPหรือไง เพื่อที่จะตีตลาดคู่ของหนุ่มสาวที่ยังไม่แต่งงาน ตอนนี้บริษัทกำลังเปิดให้ทดลองใช้อย่างเป็นทางการ หัวหน้ายังให้
ฉันคอยติดตามสังเกตคนที่ใช้APPนี้ในการพูดคุยอยู่ ว่าเขาคุยอะไรกัน แล้วก็ต้องเขียนรายงานด้วย”
” ดังนั้นคุณก็เลยแอบดูเรื่องส่วนตัวของคนอื่นอ่ะเหรอ? ” จวงเจียเหวินพูดออกมาด้วยความขึงขัง แต่ก็ไม่ได้แสดงท่าทีที่จะติเตียนเธอ เขารู้อยู่แล้วว่ามันเป็นส่วนหนึ่งของการ
ทำงาน อีกอย่างบริษัทคงไม่เปิดเผยเรื่องพวกนี้ออกไป และคนที่ถูกอ่านข้อความก็ไม่รู้ว่าตัวเองโดนติดตามอยู่
” ก็หัวหน้าสั่งมา ฉันเป็นลูกน้องก็ทำได้แค่ฟังคำสั่ง ” แล้วเธอก็วางตตูลงบนโต๊ะ แล้วหันตัวมากอดเอวเขาเอาไว้ แล้วไงหน้าอ้อน ” ถ้าคุณรู้สึกว่างานนี้มันไม่ดี ฉันก็จะลาออก แล้ว
คุณก็เลี้ยงฉันเป็นไง?”
จวงเจียเหวินเชยคางเธอขึ้นมา ” ถ้าผมเลี้ยงคุณ แล้วคุณจะตอบแทนอะไรผม?”
เสิ่นซินเหยากลอกตาไปมาและพูดว่า ” ถ้าหน้าหนาวฉันจะห่มผ้าให้คน หน้าร้อนฉันก็จะพัดให้ ใบไม้ร่วงฉันก็จะใส่เสื้อให้คนเพิ่ม ”
” แล้วใบไม้ผลิล่ะ? ” จวงเจียเหวินกระเถิบตัวเข้ามา ทั้งสองสบตากัน
“ใบไม้ผลิไม่ได้หนาวเท่าหน้าหนาว ก็เตือนให้คุณใส่เสื้อผ้าน้อยลงแล้วกัน ”
จวงเจียเหวินดูไม่ค่อยพอใจกับคำตอบนี้เท่าไหร่ ” ไม่เห็นจะเข้ากับฤดูเลย ”
เสิ่นซินเหยา”
” ถ้างั้นฤดูใบไม้ผลิฉันก็จะไปเที่ยวกับคุณดีไหม? ”
“ไฮน์ริชไฮน์ เคยพูดไว้ประโยคหนึ่ง ฤดูใบไม่ผลิไม่หว่านพืช ฤดูร้อนก็จะไม่โต ฤดูใบไม้ร่วงก็จะไม่ได้เก็บเกี่ยว ฤดูหนาวก็จะไม่ได้กิน แล้วคุณคิดว่าด้วยฤดูใบไม้ผลิเราต้องทำ
อะไรล่ะ? ”
” หว่านพืชเหรอ….. ” เมื่อพูดออกไปแป๊บเดียวเสิ่นซินเหยาก็เหมือนรู้ตัว จึงทุบเข้าไปที่อกของเขา ” คุณมันหน้าไม่อาย ”
จวงเจียเหวินหัวเราะ ” แค่หวานพืชก็ถึงกับหน้าไม่อายเลย?”
เขายิ่งขำยิ่งดูเจ้าเล่ห์พิกล ” คุณคิดลึกหรือเปล่า? ”
” จวงเจียเหวิน! ” เสิ่นซินเหยายิ่งอายิ่งโกรธ ” ออกไปจากห้องของฉันเดี่ยวนี้ เลยฉันจะทำงาน”
” ทำไมผมเห็นว่าคุณหน้าแดงซะแล้วล่ะ? ” จวงเจียเหวินจับมือที่เธอพยายามผลักเขาอก และใช่นิ้วถูไปถูมาบนฝ่ามือของเธอ ” คุณบอกว่าคุณไม่ได้คิดลึก งั้นผมคงพูดผิดเอง
อย่าโกรธเลย โกรธแล้วไม่สวยนะ”
เขาก็หัวลงไปจูบปากของเธอ
เสิ่นซินเหยาเบือนหน้าหนี เธอไม่ได้โกรธแล้ว แต่แค่รู้สึกเขินอายอยู่นิดหน่อย
จวงเจียเหวินโอบเธอให้นั่งลงหน้าคอมอีกครั้ง โอนหน้าจอก็ยังปรากฎบทสนทนาอย่างไม่หยุดหย่อน
แต่ดูไปก็ไม่ได้มีอะไรน่าขำ
” นี่ก็ไม่น่าขำ แล้วเมื่อกี้เธอขำอะไร?”
เสิ่นซินเหยาเคลื่อนเมาส์ ” เดี๋ยวคุณรอดูก็แล้วกัน”
จวงเจียเหวินระหว่างรอก็เอื้อมมือไปหยิบผลไม้ที่ปอกแล้วในชามมาหนึ่งชิ้น แล้วก็เอาแอปเปิ้ลเข้าปาก เคี้ยวไปก็ดูท่าทีทะเล้นที่เธอทำกับหน้าต่างสนทนาตรงหน้า
เมื่อได้ยินเสียงเคี้ยวแอปเปีล เสิ่นซินเหยาก็พูดว่า ” ฉันก็อยากกิน ”
สายตาของเธอยังคงจะต้องไปที่หน้าจอ และขยับเมาสไปด้วย ขณะที่กำลังจัดตำแหน่งหน้าต่างสนทนาอยู่
สายตาของจวงเจียเหวินก็มองไปที่ชามผลม้ จากนั้นก็ค่อยๆ มองเธอ เมื่อเห็นว่าเธอกำลังตั้งใจมองไปที่จอคอม ก็มีความคิดบางอย่างผุดขึ้นมา