กลลวง นายสุดเท่ห์ ชาร์ลี เวธ - บทที่ 1146
กลลวง นายสุดเท่ห์ ชาร์ลี เวธ บทที่ 1146
ที่สนามบินโอลรัส ฮิลล์ เครื่องบินเจ็ตของตระกูลเวดที่จัดเตรียมไว้ที่โอลรัส ตอนนี้พร้อมจะบินขึ้นจากรันเวย์แล้ว
เครื่องบินเจ็ตสามารถบินทะยานขึ้นน่านฟ้าได้ทันทีที่ชาร์ลีก้าวขึ้นไปบนเครื่อง
นอกจากนี้ เครื่องบินลำนี้ยังสามารถบินไปถึงภูเขากอลมินได้ในเวลาเพียงสองชั่วโมงเท่านั้น
ในทางตรงกันข้าม เครื่องบินเจ็ตส่วนตัวของตระกูลเว็บบ์ ต้องใช้เวลาอย่างน้อยสามชั่วโมงกว่าจะถึงที่หมาย
ยิ่งไปกว่านั้น ตระกูลเว็บบ์ก็ไม่มีความสามารถในการเคลื่อนย้ายทรัพยากรในประเทศ หรือแม้แต่ทั่วทั้งโลกด้วย
เชื่อกันว่า จะไม่มีเฮลิคอปเตอร์มารอรับใช้เหล่าแปดผู้ยิ่งใหญ่ สิ่งที่ตระกูลเว็บบ์ทำได้ก็เพียงเตรียมรถสปอร์ตเอาไว้ เพื่อพาพวกเขาไปจนถึงเชิงเขา
ตามคำบอกเล่าของอัลเบิร์ต โรดส์ การเดินทางจากภูเขากอลมินไปยังที่พักของตระกูลวีเวอร์ในหมูบ้านนั้น จะต้องใช้เวลากว่าสองชั่วโมง เนื่องจากหิมะไม่ตก
ถ้ามีหิมะตกและสภาพถนนไม่เอื้ออำนวย ก็จะใช้เวลาประมาณสามชั่วโมงกว่าจะไปถึง
แต่การเดินทางด้วยเฮลิคอปเตอร์ จะใช้เวลาเพียงสี่สิบนาทีเท่านั้น เนื่องจากเป็นการบินในเส้นทางตรง
ฉะนั้นชาร์ลียังพอมีเวลา เขาสามารถเดินทางไปถึงที่หมายได้ก่อนกลุ่มแปดผู้ยิ่งใหญ่แน่นอน
เฮลิคอปเตอร์ร่อนลงตรงปลายรันเวย์ แล้วเข้าจอดเทียบบริเวณด้านซ้ายของเครื่องบินเจ็ตจากตระกูลเวด
ประตูเครื่องบินเจ็ตส่วนตัวเปิดขึ้นทันทีที่ชาร์ลีก้าวลงจากเฮลิคอปเตอร์
สิ่งที่เขาคาดไม่ถึงก็คือ ไอแซคเป็นคนเปิดประตูให้!
ชาร์ลีมองเขาด้วยความประหลาดใจแล้วพูดขึ้น “คุณมาที่นี่ทำไม?”
ไอแซคตอบอย่างรวดเร็วว่า “นายน้อย ผมกลัวว่านายน้อยจะไม่ยอมให้ผมไปด้วย แต่ผมก็ไม่อยากให้ท่านไปที่นั่นคนเดียว จึงต้องใช้วิธีนี้ หวังว่านายน้อยคงไม่ตำหนิผมนะครับ”
ชาร์ลีพยักหน้าเบา ๆ “ในเมื่อคุณอยู่ที่นี่แล้ว ผมก็จะไม่ไล่คุณไปหรอก ไปด้วยกันเถอะ”
อัลเบิร์ตรู้มานานแล้วว่าชาร์ลีเป็นนายน้อยของไอแซค ดังนั้นเขาจึงไม่แปลกใจกับสิ่งที่เห็น อย่างไรก็ตาม เขารู้น้อยมากเกี่ยวกับตระกูลเวด ซึ่งแต่ละครั้งชาร์ลีจะถูกเรียกว่า ปรมาจารย์เวด แทนที่จะเป็นนายน้อยเวด
แน่นอนว่าส่วนหนึ่งเป็นเพราะ ชาร์ลีไม่อยากเปิดเผยตัวตนที่แท้จริง การเรียกเขาว่านายน้อยเวด อาจทำให้คนอื่น ๆ เข้าใจว่าเขามีส่วนเกี่ยวข้องกับตระกูลเวดในอีสต์คลิฟฟ์ได้ง่าย ๆ
อย่างไรก็ตาม เลียม วีเวอร์ ที่ยืนฟังอยู่ข้าง ๆ ก็ตกตะลึงเมื่อมีคนมาทักทายเจ้านายของเขาว่า นายน้อย
ไอแซคเป็นคนฉลาด เมื่อรู้ว่านายน้อยพาเลียมมากับเขาด้วย ไอแซคก็รู้ได้ทันทีว่าเลียมเป็นลูกน้องที่จงรักภักดีต่อนายน้อยของเขา
นอกจากนี้ เมื่อนายน้อยพาเขามาที่ภูเขากอลมิน เขาก็ต้องตั้งใจที่จะอวดฝีมือให้เห็นด้วย ด้วยเหตุนี้จึงไม่มีความจำเป็นต้องปกปิดตัวตนของเขาอีกต่อไป
เลียมรู้สึกประหลาดใจมาก เขารู้ว่าแท้จริงแล้วไอแซคเป็นใคร ด้วยเหตุนี้เขาจึงเดาตัวตนที่แท้จริงของชาร์ลีได้ง่าย ๆ เมื่อไอแซคทักทายเขาว่าแนายน้อย
ตอนนั้นเขาตกใจสุดขีด
เขาไม่เคยนึกฝันมาก่อนว่า เจ้านายของเขาไม่เพียงเป็นปรมาจารย์ผู้ทรงอำนาจเท่านั้น แต่ยังเป็นนายน้อยของตระกูลเวดอันทรงเกียรติอีกด้วย
ความแข็งแกร่งที่ไม่ธรรมดาของเขาเพียงอย่างเดียวก็น่าชื่นชมอยู่แล้ว แต่การสืบเชื้อสายมาจากตระกูลขุนนางนั้นยิ่งทำให้รู้สึกทึ่งยิ่งขึ้นไปอีก
จึงไม่น่าแปลกใจเลยที่จะเห็นเขาถูกขนานนามว่าเป็นมังกรที่แท้จริงบนปฐพี!
ด้วยความแข็งแกร่งอันเหลือเชื่อ และภูมิหลังของครอบครัวที่ทรงพลัง เขาสมควรได้รับการต้อนรับในฐานะมังกรที่แท้จริงบนปฐพีจริง ๆ !
ด้วยเหตุนี้ เขาจึงคุกเขาลงทันที แล้วกล่าวกับชาร์ลีด้วยความเคารพว่า “ปรมาจารย์เวด คุณเป็นนายน้อยผู้สูงศักดิ์จากตระกูลเวด ผมจะไม่มีวันลืมความเมตตาอันยิ่งใหญ่ของคุณ ในการตั้งใจต่อสู้กับความอยุติธรรมเพื่อผมและแม่ผมที่สิ้นลมไปแล้ว รวมทั้งการต่อสู้เพื่อให้ได้มาซึ่งทรัพย์สินของตระกูลเพื่อผมด้วย”
ชาร์ลีตอบอย่างใจเย็นว่า “เลียม ถ้านายซาบซึ้งในตัวฉัน นายจะต้องให้คำมั่นสัญญาว่าจะจงรักภักดีต่อฉันอย่างไม่มีวันเสื่อมคลาย แล้วนายจะพบแต่ความมั่งคั่งรุ่งเรือง”
หลังจากนั้นเขาก็มองไปที่อัลเบิร์ต และพูดด้วยรอยยิ้มว่า “นายก็เหมือนกัน อัลเบิร์ต”
อัลเบิร์ตรีบคุกเข่าลงทันที แล้วพูดด้วยความเคารพว่า “นายน้อย ตั้งแต่วินาทีแรกที่คุณได้ช่วยผมจากผู้คุ้มกันของตระกูลเว็บบ์ ชีวิตของผมก็ได้เป็นของนายน้อยแล้วครับ!”