กลลวง นายสุดเท่ห์ ชาร์ลี เวธ - บทที่ 1153
กลลวง นายสุดเท่ห์ ชาร์ลี เวธ บทที่ 1153
เอมิเลียโน่ตกตะลึงจนตัวแข็งทื่อราวกับถูกฟ้าผ่า! เมื่อเห็นฮาเดสพ่ายแพ้ในทันที
ถึงแม้ว่าเขาจะมีความแข็งแกร่งกว่าฮาเดสเล็กน้อยในแง่ของศิลปะการต่อสู้ แต่พลังกำปั้นของเขายังด้อยกว่ากำปั้นเหล็กของฮาเดสอยู่มาก
อย่างไรก็ตาม ฮาเดสได้ใช้เวลาหลายสิบปีในการเสริมสร้างและพัฒนาความแข็งแกร่งนี้ให้กับกำปั้นเหล็กของเขาเพียงอย่างเดียว จนถึงจุดที่ไม่มีคู่ต่อสู้คนไหนบนโลกนี้ที่มีพลังหมัดทัดเทียมกับเขาได้ แล้วใครจะไปคาดคิดล่ะว่า ชายหนุ่มในวัยยี่สิบกว่า ๆ จะบดขยี้กำปั้นและแขนของเขาให้แหลกละเอียดได้ด้วยการชกเพียงแค่หมัดเดียว…
มันเป็นพลังทำลายล้างที่รุนแรงมาก ชนิดที่พวกเขาไม่เคยพบไม่เคยเห็นมาก่อน!
เอมิเลียโน่รู้สึกเสียใจมาก!
ดูเหมือนว่าเด็กหนุ่มที่ชื่อ’ชาร์ลี’คนนี้จะไม่ใช่คนธรรมดาๆ ซะแล้ว!
วันนี้พวกเขาทั้งแปดจะต้องพบกับการต่อสู้ที่ดุเดือด!
ในขณะเดียวกัน ไอแซคและคนอื่น ๆ ก็พลันตกใจไม่แพ้กัน!
ไม่มีใครคาดคิดเลยว่า ชาร์ลีจะทรงพลังขนาดนี้! มันอยู่เหนือจินตนาการจริง ๆ !
ศัตรูที่ชาร์ลีเผชิญหน้าอยู่นั้นเป็นบุคคลที่น่านับถือ และเป็นที่เข้าใจได้แม้ว่าชาร์ลีจะต่อสู้กับเขานับสิบรอบ ก่อนที่จะเอาชนะเขาได้ แต่ชาร์ลีก็เป็นฝ่ายกระแทกกำปั้นเหล็กของฮาเดสก่อน!
เป้าหมายของเขาค่อนข้างตรงไปตรงมา! เมื่อแกอ้างว่ามีกำปั้นเหล็ก ฉันก็มาที่นี่เพื่อทำลายกำปั้นเหล็กนั้นให้แหลกเป็นผง!
ในบรรดาผู้คนทั้งหมดเหล่านั้น ฮาเดสเป็นคนที่ต้องเสียใจมากที่สุด เมื่อเขานอนจมกองเลือดอยู่ตรงนั้น
เขาไม่คิดเลยว่า ร่างกายในส่วนเขามั่นใจและทรงพลังที่สุดนั้น จะเปราะบางและอ่อนแอเหลือเกิน เมื่ออยู่ต่อหน้าชายคนนี้
เมื่อมองไปที่แขนขวาที่แตกเป็นเสี่ยง ๆ ก็ดูเหมือนเศษเนื้อห้อยรุ่งริ่งอยู่บนร่างกาย เขารู้ว่าความเชี่ยวชาญที่เขาเฝ้าเพียรฝึกฝนมานั้น ตอนนี้ได้ลดงไปครึ่งหนึ่งแล้ว!
ฮาเดสรู้สึกสิ้นหวังอย่างมาก หลังจากการฝึกฝนมาอย่างหนักนับหลายทศวรรษนั้น ต้องลดลงครึ่งหนึ่งทันทีที่เขาก้าวเข้าสู่สังเวียนการต่อสู้ เขาคลานด้วยแขนข้างเดียวไปหาเอมิเลียโน่ แล้วร้องว่า “เอมิเลียโน่ พี่ต้องล้างแค้นให้ผมนะ!”
สีหน้าของเอมิเลียโน่ดูเข้มขึ้นในขณะที่เขาพยักหน้า “ไม่ต้องเป็นห่วงฮาเดส พี่จะให้มันชดใช้ในสิ่งที่ทำกับน้องพี่อย่างแน่นอน!”
จากนั้นเขาหันไปหาพี่น้องอีกหกคน แล้วพูดว่า “พี่น้องทั้งหลาย ไอ้เด็กนั่นแข็งแกร่งมากจริง ๆ ! จะลุยเดี่ยวกับมันไม่ได้แล้ว เรามาผนึกกำลังร่วมกันต่อสู้ด้วยกันเถอะ!”
ชาร์ลีได้ยินเสียงกู่ร้องนั้น เขาก็พลันระเบิดหัวเราะออกมา “แกเพิ่งพูดเองไม่ใช่เหรอว่าเป็นเวลาหลายทศวรรษแล้ว ที่เหล่าแปดผู้ยิ่งใหญ่สร้างชื่อเสียงขึ้นมา จากการลงสนามการต่อสู้มาอย่างโชกโชน? ดูเหมือนจะเป็นเรื่องขี้โม้ไร้สาระทั้งเพ! ถ้าอย่างนั้น ไอ้พวกหมาแก่ทั้งหลายก็เข้ามาพร้อมกันทีเดียวทั้งแปดตัวเลย ฉันจะได้จัดการพวกแกให้สิ้นท่าไปซะ!”
เอมิเลียโน่มีสีหน้าแดงก่ำในขณะที่ร้องออกมาว่า “เฮ้ย! กล้าดียังไงมายั่วโมโหฉันแบบนี้! แกทำให้น้องฉันต้องบาดเจ็บ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า จะโค่นพวกเราทั้งเจ็ดคนได้หรอกนะ! วันนี้ฉัน… เอมิเลียโน่… ขอประกาศเอาชีวิตแกทิ้งไว้ที่ภูเขากอลมินแห่งนี้!”
จากนั้น เขาก็พูดขึ้นอย่างขุ่นเคือง “แต่ไม่ต้องเป็นห่วงนะ ฉันจะทิ้งศพแกไว้ที่นี่ แล้วเอาแต่หัวของแกไปให้คุณท่านเว็บบ์ได้ดูที่ซัดเบอรี่! ถ้าคุณท่านรู้สึกเวทนาแก เขาอาจจะเอาไปเป็นของขวัญให้เมียแกก็ได้นะ!”
ชาร์ลีแสยะยิ้มอย่างดูถูกเหยียดหยาม “เอมิเลียโน่ ฟลอเรสเหรอ? ไม่ต้องห่วง พวกแกทั้งแปดจะได้ตายที่นี่ในวันนี้แหละ แต่ฉันจะไม่เอาหัวพวกแกไปหรอกนะ เพราะคนน่ารังเกียจอย่างพวกแก ไม่มีค่าพอให้ฉันต้องทำอย่างนั้น!”
“แกกล้าดียังไง!” เอมิเลียโน่คำรามอย่างขุ่นเคือง “พวกเราทั้งแปดไม่เคยลิ้มรสความพ่ายแพ้ นับตั้งแต่วันที่เราเริ่มต้น มือของเราชุ่มไปด้วยเลือดจากศัตรูมานับไม่ถ้วน จะเอาเลือดของแกมาเปื้อนมือฉันอีกสักคน… ก็คงไม่เป็นไร!”
ชาร์ลียิ้มอย่างมีเลศนัยแล้วพูดว่า “วันนี้ ฉันจะขอแก้แค้นให้แก่ดวงวิญญาณที่ถูกพวกแก่ฆ่าอย่างไร้ความยุติธรรม!”
เอมิเลียโนกัดฟันกรอดแล้วตะโกนว่า “พี่น้องทั้งหลาย มาร่วมกันฆ่าไอ้สารเลวนี่ด้วยกันเถอะ! เราจะใช้หัวมันเป็นเครื่องสังเวยให้กับแขนขวาของฮาเดส!”
ทันทีที่เสียงกู่ร้องของเขาจบลง เขาก็เดินนำพี่น้องหกคนเข้าไปรุมสกรัมชาร์ลี!
ชาร์ลียืนอยู่ในจุดของเขาอย่างมั่นคง วางแขนซ้ายไว้ทางด้านหลัง แล้ววางแขนขวาไว้ทางด้านหน้า ตอนนี้พลังภายในทั้งหมดของเขาถูกรวบรวมไว้ที่มือขวา โดยไม่เผยให้เห็นร่องรอยใด ๆ เขารู้สึกได้ถึงความตื่นเต้นเล็กน้อยที่เต้นเป็นจังหวะอยู่ภายในร่างกาย เลือดในกายเริ่มร้อนระอุ
นับตั้งแต่ที่เขาได้รับคัมภีร์วันสิ้นโลกมา ความรู้จากคัมภีร์เล่มนี้ทำให้ชาร์ลีไม่เคยพบคู่ต่อสู้ที่ทรงพลังอย่างแท้จริงเลยสักครั้ง