กลลวง นายสุดเท่ห์ ชาร์ลี เวธ - บทที่ 1169
กลลวง นายสุดเท่ห์ ชาร์ลี เวธ บทที่ 1169
การล้อเลียนของเอเลนทำให้คริสโตเฟอร์โกรธเป็นฟืนเป็นไฟ เขากระโดดและด่าทออย่างเดือดดาล “นังเอเลน นังชั่ว แกอยากตายนักใช่ไหม?”
เอเลนหัวเราะอย่างมีความสุข แล้วพูดว่า “โธ่เอ๋ย… คริส อย่าโกรธไปเลย ฉันใช้เงินไปตั้งหลายร้อยดอลลาร์เพื่อซื้อหมวกพวกนี้นะ แล้วฉันก็อยากมอบให้แกทั้งหมดนี่เลย”
จากนั้นเอเลนก็หยิบตุ๊กตานินจาเต่าออกมาจากที่ไหนสักที่ แล้วพูดเสียงดังฟังชัดว่า “ดูนี่สิคริส… แกว่าตุ๊กตาตัวนี้หน้าตาเหมือนแกมากใช่ไหมล่ะ? ไม่เพียงแต่หัวมีสีเขียวเท่านั้นนะ แต่ยังอดทนเก่งอีกต่างหาก ก็ด้วยความที่เป็นนินจานั่นแหละ! โอ้… พระเจ้า นี่เป็นภาพเหมือนที่ดีที่สุดของแกเลยนะ! ฮ่า ฮ่า ฮ่า…”
คริสโตเฟอร์เดือดดาลมาก ร่างกายของเขาสั่นเทิ้มอย่างรุนเแรง รวมถึงเสียงของเขาในขณะตะโกนด้วยว่า “นังสารเลว ทำไมไม่ตาย ๆ ไปซะ? คนไร้ศีลธรรมอย่างแกสมควรตกนรก!”
เอเลนหัวเราะแล้วบอกว่า “โอ้… คริส ฉันมอบหมวกพวกนี้ให้แกด้วยใจเมตตา แต่แกยังมาแช่งให้ฉันตกนรกอีก นี่คือวิธีที่แกตอบแทนความดีให้ฉันเหรอ? แต่ด้วยความที่ฉันเป็นผู้ใหญ่กว่า ก็ขอยกโทษให้แล้วกันนะ แล้วก็ขอมอบหมวกพวกนั้นให้แกด้วย ฉันซื้อมาตั้งยี่สิบกว่าใบ แกเลือกใส่แบบไม่ซ้ำกันได้ถึงสามสัปดาห์ติดต่อกันเลยนะ”
คริสโตเฟอร์ยิ่งเดือดดาลมากขึ้น จนต้องกัดฟันแน่นแล้วก่นด่า “ก็ได้… นังสารเลวโง่เง่า ฉันจะโทรเรียกฝ่ายจัดการให้มาฟังการร้องทุกข์ของฉันในเรื่องนี้ แล้วแกคอยดูแล้วกันว่าจะเกิดอะไรตามมา!”
เขารีบหยิบโทรศัพท์ออกมาทันที และโทรหาฝ่ายจัดการของธอมป์สัน เฟิร์ส “สวัสดีครับ ผมเป็นเจ้าของวิลล่า AO4 ผมมีเรื่องร้องทุกข์เกี่ยวกับเจ้าของวิลล่า A05 ที่แขวนข้าวของรกรุงรังไว้บนระเบียงห้อง ช่วยกรุณามาตรวจสอบหน่อย!”
หลังจากนั้นไม่นาน รถไฟฟ้าจากฝ่ายจัดการทรัพย์สินก็มาถึงที่เกิดเหตุ
พนักงานสี่คนลงมาจากรถไฟฟ้าแล้วถามว่า “สวัสดีครับ คุณใช่คนที่โทรไปร้องทุกข์เมื่อสักครู่หรือเปล่าครับ?”
คริสโตเฟอร์ตอบว่า “ใช่ครับ ผมเอง ผมอยากจะร้องทุกข์เกี่ยวกับผู้หญิงคนนั้น ดูสิ่งที่เธอแขวนไว้บนระเบียงห้องเธอสิ!”
เอเลนพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ฉันแค่แขวนหมวกไว้ที่ระเบียง มันผิดกฎข้อบังคับตรงไหนไม่ทราบคะ?”
ชายสี่คนมองไปหมวกแล้วพูดอย่างช่วยอะไรไม่ได้ “ท่านครับ ระเบียงของเจ้าของวิลล่าเป็นอาณาเขตส่วนตัว ตามหลักแล้วเราไม่มีสิทธิ์เข้าไปยุ่งเกี่ยว ไม่ว่าบ้านนั้นจะแขวนอะไรไว้บนระเบียงก็ตาม ยกเว้นจะเป็นสิ่งที่ผิดกฎหมาย ฉะนั้นจึงถือเป็นเสรีภาพของคุณผู้หญิงที่จะแขวนหมวกไว้ตรงระเบียงโดยไม่ผิดกฎหมาย”
“เสรีภาพอะไรกันวะ!” คริสโตเฟอร์สบถอย่างขุ่นเคือง
ถ้าเอเลนแขวนหมวกพวกนั้นไว้ทั้งวัน คงจะทำให้แสบตาน่าดู!
คำดุด่าของคริสโตเฟอร์ทำให้พนักงานจากฝ่ายจัดการรู้สึกไม่สบายใจเล็กน้อย แต่พวกเขายังคงพูดอย่างสุภาพว่า “ต้องขออภัยด้วยครับท่าน เรื่องนี้ไม่ได้อยู่ภายใต้การควบคุมของฝ่ายจัดการครับ”
จากนั้นพวกเขาก็กระโดดขึ้นรถไฟฟ้า แล้วขับออกไป
เอเลนหัวเราะเสียงดังก้องไปทั่ววิลล่า “ฮ่า ฮ่า ฮ่า! คริสโตเฟอร์ แกทำอะไรกับเรื่องนี้ไม่ได้หรอก! ฉันจะแขวนหมวกพวกนี้ไว้ที่นี่ตลอดไป และพรุ่งนี้ฉันจะไปซื้อมาเพิ่มอีกสักยี่สิบใบ จะได้เอามาเติมในคอลเลคชันนี้! ฉันอยากให้แกเห็นทุกครั้งที่ลืมตาตื่นขึ้นมา! ฉันอยากให้แกเห็นหมวกสีเขียวพวกนี้เริงระบำและแกว่งไกวไปตามสายลม!”
“แก… แก… แก…” คริสโตเฟอร์มีสีหน้าแดงก่ำจากการถูกปลุกปั่นจนตัวเขาแทบจะระเบิด
ในขณะนั้น ชาร์ลีและแคลร์ต่างก็ได้ยินเสียงเอะอะโวยวาย จึงออกไปดูที่ระเบียงชั้นสอง พวกเขาสบตากันอย่างสิ้นหวัง หลังจากรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แล้วได้แต่ทอดถอนใจ
แคลร์พูดพร้อมกับถอนหายใจ “ชาร์ลี คุณคิดว่าคุณแม่ทำเกินไปหน่อยหรือเปล่าคะ?”
ชาร์ลียิ้มอย่างเฉยเมย แล้วพูดว่า “อืม… ผมคิดว่าไม่เป็นไรหรอก คุณยังจำตอนที่พวกเขาปฏิบัติต่อเราอย่างหยาบคายและโหดร้ายได้ไหมครับ?”
“พวกเขาล้อเลียนและเยาะเย้ยถากถางพวกเรา หลังจากที่รู้ว่าเราเจอะเจอปัญหาโดยไม่คาดคิด”
“คุณลืมไปแล้วหรือว่า พวกเขาดูถูกเหยียดหยามเราขนาดไหน ตอนที่เราไปที่สำนักงานขายของธอมป์สัน เฟิร์สน่ะ”
“และในวันที่คุณเปิดบริษัทด้วย พวกเขาก็เข้ามาล้อเลียนพวกเราเหมือนกันไม่ใช่เหรอ?