กลลวง นายสุดเท่ห์ ชาร์ลี เวธ - บทที่ 19
กลลวง นายสุดเท่ห์ ชาร์ลี เวธ บทที่ 19
“แล้วนายคิดว่านายเป็นใคร?”
เวนเดลล์มองไปที่ชาร์ลีด้วยความสงสัยขณะที่เขาพูดอย่างเย็นชา “นายไม่ได้เป็นอะไรเลยนอกจากไอ้ขี้แพ้ นายไม่สามารถแม้แต่จะดูแลภรรยาของนายให้อยู่ในลู่ในทางได้ การที่แคลร์มาอยู่กับนาย มันเป็นการสูญเปล่าทำไมนายไม่ปล่อยเธอไปเพื่อให้เธออยู่กับฉัน ฉันให้เธอได้ทุกอย่างที่เธอต้องการ!”
ความเยือกเย็นเริ่มเข้ามาอยู่ใต้ใบหน้าของชาร์ลี เขาเริ่มต้นด้วยน้ำเสียงที่เย็นชาและ “ฉันจะให้นายเลือกสองทาง หนึ่ง ขอโทษแคลร์ซะ และขอคืนคำพูดทุกอย่างที่นายพูดต่อหน้าทุกคน หรือสอง ฉันจะทำให้บริษัทของครอบครัวนายล้มละลาย ตัดสินใจมาได้เลย”
“ ฮ่า ๆ ๆ ! นี่ล้อเล่นกับฉันอย่างนั้นเหรอ? คิดว่าตัวเองเป็นใครกันที่จะทำให้ครอบครัวฉันล้มละลาย?”
เวนเดลล์หัวเราะดังลั่นขณะที่เขาจ้องมองชาร์ลีอย่างดูถูกเหยียดหยาม เห็นได้ชัดว่าเขาไม่ได้จริงจังกับชาร์ลีซะเลย
“นี่นายเป็นบ้าไปแล้วเหรอ? นายกำลังฝันกลางวันอยู่หรือเปล่า? นายรู้หรือเปล่าว่าทรัพย์สินของ บริษัทฉันเท่าไหร่? นายเนี่ยนะจะสามารถทำอะไรให้เราล้มละลาย? ฮ่าฮ่า!”
ชาร์ลีแสดงสีหน้าไม่พอใจ ขณะมองเวนเดลล์สักพักราวกับว่าเขากำลังมองคนงี่เง่า จากนั้นเขาหยิบโทรศัพท์และโทรหาสตีเฟน
“ในอีกสามนาทีฉันอยากเห็นการล้มละลาย และปล่อยยอดหนี้ทั้งหลายของธุรกิจของตระกูลโจนส์ ปล่อยให้หนี้พวกเขาพุ่งให้สูงที่สุด!”
สามนาทีในการทำให้ บริษัท ที่มีมูลค่าสุทธินับพันล้านล้มละลายนั้นเป็นไปไม่ได้เลย!
เวนเดลล์จ้องกลับไปที่ชาร์ลีด้วยความตกใจและพูดว่า “ไอ้บ้าเอ้ย นายมันเต็มไปด้วยคำโกหก! นายคิดว่านายเป็นไฮโซคนนั้นบนอินเทอร์เน็ตจริง ๆ เหรอไง?”
จากนั้นเขาพูดต่ออย่างเย็นชา “ไอ้ขี้แพ้ หยุดเสแสร้งฉันจะให้ทางเลือกสองทางกับนายด้วยเช่นกัน หนึ่ง คุกเข่าขอโทษฉันแล้วหย่ากับแคลร์ทันที สอง ฉันจะให้ใครสักคนมาทุบตีนาย และทำให้นายพิการ และให้นายได้เห็นตัวตนที่น่าสมเพชของนายว่าแคลร์น่ารักแค่ไหนกับฉัน ตัดสินใจเลย! ฉันจะให้เวลานายพิจารณาตัวเลือกของนายสักครู่!”
ชาร์ลีเหลือบมองนาฬิกาและพูดว่า “นายเหลือเวลาอีก 1 นาที แน่ใจหรือว่าไม่ต้องการกอบกู้ บริษัทของนายแม้แต่นิดเดียว?”
“ไอ้สารเลว! นายมีเวลาตัดสินใจสามสิบวินาที! ถ้าตอนนี้นายไม่ได้คุกเข่าฉันจะทำให้นายเสียใจตลอดไป!” เวนเดลล์ขู่
“ยี่สิบวินาที!”
“สิบวินาที!”
“ห้าวินาที!”
“หมดเวลา! อย่าโทษว่าฉันเป็นใจดำกับสิ่งที่นายเลือกแล้วกัน!”
เวนเดลล์ดึงคอเสื้อของเขาและแสดงท่าทางไปที่บอดี้การ์ดรอบตัวเขาเพื่อพร้อมที่จะจัดการ
ในขณะเดียวกัน จู่ ๆ โทรศัพท์ของเขาก็ดังขึ้น
เวนเดลล์ดูประหลาดใจกับสิ่งที่เห็น เขามองไปที่โทรศัพท์และเห็นว่าเป็นสายของพ่อเขาจึงรีบรับสาย
“พ่อครับ ผมอยู่ที่โรงแรมแล้วพ่ออยู่ที่ไหน?”
ทางโทรศัพท์พ่อของเวนเดลล์พูดอย่างเดือดดาลว่า “ไอ้ลูกเวร! ครั้งนี้แกไปทำอะไร? แกทำให้ใครขุ่นเคืองอีกแล้ว? ตอนนี้ผู้ถือหุ้นทั้งหมดขายหุ้นของเราทิ้งไปหมดแล้ว ราคาหุ้นของเราลดลงกว่า 80%!”
จากนั้นเขายิ่งขึ้นเสียงดังขึ้น “ธนาคารทั้งหลายก็ต่างมาที่ประตูบ้านของเราเพื่อเรียกร้องให้ชำระหนี้! พาร์ทเนอร์ทั้งหมดได้ระงับโครงการของพวกเขากับเราอย่างกะทันหัน และยุติข้อตกลง! ห่วงโซ่ทุนของเราขาดไปแล้ว! เราเหลือเพียงการประกาศล้มละลายและการเคลียร์หนี้สิน!”
ประหนึ่งว่าเลือดไหลออกมาจากใบหน้าของเวนเดลล์ในขณะที่เขาฟังคำรามที่ดังมาจากอีกด้านหนึ่งของสาย เหงื่อเย็นไหลลงหน้าผากของเขา
“พวกเราชิบหายกันหมดแล้ว! พังพินาสหมดแล้ว!”
เวนเดลล์อ้าปากค้าง เพื่ออยากถามอะไรบางอย่าง แต่เขาได้ยินเสียงไซเรนผ่านโทรศัพท์ตามด้วยเสียงทุบประตูของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ขอให้พ่อของเขามาที่สถานีเพื่อทำการสอบสวน
ทันใดนั้นขาของเขาก็กลายเป็นวุ้น และคุกเข่าต่อหน้าชาร์ลี โทรศัพท์ของเขาตกลงไปที่พื้นและแตกเป็นเสี่ยง ๆ
สายลมยามค่ำคืนพัดเบา ๆ ร่างกายและหัวใจของเขาเย็นเฉียบราวกับน้ำแข็ง
เมื่อเห็นฉากดังกล่าวเหล่าบอดี้การ์ดก็สบตากันอย่างระมัดระวัง และไม่กล้าที่จะก้าวไปข้างหน้า
ด้วยความกลัว เวนเดลล์ถามชาร์ลีด้วยน้ำเสียงที่ตกใจ “นายเป็นใคร? นายเป็นคนทำสิ่งนี้ใช่ไหม?”
ผู้สังเกตการณ์ต่างก็ประหลาดใจไม่แพ้กัน หลังจากรับสายจู่ ๆ เวนเดลล์ โจนส์ ก็คุกเข่าต่อหน้าลูกเขยของตระกูลวิลสัน นี่มันเกิดอะไรขึ้น?
ชาร์ลีมองลงไปที่เขา จากนั้นเขาโค้งตัวเล็กน้อย และกระซิบ “ฉันให้โอกาสนายเลือกตัวเลือกของนายแล้วนี่ แต่นายกลับไม่ได้เลือกอย่างฉลาดที่สุด”
“ฉันขอโทษ ฉันขอโทษจริง ๆ ได้โปรด โปรดยกโทษให้ฉันด้วย โปรดช่วยฉันด้วย! ไม่มีอะไรระหว่างฉันกับแคลร์ ฉันไม่เคยแม้แต่จะสัมผัสเธอ เรื่องสัญญากับเอ็มแกรนด์ กรุ๊ป ก็ไม่ใช่ฉันที่ช่วยเธอ! ทุกสิ่งที่ฉันพูดมันเป็นเพียงคำโกหก! ฉันสร้างมันขึ้นมา! ได้โปรดฉันขอร้อง! โปรดไว้ชีวิตฉัน และครอบครัวด้วย!”
เวนเดลล์โขกหัวตัวเองลงบนพื้นและขอโทษอย่างสุด ๆ เขาไม่เคยคาดคิดมาก่อนว่าลูกเขยที่ต่ำต้อยของตระกูลวิลสันจะมีอำนาจและอิทธิพลมากมายในมือของเขา โทรศัพท์ธรรมดา ๆ คือสิ่งที่ทำให้ครอบครัวของเขาล้มละลาย!
เมื่อเขาเงยหน้าขึ้นมองชาร์ลี เขารู้สึกว่าใบหน้าที่เรียบเฉย และไร้อารมณ์นั้นน่ากลัวยิ่งกว่าปีศาจ!
ใครบางคนที่สามารถทำลายครอบครัวของเขาได้ในไม่กี่นาทีด้วยน้ำมือของเขา! เขาไม่ได้อยู่ในจุดที่ที่จะทำให้เขาขุ่นเคืองได้อีกต่อไป!
ชาร์ลีส่ายหัว และพูดว่า “นายควรจะขอบคุณอย่างน้อยที่ฉันก็ไว้ชีวิตนาย! มิฉะนั้นครอบครัวของนายทั้งหมดจะต้องตายในตอนนี้!”
ใบหน้าของเวนเดลล์ซีดราวกับแผ่นกระดาษ และร่างกายของเขาสั่นอย่างรุนแรง
ชาร์ลีพูดต่อด้วยน้ำเสียงเย็นชา “จะบอกความจริงกับนายไว้นะ ใช่ ฉันเป็นไฮโซคนนั้นในวิดีโอ ถ้านายไม่อยากตายอย่าบอกใครเกี่ยวกับตัวตนของฉัน ไม่งั้นล่ะก็ ฉันจะไม่สัญญาว่าพ่อนายจะยังมีชีวิตอยู่จนถึงพรุ่งนี้เช้า! จำคำพูดฉันไว้ซะ!”
จากนั้นเขาตบหน้าเวนเดลล์ พร้อมกับลุกขึ้นยืน แล้วเดินเข้าไปในห้องโถงโดยไม่สนใจเวนเดลล์อีกต่อไป
สำหรับเวนเดลล์ เขาหมอบลงบนพื้นและยังช็อคอยู่ เขาไม่กล้าขัดขืนแม้แต่น้อยกับการกระทำของชาร์ลีที่ทำให้เขาอับอาย
เขามองดูขณะที่ชาร์ลีเดินเข้าไปในห้องโถง และเขาก็รีบคลานเข้าไปในห้องโถงด้วย
เขามองไปรอบ ๆ อย่างตกใจ จนกระทั่งเห็นแคลร์ จากนั้นเขาก็รีบเข้าไปหาเธอคุกเข่าที่เท้าของเธอ และร้องครวญครางว่า “แคลร์ผมขอโทษ ผมไม่ควรเผยแพร่ข่าวลือที่ไร้สาระเกี่ยวกับคุณ ผมไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับโครงการของเอ็มแกรนด์ กรุ๊ป ทั้งสิ้น ได้โปรดช่วยผมด้วย!”
แคลร์รู้สึกตกใจกับปฏิกิริยาที่ไม่คาดคิดของเขา เธอรีบเดินถอยไปข้างหลัง และสะดุดเข้าสู่อ้อมกอดอันอบอุ่น
แคลร์มองกลับไป และเห็นว่าคนที่กอดเธอคือชาร์ลี
ชาร์ลีเห็นเธอทันทีที่เขาเข้ามา เธอแต่งตัวสวยงามมากคืนนี้ เหมือนดวงดาวที่ส่องสว่างท่ามกลางฝูงชน เธอมีเสน่ห์และสวยงามอย่างน่าหลงใหล
เมื่อเห็นเวนเดลล์วิ่งเข้าหาแคลร์ เขาจึงรีบกอดเธอไว้ในอ้อมแขนเพื่อป้องกันไม่ให้เธอล้มลง และจ้องมองเวนเดลล์อย่างดูถูกเหยียดหยาม
เวนเดลล์รีบคลานหนีเพราะกลัวว่าเขาอาจทำให้ชาร์ลีโกรธอีก
แคลร์ขมวดคิ้วด้วยความสับสน “เกิดอะไรขึ้นกับเขาคะ…”
ชาร์ลีกระซิบขณะอุ้มเธอ “ต้องมีบางอย่างผิดปกติกับประสาทสัมผัสของเขาแน่ๆ อย่าสนใจเขาเลยครับ”
แม้ว่าพวกเขาจะเป็นสามีภรรยากัน แต่ก็ไม่ได้มีความสนิทสนมกันมาก่อน แคลร์เขินจนหูของเธอแดงขณะที่เธอรู้สึกถึงความอบอุ่นของชาร์ลีที่อยู่รอบตัวเธอ
เธอขยับตัวออกจากอ้อมกอดของชาร์ลีอย่างเชื่องช้า และพูดว่า “เอิ่มม ท่านประธานเวดจากเอ็มแกรนด์ กรุ๊ป น่าจะอยู่ที่นี่แล้ว ฉันจะไปดูหน่อย…”