กลลวง นายสุดเท่ห์ ชาร์ลี เวธ - บทที่ 498
กลลวง นายสุดเท่ห์ ชาร์ลี เวธ บทที่ 498
เคนเน็ธจ้องไปที่หัวหน้าตระกูลวีเวอร์ก่อนจะตะโกนว่า “จอร์แดน วีเวอร์! คุณยังไม่พบวิธีรักษาฉันอีกเหรอ?”
จอร์แดนตัวสั่นเล็กน้อยขณะตอบ “อย่ากังวลไป ประธานวิลสัน ผมได้ส่งคนไปหาหมอที่มีชื่อเสียงมารักษาคุณแล้ว ผมยังได้ระดมรายชื่อผู้ติดต่อของตระกูลวีเวอร์ทั้งหมดในอุตสาหกรรมยา และเราทุกคนกำลังมองหายาปฏิชีวนะที่แรงกว่าที่จะช่วยรักษาคุณได้”
แม้ว่าเขาจะพูดอย่างนั้น จอร์แดนก็รู้ว่าไม่มีความหวังเลย
เดิมทีเขาหวังว่าเจฟฟรีย์จะสามารถเชิญแอนโธนีให้มารักษาเคนเน็ธได้ แต่แอนโธนีแทบไม่มองหน้าเขาเลยด้วยซ้ำ หลังจากที่แอนโธนีไล่เจฟฟรีย์ออกจากซีรีน เวิลด์ คลินิกแล้ว เขาก็ไปหาหมออัจฉริยะชื่อดังอีกสองสามคนในโอลรัส ฮิลล์ อย่างไรก็ตาม ทันทีที่ใครก็แล้วแต่ได้ยินว่าผู้ป่วยคือเคนเน็ธ ก็ไม่มีใครอยากจะเข้ามาช่วย
อันที่จริง ข่าวลือเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกี่ยวข้องกับแอนโธนีได้แพร่กระจายไปทั่วโอลรัส ฮิลล์แล้ว ยิ่งกว่านั้น พวกเขายังรู้ด้วยว่าองคชาตของเคนเน็ธเป็นแผลเพราะเขากินยาอย่างไม่ระมัดระวัง
แพทย์ที่โรงพยาบาลซิลเวอร์ วิง ยังกล่าวด้วยว่าวิธีเดียวที่จะรักษาสถานการณ์นี้คือการตัดทิ้ง แล้วตอนนี้ใครจะกล้ามีส่วนร่วมในเรื่องนี้?
หากเขาไม่ได้รับการรักษา ไม่เพียงแต่พวกเขาจะถูกเยาะเย้ย แต่พวกเขาอาจต้องทนทุกข์จากการตอบโต้ของเคนเน็ธด้วย ท้ายที่สุดเขาได้ตอบโต้ตระกูลวีเวอร์เพียงเพราะพวกเขาให้ยาแก่เขาซึ่งทำให้อวัยวะเพศของเขาเน่าเปื่อยในที่สุด
หลังจากค้นหาไปทั่วโดยไม่หวังว่าจะพบใครที่จะรักษาเคนเน็ธได้เลย เจฟฟรีย์ทำได้แค่กลับบ้านด้วยความสิ้นหวัง
ในเวลานี้ สมาชิกคนอื่นๆ ของตระกูลวีเวอร์ก็อยู่ในสถานการณ์เดียวกันกับเจฟฟรีย์ ทันทีที่ใคร ๆ ได้ยินว่าคนไข้คือเคนเน็ธ แพทย์ 11 ใน 10 คนต่างก็ไม่ยอมมา พวกเขาไม่ต้องการมาแม้ว่าจะได้รับเงินเป็นจำนวนมากก็ตาม
เมื่อจอร์แดนเห็นสิ่งนี้ เขาก็รู้สึกว่าอนาคตของตระกูลวีเวอร์นั้นช่างมืดมนเหลือเกิน
อันที่จริง อัตราการเปื่อยเน่าของเคนเน็ธไม่ได้ช้าเกินไป ในอัตรานี้สามารถประมาณได้ว่าองคชาตของเขาจะเน่าเสียจนหมดภายในเวลาไม่ถึงสองวัน ในเวลานั้นตระกูลวีเวอร์จะต้องพบกับจุดจบอย่างแน่นอน…
ตอนนี้เจฟฟรีย์ลากจอร์แดนไปด้านข้างก่อนจะถามด้วยน้ำเสียงที่แผ่วเบาว่า “พ่อ… เราควรทำอย่างไรดี? ทำไมเราไม่หนีแทนล่ะ?”
จอร์แดนมองเจฟฟรีย์ด้วยสีหน้าบูดบึ้ง ยิ่งเขามองเขามากเท่าไหร่ เขาก็ยิ่งรู้สึกโกรธ และหงุดหงิดมากขึ้นเท่านั้น “แกมันรู้วิธีหนีตลอดเวลาเท่านั้น! แกจะวิ่งไปที่ไหน? แกคิดว่าเคนเน็ธจะไม่ตามหาเราหลังจากที่เราออกจากโอลรัส ฮิลล์งั้นเหรอ?”
หลังจากนั้น จอร์แดนมองเจฟฟรีย์ด้วยสีหน้าหงุดหงิดขณะที่เขาพูดว่า “ฉันขอให้แกพาด็อกเตอร์ซิมมอนส์มาที่นี่ แต่แกกลับมาด้วยตัวคนเดียว! แกนี่มันไร้ประโยชน์จริง ๆ !”
เจฟฟรีย์ไม่พอใจมาก และเขาก็เถียงว่า “พ่อครับ พ่อจะโทษผมไม่ได้หรอก! ทันทีที่ดร.ซิมมอนส์ได้ยินว่าผมอยากให้เขารักษาเคนเน็ธ เขาก็ปฏิเสธทันที เห็นได้ชัดว่าเขาเป็นปฏิปักษ์กับเคนเน็ธ แล้วผมจะทำอะไรได้อีก?”
ในเวลานี้จอร์แดนยกมือขึ้นตบหน้าเจฟฟรีย์ก่อนจะสาปแช่งเขาว่า “แกมันเป็นแบบนี้มาตลอดตั้งแต่แกยังเป็นเด็ก! ไม่ว่าเมื่อไหร่ที่มีอะไรเกิดขึ้น แกจะหลีกเลี่ยงความรับผิดชอบของแกเสมอ! แกคิดว่าแกจะไม่ถูกตำหนิเพียงเพราะดร.ซิมมอนส์ปฏิเสธที่จะมางั้นเหรอ? แกเคยคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ไหม? เราจะอยู่ในสถานการณ์ไหมถ้าแกไม่พยายามเอาชนะเคนเน็ธโดยให้ยาที่ไม่ผ่านการตรวจสอบทางคลินิกแก่เขา?”
ขณะที่เขาพูดเกี่ยวกับเรื่องนี้ จอร์แดนด่าต่ออย่างโกรธเคืองว่า “ถ้าแกไม่ทำอย่างนั้น เราจะมาถึงจุดจบในสถานการณ์แบบนี้ไหม? ฉันทำงานหนักมาทั้งชีวิตเพื่อสร้างวีเวอร์ เภสัชกรรม และตอนนี้แกกำลังจะทำลายมันในชั่วข้ามคืน!”
เจฟฟรีย์นิสัยเสียตั้งแต่เขายังเด็ก และพ่อของเขาแทบไม่เคยตีเขาเลย เมื่อถึงจุดนี้ จอร์แดนอดไม่ได้จะตบเจฟฟรีย์ขณะที่เขาเต็มไปด้วยความโกรธและความผิดหวัง
เจฟฟรีย์ก็มีสีหน้าที่น่าเกลียดมากในเวลานี้ เขารู้ว่าเขาต้องถูกตำหนิสำหรับเหตุการณ์นี้ และเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะผลักดันความรับผิดชอบให้คนอื่น
เขาทำได้เพียงเอามือปิดหน้าในขณะที่เขาพูดอย่างตะกุกตะกัก “พ่อครับ ผมขอโทษจริง ๆ ผมผิดเอง แต่ผมแค่พยายามจะพาตระกูลวีเวอร์ให้ไปต่อ เพราะในท้ายที่สุด เคนเน็ธเป็นประธานของโมเดสเวย์ กรุ๊ป และผมคิดว่าอนาคตของเราจะสดใสกว่านี้แน่นอนถ้าเราพัฒนาความสัมพันธ์ที่ดีกับเขา…”
จอร์แดนถอนหายใจอย่างสิ้นหวังเพราะคำพูดของเจฟฟรีย์ทำให้เขาประทับใจในระดับหนึ่ง เขารู้ว่าลูกชายของเขาไม่ได้ตั้งใจจะทำร้ายตระกูลวีเวอร์ เขาทำสิ่งนี้เพียงเพราะเขาหวังว่าเขาจะสามารถช่วยตระกูลวีเวอร์ให้รุ่งเรืองยิ่งขึ้นไปอีก…
นี่เป็นชะตากรรมของตระกูลวีเวอร์แล้วจริงหรือ?
บางทีนี่อาจเป็นสิ่วที่เขาต้องชดใช้สำหรับเรื่องหลอกลวงมากมาวในตอนที่เขายังหนุ่ม?
ขณะที่เขากำลังจะสูญเสียความหวังทั้งหมด จู่ ๆ ใครบางคนในตระกูลวีเวอร์ก็ตะโกนอย่างตื่นเต้นว่า “เลียมพาหมออัจฉริยะ ดร.ซิมมอนส์ และชายหนุ่มคนหนึ่งกลับมาด้วย!”