กลลวง นายสุดเท่ห์ ชาร์ลี เวธ - บทที่ 6
กลลวง นายสุดเท่ห์ ชาร์ลี เวธ บทที่ 6
การประกาศของแคลร์ทำให้ทุกคนประหลาดใจสุดขีด!
แน่นอนว่าทุกคนในห้องประชุมต่างก็คิดว่าแคลร์ต้องบ้าไปแล้วแน่ ๆ!
มันเป็นช่วงเวลาที่ท้าทายที่สุดในตอนนี้ เพราะเธอกำลังจะเล่นกับไฟ! การเสนอตัวของเธอในครั้งนี้อาจทำให้เธอพังไม่เป็นท่า แล้วเธอจะสามารถทำอะไรให้สำเร็จได้อีกกัน!
เอ็มแกรนด์ กรุ๊ป เป็นบริษัทที่ใหญ่ที่สุดในโอลรัส ฮิลล์และตระกูลวิลสันก็ไม่ต่างอะไรกับแมลงตัวเล็ก ๆ สำหรับพวกเขา! เพราะมันคือความเสี่ยงที่เธอจะต้องเข้าแลก!
แฮโรลด์อดไม่ได้ที่จะหัวเราะเบา ๆ “แคลร์ เธอคิดว่าจะชนะประมูลจากเอ็มแกรนด์กรุ๊ปจริง ๆ อย่างนั้นหรือ?”
เวนดี้พูดต่อด้วยน้ำเสียงเยาะเย้ยหลังจากพี่ชายของเธอพูดจบลง “แคลร์ นี่เธอคิดว่าเธอเป็นใคร แล้วเธอคิดว่าเอ็มแกรนด์ กรุ๊ปเป็นใคร? การที่เธอสิ้นคิดแบบนี้เธอจะทำให้ตระกูลเราอับอาย!”
มีคนในห้องกล่าวเสริมอีกว่า “เวนดี้พูดถูก! ถ้าเธอถูก เอ็มแกรนด์ กรุ๊ป เตะออกไป ตระกูลของเราคงจะขายขี้หน้ามากในโอลรัส ฮิลล์”
เลือดพุ่งไปที่ใบหน้าของแคลร์และเธอรู้สึกร้อนด้วยความอับอาย
สถานะของเธอในตระกูลได้ถูกลดลงไปตั้งแต่เธอแต่งงานกับชาร์ลี สมาชิกในครอบครัวไม่สนใจแม้แต่จะปกป้องเธอ แต่พวกเขายังดูถูกพ่อแม่ของเธออีกด้วย
เธอรู้แค่ว่าถ้าเธอสามารถตกลงธุรดิจกับเอ็มแกรนด์ กรุ๊ป ได้เธอก็ทำให้การเป็นอยู่ในครอบครัวเธอดีขึ้นได้เช่นกัน
สิ่งที่สำคัญที่สุดคือพ่อแม่ของเธอสามารถยืนหยัดและภูมิใจในสิ่งที่พวกเขาเป็นได้
แต่ภายใต้ความคิดเห็นอย่างเหน็บแนมและพูดจาเสียดสี ทำให้เธอต้องการที่จะถอนตัวเองออกจากความคิดโง่ ๆ ของเธอ
เธอจ้องชาร์ลีด้วยความไม่พอใจ เขาทำให้เธอคล้อยตามได้อย่างไรและทำไมเธอถึงฟังเขา เธอไม่ควรอาสาตัวเองอย่างสิ้นคิด แบบนี้ตั้งแต่แรก…
คุณท่านวิลสันโกรธมากเมื่อเธอฟังบทสนาโต้ตอบกันไปมา
ไม่มีใครมีความกล้าที่จะรับข้อเสนอของเธอหลังจากที่เธอถามหลายครั้ง แต่เมื่อแคลร์ลุกขึ้นยืนอย่างกล้าหาญเพื่อเสนอตัวในครั้งนี้ คนเหล่านี้กลับเริ่มดูถูก แดกดันใส่เธอ!
คุณท่านวิลสันไม่ชอบแคลร์มาโดยตลอด แต่ในครั้งนี้เธอดีใจที่แคลร์เป็นคนเดียวที่กล้าลุกขึ้นพูด ซึ่งต่างจากสมาชิกคนอื่นๆที่ดีแต่ทำให้เธอเดือดร้อน!
โดยเฉพาะหลานชายคนโปรดของเธอ แฮโรลด์! เธอผิดหวังในตัวเขามาก!
ด้วยเหตุนี้ทัศนคติของคุณท่านวิลสันที่มีต่อแคลร์จึงเปลี่ยนไปมาก เธอจึงพูดทันทีว่า “หยุดพล่ามไร้สาระกันได้แล้วไอ้พวกคนขี้ขลาด! ฉันจะมอบหน้าที่ให้แคลร์ไปคุยงานกับเอ็มแกรนด์ กรุ๊ป!”
แคลร์พึมพำเบา ๆ “ไม่ต้องกังวลนะคะคุณยายหนูจะพยายามทำให้ดีที่สุด”
แฮโรลด์ถอนหายใจและมองเธอย่างเย็นชา “เธอจะพยายามเต็มที่แล้วยังไงต่อล่ะ? เธอก็คงทำให้เราขายหน้าอับอายอยู่ดี!”
ชาร์ลีแทรกขึ้นด้วยน้ำเสียงแข็งกร้าว “แฮโรลด์ วิลสัน ทำไมคุณถึงพูดกับแคลร์แบบนั้น? คุณคิดว่าตระกูลวิลสัน ไม่มีคุณสมบัติที่ดีพอที่จะร่วมมือกับเอ็มแกรนด์ กรุ๊ปงั้นเหรอ”
แฮโรลด์ไม่เคยคาดคิดมาก่อนว่าชาร์ลี เวด ไอ้คนขี้แพ้จะกล้าพูดขึ้นในระหว่างการประชุมของครอบครัวมาก่อน
เมื่อเหลือบเห็นสีหน้าอันโกรธเกรี้ยวบนใบหน้าของคุณท่านวิลสัน เขาจึงรีบอธิบายว่า “ผมไม่ได้หมายความแบบนั้น ผมแค่คิดว่าแคลร์ไม่น่าจะทำข้อตกลงได้! แค่นั้นแหละ!”
ชาร์ลีหัวเราะอย่างสนุกสนานและถามต่อว่า “แล้วถ้าหากเธอทำสำเร็จล่ะ? เรามาพนันกันไหม”
แฮโรลด์ยิ้มอย่างเหยียดหยาม “เอาสิ มาพนันกันเลย! นายคิดว่าฉันกลัวคำขู่กระจอกของนายงั้นเหรอ? นายต้องการเดิมพันอะไรว่ามา? มาเดิมพันกัน”
ชาร์ลีกล่าวต่อว่า “ถ้าแคลร์ทำสำเร็จล่ะก็ คุณจะต้องคุกเข่าให้กับผม และจะต้องยอมรับว่าคุณคิดผิดต่อหน้าทุกคน แต่ถ้าเธอไม่สำเร็จ ผมก็จะคุกเข่าต่อคุณและยอมรับว่าผมคิดผิด คุณคิดว่าอย่างไร?”
“ฮ่า ๆ ๆ !” แฮโรลด์หัวเราะออกเสียงดัง “นายกำลังรนหาที่ตายอยู่สินะ ไอ้ขี้แพ้! ตกลง ฉันจะเดิมพัน!”
ชาร์ลีพยักหน้าด้วยความพอใจและพูดว่า “ผมขอให้พวกคุณทุกคนเป็นพยานให้กับเรา ใครก็ตามที่กลับคำพูดเดิมพัน ผมขอให้พ่อแม่ ตายายของเขาตาย!”
เขาตั้งใจเน้นคำว่า “ยาย” เสียงดังและชัดเจนเพราะเขาไม่ต้องการให้แฮโรลด์ผิดคำสัญญาหลังจากที่เขาจะต้องแพ้เดิมพันครั้งนี้
แฮโรลด์คงไม่กล้ากลับคำอีกหลังจากคำพูดดังกล่าว ถ้าเขากลับคำขึ้นมาก็ไม่ต่างจากที่เขาจะสาปแช่งคุณยายของเขาคุณท่านวิลสันให้ตาย! คุณท่านวิลสันจะไม่ปล่อยให้เขาหลุดไปง่าย ๆ แน่!
“ตกลง!” แฮโรลด์คิดว่าเขาเป็นฝ่ายชนะ แต่สิ่งที่แฮโรลด์ไม่รู้ก็คือเขากระโดดเข้าไปในกับดักของชาร์ลี เขาหัวเราะเสียงดังและพูดว่า “พวกคุณทุกคนจะเป็นพยานของผม ฉันจะรอวันที่นายคุกเข่าต่อหน้าฉัน!”
แคลร์ตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมด เธอพยายามส่งสัญญาณเตือนถึงชาร์ลีด้วยหางตา แต่เขาก็ไม่ได้สนใจเธอเลย
คุณท่านวิลสันตกใจกับสิ่งเดิมพันระหว่างหลานชายและหลานเขยของเธอ แต่สิ่งเดียวที่เธอสนใจคือ วิลสัน กรุ๊ปจะสามารถตกลงเซ็นสัญญาร่วมมือกับ เอ็มแกรนด์ กรุ๊ป ได้หรือไม่ หากข้อตกลงสำเร็จ เธอคงไม่สนใจหากแฮโรลด์จะเรียกชาร์ลีว่าพ่อ นับประสาอะไรกับการคุกเข่าต่อหน้าเขา
ดังนั้นเธอจึงพูดอย่างเงียบ ๆ ว่า “โอเค พอแล้ว นั่นคือทั้งหมดสำหรับวันนี้ แคลร์เธอมีเวลาสามวันในการเจรจาและตกลง ปิดการประชุม!”
***
หลังจากกลับถึงบ้าน พ่อแม่ของแคลร์ก็ระเบิดใส่ทั้งคู่
เอเลน วิลสันแม่ของแคลร์เดินไปที่ห้องนั่งเล่นอย่างกระวนกระวายใจและพูดว่า “แคลร์ ลูกบ้าไปแล้ว! ลูกจะไปฟังไอ้ขี้แพ้คนนี้ และยอมรับงานโดยไม่ใช้หัวคิดได้อย่างไร”
จาค็อบ วิลสันพ่อของแคลร์หันไปหาชาร์ลีแล้วพูดว่า “ชาร์ลีนายมันเป็นคนขี้แพ้ที่ฉันไม่อยากจะคาดหวังอะไรอีกแล้ว แต่มาคราวนี้นายกลับพาลูกสาวที่รักของฉันไปฆ่าตัวตาย!”
ใบหน้าของเขาแดงระเรื่อขณะที่เขาพูดต่อ “ถ้าครั้งนี้แคลร์ทำไม่สำเร็จ ลูกสาวฉันจะถูกคนในครอบครัวเล่นงานแน่ และนาย! นายจะต้องคุกเข่าให้กับแฮโรลด์เหมือนขอทานต่อหน้าทั้งครอบครัว! ศักดิ์ศรีของฉันจะถูกทำลาย!”
ชาร์ลีตอบกลับด้วยความจริงใจว่า “คุณพ่อคุณแม่ครับ ทุกอย่างจะดีขึ้นถ้าแคลร์ประสบความสำเร็จในการเจรจาและตกลงกัน ใช่ไหมครับ?”
“เจรจาต่อรอง ถุย!” จาค็อบตะโกนอย่างโมโห “นายเคยคิดบ้างไหมว่า เอ็มแกรนด์ กรุ๊ป มีอิทธิพลมากขนาดไหน? พวกเขาไม่แม้แต่ชายตามองตระกูลของเราด้วยซ้ำ!”
ชาร์ลีกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “ก็ไม่แน่นะครับ อาจจะมีใครบางคนชายตามองมาที่เราแล้วก็ได้ แต่คุณแค่ไม่รู้หรอก จริง ๆ แล้วผมเชื่อมั่นในตัวแคลร์มากครับ ผมคิดว่าแคลร์จะชนะงานนี้ได้อย่างง่ายดาย”
เอเลนหัวเราะเยาะอย่างดูถูก “นายคิดอย่างนั้นเหรอ? นายเป็นใครกัน นี่คิดว่าเป็นเจ้าของเอ็มแกรนด์ กรุ๊ปอยู่เหรอไง? นายไม่ได้เป็นอะไรเลยนอกจากไอ้ขี้แพ้เศษขยะ นายกล้ามั่นใจขนาดนี้ได้อย่างไร?”