กลลวง นายสุดเท่ห์ ชาร์ลี เวธ - บทที่ 990
กลลวง นายสุดเท่ห์ ชาร์ลี เวธ บทที่ 990
โจอี้ตอบอย่างรวดเร็วว่า “เรารู้จักกันมาสามปีแล้ว และก็อยู่ด้วยกันมาสองปีแล้ว”
แม็กซ์ถามต่ออีกครั้ง “แล้วพวกนายสองคนเจอกันได้อย่างไร?”
โจอี้ยิ้มก่อนจะพูดว่า “ตอนนั้นฉันอยากร่วมงานกับบริษัทหนึ่ง แต่ฉันต้องขอให้ใครสักคนช่วยฉันทำอะไรสักอย่างเพื่อจะได้เข้าบริษัทนั้นได้ เพราะเขาต้องการให้ฉันเอาบุหรี่เทรชัวเรอร์ โกลด์ พรีเมียม สองมวนมาให้กับเขา”
“แล้วฉันพบว่าบุหรี่รี่เทรชัวเรอร์ โกลด์ พรีเมียมนั้นมีราคาแพงมาก หนึ่งในนั้นมีราคาไม่กี่ร้อยดอลลาร์ แต่ถ้าเป็นบุหรี่ระดับเทรชัวเรอร์ โกลด์ พรีเมียมสองมวนก็มีราคามากกว่าหนึ่งพันดอลลาร์แล้ว ดังนั้นฉันจึงตัดสินใจหาทางออนไลน์เพื่อดูว่ามีใครขายมันในราคาที่ถูกกว่าหรือไม่ ใครจะรู้ว่าฉันจะเจอคนขายบุหรี่เหล่านั้นในราคาที่ถูกกว่าจริง ๆ ! เธอก็คือเจนิซ! เธอขายบุหรี่รี่เทรชัวเรอร์ โกลด์ พรีเมียมของเธอในราคาเพียงสองร้อยเหรียญเท่านั้น!”
แม็กซ์อดไม่ได้ที่จะรู้สึกแปลก ๆ อย่างมากหลังจากฟังคำอธิบายของโจอี้ หลังจากนั้น เขาถามเขาต่อว่า “โจอี้ ขอถามอะไรนายหน่อยสิ บุหรี่รี่เทรชัวเรอร์ โกลด์ พรีเมียมผลิตจากที่ไหนเหรอ?”
โจอี้ตอบโดยไม่รู้ตัวว่า “ออสเกีย!”
แม็กซ์พยักหน้าก่อนจะถามอีกครั้ง “ทำไมนายถึงยังซื้อบุหรี่รี่เทรชัวเรอร์ โกลด์ พรีเมียมที่ต้องลักลอบนำเข้ามา ในเมื่อบุหรี่เหล่านี้ผลิตอยู่ในออสเกียอยู่แล้ว?”
โจอี้ขมวดคิ้วก่อนจะพูดว่า “เฮ้ พี่แม็กซ์ สิ่งที่พี่พูดมาน่าสนใจมาก ฉันเองก็ไม่เข้าใจเหตุผลจริง ๆ บางทีเจนิซอาจมีวิธีอื่นในการหาบุหรี่พวกนี้ก็ได้?”
แม็กซ์ถอนหายใจก่อนจะถามต่อว่า “ขอถามอีกครั้ง หลังจากซื้อบุหรี่รี่เทรชัวเรอร์ โกลด์ พรีเมียม สองมวนที่ลักลอบนำเข้ามาจากแฟนสาวของนาย สุดท้ายแล้วอีกฝ่ายได้ช่วยเหลือนายบัางหรือไม่?”
“ไม่นะ” ทันทีที่เขาคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ โจอี้รู้สึกเศร้าเล็กน้อยขณะพูดว่า “ฉันไม่ได้รับข้อมูลใด ๆ หรือได้ยินอะไรอีกจากบุคคลนั้นหลังจากที่ให้บุหรี่สองมวนให้เขาไปแล้ว ฉันโทรหาเขาเพื่อถามเขาในภายหลัง แต่ฉันมารู้ว่าเขาบล็อกฉันแล้ว ฉันยังจำทุกอย่างชัดเจนจนทุกวันนี้! ทุกวันที่หนึ่งและสิบห้าของเดือน ฉันจะซื้อเงินปลอมที่มีมูลค่า 2 ดอลลาร์มาเผาข้างถนนเพื่อจะได้สาปแช่งไอ้พวกคนโง่ที่โกงบุหรี่สองมวนของฉันให้พวกมันตายเร็วขึ้น!”
“นายนี่มันช่างเหลือเชื่อจริง ๆ…” แม็กซ์ถูขมับด้วยความปวดหัว ในที่สุดเขาก็เข้าใจได้แล้วว่าทำไมโจอี้ถึงเป็นคนงี่เง่าที่น่าสมเพช
คราวนี้เขาถามต่ออีกครั้งว่า “โจอี้ นายบอกว่านายคบกับแฟนมาสองปีแล้ว แล้วพวกนายสองคนมีเซ็กส์กันรึยัง?”
โจอี้หน้าแดงในขณะที่เขาตอบอย่างเขินอายว่า “ฉันต้องการนะ แต่มันยังไม่เกิดขึ้น เจนิซบอกฉันว่าเธอต้องการจะรักษาพรหมจรรย์ไว้ซึ่งเป็นสิ่งมีค่าและบริสุทธิ์ที่สุดเป็นครั้งแรกในวันแต่งงานของเธอ ฉันเคารพการตัดสินใจของเธออย่างเต็มที่”
แม็กซ์เกาศีรษะขณะถามต่อว่า “ถ้าอย่างนั้น นายไม่ได้ยินเสียงทั้งหมดที่เธอร้องตอนที่นายโทรหาเธอก่อนหน้านี้เหรอ? ต้องอยู่ภายใต้สถานการณ์แบบไหนที่ผู้หญิงจะทำเสียงแบบนั้นได้? เธอไม่เพียงแต่คร่ำครวญเท่านั้นแต่ยังมีเสียงฟูกที่นอนอีกด้วยด้วย ลองคิดดูดี ๆ ลองนึกถึงหนังบางเรื่องที่นายเคยดู โดยเฉพาะฉากที่มีคนน้อยมากและมักจะมีผู้ชาย และผู้หญิงเพียงลำพังในฉากนั้น”
แม็กซ์กำลังคิดที่จะบอกใบ้กับโจอี้ เขารู้สึกว่ามันเป็นไปไม่ได้เลยที่โจอี้จะไม่เข้าใจว่าเขากำลังพูดเป็นนัยอะไรเมื่อเขาได้พยายามอธิบายอย่างชัดเจนแล้ว
อย่างไรก็ตาม หลังจากที่เขาพูดเสร็จแล้ว เขาไม่ได้คาดหวังให้โจอี้แสดงสีหน้าจริงจังในขณะที่เขาพูดว่า “เธออยู่บ้านคนเดียว ดังนั้นเธอจึงทำกายบริหารอยู่น่ะสิ ถ้าเธอฝึกซ้อมท่ากายบริหารบนเตียง ที่นอนของเธอก็จะส่งเสียงเอี๊ยดอ๊าดเป็นธรรมดา”
โจอี้พูดต่อด้วยความทุกข์ใจ “น่าเสียดายที่หอพักของฉันอยู่ไกลจากบ้านของเธอมาก ไม่อย่างนั้นฉันจะซื้อพลาสเตอร์ยาสองห่อไปให้เธอแล้ว”
แม็กซ์เยาะเย้ยในขณะที่เขาพูดต่อว่า “ทำไมนายถึงต้องซื้อพลาสเตอร์ยาให้เธอด้วย? ทำไมนายไม่ซื้อ Plan B สองกล่องแทนล่ะ? เพราะไม่อย่างนั้นอาจมีเรื่องไม่คาดฝันเกิดขึ้นได้”
“อะไร?” โจอี้รีบถามว่า “Plan B คืออะไร? สำหรับการรักษาหลังเหรอ? มันแพงไหม? กล่องละเท่าไหร่เหรอ?”
“ลืมมันไปเถอะ” แม็กซ์โบกมือขณะที่เขาพูดต่อว่า “นายอยู่บ้านก่อนก็ได้ ฉันต้องไปแล้ว. ฉันจะช่วยนายลงทุนในกองทุนทรัสต์ ถ้าไม่มีอะไรเกิดขึ้น นายก็จะสามารถรับเงินคืนได้ภายในหนึ่งสัปดาห์!”