กล่องจักรวาล (Universe Storage Box) - ตอนที่ 25
USB:บทที่ 25 ฮวงเฟิงผู้กล้าหาญ
ในความเป็นจริงแล้ว สิ่งที่ฮวงเฟิงนั้นไม่รู้ก็คือ หลังจากกินยาเสริมความหลักแหลมเข้าไปแล้ว คนธรรมดาทั่วไป จะยังไม่สามารถปลุกพลังสวรรค์ได้ในทันที ทุกคนต่างกันต้องใช้ระยะเวลา อย่างน้อยหนึ่งสัปดาห์ ในการทำเช่นนั้น เพราะระยะเวลาที่ต้องปลุกพลังนั้น สัมพันธ์กับทักษะโดยกำเนิดของคนนั้นๆ
แต่สถานการณ์ของฮวงเฟิงนั้น แตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัด ไม่ใช่เพราะเขาไม่สามารถปลุกพลังตนเองขึ้นมา เนื่องจากว่า ร่างกายของเขานั้นไร้พรสวรรค์ แต่เป็นเพราะเขาถูก จำกัด โดยสภาพแวดล้อมบนโลกมนุษย์ อย่างไรก็ตาม มีพลังธาตุมากมายอยู่บนโลกใบนี้ และไม่มีใครรู้และ สามารถดูดซับพลังงานที่ลึกซึ้งมากมาย
มาเป็นระยะเวลานาน ดังนั้นพลังธาตุเหล่านี้ จึงอัดอั้นและคลุ้มคลั่ง เมื่อพบบุคคลที่สามารถดูดซับพลังของพวกมันได้ ดังนั้นในช่วงเวลาที่ฮวงเฟิงกินยา เพิ่มความหลักแหลม และหมดสติไป
เขาก็สามารถปลุกพลังสวรรค์ได้โดยไม่รู้ตัว และพลังอยู่รอบ ๆ ตัวของฮวงเฟิง มันก็ต่างแข่งขัน เพื่อเข้าไปใกล้กับร่างของ
ฮวงเฟิง เพื่อรอคอยการดูดซับพลังจากร่างของเขา
ในเวลาเดียวกับที่ กล่องจักรวาล ได้แลกเปลี่ยนยาเสริมความหลักแหลม และได้แลกเปลี่ยน “คัมภีร์การเข้าสมาธิเบื้อง
ต้น” มาให้ฮวงเฟิงด้วย ตำราเล่มนี้ไม่อาจถือได้ว่าเป็นของหายาก ในดินแดนสรวงสวรรค์ล้ำลึก มันสามารถพบเห็นได้ทั่วไปตามท้องตลาด สำหรับการหาซื้อของบุคคลธรรมดา ที่ยังไม่สามารถปลุกพลังสวรรค์ได้ โดยหวังว่า พวกเขาจะสามารถปลุกพลัง ผ่านทางการทำสมาธิ และเป็นการฝึกฝนด้วยตนเอง แน่นอนว่า นี่เป็นเรื่องยากมาก แต่เนื่องจากมีคนจำนวนมาก ที่อ่านหนังสือเล่มนี้ไม่ออก แม้จะมีภาพประกอบ ก็ไม่อาจ ทำให้พวกเขาสามารถฝึกฝนพลัง
และปลุกพลังสวรรค์ได้
หลังจากที่ฮวงเฟิงเข้าสู่สมาธิ เขารู้สึกว่าทุกสิ่งรอบตัวเขานั้น เปลี่ยนไปมาก เขารู้สึกได้ว่า เขาสามารถได้ยินดีขึ้น และเขาสามารถได้ยิน ชายหญิง ที่อยู่ชั้นล่าง พูดคุยกันด้วยเสียงเบาๆ
และสามารถได้ยินพวกเขาทั้งสองคนสัมผัสร่างกายกันด้วยความหนักหน่วง เขารู้สึกได้ถึงบางสิ่งที่อยู่ในอากาศ และเข้ามาสู่ร่างกายของเขา เป็นความรู้สึกที่คุ้นเคยจางๆ และเขาไม่ได้มีท่าทีที่จะปฏิเสธความรู้สึกนั้น
เมื่อเวลาผ่านไปอย่างช้า ๆ ในขณะที่ฮวงเฟิงกำลังนั่งสมาธิ ในตอนกลางวัน โอวหยางซิงเหวิน ได้รับความช่วยเหลือจากคนรับใช้ของเขา หวังเอ๋อ และสามารถหลบหนีออกจากบ้านได้
อย่างราบรื่น และไปเที่ยวเล่นหาเพื่อนของเขา อยู่บนเรือสำราญ ซึ่งพ่อผู้น่าสงสารของเขา คิดว่าเขากำลังฝึกฝนสมาธิ อยู่หลังประตูที่ปิดสนิท
ในตอนแรก เขาอยากจะค้างคืนบนเรือสำราญ ท้ายที่สุดแล้ว สถานที่แห่งนั้น จะสนุกมากยิ่งขึ้น ในตอนกลางคืน อย่างไรก็ตาม เขาเกรงว่า พ่อของเขาจะออกตามหาในตอนกลางคืน
ดังนั้นเขาจึงทำได้เพียงหงุดหงิดเล็กน้อยและยอมกลับบ้านอย่างโดยดี
“ แม่นางเสี่ยวหลิงคนสวย เจ้ามีเสน่ห์จริง ๆ ข้าต้องขอตัวกลับก่อน วันพรุ่งนี้ข้าจะมาใหม่ อย่าลืมร้องเพลงให้ข้าฟังอีกสักสอบสามรอบ”
โอวหยางซิงเหวินพึมพำกับตัวเอง ขณะที่เขาเดินอย่างโซซัดโซเซ หวังเอ๋อที่อยู่ด้านข้าง เขาคอยพยุงโอวหยางซิงเหวินอย่างระมัดระวัง เนื่องจากเกรงว่า นายน้อยจะล้มลงไป
“นายน้อย ท่านน่ะเป็นคนรูปงาม และมีความสามารถ ไม่เช่นนั้น แม่นางเสี่ยวหลิง คงจะไม่ตกหลุมรักท่าน ตั้งแต่แรกเห็น ข้าได้ยินมาว่า นางปฏิเสธนายหนุ่มที่ร่ำรวย หลายต่อหลายคน” หวังเอ๋อ ชื่นชมยินดี ขณะที่เขาเดินพยุงนายน้อยกลับจวน
“เข้าท่า…เข้าท่า… ข้าสงสัยอยู่แล้วว่า ทำไมนางจึงลอบมองข้าตลอดเวลา นางมีสายตาที่ดี ที่รู้ว่าข้านั้น แตกต่างจากคนอื่น ๆ” โอวหยางซิงเหวิน พยักหน้าด้วยความคิดลึก ๆ
เมื่อเห็นสภาพของโอวหยางซิงเหวินเป็นแบบนี้ เขาก็รู้ตนเองว่า เขานั้นไม่สามารถปีนข้ามกำแพงได้ ไม่เช่นนั้น ถ้าเขาทำแบบนั้น จะต้องล้มลงอย่างแน่นอน ดังนั้นหวังเอ๋อ
จึงพานายน้อยไปที่ประตู แต่นี่ไม่ใช่ครั้งแรก ที่มีคนรับใช้ จ้องมองนายน้อย ที่หน้าประตู และมองเห็นโอวหยางซิงเหวิน ในสภาพเมามาย ไร้สติ ทุกคนต่างรู้ว่า ปกติ นายน้อยมักจะลอบออกไป
ข้างนอก และมักจะแอบ ออกไปอย่างลับๆ และกลับมาก็ต่อเมื่อฟ้ามืดเท่านั้น ดังนั้นคนรับใช้จึง ไม่แปลกใจ เขาเปิดประตู
ให้นายน้อยเดินเข้ามา โดยตรง
โอวหยางซิงเหวินนั้น ถูก หวังเอ๋อพยุงไว้ และเดินพาเขาไปที่ ห้องของนายน้อย และหลังจากนั้น ก็ป้อน น้ำแกงสร่างเมา ที่สั่งให้แม่ครัวทำมาให้ ในที่สุด โอวหยางซิงเหวินก็สร่างเมา
และกลับมามีสติแจ่มชัด ในเวลานี้ เขาจำได้ว่า เขายังมีสิ่งที่ ตนเองจะต้องทำ
เขาโบกมือให้วังเอ๋อกลับไปนอน จากนั้นโอวหยางซิงเหวินก็เดินไปที่เตียง แล้วหยิบกล่องปักที่เขาโยนทิ้งไว้ที่นั่น และพึมพำกับตัวเอง ในขณะที่เขาเปิดมัน
โอวหยางซิงเหวิน ต้องการที่จะปลุกพรสวรรค์ของผู้วิเศษอย่างมาก ไม่เช่นนั้น เขาจะไม่สามารถรับตำแหน่งผู้นำตระกูลจากพ่อของตนเองได้
ตราบใดที่เขาไม่สามารถปลุกพลังได้ เขาจะไม่สามารถรับตำแหน่ง ดังนั้น เขาจะต้องปลุกพลังในร่างให้ได้ และเขาไม่ได้สนใจว่า ตนเองจะเก่งขนาดไหน แต่เพียงแค่ต้องการปลุกพลังได้เท่านั้น
อย่างไรก็ตาม โอวหยางซิงเหวินนั้นตกตะลึง เมื่อเขาเปิดกล่องปัก เขาพบเพียงห่อใสๆ ที่ห่อหุ้มสิ่งของภายในนั้น มีเม็ดยากลมๆ และมีสิ่งของต่างๆมากมาย นอกจากนั้นยังมีหนังสือสีสันสดใส พร้อมปก ซึ่งเป็นภาษาที่อ่านไม่ออก ภายในเล่ม
“ท่านพ่อกำลังทำอะไรอยู่ ไม่ใช่ว่าบอกว่ามันเป็นหนังสือ ฝึกสมาธิเบื้องต้นหรือเปล่า?” มันเป็นหนังสือที่ข้านั้น อ่านไม่ออกเลยด้วยซ้ำ? ถ้าข้าอ่านไม่ออกแล้ว จะฝึกฝน มันได้อย่างไร?” โอวหยางซิงเหวินบ่นด้วยความไม่พอใจ เขาพลิกดูนิตยสารสองสามหน้า คร่าวๆ และตระหนักว่า มีคำมากมายที่เขียนอยู่ข้างใน แต่เมื่อเขาเพ่งดู เขาก็อ่านไม่ออก ดังนั้นเขาจึงโยนนิตยสารไว้
ใต้เตียงด้วยความอารมณ์เสีย ไม่สนใจมันอีกต่อไป
“สิ่งเหล่านี้คืออะไร? ยาเสริมความหลักแหลมงั้นหรือ มันเป็นของหายาก เหตุใดในห่อนั้น จึงมีหลายเม็ด?” โอวหยางซิงเหวินนั้นงงงวย พลางหยิบห่อถุง แล้วฉีกเปิด จากนั้นเขาก็หยิบออกมาและ อมมันไว้ในปาก
จากนั้นดวงตาของเขาก็สว่างขึ้น รสชาตินี้ค่อนข้างดี รสชาติดีกว่า ขนมชั้นเลิศที่ เขามักจะได้กิน
“โอ้…รสชาติของยาเสริมความหลักแหลมนี้ดีมากจริงๆ นักปรุงยาคนไหนกันที่มีความสามารถที่น่าทึ่ง จริงๆเขาไม่เพียง แต่กลั่นยาเท่านั้น แต่เขายังปรุงยาให้มี รสชาดที่ดี..อีกด้วย”
โอวหยางซิงเหวินพึมพำ ขณะที่เขากินยาลงไป
พอได้กินแล้ว เขาก็กินไม่หยุด เวลาผ่านไปไม่นาน เขาก็จัดการยาทั้งหมดในครั้งเดียว เมื่อมองไปที่ห่อยา ที่ว่างเปล่า โอวหยางซิงเหวินก็เลียริมฝีปากของเขา โดยไม่รู้ตัว
ราวกับว่าเขาต้องการที่จะกินมันอีก
หลังจากห่อยาทิ้งไปแบบลวกๆ โอวหยางซิงเหวินก็นั่งลง และรอคอยการเปลี่ยนแปลงในร่างกายของเขา อย่างไรก็ตาม เขารู้สึกผิดหวังอย่างรวดเร็ว
เพราะร่างกายของเขา ไม่มีอะไรที่เปลี่ยนแปลงเลย
ซึ่งผลลัพธ์นี้ โอวหยางซิงเหวินไม่แปลกใจเลย เขาไม่เคยคิดมาก่อนว่า เขาจะสามารถปลุกพรสวรรค์ได้เร็วขนาดนั้น ดังนั้นเมื่อเขารู้สึกว่า ร่างกายของเขาอ่อนล้า
เขาก็ตัดสินใจว่า เขาจะนอนหลับพักผ่อนดีกว่า จากนั้นไม่นาน ครู่ต่อมา เสียงกรนของเขา ก็ดังลั่นไปทั่วห้องนอน
สิ่งที่ โอวหยางซิงเหวินไม่รู้ก็คือ ไม่เพียงแต่ เขาจะไม่สามารถปลุกพลังสวรรค์ได้ ในวันนี้ และเขาจะไม่สามารถทำได้อีก ตลอดชีวิตของเขา