กล่องจักรวาล (Universe Storage Box) - ตอนที่ 32
USB:บทที่ 32 คาถาพื้นฐาน
“ลูกพี่ต้าจี ดูแลพวกแกไม่ค่อยดีอย่างนั้นเหรอ ขนาดวิ่งอย่างเสียศูนย์เลย หรืออยากจะคุกเข่าขอโทษพวกเรา อย่างนั้นเหรอ?” ฮวงเฟิงมองไปที่ต้าจี ทำท่าทางประหลาดใจ และ พูดขึ้น
“เกิดอะไรขึ้นกับพวกแก?!” รีบลุกขึ้น มันน่าอายมาก! “ต้าจีนั้นรู้สึกว่า เขาเสียหน้า เนื่องจากลูกน้องที่ไม่ได้เรื่องของเขา ในตอนนี้คนรอบข้างต่างมองเห็น แล้วก็ชี้ไม้ชี้มือกันอย่างสนุกสนาน ความรู้สึกนี้ทำให้ ต้าจีรู้สึกอึดอัดอย่างมาก.
สำหรับลูกน้องของเขาที่ไม่ได้เรื่อง พวกเขายังกรีดร้อง ด้วยความเจ็บปวด และต่างก็มองหน้ากัน พยายามค้นหาว่าเกิดอะไรขึ้น
แม้ว่าคนพวกนั้น จะไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น และมีข้อสงสัยบางอย่างเกี่ยวกับฮวงเฟิง แต่ต้าจีก็ตะโกนเสียงดังใส่พวกเขา จากด้านหลัง พวกเขาทำได้เพียงอดทนต่อความเจ็บปวด ในปาก ขณะที่คลานขึ้น เตรียมที่จะโจมตีต่อไป
ในเวลานี้ มีพวกเขาบางคน มาถึงฝั่งของฮวงเฟิงแล้ว ไม่มีใครเสียสมดุล ในขณะที่พวกเขายิ้มแย้ม และโบกมือให้กับ ฮวงเฟิงและ กัวเหลียง
กัวเหลียงยกหมัดขึ้น และกำลังจะโจมตีคู่ต่อสู้ แต่แล้วก็เกิดอุบัติเหตุอีกครั้ง กับคนพวกนั้น ขณะที่พวกเขากำลังจะโจมตีฮวงเฟิง ทันใดนั้นพวกเขาก็ตระหนักว่า ทุกอย่างนั้นมืดไปหมด และพวกเขามองไม่เห็นอะไรเลย!
“ อ้าว! ใครปิดไฟ”
“ทำไมฉันไม่เห็นอะไรเลย?!”
“ฉันเหมือนกัน มันเกิดอะไรขึ้น ทำไมเราไม่เห็นอะไรเลย?”
แม้ว่าพวกเขาจะยืนอยู่ข้างๆ ฮวงเฟิง แต่เนื่องจากความมืดที่ปรากฏขึ้นต่อหน้าพวกเขา ทำให้หัวใจของพวกเขาสับสน ขณะที่พวกเขาพยายามหันกลับไป ตอนนี้พวกเขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่า ฮวงเฟิงและคนอื่น ๆ อยู่ที่ไหน
แม้ว่าที่นี่แสงจะไม่สว่างมาก แต่ก็ไม่มีปัญหาในการมองเห็นได้ชัดเจน อย่างไรก็ตาม มีเพียงไม่กี่คน ที่กำลังตะโกนว่า พวกเขามองไม่เห็นอะไรเลย ถ้าเป็นแค่คนคนเดียวก็คงจะไม่เป็นไร แต่พวกเขาเหล่านั้น จะเกิดอาการตาบอดชั่วขณะพร้อม ๆกันนั้น
มันเป็นนั่นเป็นเรื่องตลก ในตอนแรกก็ล้มลงโดยไม่มีเหตุผล และตอนนี้ก็ตะโกนว่าเขาตาบอด นี่เป็นเรื่องที่น่าสนใจจริงๆ
ใบหน้าของ ต้าจีมืดลง แน่นอนว่าเขาไม่เชื่อ ลูกน้องตนเอง ในขณะเดียวกันเขาก็ไม่เข้าใจว่า ทำไมลูกน้องของเขาถึงเป็นแบบนี้กันหมด พร้อมใจกันหักหน้าของเขากันทั้งหมด?
“ไป ! ลุย!” ต้าจีตะโกนลั่น
อย่างไรก็ตาม ลูกน้องของเขา ไม่ได้มีอารมณ์ในการทำตามคำสั่งเนื่องจาก อาการมืดบอด มองอะไรไม่เห็น และไม่รู้ว่าพวกเขากำลังหันหน้าไปทางไหน อย่างไรก็ตาม ลูกน้องของเขาทั้งหมดก็นิ่งงัน
“ ยืนอยู่ตรงนั้นเพื่ออะไร?” ฮวงเฟิงพูดกับกัวเหลียงที่ตกตะลึง หลังจากนั้น ฮวงเฟิงก็ก้าวไปข้างหน้า และด้วยการเตะคนๆหนึ่ง จากนั้นเขาก็เตะร่างของคน ๆ หนึ่งลงไปที่พื้น
ในที่สุดกัวเหลียงก็ได้สติ ในตอนนี้เขารู้สึกตกใจอย่างมาก กับสิ่งที่เกิดขึ้นตรงหน้า เดิมทีคนไม่กี่คนเหล่านั้น มีสีหน้าดุร้าย และต้องการจะทำร้ายเขา แต่สุดท้าย คนพวกเขาก็ล้มลงต่อหน้าเขา และจากนั้นก็ตะโกนออกมาว่า พวกเขามองอะไรไม่เห็นเขาไม่รู้ว่าคนเหล่านั้นคิดอะไรอยู่? ปกติแล้วพวกนั้น เป็นคนตลกอยู่แล้วหรือไม่?
อย่างไรก็ตามสิ่งที่ฮวงเฟิงพูดนั้น ถูกต้อง !ตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่จะตกตะลึง ไม่ว่าคนเหล่านี้จะทำอะไร พวกเขาทั้งหมด ต่างก็เข้ามาเพื่อทุบตีเขา อย่างไม่ต้องสงสัยเลย
ดังนั้นกัวเหลียงก็ก้าวไปข้างหน้าสองก้าว และด้วยความง่ายดาย เขาก็เตะหนึ่งในนั้นล้มลง หลังจากนั้นเขาก็เตะคนอื่น ๆ ลงไปพร้อมกับ ฮวงเฟิงทีละคน
ฮวงเฟิงนั้นสงบนิ่งกับเหตุการณ์ตรงหน้าเนื่องจากเขาเป็นคนที่ทำให้มันเกิดขึ้นมาเอง หลังจากคนพวกนั้นมองไม่เห็น เห็นได้ชัดว่า ตอนแรกฮวงเฟิงนั้นใช้คาถาธาตุไม้ และเปลี่ยนเป็นคาถาแห่งความมืดแทน
คาถาม่านเงา: คาถาพื้นฐาน ธาตุแห่งความมืด มันสามารถดึงเอาแสงสว่างออกจากพื้นที่ ทำให้บริเวณนั้น ตกอยู่ในความมืดมิด
มันเป็นความมืดมิดอย่างแท้จริง ไม่ว่าแสงใดๆ ไม่สามารถเล็ดลอดเข้ามา มันจะถูกกลืนกิน ปัจจุบันมี คนพวกนั้นอยู่ในพื้นที่เดียวกัน ดังนั้นพวกเขาจึงมองไม่เห็นอะไรเลย
อย่างไรก็ตาม นี่เป็นเพียงทักษะพื้นฐาน มันสามารถ คงอยู่ได้ในระยะเวลาสั้นๆ ดังนั้นฮวงเฟิงนั้น จะไม่รีรอ ให้คนพวกนี้ฟื้นตัวได้ก่อน ดังนั้น เขาจึงชิงความได้เปรียบ
“ เอ๊ะ! ฉันมองเห็นแล้ว!” หลังจากถูกเตะลงกับพื้น ต่างก็มีคนร้องด้วยความประหลาดใจ มันเป็นเรื่องที่น่าประหลาดใจ ในขณะนี้ พวกเขาไม่สนใจความเจ็บปวด บนร่างกายของตนเองอีกต่อไป ความรู้สึกในการสามารถกลับมามองเห็นได้อีกครั้งนั้น มันดีมาก
“ฉันก็เห็นเหมือนกัน ดีจริง ๆ ที่ฉันไม่ได้ตาบอด!”
“ฉันไม่ได้ตาบอด งั้นหรือ!” หนึ่งในนั้นถึงกับร้องออกมาด้วยความตื่นเต้น ใครจะรู้ว่าเขานั้นกลัวมากแค่ไหน ในตอนที่มองไม่เห็นอะไรเลย
“ไอ้พวกเวร แกทำอะไรอยู่!” ต้าจีโกรธลูกน้องของตนเองแทบตาย ใครๆต่างก็ไม่ได้รับรู้ไปกับคนพวกนั้นด้วย ว่าพวกเขานั้นมองไม่เห็น แม้ว่าถึงพวกเขาจะตาบอดจริงๆ แต่จะมีคนจำนวนมากตาบอดพร้อมๆ กันได้อย่างไร มันไม่ตลกงั้นเหรอ?
อย่างไรก็ตาม หลังจากได้ยินสิ่งที่ต้าจีพูด คนพวกนั้นมองไปที่ฮวงเฟิง และ กัวเหลียง ด้วยแววตาแห่งความหวาดกลัว ฉายผ่านดวงตา พวกเขาสงสัยว่า เรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมด มันอาจจะเกี่ยวข้องกัน คนสองคนเบื้องหน้าพวกเขา
แม้ว่าพวกเขาจะไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่มันต้องเป็นเพราะ พวกเขาไปกลั่นแกล้งคนอื่น มันจึงทำให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้น
“ ลูกพี่ต้าจี ” ในเวลานี้ลูกน้องของเขา รวบรวมความกล้า และกล่าวกับต้าจีว่า พวกเขาไม่ต้องการเผชิญหน้ากับ ฮวงเฟิงและ กัวเหลียงอีกต่อไป เพราะร่างกายของพวกเขา มีบางอย่างแปลก ๆ
“ ฮึ!” เขารู้สึกรำคาญใจ ที่ลูกน้องของตัวเอง นั้นทำเขาขายหน้าซ้ำแล้วซ้ำเล่า ตอนนี้ต้าจีได้ยินคำพูดของลูกน้อง เขาก็อดไม่ได้ที่จะ รู้สึกว่าถูกตบหน้ากลางผู้คนมากมาย
“ไอ้โง่ ไอ้ขยะไร้ประโยชน์ มีพวกแกตั้งมากมาย แต่ไม่กล้าแม้แต่จะขยับตัว ในเมื่อไม่กล้าสู้กับพวกมัน ฉันจะเก็บแกไว้ทำไม?” ต้าจีตะโกนด้วยความโกรธ
“ เอิ่ม ต้าจี ลูกน้องของนาย ดูเหมือนจะไม่ยอมฟังคำสั่ง ทำไมนายไม่ลองด้วยตัวเองล่ะ” ฮวงเฟิงมองไปที่ต้าจี ที่โกรธเกรี้ยว ขณะที่เขาพูดท้าทายขึ้น ภายในใจของฮวงเฟิงนั้น มีความมั่นใจเต็มเปี่ยม