กล่องจักรวาล (Universe Storage Box) - ตอนที่ 48
USB:บทที่ 48 ใส่ร้ายป้ายสี
เห็นได้ชัดว่า หลิวหมิงเจี๋ย ไม่ได้สงสัยเลยว่า… หลี่เต๋อหยูเป็นคนที่ขโมยคัมภีร์ลับ ท้ายที่สุดแล้ว อีกฝ่ายก็อยู่กับเขามาโดยตลอด ดังนั้นศิลปะกำลังภายในของฝางจื้อห่าว จู่ๆก็ปรากฏขึ้นบนเตียงของหลี่เต๋อหยู จึงมีเพียงคำอธิบายเดียวเท่านั้น
เมื่อเห็นหนังสือเล่มหนึ่งหลุดออกมา ทั้งหน้าของฝางจื้อห่าวและ ศิฺษย์พี่อาวุโสมู่ ก็เปลี่ยนไปเช่นกัน ใบหน้าของพวกเขานั้นแตกต่างจากคนอื่น ๆ เพราะพวกเขาสามารถบอกได้อย่างรวดเร็วว่า หนังสือที่ตกจากเสื้อผ้าของหลี่เต๋อหยู ไม่ใช่คัมภีร์ของฝางจื้อห่าว
ศิษย์พี่อาวุโสมู่นั้น ไม่เท่าไหร่ แต่การแสดงออกของฝางจื้อห่าวนั้น เปลี่ยนไปทันที นี่ไม่ใช่คัมภีร์ฝึกกำลังภายในของเขาอย่างแน่นอน แล้วศิลปะกำลังภายในของเขานั้นหายไปไหน?
“ ศิษย์พี่อาวุโสมู่ ข้าไม่ได้เอาศิลปะกำลังภายเล่มนี้มาจริงๆ ข้าไม่รู้ด้วยซ้ำว่า มันปรากฏบนเตียงได้อย่างไร เมื่อเห็นการแสดงออกของศิษย์พี่อาวุโสมู่เปลี่ยนไป หลี่เต๋อหยูคิดว่าเป็นเพราะฝางจื่อห่าวนั้น พบศิลปะกำลังภายในของตนเองบนเตียง เขาจึงรีบอธิบาย
“ ศิษย์พี่อาวุโสมู่ เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับหลี่เต๋อหยู เราแค่เดินเล่นข้างนอกตลอดเวลา พวกเราไม่ได้กลับเข้าไป และไม่ได้ขโมยศิลปะกำลังภายในของฝางจื้อห่าวด้วยเช่นกัน คัมภีร์นี้อาจจะถูกหยิบมาวางไว้โดยผู้อื่น ” หลิวหมิงเจี๋ย ก็รีบอธิบาย
และคนอื่น ๆ ที่เขาพูดถึงกล่าวโดยนัย คือ ฝางจื้อห่าว
อย่างไรก็ตาม ฝางจื้อห่าวไม่มีกระจิตกระใจ จะไปสนใจสิ่งที่หลิวหมิงเจี๋ยพูด เพราะเขารู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ เขาวางศิลปะกำลังภายในไว้บนเตียงของหลี่เต๋อหยู อย่างชัดเจน และในช่วงเวลานี้ ก็ไม่มีใครเข้ามาอีกแล้ว
คัมภีร์ของเขานั้นหายไปได้อย่างไร? ฝางจื้อห่าวไม่ยอมแพ้ เขายังคงคุ้ยหาสิ่งของอื่นๆ บนเตียงของหลี่เต๋อหยู ทุกซอกทุกมุม
“ฝางจื้อห่าว เจ้าหาเจอแล้ว ยังจะต้องค้นหาอะไรบนเตียงของข้าอีก” เมื่อ หลี่เต๋อหยูเห็นว่าฝางจื้อห่าวได้พบ “ศิลปะการฝึกฝนกำลังภายใน” แล้ว เขาก็ยังไม่หยุดการกระทำของตนเอง และได้พลิกสิ่งต่างๆของหลี่เต๋อหยูกระจัดกระจายไปทั่ว มีหลายสิ่งหลายอย่างที่ ฝางจื้อห่าวโยนลงบนพื้น อย่างไม่ตั้งใจ
อย่างไรก็ตาม ฝางจื้อห่าว ทำราวกับว่าเขาไม่ได้ยินคำพูดของหลี่เต๋อหยู และยังคงค้นหาต่อไปอย่างไม่หยุดยั้ง และใบหน้าของเขาก็มีร่องรอยความตื่นตระหนก ถ้าเขาหาศิลปะกำลังภายในอขงเขาไม่พบจริงๆ เขาจะเดือดร้อนแน่นอน
และไม่เพียงเท่านั้น เขาจะไม่สามารถกล่าวหาหลี่เต๋อหยูได้อย่างมั่วๆ อีกต่อไป และยังต้องโดนดุด่าจากศิษย์พี่อาวุโสอีกด้วย
ใครบอกเจ้าว่าสิ่งนี้คือ ศิลปะการฝึกฝนกำลังภายใน? ศิษย์พี่อาวุโสมู่ เดินไปข้างหน้าสองก้าว และหยิบหนังสือที่ฝางจื้อห่าว โยนลงบนพื้น เขาพลิกอ่านอย่างผ่านๆตา และอธิบายอย่างเฉยเมย
“ เอ๊ะ! มันไม่ใช่หรือ?” ก่อนหน้านี้ เมื่อพบหนังสือเล่มนี้ ทั้งสองคนคิดว่าเป็นศิลปะกำลังภายในของฝางจื้อห่าว เนื่องจากทั้งสองคนรู้อย่างชัดเจนว่า หลี่เต๋อหยูไม่ได้นำหนังสือใด ๆ เข้ามาในสำนัก และพวกเขาไม่เคยเห็นศิลปะกำลังภายในมาก่อน พวกเขาจึงคิดโดยไม่รู้ตัวว่า มันจะต้องเป็นอย่างนั้น อย่างไรก็ตาม ทั้งสองคนก็เชื่อเช่นกันว่า เป็นอุบายของฝางจื้อห่าว ที่จะกลั่นแกล้งพวกเขา
“พวกเจ้าอ่านออกด้วยหรือ?” ศิษย์พี่อาวุโสมู่ จู่ๆ ก็เอ่ยถามคำถามขึ้น และส่งหนังสือในมือให้พวกเขา และอธิบายให้พวกเขาฟัง เพราะเนื่องจากเปิดอ่านดูคร่าวและพบว่า มีตัวอักษรที่ไม่คุ้นเคย ดังนั้นเขาจึงอยากถาม หลิวหมิงเจี๋ย ว่า เขาและหลี่เต๋อหยู รู้หรือไม่ว่า ในนี้เขียนไว้ว่าอย่างไร?
หลิวหมิงเจี๋ย และ หลี่เต๋อหยูรู้สึกงงงวย ขณะที่พวกเขาได้รับหนังสือจากมือของศิษย์พี่อาวุโสมู่มาดู มันจะเป็นไปได้อย่างไร ที่ศิษย์พี่อาวุโสมู่อ่านไม่ออก? เป็นไปไม่ได้ ในฐานะศิษย์พี่ เขาจะไม่รู้วิธีอ่านและเขียนได้อย่างไร
ศิษย์พี่อาวุโสมู่นั้น หมายความว่าอย่างไรกันแน่?
แม้ว่าพวกเขาจะมีข้อสงสัย และไม่รู้ว่าศิษย์พี่อาวุโสมู่คิดอย่างไรกันแน่? แต่หลิวหมิงเจี๋ยและหลี่เต๋อหยู ยังคงรู้สึกตื่นเต้น ขณะมองดูหนังสือในมือ พวกเขาสองคนอิจฉาศิลปะกำลังภายในมาก และสงสัยว่าพวกเขานั้น เมื่อไรจะได้รับศิลปะกำลังภายในของตนเองมาบ้าง อย่างไรก็ตาม ทั้งสองคนรู้ดีว่าทันทีว่า เมื่อพวกเขาพึ่งเข้าสู่สำนัก มันเป็นไปไม่ได้ที่พวกเขาจะได้รับศิลปะการฝึกฝนกำลังภายใน มาในระยะเวลาสั้น ๆ และไม่ว่าจะเป็นสำนักใด ศิลปะกำลังภายในนี้ ก็ล้วนเป็นความลับ ต้องเป็นศิษย์ที่มีความมุ่งมั่นและพรสวรรค์จริงๆ จึงจะได้รับคัมภีร์นี้..มาฝึกฝนด้วยตนเอง
และตอนนี้ศิษย์พี่อาวุโสมู่ ได้มอบวิชากำลังภายในที่สำคัญ ให้กับทั้งสองคน
อย่างไรก็ตามทั้งสองคนก็ขมวดคิ้วทันที เพราะพวกเขาพบว่าคำศัพท์บางคำคล้ายกับคำที่พวกเขารู้จักมาก ในขณะที่คำอื่น ๆ นั้นแตกต่างกันมาก แม้ว่าพวกเขาจะเดาได้ว่าคำนั้นคืออะไร? แต่พวกเขาก็ไม่เข้าใจความหมายเบื้องหลังคำนั้น พวกเขาไม่เคยได้ยินเกี่ยวกับรถสปอร์ตโมเดล หรืออะไรทำนองนั้นมาก่อนเลย
“ เป็นอย่างไร…เข้าใจหรือไม่?” ศิษย์พี่อาวุโสมู่ถาม
หลี่เต๋อหยู่มองไปที่ “ศิลปะกำลังภายใน” ในมือของเขาอีกครั้ง จากนั้นจึงส่งต่อไปยังศิษย์พี่อาวุโสมู่ ด้วยความเสียใจ: “ศิลปะกำลังภายในนี้ มีความลึกซึ้งอย่างแท้จริง เราไม่สามารถเข้าใจความหมายของมันได้ ดูเหมือนว่าเราจะยังไม่ถึงขั้น ที่จะสามารถฝึกฝนกำลังภายในได้”
หลี่เต๋อหยูและหลิวหมิงเจี๋ย รู้สึกเสียใจอย่างมาก หากทั้งสองคนเข้าใจเรื่องนี้ แม้ว่าศิษย์พี่อาวุโสมู่ จะเอาคัมภีร์ลับกลับคืนไป แต่พวกเขาก็จะสามารถจดจำมันได้ไม่น้อย และจากนั้นพวกเขาก็จะสามารถฝึกฝนกำลังภายในล่วงหน้าได้ หากเป็นเช่นนั้นพวกเขาจะสามารถฝึกฝนขั้นตอนต่าง ๆ ได้เร็วกว่าคนอื่น ๆ อย่างแน่นอน แต่น่าเสียดายที่ทั้งสองคนไม่สามารถเข้าใจมันได้ นับประสาอะไรกับตัวเองที่ไม่สามารถฝึกฝนมันได้
อย่างไรก็ตาม คำพูดที่ศิษย์พี่อาวุโสมู่กล่าวต่อไป ทำให้ทั้งสองคนรู้สึกประหลาดใจ
“ อย่าบอกว่าพวกเจ้าไม่เข้าใจ ข้าก็ไม่เข้าใจเช่นกัน” ศิษย์พี่อาวุโสมู่กล่าว
“ แม้แต่ศิษย์พี่อาวุโสมู่ ยังไม่เข้าใจ?” ทั้งสองคนกล่าวด้วยความตกใจ แต่ยังประหลาดใจอีกด้วย! ศิษย์พี่อาวุโสมู่เป็นพี่ใหญ่ของพวกเขา และยังแข็งแกร่งที่สุดในบรรดาพวกเขา เขาได้เริ่มฝึกฝนพลังปราณมานานแล้ว ทำไมจึงบอกว่าตนเองไม่เข้าใจ “ศิลปะกำลังภายใน”?
“ข้าไม่เข้าใจจริง ๆว่ามีอะไรอยู่ข้างในนั้น อย่างไรก็ตาม ข้ามั่นใจว่านี่ไม่ใช่ คัมภีร์ฝึกฝนกำลังภายในของสำนักเจ็ดนพเคราะห์ของสำนักเรา” เนื่องจากเขาได้ฝึกฝนพลังภายในแล้ว ดังนั้นเขาจึงเคยเห็นศิลปะกำลังภายในของสำนักมาก่อน นั่นคือเหตุผลที่เขาสามารถระบุได้อย่างง่ายดายว่า หนังสือเล่มนี้ไม่ใช่สิ่งที่เรียกว่า “คัมภีร์ฝึกฝนกำลังภายในของสำนักเจ็ดนพเคราะห์”
เมื่อพูดถึงสิ่งนี้ ศิษย์พี่อาวุโสมู่มองไปที่ฝางจื้อห่าว ซึ่งยังคงไม่เต็มใจที่จะละทิ้งการค้นหา ศิลปะกำลังภายในของตนเอง และรู้สึกไม่พอใจเล็กน้อยในใจของเขา
หลิวหมิงเจี๋ย และ หลี่เต๋อหยูมองไปที่ ฝางจื้อห่าวด้วยทั้งคู่ จากนั้นทั้งสองคนก็สับสน ฝางจื้อห่าวกำลังพยายามออกอุบายกลั่นแกล้งพวกเขาอย่างเห็นได้ชัด ทำไมเขาถึงใช้หนังสือเล่มอื่น เพื่อมาใส่ร้ายพวกเขา? สิ่งนี้ไม่สมเหตุสมผลเลย