กล่องจักรวาล (Universe Storage Box) - ตอนที่ 75
บทที่ 75 แหวนมิติ
“นายน้อยเกิดเรื่องแล้วขอรับ” เสียของหวังเอ๋อ ดังออกมาอย่างกระวนกระวาย
ในตอนนี้โอวหยางซิงเหวินซึ่งกำลังเตรียมตัวที่จะออกไปเที่ยวเล่น วันนี้เขานัดกับเพื่อนสองสามคนที่จะไปล่องเรือสำราญ แต่ในขณะที่เขากำลังจะออกไป หวังเอ๋อซึ่งกำลังแบกบันไดไปพาดกับกำแพงหลังบ้าน เดินกลับมาอย่างรีบร้อน
“ทำไมท่านพ่อกลับมาแล้วหรือ? ทำไมเขากลับมาในเวลานี้” โอวหยางซิงเหวินขมวดคิ้ว ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความไม่พอใจ
“นายน้อย คราวนี้มันไม่เหมือนกับครั้งก่อน ๆ ดูเหมือนนายท่านจะกลับมาและจะอยู่ยาว ดูเหมือนจะตั้งใจมาทดสอบความก้าวหน้าของนายน้อย” หวังเอ๋อกล่าวอย่างประจบประแจง
“อืม ใช่” โอวหยางซิงเหวินพยักหน้าเห็นด้วย ตามปกติแล้ว เมื่อเขาฝึกฝนอยู่ในห้อง บิดาของเขาจะไม่รั้งอยู่ที่นี่ เนื่องจากต้องการให้เขาฝึกฝนไปอย่างสงบและไม่อยากรบกวนเขา นอกจากนี้ด้วยในฐานะผู้ปกครองของตระกูล
โอวหยางเทียนนั้นมีหลายสิ่งที่ต้องดูแลในทุกวัน ๆดังนั้นเขาจะไม่รั้งอยู่ที่นี่นานเกินไป
ดังนั้นเมื่อเขารู้ว่าบิดาของตนกำลังจะมาโอวหยางซิงเหวินจึงเปลี่ยนเสื้อผ้า และกลับเข้าไปนั่งสมาธิที่ในห้อง เขาต้องรีบเปลี่ยนเสื้อผ้า เพื่อป้องกันไม่ให้บิดาจับได้ว่า เขานั้นจะออกไปเที่ยวเล่น
โอวหยางเทียนคิดว่าบุตรชายของเขายังไม่รู้เรื่องการมาถึงของเขา เขาจึงไม่ได้เข้าไปดูบุตรชายที่กำลังฝึกฝนอยู่ข้างในห้องทันที แต่เขาจะยืนมองอยู่ข้างหน้าต่าง เพื่อดูว่าบุตรชายนั้น ฝึกฝนสมาธิหรือวิ่งเล่นไปรอบ ๆ กันแน่
สิ่งที่เขาเห็นนั้นทำให้เขามีความสุขมาก เขายืนอยู่ข้างหน้าต่างประมาณสิบนาที แต่โอวหยางซิงเหวินยังคงฝึกสมาธิอย่างลึก ๆ โดยไม่ขยับตัว ซึ่งทำให้เขาดูมีสมาธิมาก เมื่อโอวหยางเทียนขอให้บุตรชายนั้นฝึกฝนสมาธิ แต่บุตรชายก็เอาแต่ปฏิเสธและหาข้อแก้ตัวไปวันๆ เป็นผลทำให้โอวหยางเทียนอารมณ์ดีอย่างมาก
สิ่งที่โอวหยางเทียนไม่รู้ก็คือโอวหยางซิงเหวินนั้นนั่งสมาธิฝึกฝนไปได้สาปแช่งในใจว่า ไหนบอกว่าบิดาจะมา แต่ทำไมเขายังไม่ปรากฎตัว หวังเอ๋อนี่กลั่นแกล้งเขาอย่างแน่นอน ทำให้เขาต้องเสียเวลากับการออกไปเที่ยว เพราะโอวหยาวซิงเหวิน ไม่รู้ว่า บิดาจะปรากฏตัวเมื่อไร เขาจึงทำได้เพียงแสร้างหลับตาทำสมาธิไปเรื่อยๆ โดยไม่รู้ตัว
เมื่อโอวหยางซิงเหวินรู้สึกว่าเขานั้นไม่สามารถทนได้อีกต่อไป และเตรียมพร้อมที่จะเปลี่ยนท่าทาง เพื่อพักผ่อน ประตูกลับก็ถูกผลักให้เปิดออก โอวหยางซิงเหวินหยุดเคลื่อนไหว และกลับเข้าสู้ท่วงท่าการนั่งสมาธิทันที
”อีกไม่นานตระกูลเราจะมีนักเวทย์กำเนิดขึ้นมาอีกหนึ่งคน บุตรชายของข้านั้น ขันแข็งในการฝึกฝนทุกวัน “โอวหยางเทียนกล่าวด้วยรอยยิ้มบนใบหน้าของเขา
”ท่านพ่อ…ทำไมท่านมาอยู่ที่นี่”นี่ไม่เป็นการรบกวนการฝึกฝนของข้าหรือ? ข้ารู้สึกเหมือนถูกรบกวน จากนั้นก็ตื่นขึ้นมา” โอวหยางซิงเหวินกล่าวด้วยใบหน้า ที่เต็มไปด้วยความไม่พอใจ
“มันเป็นความผิดของพ่อ…. อย่าโกรธไปเลย” โอวหยางเทียนรีบกล่าว ตัวเขานั้นให้ความสำคัญกับลุตรชายของเขามาก และตอนนี้เมื่อเขาเห็น บุตรชายของเขา ถูกรบกวนจากการกระทำของตนเอง เขาจึงรีบขอโทษ
“แล้วท่านพ่อจะชดเชยอย่างไรดี” โอวหยางซิงเหวิน กล่าวแบบโยนหินถามทาง
”อย่าเพิ่งรีบพูดถึงเรื่องชดเชยพ่ออยากถามเจ้าว่า ยาเสริมความหลักแหลมที่เจ้ากินไป 2-3 วันก่อน เป็นอย่างไรบ้าง?” โอวหยางเทียนถามขึ้น เขายังค่อนข้างกังวลเกี่ยวกับเรื่องนี้
เมื่อได้ยินคำพูดของบิดาสีหน้าของโอวหยางซิงเหวิน ก็ดูลุกลี้ลุกลนเล็กน้อย แต่เขาก็แสร้งทำเป็นสงบทันที และพูดว่า: “สองสามวันนี้ ข้ารู้สึกว่าตนเอง คล้ายกับเข้าใจพลังธาตุเล็กน้อย แต่บิดา ท่านก็รู้ด้วยว่า พรสวรรค์ของข้านั้นไม่ได้ดีมากนัก
ดังนั้นข้าจึงต้องการเวลามากกว่าคนอื่นๆ เล็กน้อย ข้ารู้สึกว่า ตนเองคล้ายจะสามารถทำความเข้าใจได้มากยิ่งขึ้น แต่ถูกบิดาขัดจังหวะเสียก่อน ”
อย่างไรก็ตามโอวหยางซิงเหวินเกรงว่า เขาจะถูกบิดาดุด่า และดูแลเขาอย่างเข้มงวด ด้วยวิธีนั้น มันจะทำให้เขาแอบออกไปเที่ยวเล่นอย่างยากลำบาก ดังนั้นเขาจึงทำได้เพียงแค่โกหก และในขณะเดียวกัน ก็ต้องผลักความรับผิดชอบไปให้บิดา เพื่อให้ให้เขาเข้ามาขัดจังหวะบ่อยๆ โดยที่เขาจะสามารถออกไปเที่ยวเล่นได้สะดวกยิ่งขึ้น
โอวหยางเทียนนั้นไม่ได้ติดใจสงสัยอะไรมากนัก เกี่ยวกับคำพูดของโอวหยางซิงเหวิน เขาไม่รู้ว่ายาเสริมความหลักแหลมนั้น ถูกสับเปลี่ยนไป และสิ่งที่โอวหยางซิงเหวินกินเข้าไปนั้น ไม่ใช่ยาเสริมความหลักแหลม แต่เป็นขนมกินเล่นธรรมดา ๆ เป็นเรื่องปกติ ที่เขาจะเข้าใจผิดว่า บุตรชายของเขากินยาเสริมความหลักแหลมเข้าไป ยิ่งไปกว่านั้นโอวหยางซิงเหวินพูดถูก ทักษะแต่กำเนิดของเขานั้นไม่ได้ดีอะไรมากนัก มิฉะนั้นเขาคงจะสามารถปลุกพรสวรรค์ขึ้นมาได้ และไม่ต้องกินยาเสริมความหลักแหลมเข้าไปกระตุ้นแทน
”ดีๆ ตอนนี้ไม่สำคัญว่าใช้เวลาเท่าไร” โอวหยางเทียนปลอบบุตรชาย เขาไม่ได้ต้องการให้บุตรชายปลุกพรสวรรค์ได้รวกเร็ว ราวกับอัจฉริยะ ตราบเท่าที่เขาสามารถปลุกพลังขึ้นมาได้ ไม่สำคัญว่าใช้เวลานานแค่ไหน เขารอมานานขนาดนี้แล้ว จะรออีกหน่อยจะเป็นไรไป?
โอวหยางซิงเหวินรู้ว่าตนเองนั้น สามารถทำให้บิดาเชื่อสนิทใจ อย่างไรก็ตามเมื่อ เขาจึงคิดที่จะขอสิ่งของแลกเปลี่ยน จากบิดา เพราะเขารู้ว่า บิดามีของดีมากมาย เพราะเขาเป็นปรมาจารย์ของหนึ่งในสี่ตระกูลใหญ่ ในเมืองฮ่าวเทียน จะไม่มีของดีติดมือเลยก็คงจะไม่ใช่ วันนี้เป็นโอกาสอันดี ที่จะตักตวงผลประโยชน์ โอวหยางซิงเหวินจะยอมพลาดได้อย่างไร?
“แล้วท่านพ่อจะชดเชยให้กับข้าอย่างไร ข้าเกือบจะปลุกพลังได้สำเร็จแล้ว แต่ข้าตกใจเสียงเปิดประตู” โอวหยางซิงเหวินกล่าวอย่างไม่พอใจ เมื่อเขากำลังนั่งสมาธิ เขาต้องการสภาพแวดล้อมที่เงียบมาก ๆ มิฉะนั้นจะถูกรบกวนได้ง่ายมาก อย่างไรก็ตามภายใต้สถานการณ์ปกติ เสียงเปิดประตูแค่นี้ มันจะไม่ส่งผลกระทบมากนัก
นอกจากนี้เมื่อเขาเห็นว่าเดี๋ยวนี้บุตรชายประพฤติตนดีขึ้น ไม่ออกไปเที่ยวเล่นเหมือนอย่างเคย และบุตรชายของเขา มีความก้าวหน้าอย่างมาก ในการฝึกฝน โอวหยางเทียนก็เกิดความสุขในใจ ดังนั้นเขาจึงไม่ปฏิเสธคำขอจากโอวหยางซิงเหวิน
“แล้วเจ้าอยากได้อะไร?” โอวหยางเทียนถามด้วยรอยยิ้ม
เมื่อเห็นว่าบิดาของเขาอารมณ์ดีและรับปากคำขอของเขา โอวหยางซิงเหวินก็ดีใจมาก และพูดทันทีว่า: “ข้าต้องการแหวนมิติ!”
”ไม่มีทาง!”โอวหยางเทียนปฏิเสธ โดยไม่หยุดคิด