กล่องจักรวาล (Universe Storage Box) - ตอนที่ 85
บทที่ 85 เปิดเผยตัว
“แค่กแค่ก แกเป็นบ้าอะไรเนี่ย? ทำไมอยู่ๆ ถึงได้เข้ามาตีฉัน?!”
ฮวงเฟิงจับหน้าอกของเขาและไอออกมาสองสามทีจากนั้นก็พูดออกมาขณะที่คลึงที่หน้าอกเพื่อคลายความเจ็บปวด
“ก็ไม่เท่าไรนี่นาทำไมใครๆ ก็ว่าแกเก่งกาจนักหนา?” ชายคนนั้นไม่ได้ตอบคำถามของฮวงเฟิง แต่กลับถามเขาแทน
“ใครๆ?แกหมายถึงใคร?” ฮวงเฟิงถาม แต่คราวนี้เขาระมัดระวังตัวกว่าเดิม เขาจะต้องไม่ถูกลอบทำร้ายอีกครั้ง
“แกเป็นคนที่อัดพวกนั้นจนต้องวิ่งหนีไปเมื่อสองสามวันก่อนใช่ไหม?” ชายคนนั้นถาม
“โอ้แกเป็นพวกเดียวกับพวกนั้นสินะ” ในที่สุดฮวงเฟิงก็เข้าใจ
“พรรคพวกงั้นหรือ?”พวกแกสมควรโดนแล้ว!” ชายคนนั้นกล่าวท่าทีเหยียดหยัน เห็นได้ชัดว่าเขากำลังดูถูกคนพวกนั้นที่เจอกันเมื่อคราวที่แล้ว
“อย่างไรก็ตามถึงแม้ว่าฉันจะไม่ใช่พวกเดียวกับพวกนั้น แต่เป้าหมายของฉันก็เหมือนกันกับพวกนั้นแหละ ว่าไงล่ะ มือหรือว่าเท้าดี? แกเลือกได้เลยนะ” ชายคนนั้นกล่าว
หลังจากที่เขาได้ตกลงรับภารกิจเขาก็ได้รู้ข้อมูลแม้กระทั่งที่ว่าฮวงเฟิงนั้นมีทักษะบางอย่าง และได้ถูกบอกให้ระวังตัว ซึ่งนั่นทำให้เขาใช้เวลาอยู่ช่วงหนึ่งเพื่อศึกษาสถานการณ์ของฮวงเฟิง และค้นพบว่าเขาเป็นแค่เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยตัวเล็กๆ แค่น้นเอง
อย่างไรก็ตามถึงจะทำด้วยความระมัดระวัง แต่เขาก็ยังคงเป็นกังวล ดังนั้นเขาจึงเลื่อนเวลาออกไปเพื่อสืบสาวเรื่องราวของฮวงเฟิง
เพียงแต่เขาไม่คิดว่าฮวงเฟิงจะอ่อนแอเช่นนี้และและไม่มีปฏิกิริยาต่อการกระทำของเขาเลยแม้แต่น้อยซึ่งมันก็น่าผิดหวังจริงๆ
“ช่างเป็นคนโหดเหี้ยมเสียจริงๆต้องการมือ เท้าคนอื่นเมื่อไหร่ก็ได้ก็ตามที่พวกแกต้องการงั้นหรอ คิดไม่ถึงว่าจะมีเหตุการร์นี้ซ้ำสอง”
ในเวลาเดียวกันเขาเองก็เข้าใจแล้วว่าถงเฉียนนั้นเป็นคนจิตใจคับแคบ
ก่อนหน้านี้เมื่อซูหยูโม่พูดเช่นนั้น เขาไม่คิดเกี่ยวกับเรื่องนี้มากนัก แต่ในตอนนี้ ดูเหมือนว่าอีกฝ่ายนั้นใจแคบยิ่งกว่าที่เขาได้จินตนาการเอาไว้มาก
“ฉันไม่สนใจหรอกนะว่าแกจะมีเรื่องขุ่นเคืองใจอะไรกับคุณชายน้อยถงคนนั้นฉันก็แค่ทำตามคำสั่ง แล้วนี่แกจะทำเองหรือว่าจะให้ฉันช่วยดีล่ะ?” ชายคนนั้นกล่าว เสียงของเขาดูเต็มไปด้วยความมั่นใจ
“แกแน่ใจขนาดนี้เลยหรือ?”ฮวงเฟิงยืนขึ้นและกล่าวออกมา
“แน่นอนสิเพราะก่อนที่ฉันจะชกแก ฉันก็สงสัยบางอย่าง
แต่ในตอนนี้ฉันไม่คิดว่าแกจะมีความสามารถอะไรที่จะกู้สถานการณ์ได้” ชายคนนั้นกล่าวอย่างมั่นใจ
เห็นได้ชัดว่าหลังจากที่ได้ทดสอบฮวงเฟิงแล้วเขาก็เข้าใจความสามารถของฮวงเฟิงได้เป็นอย่างดี
”อย่างนั้นเหรอ?”งั้นก็มาลองกันสักตั้งสิ!” ฮวงเฟิงพูด จากนั้นริมฝีปากของเขาก็ขยับเล็กน้อย ตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่จะปกปิดความแข็งแกร่งของตัวเขาเองเอาไว้อีกต่อไป ไม่อย่างนั้นมือและเท้าของเขาก็คงจะหักจริงๆ
“แกประเมินค่าตัวเองสูงเกินไปแล้วล่ะ!”เมื่อเห็นท่าทีของ ฮวงเฟิงชายคนนั้นก็รู้ว่าเขาจะต้องอดทนจนถึงที่สุดและเขาก็รีบเข้าไปหาฮวงเฟิงอีกครั้งอย่างอุกอาจ
อย่างไรก็ตามทันใดนั้นเขาก็รู้สึกว่ามีบางอย่างพันอยู่รอบเท้าของเขา ทำให้เขาไม่สามารถขยับเขยื้อนได้
เขาตกใจแต่เขาก็ไม่ได้ตื่นตระหนก
เขากดมือลงบนพื้นและนอนลงซึ่งเขาไม่ได้รับอันตรายอะไร
“มีอะไรแปลกๆเกิดขึ้นจริงๆ!” ในตอนนั้นชายคนนี้ไม่ได้เอะใจอะไรและคิดว่าคนเหล่านั้นพยายามหาข้อแก้ตัวให้เขาล้มเหลว อย่างไรก็ตามจากรูปลักษณ์ของมันแล้ว คนเหล่านั้นไม่ได้โกหกอย่างแน่นอน
เขาทำได้เพียงแค่อาศัยความรู้สึกของเขาซึ่งดูเหมือนว่ามันจะเป็นเถาวัลย์บางชนิด
เขาหยิบกริชออกมาจากหน้าอกและเตรียมจะตัดสิ่งนั้นที่พันอยู่เท้าของเขา
แต่เมื่อเขามองดูที่เท้าของเขาปรากฎว่าไม่มีอะไรอยู่ที่นั่นและแล้วเขาก็ได้รับอิสรภาพกลับคืนมา
ตามปกติแล้วฮวงเฟิงไม่ต้องการให้เขาเห็นเถาวัลย์นี้ เพราะว่าหากคู่ต่อสู้ของเขาคาดเดาว่าเป็นสิ่งหนึ่ง แต่เมื่อได้เห็นกับตาตัวเองแล้ว มันกลับกลายเป็นอีกเรื่องหนึ่ง จะยิ่งทำให้พวกเขาแปลกใจ
นอกจากนี้เขาก็ไม่ได้เหลือเพียงแค่คาถานี้แต่เพียงอย่างเดียว
ขณะที่ชายคนนั้นกำลังจะยืนขึ้นเขาก็สัมผัสได้ถึงอันตรายโดยสัญชาตญาณ
ดูเหมือนจะมีเสียงลมมาจากที่ไหนสักแห่งเขากลิ้งไปด้านข้างโดยไม่รู้ตัว
แต่แขนของเขายังคงถูกเฉือนและเลือดก็ไหลออกมา
ในครั้งนี้ฮวงเฟิงใช้ดาบวายุซึ่งแตกต่างจากครั้งก่อนๆ ไม่กี่ครั้งก่อนหน้านี้ เขาเพียงแค่พยายามที่จะสอนบทเรียนให้คนอื่นๆ เท่านั้นและไม่ต้องการให้เกิดอันตรายใดๆ ขึ้นกับพวกนั้น
ดังนั้นดาบวายุที่เขาปล่อยออกมาก็คือสามารถควบคุมและตัดเสื้อผ้าของพวกเขาออกไปได้ แต่คราวนี้ฮวงเฟิงเจตนาทำร้ายพวกเขา ดังนั้นเขาจึงไม่ได้ยั้งมือ
อย่างไรก็ตามเขายังขาดประสบการณ์ในการต่อสู้ที่แท้จริงและฝ่ายตรงข้ามก็มีความแข็งแกร่งเช่นกัน
แม้ว่ามันจะทำให้อีกฝ่ายได้รับบาดเจ็บแต่ก็ไม่ได้สร้างความเสียหายมากนัก
”นี่แกใช้กระสุนปืนอะไร?”เขาคิดว่าในตอนนี้ฮวงเฟิงได้ใช้อาวุธที่ซ่อนเอาไว้
ฮวงเฟิงไม่เพียงแต่ไม่ตอบคำถามของเขาแต่ยังคงใช้ดาบวายุเพื่อที่จะดูพลังของมัน
ฮวงเฟิงตัดสินใจใช้ทักษะนี้ไม่ใช่ทักษะอื่นหรืออย่างอื่น ยกตัวอย่างเช่น เทคนิคลูกบอลเพลิง กระสุนน้ำแข็ง ฯลฯ ซึ่งจะเปิดเผยเพียงแค่เบาะแสเท่านั้น
ในขณะที่ดาบวายุไม่เป็นเช่นนั้นการปกปิดของทักษะนี้ดีมาก
แม้ว่าจะฟันโดนตัวของฝ่ายตรงข้ามแต่ฝ่ายตรงข้ามก็จะไม่พบอะไรเลย
ชายคนนั้นรู้สึกว่าเขากำลังจะเป็นบ้าเดิมทีเขาคิดว่าฮวงเฟิงไม่ได้มีพลังมากนักและมั่นใจในตัวเองมาก
แต่ตอนนี้ฮวงเฟิงอาศัยอาวุธที่ซ่อนอยู่ซึ่งเขาไม่รู้ว่าจะสยบเขาได้อย่างไร
มันเป็นไปไม่ได้เลยที่เขาจะเข้าใกล้ตัวของฮวงเฟิงและร่างกายของเขาก็ได้รับบาดเจ็บหลายแห่ง
ฮวงเฟิงมองไปที่ชายผู้น่าสังเวชตรงหน้าเขาและหัวใจของเขาก็ไม่ได้รู้สึกผ่อนคลายเลยแม้แต่น้อย
จากการต่อสู้ครั้งนี้ฮวงเฟิงได้ตระหนักแล้วว่าประสบการณ์การต่อสู้ของเขายังน้อยอยู่มาก และมันก็เป็นการดีที่จะสอนบทเรียนให้กับคนธรรมดาเหล่านั้น
ยิ่งไปกว่านั้นลูกบอลแสงหลากสีภายในร่างกายของเขากำลังใช้พลังงานอย่างต่อเนื่อง
หากไม่ใช่เพราะความจริงที่ว่าเขารู้จักเวทมนตร์และพลังภายในทั้งสองสามารถฟื้นตัวได้ภายในเวลาเดียวกัน
ด้วยการฝึกตนเพียงไม่กี่วันเขาคงจะไม่อยู่ได้นานขนาดนั้น
อย่างไรก็ตามฮวงเฟิงรู้สึกกระวนกระวายในใจ
อีกฝ่ายยิ่งกังวลมากขึ้นเขาไม่เคยคิดเลยว่าฮวงเฟิงจะมีอาวุธที่ทรงพลังซ่อนอยู่
และทักษะของฮวงเฟิงนั้นก็อยู่ในระดับปานกลางแต่อาวุธที่ซ่อนอยู่ของเขานั้นทรงพลัง
เขาไม่ใช่คู่ของฮวงเฟิงเลยยิ่งไปกว่านั้นจะเห็นได้ว่าอีกฝ่ายไม่มีประสบการณ์ในการต่อสู้ที่แท้จริง ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้เขายังสามารถยืนหยัดได้จนถึงตอนนี้
และหากว่าอีกฝ่ายคุ้นเคยกับจังหวะของเขาแล้วเขาก็จะตกที่นั่งลำบากอย่างแน่นอน
ฮวงเฟิงเองถือได้ว่าได้ใช้เขาเป็นรูปแบบการฝึกฝนในตอนนี้
การปรากฏตัวของเขาช่วยฮวงเฟิงเป็นอย่างมากและเพิ่มประสบการณ์การต่อสู้ของเขา
ในขณะเดียวกันก็เพิ่มความเข้าใจในเวทมนตร์ของเขาด้วยเพราะในการสยบคู่ต่อสู้ของเขาเขาต้องรวดเร็วในการร่ายเวทย์
หากไม่เช่นนั้นแล้วเมื่อคู่ต่อสู้ของเขามีโอกาสจับลมหายใจของเขาได้
และเมื่อนั้นคนเดียวที่จะเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ก็คือตัวเขาเอง