กล่องจักรวาล (Universe Storage Box) - บทที่ 167 -168
บทที่ 167 สนามรบ
ในสนามรบที่กำลังอื้ออึงและในสถานการณ์เช่นนี้ก็ไม่มีใครที่จะสังเกตเห็นสิ่งนี้
เพราะว่านี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ระเบิดมือจะไม่ระเบิดและก็ไม่มีใครไปตรวจสอบดูด้วยซ้ำ ไม่ต้องพูดถึงระเบิดมือปลอมที่ตอนนี้ได้ถูกทับถมไปด้วยโคลนตม
หนิววาจื่อที่กำลังยิงปืนอยู่นั้นถึงแม้ว่าเขาจะเป็นทหารใหม่และนี่ก็เป็นสงครามครั้งแรกของเขา แต่เขาก็มีพรสวรรค์ทางด้านนี้เป็นอย่างยิ่ง
ทักษะการยิงปืนของเขานั้นดีขึ้นเรื่อยๆและไม่ได้ด้อยไปกว่าทหารผ่านศึกอาวุโสที่เคยเข้าร่วมสงครามหลายครั้งเลยทีเดียว
กัปตันยังคงสั่งการคนของเขาให้กวาดล้างสนามรบนั้น
อย่างไรก็ตามศัตรูทั้งหลายของอีกด้านบางทีอาจจะรู้ว่าพวกเขามีเครื่องกระสุนจำนวนจำกัด
ดังนั้นเมื่อใดก็ตามที่พวกเขาเข้าโจมตีเสร็จพวกเขาจะส่งคนไปดูสนามรบและหากพวกเขาพบว่าหนิววาจื่อกำลังเคลียร์สนามรบพวกเขาจะยิงและขวางพวกเขาเอาไว้
ดังนั้นการเคลียร์สนามรบจึงไม่ใช่เรื่องง่ายเหมือนในช่วงแรกอีกต่อไป
หนิววาจื่อไม่ได้รับหน้าที่เคลียร์สนามรบความจริงนับตั้งแต่ครั้งแรกที่เขาไปเคลียร์สนามรบ เมื่อถูกจับได้ว่าเขาแอบซ่อนปืนพกเอาไว้หนิววาจื่อก็ไม่ได้ออกไปเคลียร์สนามรบอีกเลย
เขาเองก็ไม่ได้อยากจะซ่อนอะไรแต่ถ้าวิ่งสุ่มสี่สุ่มห้าเข้าไปในสนามรบ และถ้ากัปตันเห็นเขาเข้า เขาก็จะต้องโดนลงโทษอย่างแน่นอน
”หนิววาจื่อนายเป็นอย่างไรบ้าง?” บาดเจ็บไหม?” กัปตันเดินมาที่ด้านข้างของหนิววาจื่อตั้งแต่เมื่อไรก็ไม่รู้ได้
หนิววาจื่อลุกขึ้นยืนในทันทีและแสดงความเคารพแบบทหารอย่างไม่เป็นทางการเกินไป เขากล่าวว่า: “รายงานกัปตัน หนิววาจื่อไม่ได้รับบาดเจ็บครับ”
”ไม่เลวหนิววาจื่อทำได้ดีมาก” กัปตันตบไหล่ของหนิววาจื่อ ด้วยมือขวาที่ไม่ได้รับบาดเจ็บ ส่วนมือซ้ายของเขาก็มีผ้าพันรอบคออยู่ อย่างไรก็ตามเห็นได้ชัดว่าบาดแผลยังไม่ได้รับการรักษาอย่างดีเท่าไรนัก
“คุณรักษาการหัวหน้ากองพลแล้วห้ามร้องไห้นะ” กัปตันกล่าวพร้อมรอยยิ้ม
”กัปตันผมไม่ได้ร้องไห้” หนิววาจื่อกล่าวด้วยน้ำเสียงที่ไม่มั่นใจนัก
“แล้วเมื่อกี้นี้ใครกันแน่ที่ร้องไห้ก่อน?”แม้ว่าการต่อสู้จะยากลำบาก แต่กัปตันก็ยังคงอารมณ์ดี
”กัปตันนั่นเป็นเรื่องเก่าแล้วตอนนี้ผมเป็นนักรบที่แท้จริง ตอนนี้ผมจะไม่ร้องไห้อีกต่อไปแล้ว ลุงอู๋บอกว่านักรบที่แท้จริงทำได้แค่หลั่งเลือดเท่านั้น ห้ามร้องไห้” หนิววาจื่อกล่าวเสียงดัง
“ใช่แล้วผู้อาวุโสอู๋พูดถูก” ทั้งทีมพยักหน้าจากนั้นกล่าวด้วยความเศร้า: “ผู้อาวุโสอู๋ ช่างเป็นทหารที่ยิ่งใหญ่อะไรเช่นนั้น หนิววาจื่อคุณต้องระวังตัวด้วย เข้าใจไหม?”
”ครับ”หนิววาจื่อพยักหน้าอย่างหนัก ลุงอู๋เคยกล่าวไว้ก่อนหน้านี้แม้แต่ทหารผ่านศึกที่มีประสบการณ์ในสนามรบก็ไม่สามารถรับประกันชีวิตของตัวเองได้
เพราะกระสุนนั้นเหมือนคนตาบอดพวกมันจะไม่พูดแต่ส่วนมากจะฆ่าทหารใหม่ ไม่ใช่ทหารเก่า
เพราะทหารเก่าจะปกป้องตัวเองมากกว่าทหารใหม่อัตราการตายจึงต่ำกว่า แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่มีเลยโดยเฉพาะอย่างยิ่งในสถานการณ์เช่นนี้ที่เขาเสียเปรียบใครๆ ก็สามารถตายได้
ซึ่งอาจจะเป็นลุงอู๋อาจจะเป็นหนิววาจื่อ หรืออาจจะเป็นกัปตันก็ได้!
ดังนั้นจึงไม่มีใครกล้าประมาทในสนามรบ
กัปตันให้กำลังใจหนิววาจื่ออีกเล็กน้อยจากนั้นก็ไปปลอบใจคนอื่นๆ
นี่คือสิ่งที่กัปตันจะทำทุกครั้งที่การต่อสู้หยุดลงแม้ว่าเขาจะได้รับบาดเจ็บและดูแย่เขาแค่ไหนแต่เขาก็ยังคงทำเช่นนั้น
”ไอ้พวกปิศาจไม่ได้ผุดได้เกิดพวกนี้!”หนิววาจื่อมองไปที่ซากศพที่เกลื่อนอยู่ในสนามรบและมองไปที่เพื่อนทหารของเขาที่กำลังร่ำไห้ด้วยความเจ็บปวดและสาปแช่งพวกนั้นอย่างดุเดือด
ห่างออกไปไม่ไกลนักบุคลากรทางการแพทย์เดินกันขวักไขว่ตลอดเวลาและเป็นกลุ่มคนที่พลุกพล่านที่สุดในสนามเวลานี้
เพราะจะมีผู้บาดเจ็บอยู่ทุกขณะแม้ในการสู้รบบุคลากรทางการแพทย์เหล่านี้จะต้องกล้าเสี่ยงที่จะถูกปืนยิงที่ศีรษะเพื่อทำการรักษาในทุกที่
หนิววาจื่อนั่งลงอีกครั้งอย่างรวดเร็วและเริ่มทำความสะอาดปืนและเตรียมกระสุน
หากยังมีเวลาอีกสักหน่อยเขาจะหลับตาและพักผ่อนสิ่งเหล่านี้ล้วนถูกสอนโดยลุงอู๋
หนิววาจื่อเองก็เหนื่อยมากเช่นกันแต่เขาไม่กล้านอน ส่วนใหญ่แล้วเขาแค่หลับตาเพื่อพักผ่อน
เขาเหนื่อยมากและเขากลัวว่าถ้าเขาหลับไปเขาจะไม่ได้ตื่นขึ้นมาซึ่งเห็นได้ชัดว่ามันไม่ได้ผล
”ท่านนายพลการต่อต้านของศัตรูนั้นรุนแรงมาก และการโจมตีของเราก็กำลังถูกขับไล่อีกครั้ง”
ไม่ไกลจากฐานทัพมีคนสองสามคนมองไปที่สนามรบผ่านกล้องส่องทางไกลจากที่ๆสูงกว่า
”อีกไม่นานพวกเขาคงจะไม่สามารถทนได้อีกต่อไป”หนึ่งในนั้นวางกล้องส่องทางไกลลงและพูดเบาๆ กับคนรอบข้าง
พวกเขามีคนน้อยกว่าและอาวุธของพวกเขาก็อ่อนแอกว่าและประสบการณ์การต่อสู้ก็ไม่มากเท่าและพวกเขาก็ยังขาดแคลนกระสุนอีกด้วย ผมไม่คิดว่าพวกเขาคงจะต้านพวกเราได้อีกไม่นาน”
“คุณพูดถูกนายน้อย” คนข้างๆ เขาพยักหน้าและพูดว่า “อย่างไรก็ตามคนก็ได้ต้านพวกเรามาตั้งนานแล้ว ดังนั้นจึงไม่ควรมองข้ามความแข็งแกร่งของพวกเขาไปนะ”
”เหลือเวลาอีกไม่มากนักจวนจะถึงเวลานัดกับลอร์ดวูดวิลล์แล้วถ้าเราไปไม่ถึงตรงเวลา มันก็จะยากมากสำหรับเขาที่จะไปที่นั่น ดังนั้นสำหรับการโจมตีครั้งต่อไปไม่ว่าจะยังไงก็ตามพวกคุณต้องเอาชนะให้ได้ พวกเขาจะต้านทานไว้ด้วยจิตวิญญาณสุดท้ายของพวกเขาและทันทีที่พวกเขาตีฝ่าออกมาพวกเขาก็จะต้องพังทะลาย”
ก่อนหน้านี้เขาได้รับภารกิจในการสนับสนุนผู้นำหมู่บ้านมู่ในบริเวณใกล้เคียงกับจังหวัดลิ่วเฉียนแต่ระหว่างทางเขาได้พบกับศัตรูกลุ่มนี้ซึ่งเดิมทีเขาก็ไม่ได้จริงจังอะไร
แต่ท้ายที่สุดพวกเขาเคยเห็นศัตรูเช่นนี้หลายครั้งและพวกเขาก็จะพ่ายแพ้หลังจากที่สู้กันเพียงครั้งเดียว
อย่างไรก็ตามเขาไม่ได้คาดหวังว่ากองทัพตรงหน้าเขาจะแตกต่างจากที่เขาเคยได้เห็นมาก่อน
จิตวิญญาณการต่อสู้ของพวกเขานั้นแข็งแกร่งและแม้ว่าจะมีจำนวนคนน้อยไม่มีอาวุธและกระสุน แต่พวกเขาก็ยังสามารถต้านทานพวกมันเอาไว้ได้เป็นเวลานาน
”จำไว้ว่าเมื่อพวกเราโจมตีฉันไม่ต้องการเชลย พวกเราต้องรีบไปถ้าพวกเราเก็บเชลยไว้มันจะทำให้พวกเราล่าช้า!”
”ครับ!”นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่พวกเขาทำเช่นนี้และไม่มีความกดดันทางจิตใจเลย ยิ่งไปกว่านั้นคนที่อยู่ตรงหน้าพวกเขาได้ต้านทานพวกเขาเอาไว้ได้เป็นเวลานาน ดังนั้นมันถึงเวลาแล้วที่พวกเขาจะต้องถูกลงโทษ”
หลังจากที่เขาพูดจบเจ้าหน้าที่ก็บอกให้ผู้ใต้บังคับบัญชาของเขาไปพักผ่อนให้เร็วที่สุดก่อนที่จะเริ่มการโจมตี
นี่เป็นการโจมตีหลักพวกเขาจะต้องเข้ายึดตำแหน่งของฝ่ายตรงข้ามและทำลายศัตรูให้หมด!
บทที่ 168 ครบสี่อย่าง
ในท้ายที่สุดหนิววาจื่อก็ไม่ได้พักนานนักไม่ใช่ว่าอีกฝ่ายได้เข้าโจมตีอีกครั้ง
แต่กัปตันของพวกเขาอนุญาตให้ทุกคนที่ยังมีแรงเคลื่อนไหวจับพลั่วจอบและสิ่งของอื่นๆและซ่อมแซมปราการที่อยู่ตรงหน้าแม้ว่าหนิววาจื่อจะเหนื่อยมากแล้ว แต่เขาก็ยืนขึ้นในทันทีที่ได้รับคำสั่งและหยิบจอบข้างๆ ขึ้นมาขุดป้อมปราการก่อนที่การต่อสู้จะเริ่มขึ้น
”หนิววาจื่อคุณยังแข็งดีใช่ไหม?” เมื่อนักรบชราผู้ซึ่งทำหน้าที่แจกจ่ายค้อนและจอบเห็นหนิววาจื่อ เขาก็ค่อนข้างแปลกใจ
เขารู้สึกประทับใจกับหนิววาจื่อเพราะเมื่อแรกที่หนูน้อยคนนี้มาและเห็นศัตรูเป็นครั้งแรกเขาก็กลัวจนน้ำตาไหลในทันที มันทำให้ทุกคนหัวเราะไปชั่วขณะ
นักรบอาวุโสไม่เคยคาดคิดมาก่อนว่าหนิววาจื่อที่เพิ่งจะเข้าประจำการใหม่จะยังมีชีวิตอยู่และจำนวนผู้เสียชีวิตก็เกินหนึ่งในสามไปแล้ว
พวกเขาส่วนใหญ่เป็นทหารเกณฑ์ใหม่ที่เพิ่งเข้าสู่สนามรบหรือเคยไปสนามรบแค่ครั้งหรือสองครั้งแต่หนิววาจื่อยังคงยุ่งอยู่และดูตอนนี้ดูเหมือนว่าเขาจะไม่ได้รับบาดเจ็บเลยแม้แต่น้อย
”แน่นอนสิส่งพลั่วมาให้ฉันเถอะ”หนิววาจื่อกล่าว
นักรบอาวุโสรู้ว่านี่ไม่ใช่เวลาที่จะมัวมาสนทนาและมองกวาดพลั่วอย่างรวดเร็ว
จนในที่สุดก็พบอันที่เล็กที่สุดสำหรับหนิววาจื่อพลั่วเหล่านี้ยืมมาจากชาวนาในบริเวณใกล้เคียงและในบ้านของชาวนาหลายคนจะมีเด็กๆ ทำงานในไร่นา ดังนั้นพวกเขาจะมีพลั่วเล็กๆ สองสามอันในบ้านซึ่งเหมาะสำหรับหนิววาจื่อในตอนนี้
ใครบอกว่าเขายังเด็กและอ่อนแอ?
นักรบชรากำลังดูแลหนิววาจื่อแต่จริงๆแล้วหนิววาจื่อกลับย่นริมฝีปากด้วยความไม่พอใจ เขามองไปที่ฝูงชนที่อยู่รอบตัวเขาและไม่ได้พูดอะไร เขาไม่มีความสุขเพราะเขาไม่ต้องการให้คนอื่นปฏิบัติกับเขาเหมือนเด็กเล็กๆ อีกต่อไป
เขาเป็นนักรบที่แท้จริงเขาเข้าสู่สนามรบแล้ว ฆ่าศัตรูและเขาก็ไม่ใช่เด็กอีกต่อไปแล้ว
อย่างไรก็ตามเขารู้ว่านักรบชราทำสิ่งนี้เพื่อประโยชน์ของตัวเองยิ่งไปกว่านั้นนักรบคนอื่นๆ ก็ต้องการใช้พลั่วด้วย ดังนั้นเขาจึงไม่อยากที่จะให้คนอื่นต้องเสียเวลา
หนิววาจื่อนำพลั่วขนาดเล็กกลับไปที่ตำแหน่งที่ตั้งเดิมและเริ่มขุดดินตรงหน้าของเขาป้อมปราการที่นี่เดิมทีถูกขุดขึ้นในกรณีฉุกเฉินและมันก็ไม่ค่อยดีนัก
แน่นอนว่าผู้ที่ได้รับบาดเจ็บหรือเหนื่อยเกินไปและไม่มีแรงก็ไม่จำเป็นต้องทำเช่นนี้
สิ่งที่พวกเขาต้องทำคือพักผ่อนให้เพียงพอจากนั้นพวกเขาจะสามารถต่อสู้กับพวกปิศาจชั่วร้ายพวกนั้นได้
ความแข็งแกร่งของหนิววาจื่อไม่ได้แข็งแกร่งขนาดนั้นหลังจากที่เขาขุดไปได้สักพักเขาก็หอบหนัก
โชคดีที่สภาพบังเกอร์ตรงหน้าของเขาไม่ได้แย่เกินไปนักและเขาไม่จำเป็นต้องแก้ไขมันทั้งหมด
เมื่อหนิววาจื่อแก้ไขป้อมปราการตรงหน้าเสร็จแล้วเสียงของกัปตันก็ดังขึ้นอีกครั้ง ศัตรูกำลังจัดระเบียบแถวใหม่แล้วและกำลังจะเข้าโจมตีอีกครั้ง
ดังนั้นทุกคนจึงมุ่งไปที่ตำแหน่งที่กำหนดไว้
หนิววาจื่อเองก็ได้ยินคำสั่งและโยนพลั่วทิ้งทันที
ตอนนี้เขาไม่ได้สนใจอะไรอีกต่อไแล้วเขานอนลงบนพื้นและเล็งเป้าในระยะไกล
”ไอ้ปิศาจห่าเหวพวกนี้มาเถอะ มาเลย เดี๋ยวปู่หนิวสั่งสอนแกเอง!” หนิววาจื่อได้เรียนรู้การสบถแล้ว
สถานการณ์แบบนี้เกิดขึ้นบ่อยมากในสนามรบนักรบส่วนใหญ่ไม่ค่อยจะมีวัฒนธรรมใดๆ และบางครั้งคำพูดที่รุนแรงก็แสดงออกถึงความคิดในใจได้ดีกว่า
เพียงแค่ว่าหนิววาจื่อนั้นไม่ได้ตระหนักว่าบนพื้นผิวของพลั่วขนาดเล็กที่เขาโยนไปด้านข้างซึ่งปกคลุมไปด้วยฝุ่นนั้นได้ปรากฎแสงที่สว่างวาบ
และเกือบจะในเวลาเดียวกันในพื้นที่ของสนามรบระหว่างทั้งสองฝ่ายซึ่งไม่มีเวลาเพียงพอในการเคลียร์พื้นที่ก็มีแสงวาบเกิดขึ้น
แม้ว่ากัปตันจะส่งคนไปเคลียร์พื้นที่สนามรบทุกครั้งที่การต่อสู้หยุดลงแต่เวลาก็กระชั้นเกินไปและอีกฝ่ายหนึ่งก็เฝ้าระวังอยู่
ดังนั้นจึงเป็นไปไม่ได้ที่พวกเขาจะทำเคลียร์พื้นที่ให้หมดจดได้
ดังนั้นจึงยังคงมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนจำนวนมากหลงเหลือในสนามรบแม้กระทั่งระเบิดมือและอื่นๆ
ซึ่งกัปตันได้แต่อิจฉาเป็นอย่างมากแต่เขาไม่กล้าส่งนักรบของตัวเองไปตาย
ดังนั้นเขาจึงทำได้เพียงเฝ้าดูและรอชัยชนะจากนั้นเขาถึงจะมีเวลามากพอที่จะเคลียร์สนามรบได้
หนิววาจื่อไม่ทราบว่าพลั่วของเขาก็ได้เปลี่ยนไปแล้วเช่นกันมันไม่ใช่พลั่วสนิมอีกต่อไป แต่เป็นพลั่วด้ามใหม่เอี่ยมแทน
และตอนนี้เขาก็มุ่งความสนใจไปที่ศัตรูซึ่งดูเหมือนว่าเขาจะถูกระดมกำลังและเขากำลังโจมตีข้าศึกอย่างดุเดือด
ในเวลาเดียวกันฮวงเฟิงผู้ที่กำลังรับประทานอาหารอยู่บนโลกทันใดนั้นเขาก็พูดขึ้นในใจ มือของเขาหยุดชั่วขณะ
จากนั้นเขาก็วางตะเกียบลงแล้วรีบวิ่งไปที่ห้องของเขาเพื่อหยิบกล่องจักรวาลออกมา
”รวบรวมวัตถุทั้งสี่ในห้วงเวลาสำเร็จแล้วคุณต้องการที่จะเทเลพอร์ตเลยไหม?”
เสียงกลไกอะไรบางอย่างดังขึ้นในความคิดของฮวงเฟิง
เขาไม่เคยได้ยินเสียงเช่นนี้มาก่อนและเขายังเข้าใจว่ากล่องจักรวาลต้องได้รับอย่างอื่นและคราวนี้มันได้สร้าง”ชุดธาตุทั้งสี่” ขึ้นมาพร้อมกับสิ่งต่างๆ ที่เขาได้รับมาก่อนหน้านี้ มันอาจจะสามารถเรียกมังกรศักดิ์สิทธิ์ อ้อไม่สิ เขาสามารถใช้ประตูมิติได้
ฮวงเฟิงโยนสิ่งของทั้งหมดจากกล่องจักวาลลงบนพื้นในคราวเดียว
เป็นตามที่คาดไว้เขาได้พบของสิ่งใหม่แต่เขาไม่คาดคิดว่าคราวนี้สิ่งที่เขาได้รับไม่ใช่ของใหม่แค่เพียงชิ้นเดียว แต่เป็นสามชิ้น!
การได้รับสิ่งใหม่สามสิ่งพร้อมกันเป็นสิ่งที่ฮวงเฟิงไม่เคยคาดคิดมาก่อน
ก่อนหน้านี้เขาเคยได้รับของสองสิ่งพร้อมกันแต่สถานการณ์แบบนั้นเกิดขึ้นได้น้อยมากเพราะโดยปกติแล้วจะได้ทีละชิ้น
อย่างไรก็ตามครั้งนี้กล่องจักรวาลกำลังจะทำให้เขาประหลาดใจอย่างเห็นได้ชัด
หลังจากที่ดูของสามรายการนี้แล้วเขาก็ถึงกับอึ้งไปเล็กน้อยเพราะสิ่งของเหล่านี้เป็นสมบัติธรรมดาและแทบจะไม่มีค่าเลย
มันคือพลั่วที่ขึ้นสนิมอันเล็กมากปืนยาวที่มีด้ามหักมีกระสุนเหลืออยู่ในนั้นเพียงสองนัด และชิ้นสุดท้ายคือระเบิดมือ ที่ดูเหมือนว่าจะไม่สามารถใช้งานได้อีกต่อไปเพราะสลักได้ถูกดึงออกไปแล้วและมันน่าจะระเบิด แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าจะไม่มีอะไรเหลือแล้ว กล่องจักรวาลคงจะทำให้มันไม่ระเบิด
เมื่อมองดูสิ่งของทั้งสามชิ้นนี้ฮวงเฟิงก็นึกถึงปืนพกที่เขาเพิ่งได้รับมาก่อนหน้านี้
ถ้าเขาจำไม่ผิดสิ่งของทั้งสี่นี้มาจากพื้นที่และห้วงเวลาเดียวกันและเขาเคยคาดเดาเกี่ยวกับเรื่องนี้มาก่อน
เขาจึงได้ซื้อของเหล่านี้มาแต่อย่างไรก็ตามเขาไม่ได้คาดหวังว่าภายในเวลาไม่ถึงหนึ่งชั่วโมงเขาจะสามารถได้รับของมาแทนที่ทั้งหมดได้