กล่องจักรวาล (Universe Storage Box) - บทที่ 183 -184
บทที่ 183 ทำสัญญาใหม่
“ใช่นี่เป็นครั้งแรกที่เราพบกัน” เซี่ยเมิ่งเจียวยังคงไม่พูดอะไรเกี่ยวเรื่องที่เกิดขึ้นที่บาร์ เธอกลัวว่าซูหยูโม่จะคิดมากหรือไม่ก็เป็นห่วงเธอ
“อย่างไงก็เถอะดูเขาสิ ฉันบอกได้แค่ว่าเขาไม่ใช่คนดี”
“เธอ”ซูหยูโม่กล่าวด้วยความขบขัน “นี่เป็นครั้งแรกที่เธอได้พบเขา แล้วเธอจะดูจากรูปร่างหน้าตาของเขาได้ยังไงว่าเขาเป็นคนไม่ดี แล้วเธอก็ยังไม่รู้จักเขาเลยด้วยซ้ำนะ?”
“เขาก็แค่ดูไม่เหมือนคนดี”เซี่ยเมิ่งเจียวหน้ามุ่ย และจากนั้นราวกับว่าเธอเพิ่งจะค้นพบบางอย่าง เธอกล่าวว่า “เฮ้ พี่หยูโม่ จากที่ดูแล้ว ดูเหมือนว่าเธอจะเข้าใจเขาค่อนข้างดีเลยนะ”
“ไม่ใช่แบบนั้นแน่นอน”ซูหยูโม่ตื่นตระหนกอยู่ในใจ และหลบตา
อย่างผิดธรรมชาติ:”ฉันได้ติดต่อกับเขาเพียงไม่กี่ครั้ง ดังนั้นฉันจึงรู้จักเขาเพียงแค่เล็กน้อย ไม่เช่นนั้นฉันคงจะไม่ได้เลื่อนตำแหน่งให้เขาเป็นผู้จัดการหรอก”
“จริงด้วย”เซี่ยเมิ่งเจียวไม่สงสัยในคำพูดของเธอ ท้ายที่สุดถ้าพี่หยูโม่ไม่เข้าใจฮวงเฟิงเลยเธอคงจะไม่สามารถเลื่อนตำแหน่งให้เขาได้
”โอเคไม่จำเป็นต้องถอดตำแหน่งผู้จัดการของเขาแล้วใช่ไหม?” ซูหยูโม่ถาม
ในความเป็นจริงเธอไม่เต็มใจที่จะปลดฮวงเฟิงออกจากบริษัทอย่างแน่นอน เนื่องจากมันเป็นเรื่องที่น่าละอายต่อฮวงเฟิงเกินไป แล้วเธอจะไปพบใครในบริษัทในอนาคตได้อย่างไร?
ดังนั้นแม้ว่าเซี่ยเมิ่งเจียวจะมีความคิดเช่นนี้แต่ซูหยูโม่ก็ยังคงหว่านล้อมเธอ
เพราะว่าเธอเป็นคนที่เลื่อนตำแหน่งให้กับฮวงเฟิงดังนั้นเธอจึงไม่สามารถที่ทำร้ายเขาได้
เมื่อเซี่ยเมิ่งเจียวเห็นว่าซูหยูโม่ให้ความสำคัญกับฮวงเฟิงมากและเธอก็รู้สึกไม่พอใจเล็กน้อยอยู่ในใจ
แต่เธอรู้ว่าซูหยูโม่ไม่ใช่คนที่สะเพร่าเพราะการที่ฮวงเฟิงจะได้รับการเลื่อนตำแหน่งได้ถึงระดับนี้เขาจะต้องเป็นคนที่โดดเด่น
ถ้าเธอถอดถอนตำแหน่งผู้จัดการของเขาพี่หยูโม่ของเธอก็จะไม่พอใจอย่างแน่นอน
นอกจากนี้อยู่เซี่ยเหมิงเจียวก็คิดถึงเรื่องนี้
โดยที่ไม่จำเป็นที่จะต้องปลดเขาออกจากตำแหน่งเขาสามารถทำให้เขาอยู่ในบริษัทต่อไปได้
และด้วยวิธีนี้เธอก็จะมีโอกาสที่จะได้แก้แค้น
หากตำแหน่งผู้จัดการของเขาถูกปลดเขาก็คงจะไม่ยอมรับการตัดสินใจนี้และอาจจะลาออกได้ แล้วเธอจะเล่นต่อไปได้อย่างไรกันล่ะ?
เมื่อนึกถึงตรงนี้เซี่ยเมิ่งเจียวได้เปลี่ยนความคิดของเธอโดยสิ้นเชิง
แม้ว่าซูหยูโม่ต้องการที่จะปลดเขาออกในตอนนี้แต่เธอคงจะก็ไม่เห็นด้วย
ไม่สิฉันจะไม่ให้เขาไปอย่างแน่นอน พี่หยูโม่บอกแล้วว่าเขามีความสามารถแล้วเขาก็ทำได้แน่นอน
สำหรับคนอย่างเขาเราจำเป็นต้องเก็บเขาไว้อย่างแน่นอนพี่หยูโม่ถ้าเธอเซ็นสัญญากับเขาอีกครั้งเราก็อาจจะขึ้นเงินเดือนให้เขาอีกสักเล็กน้อย
แต่เวลาที่กำหนดในสัญญาก็จะนานขึ้นยิ่งไปอีกและถ้าเขาต้องการที่ลาออกเอง เขาก็จะต้องจ่ายค่าชดเชยจำนวนมหาศาลให้แก่บริษัท เพียงเท่านั้นคนมีพรสวรรค์เช่นนี้ก็จะไม่ถูกบริษัทอื่นขโมยไป” เซี่ยเมิ่งเจียวกล่าว
เซี่ยเมิ่งเจียวได้คิดหาวิธีแก้แค้นฮวงเฟิงไว้ตั้งมากมายแล้ว.
ดังนั้นเธอจะไม่ปล่อยให้ฮวงเฟิงจากไปอย่างง่ายดาย
ดังนั้นเธอจึงคิดที่จะแก้ไขสัญญาและยิ่งไปกว่านั้นเธอเองก็ไม่ควรที่จะเปิดเผยตัว
แต่สำหรับพี่หยูโม่นั้นแตกต่างออกไปเธอเป็นผู้มีพระคุณของ ฮวงเฟิงและฮวงเฟิงเองก็จะไม่สงสัยในคำพูดของเธอและเขาก็จะไม่ปฏิเสธเธอ
”เพิ่มค่าจ้างง้้นเหรอ?เพิ่มอายุสัญญา? เงินชดเชยก้อนโต? นี่มันดีใช่ไหม?” ซูหยูโม่กล่าว
”มันจะไม่ดีได้อย่างไรล่ะ?ฉันตัดสินใจแล้วว่าจะร่างสัญญาแบบนี้ พี่หยูโม่ เธอคงจะไม่อยากเห็นคนที่มีความสามารถโดยบริษัทอื่นขุดเอาไปใช่ไหม?” เซี่ยเมิ่งเจียวกล่าว
แน่นอนว่าเธอไม่ต้องการให้ฮวงเฟิงออกจากบริษัทเช่นกันแม้ว่า ฮวงเฟิงจะเป็นเพียงเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย
แต่ซูหยูโม่ก็รู้สึกว่าความสำเร็จในอนาคตของเขาจะไม่ต่ำต้อยเลย
แต่เธอเองก็ไม่ต้องการให้ฮวงเฟิงต้องจากไปเช่นกัน
ถ้าหากว่าฮวงเฟิงไม่ต้องการที่จะเป็นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยอีกต่อไปเธอสามารถจัดการให้เขาไปอยู่ในแผนกอื่นๆ ของบริษัทได้
ดังนั้นหลังจากได้ยินคำพูดของเซี่ยเมิ่งเจียวเธอก็รู้สึกสะเทือนใจและพูดว่า: “ตกลง งั้นก็ไปร่างสัญญามา”
”ตกลงไม่มีปัญหา อย่างไรก็ตามเรื่องนี้ต้องให้พี่หยูโม่แจ้งให้เขาทราบ เพราะว่าเธอเองก็คุ้นเคยกับเขาอยู่เล็กน้อยคงจะคุยกันได้ง่ายขึ้น”
”ไม่มีปัญหา!”
ดังนั้นผู้หญิงสองคนที่มีความคิดแตกต่างกันจึงบรรลุข้อตกลงในเรื่องนี้
และในเวลานี้ฮวงเฟิงที่ยังคงตะเกียกตะกายอยู่ในสนามก็ยังไม่รู้ว่าเขาถูกผู้หญิงสองคนนี้หลอก คนหนึ่งใจดีและอีกคนกำลังคิดหาวิธีแก้แค้นเขา
ฮวงเฟิงพยายามหาโอกาสทำประตูในสนามและประตูของเขาก็ยังช่วยให้ทีมได้รับชัยชนะในที่สุด
”ฉันไม่เคยคิดเลยว่าผู้ชายคนนี้จะเล่นฟุตบอลได้จริงๆ”เซี่ยเมิ่งเจียวมองไปที่สนามฟุตบอลและพูดกับคนที่เหลือที่กำลังเฉลิมฉลองร่วมกับพวกเขา
ในครั้งแรกที่เธอเห็นฮวงเฟิงกระโดดเอาหัวโหม่งเพื่อที่จะแย่งบอลกับคนอื่นๆในสนามและหัวของเขาก็อยู่ในจุดที่สูงที่สุด
เธอเองก็อดไม่ได้ที่จะตะโกนออกมาว่า”สวย!” ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้เธอรู้สึกละอายใจ
อย่างไรก็ตามเมื่อเห็นว่าพี่หยูโม่ที่อยู่ข้างๆเธอก็ตกอยู่ในสถานการณ์เดียวกัน เธอก็รู้สึกสบายใจขึ้นมาก
ซูหยูโม่รู้สึกอายเล็กน้อยที่มีปฏิกิริยาก่อนหน้านี้ของเธอ
แต่เนื่องจากเซี่ยเมิ่งเจียวยังไม่พบสิ่งผิดปกติใดๆเธอจึงรู้สึกโล่งใจ
ทั้งสองคนวางแผนที่จะออกไปหลังจากที่ดูการแข่งขันสักพักแต่สุดท้ายแล้วพวกเธอก็ไม่ได้พูดถึงเรื่องนี้เลย
”ฉันว่าการแข่งขันฟุตบอลรายการนี้น่าสนใจทีเดียวก่อนหน้านี้ฉันคิดมาตลอดว่ามีคน 20 คนต่อสู้กันในการแข่งขันฟุตบอลแล้วมันจะมีความหมายได้อย่างไร ตอนนี้ดูเหมือนว่าจะไม่น่าแปลกใจเลยที่หลายคนชอบมัน” เซี่ยเมิ่งเจียวยืนขึ้นและกล่าว
”ใช่มันค่อนข้างน่าสนใจที่จะดูการแข่งขันตอนที่ไม่มีอะไรทำ” ซูหยูโม่กล่าว
ไม่ใช่ว่าเธอไม่เคยดูการแข่งขันฟุตบอลมาก่อนเธอแค่รู้สึกเบื่อ
แต่ในวันนี้เนื่องจากการปรากฏตัวของฮวงเฟิงเธอจึงได้ดูการแข่งขันจนจบอย่างไม่รู้ตัว
และเธอรู้สึกว่าเวลาผ่านไปเร็วมาก
หลังจากนั้นทั้งสองคนก็เตรียมตัวออกเดินทางพวกเธอไม่ต้องการให้คนในบริษัทเห็นดังนั้นพวกเธอจึงต้องการออกไปก่อนเวลา
แต่เซี่ยเมิ่งเจียวที่กำลังเตรียมตัวจะออกไปทันใดนั้นเห็นว่าฮวงเฟิงไปเข้าห้องน้ำ ในขณะที่คนอื่นๆ เดินไปข้างหน้า ทำให้เธอกลอกตาและพูดกับซูหยูโม่ว่า: “พี่หยูโม่ เธอกลับไปที่รถก่อนนะฉันจะไปเข้าห้องน้ำก่อน”
“ได้สิแล้วรีบตามมานะ” ซูหยูโม่ไม่ได้สงสัยอะไรเช่นกัน
”ได้เลย”หลังจากที่พูดเช่นนั้น เธอก็วิ่งไปที่ห้องน้ำอีกด้านหนึ่งของสนาม
ซูหยูโม่มองไปที่ด้านหลังของเธอและยิ้มพร้อมกับส่ายหัวจากนั้นก็เลี้ยวไปทางซ้าย
หลังจากที่ฮวงเฟิงไปห้องน้ำเขาก็ใช้น้ำเย็นล้างหน้า จากนั้นเขาจึงรู้สึกสบายตัวและสดชื่นขึ้นมาก
”ไอ้คนลามก!”ในขณะที่ฮวงเฟิงกำลังเดินออกมาเขาก็ได้ยินเสียงที่คุ้นเคยอยู่ข้างๆ เขา
อย่างไรก็ตามเขาไม่คิดว่าอีกฝ่ายกำลังพูดถึงเขาและกำลังคิดอยู่จริงๆว่าใครมาเล่นตลกตอนกลางวันแสกๆ
”ไอ้คนลามกฉันกำลังเรียกนายอยู่นะ คิดจะวิ่งหนีเหมือนคราวที่แล้วใช่ไหม?” เซี่ยเมิ่งเจียวเห็นว่าฮวงเฟิงไม่สนใจเธอจริงๆ จึงเดินต่อไปและหยุดอยู่ตรงหน้าเขา
บทที่ 184 คนสวยคนนี้คือใคร
“คนสวยเธอพูดกับฉันงั้นเหรอ?” ฮวงเฟิงมองสาวงามตรงหน้าเขาอย่างแปลกประหลาด
เธอเป็นคนสวยด้วยใบหน้ารูปไข่ที่ได้มาตรฐานคิ้วโก่งและริมฝีปากสีแดงชวนหลงใหล
ผิวที่โผล่พ้นนอกเสื้อผ้าของเธอขาวและอ่อนโยนราวกับหิมะ
อย่างไรก็ตามสาวงามที่อยู่ตรงหน้าเขาตอนนี้ไม่ได้มาอย่างมิตรอย่างแน่นอน
เธอกางมือออกกว้างเพื่อขวางทางของเขาใบหน้าที่สะสวยของเธอเรียบเฉยเหมือนน้ำแข็ง ในขณะที่เธอมองเขาพร้อมกับขมวดคิ้วราวกับว่าเขาเป็นคนเลวที่ไม่น่าให้อภัย
”ไร้สาระถ้าฉันไม่ได้พูดกับนาย แล้วฉันพูดกับผีอยู่อย่างนั้นเหรอ?” สาวงามยังคงพูดด้วยความโกรธและยังกลอกตาใส่ฮวงเฟิง
อย่างไรก็ตามเธอนั้นสวยมากอยู่แล้วแม้ว่าเธอจะกลอกตาแต่ก็ยังมีเสน่ห์ที่ดูแตกต่างออกไป
”คุณกับผมเรารู้จักกันเหรอ?”ฮวงเฟิงจ้องมองสาวงามตรงหน้าด้วยความระมัดระวังอีกครั้ง
แม้ว่าเขาจะไม่มีความทรงจำที่เหมือนกับภาพถ่ายแต่เขาก็ไม่มีเหตุผลที่จะจำผู้หญิงสวยคนนี้ไม่ได้
”เอาล่ะไอ้คนลามก นายกล้าแกล้งทำเป็นไม่รู้จักฉันจริงๆ ด้วย!” เซี่ยเมิ่งเจียวพูดด้วยความโกรธ คนตรงหน้ากำลังเล่นโง่ๆ กับเธออยู่ นี่เขาพยายามจะหนีไปใช่ไหม? เป็นไปไม่ได้!
“คุณเข้าใจผิดอะไรรึเปล่า?”ฮวงเฟิงถามอย่างไม่แน่ใจเมื่อเห็นดวงตาของอีกฝ่ายที่ดูราวกับว่าเขากำลังจะเขมือบเธอ
”นั่นไม่ใช่เรื่องเข้าใจผิดมันคือความจริง! นายฉวยโอกาสกับฉันและยังพูดว่าฉันเป็นคนป่าเถื่อนและชอบสร้างปัญหาทำไมล่ะ? ฉันดูเป็นคนแบบนั้นเหรอ?” เซี่ยเมิ่งเจียวถาม
”คนสวยถึงแม้ว่าผมจะไม่รู้จักคุณ แต่เมื่อตัดสินจากการกระทำของคุณในตอนนี้คุณอาจจะเป็นคนแบบนั้นก็ได้” ฮวงเฟิงกล่าว
”นาย!ฮวงเฟิง อย่าคิดว่าฉันไม่รู้จักชื่อของนายนะ ฉันขอบอกไว้เลยว่าอย่าคิดเลยว่านายจะหนีไปได้!” เซี่ยเมิ่งเจียวกล่าว
ผู้ชายคนนี้น่ารังเกียจเกินไปเธอเป็นคนน่ารักจะตายเห็นเธอเป็นคนป่าเถื่อนได้ยังไงกัน?
“คุณรู้จักชื่อของผมได้ยังไง?เรารู้จักกันจริงๆ เหรอ?” ฮวงเฟิงเริ่มสงสัยมากขึ้น เนื่องจากอีกฝ่ายรู้จักชื่อของเขาและถึงกับเข้ามาขวางเขา
นั่นหมายความว่าอีกฝ่ายไม่ได้จำคนผิดเพียงแค่ว่าเขาไม่รู้จักอีกฝ่ายจริงๆ
”ฮ่าฮ่าไม่ต้องกังวลหรอกว่าฉันรู้จักนายได้อย่างไร ยังไงก็ตามอย่าคิดที่จะหนีนะ” เซี่ยเมิ่งเจียวกล่าวอย่างพอใจ เมื่อเห็นสีหน้าที่งงงวยของฮวงเฟิง เธอก็รู้สึกสบายใจ
”ผมไม่ได้พยายามที่จะหนีนะคุณต่างหากที่มาขวางผมเอาไว้ นี่คุณพยายามกำลังจะทำอะไรกันแน่?” ฮวงเฟิงถาม
คำพูดของฮวงเฟิงทำให้เซี่ยเมิ่งเจียวตกตะลึงในทันที
ก่อนหน้านี้ตอนที่เธอมีโอกาสเธอได้วิ่งไปขวางฮวงเฟิงเอาไว้ แต่เธอเองก็ไม่ได้คาดคิดว่าตัวเองจะทำเช่นนั้น
บางทีอาจเป็นเพราะว่าฮวงเฟิงทิ้งเธอไว้ที่บาร์เมื่อครั้งที่แล้วทำให้เธอรู้สึกไม่พอใจ
”คนสวยอย่าบอกนะว่าคุณไม่ได้วางแผนเอาไว้? ทำไมคุณไม่คิดก่อนคิดก่อนที่จะบอกผมล่ะ?” ฮวงเฟิงค่อนที่จะข้างพูดไม่ออกขณะที่เขามองไปที่ผู้หญิงสวยตรงหน้า
เขาซึ่งดูเหมือนจะงุนงงผู้หญิงคนนี้สวยมาก แต่เธออาจจะเป็นคนโง่ก็ได้
”นายหยุดอยู่ตรงนั้นนะ!” เมื่อเห็นว่าฮวงเฟิงกำลังเหม่อ เธอก็ถือโอกาสเดินวนไปรอบๆ ตัวเขา เซี่ยเมิ่งเจียวก็ไม่ลังเลที่จะขวางเขาเอาไว้อีกครั้ง
”คนสวยคุณต้องการอะไร? ผมยังมีเรื่องที่ต้องทำอีกนะ” ฮวงเฟิงกล่าวอย่างหมดหนทาง
ในอีกด้านหนึ่งรถบัสยังคงรอให้เขาอยู่แต่ตอนนี้เขากลับโดนคนสวยที่ไม่เต็มใจที่จะปล่อยเขาไป
”ฉันฉัน?” เซี่ยเมิ่งเจียวตะลึงอีกครั้ง แต่เมื่อเธอเห็นการแสดงออกของฮวงเฟิงที่ดูเหมือนจะเยาะเย้ยเธอ เธอจึงพูดว่า “ฉันต้องการให้นายขอโทษฉัน ใช่แล้ว ขอโทษฉันซะ!”
ในที่สุดใบหน้าของเซี่ยเมิ่งเจียวก็เผยรอยยิ้มในที่สุดเขาก็ทราบเหตุผล
”เอาล่ะผมขอโทษ ผมออกไปได้หรือยัง?” ฮวงเฟิงกล่าวอย่างหมดหนทาง
ถึงแม้ว่าเขาจะต้องขอโทษผู้หญิงคนหนึ่งอย่างไม่มีเหตุผลและเขาไม่ได้ทำอะไรเลยและเขาก็ไม่ต้องการที่จะต่อสู้กับผู้หญิงคนนี้ที่เห็นได้ชัดว่ามีปัญหาทางสมอง
”ออกไปได้แล้วแต่นี่ยังไม่จบเรื่องนะ!” เซี่ยเมิ่งเจียวรู้ด้วยว่าตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่จะยุ่งกับเขามากเกินไป พี่หยูโม่ยังคงรอเธออยู่
”เฮ้คนสวย ผมทำอะไรกับคุณงั้นเหรอ? ทำไมคุณถึงได้เกลียดผมนัก ผมขอโทษไปแล้วไม่ใช้เหรอ?” ฮวงเฟิงถาม
”ไม่มีทางนายเป็นคนที่ฉวยโอกาสกับฉัน แล้วนายยังใส่ร้ายฉันว่าป่าเถื่อนและไม่มีเหตุผล แค่คำขอโทษมันจะแก้ปัญหาทั้งหมดนี้ได้อย่างไรกัน?” เซี่ยเมิ่งเจียวกล่าวว่าตามความเป็นจริง
สำหรับวิธีที่เธอสั่งสอนฮวงเฟิงเธอได้คิดเรื่องนี้ไว้แล้ว
“ผมฉวยโอกาสกับคุณงั้นเหรอ?เมื่อไรกัน?” ฮวงเฟิงถาม
เขาไปฉวยโอกาสกับคนสวยแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไรกัน?ไม่มีทาง เขาไม่ใช่คนแบบนั้นสักหน่อย
ฮวงเฟิงคิดเงียบๆในใจและเขาก็ยิ่งมั่นใจว่าผู้หญิงคนนี้ตั้งใจที่จะสร้างปัญหาอย่างตั้งใจ
เขาช่างโชคไม่ดีเอาเสียเลยที่คิดว่าเขาจะสามารถที่จะเอาชนะสิ่งนี้ได้
“นี่นายกำลังจะปฏิเสธใช่ไหม?นายเป็นผู้ชายหรือเปล่า? นายไม่กล้ายอมรับสิ่งที่นายทำอย่างนั้นเหรอ?” เซี่ยเมิ่งเจียวกล่าว
“คนสวยคุณอย่าพูดพล่อยๆ นะ ระวังคำพูดด้วย ผมไม่กล้ายอมรับสิ่งที่ผมทำ หรือผมไม่ใช่ผู้ชายงั้นเหรอ คุณเองก็รู้อยู่แก่ใจ”
ถึงแม้ว่าฮวงเฟิงจะยังอารมณ์ดีแต่เขาก็เริ่มรำคาญเซี่ยเมิ่งเจียวที่คอยรังควานเขาไม่หยุดหย่อน
“คุณจะมาใส่ร้ายคนอื่นเพียงเพราะว่าคุณเป็นคนสวยไม่ได้นะจริงไหม?”
“นายนายมันอันธพาล” เซี่ยเมิ่งเจียวหน้าแดงด้วยคำพูดของฮวงเฟิง
“ผมน่ะยิ่งกว่าอันธพาลซะอีกนะหรือว่าคุณอยากจะลอง?” ฮวงเฟิงกวาดสายตาโลมเลียไปทั่วร่างของเซี่ยเมิ่งเจียว โดยเฉพาะที่ส่วนสำคัญของร่างกาย สาวสวยคนนี้ถึงแม้ว่าเธอจะอารมณ์ไม่ดีและสมองของเธอออกจะงี่เง่าไปสักหน่อย แต่รูปร่างของเธอก็ยังคงน่าประทับใจมาก
”นายนายกำลังทำอะไร?” เซี่ยเมิ่งเจียวตกใจกับสายตาของฮวงเฟิง
เธอรู้สึกเหมือนกับว่าเธอกำลังเปลือยกายต่อหน้าฮวงเฟิงเธอจึงถอยหลังไปสองก้าว
”คุณไม่ได้บอกว่าผมเป็นอันธพาลอย่างนั้นเหรอ?ผมก็แค่ทำเรื่องชั่วๆ ไง” พูดตามตรง ก่อนหน้านี้เขาได้ก้าวไปข้างหน้าอีกครั้งและเข้าไปใกล้เซี่ยเมิ่งเจียว
เซี่ยเมิ่งเจียวกรีดร้องด้วยความกลัวจากนั้นก็หันหลังกลับและวิ่งหนี
เธอไม่ต้องการคำขอโทษจากฮวงเฟิงอีกต่อไปแล้วเธอวิ่งหนีไปและพูดว่า: “นายมันคนขี้โกง ฉันจะไม่ปล่อยให้นายลอยนวลเด็ดขาด!”
ฮวงเฟิงมองไปที่รูปร่างที่สวยงามของเซี่ยเมิ่งเจียวที่กำลังวิ่งหนีเขาจึงลูบจมูกด้วยความขบขัน เป็นความจริงที่ว่าเขาเป็นคนตลกเกินไปกับคนสวยเช่นเธอ
“สมควรแล้วล่ะคนสวย!” ฮวงเฟิงพึมพำกับตัวเอง
อย่างไรก็ตามเมื่อคิดถึงการกระทำของเซี่ยเมิ่งเจียวเขารู้สึกว่ามันไม่มากเกินไปสำหรับเขาที่จะทำสิ่งนี้
”เธอเป็นใครกัน?”ฮวงเฟิงคิดในใจขณะที่เขามองไปที่ด้านหลังของเซี่ยเมิ่งเจียว