กล่องจักรวาล (Universe Storage Box) - บทที่ 319-320
บทที่ 319 เจอกันอีกครั้ง
ฮวงเฟิงมองดูเซี่ยเมิ่งเจียวและถึงกับพูดไม่ออก
จริงๆแล้วเซี่ยเมิ่งเจียวนั้นกำลังมองดูฮวงเฟิงอย่างภาคภูมิใจแต่เธอก็เข้ามาแหย่เขาด้วย หลังจากที่ข่มขู่ฮวงเฟิงอยู่สักพัก เธอก็กล่าวว่า “อ้อนั่นไง เกือบลืมไปเลย พรุ่งนี้คุณหลี่ปิงหยุนจะมานะ นายต้องจัดงานรับรองให้เหมาะสมด้วยล่ะ อย่าให้มีอะไรผิดพลาด”
“พรุ่งนี้งั้นเหรอ?ไม่มีปัญหา” ฮวงเฟิงตกใจในตอนแรกแต่ก็ตกลงหลังจากนั้นไม่นาน
ตอนนี้นั้นบริษัทกำลังมุ่งมั่นเป็นอย่างมากพวกเขาไม่เพียงแต่เปิดธุรกิจโดยตรงเท่านั้น พวกเขายังจ่ายเงินจำนวนมากเพื่อเชิญหลี่ปิงหยุนมาด้วย เห็นได้ชัดว่าพวกเขาให้ความสำคัญกับสถานที่แห่งนี้เป็นอย่างมาก ดังนั้นฮวงเฟิงจึงไม่สามารถปล่อยให้มันหลุดมือไปได้ในช่วงเวลาที่สำคัญเช่นนี้
หลังจากที่สั่งงานฮวงเฟิงแล้วเซี่ยเมิ่งเจียวก็จากไปเธอไม่ได้อยู่เฉยๆ เหมือนกับฮวงเฟิงโดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเวลานี้ที่มีหลายสิ่งหลายอย่างเกิดขึ้นภายในบริษัท
ในช่วงบ่ายเขาก็ได้รับข่าวดีอีกชิ้นมาจากโรงงาน นอกเหนือจากชุดอุปกรณ์ที่ขายได้ในตอนเช้าแล้ว ยังมีพนักงานขายอีกคนหนึ่งที่ขายชุดอุปกรณ์บำบัดน้ำเสียได้ แม้ว่าเขาจะขายได้เพียงแค่วันละสองชุด แต่ก็ยังเป็นการเริ่มต้นที่ดีสำหรับฮวงเฟิงและคนอื่นๆ ทุกคนมีความมั่นใจในผลิตภัณฑ์นี้มากขึ้น
ในส่วนของการจัดจ้างก็ดำเนินไปเรื่อยๆคราวนี้พวกเขาไม่ได้จ้างแค่พนักงานขาย แต่เป็นพนักงานส่วนใหญ่ในสายการผลิตธรรมดาข้อมูลการจัดจ้างถูกโพสต์ไว้นานแล้ว และหลังจากนั้นหนึ่งวันก็มีมากขึ้นเรื่อยๆ การจัดซื้อ สายการผลิตก็เป็นไปตามกำหนดเวลาและสายการผลิตที่มีอยู่ไม่สามารถตอบสนองความต้องการของโรงงานในการขยายการผลิตได้อย่างชัดเจน
ดังนั้นจึงไม่ได้มีเพียงแค่โรงงานเดียวที่นี่เพียงแค่นั้นเนื่องจากผลประโยชน์ไม่ดีพวกเขาจึงไม่แนะนำสายการผลิตใดๆ อีกและตอนนี้ ฮวงเฟิงก็ต้องการที่จะติดตั้งสายการผลิตเพิ่มเติมจึงมีสถานที่ให้เขาทำเช่นนั้น
หลังจากซื้อและติดตั้งสายการผลิตแล้วคนงานส่วนใหญ่ที่นี่ก็จะถูกคัดเลือก
ดังนั้นฮวงเฟิงจึงกลับบ้านด้วยความสุขอย่างไรก็ตามเมื่อเขากลับบ้านอารมณ์ที่มีความสุขนี้ก็ได้หายไปในทันที
“คุณมาที่นี่อีกทำไม?!”ใบหน้าของฮวงเฟิงเต็มไปด้วยความตกใจขณะที่เขามองไปที่ผู้หญิงสวยที่ปรากฏตัวอยู่ในบ้านของเขา
บุคคลที่ปรากฏตัวในห้องของฮวงเฟิงก็คือไป่เสี่ยวโหรวที่เพิ่งออกไป!
เห็นได้ชัดว่าอาการบาดเจ็บของไป่เสี่ยวโหรวนั้นยังไม่หายดีนักแต่ก็ไม่ส่งผลต่อการเคลื่อนไหวของเธออีกต่อไปแล้ว ดังนั้นหลังจากที่ถูกทุกอย่างเรียบร้อยแล้วเธอจึงกลับมาอีกครั้ง เพราะจากการสังเกตของเธอถงเฉียนจุ้นและอีกฝ่ายจะมีข้อตกลงกันในเร็วๆ นี้ดังนั้นเธอจึงไม่อยากที่จะพลาดโอกาสนี้
“ฉันไม่ได้บอกว่าเราจะได้พบกันอีกงั้นเหรอ?”ไป่เสี่ยวโหรวนั่งอยู่บนโซฟาและพูดขณะที่เธอมองฮวงเฟิงอย่างสงบ
”ไม่สิแล้วคุณเข้ามาได้ยังไงกัน?” ฮวงเฟิงถามอย่างงงงวย ล็อคประตูก็ไม่ได้ถูกงัดแงะและนอกจากนี้เขายังมีสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ที่ฉลาดมากอยู่ในบ้านของเขาอีกด้วย
เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ฮวงเฟิงก็เรียกหาเสี่ยวไป่: “ฉันบอกให้แกดูแลบ้านไม่ใช่เหรอ ทำไมถึงปล่อยให้คนอื่นเข้ามาอยู่ในบ้านได้”
เสี่ยวไป่มองดูฮวงเฟิงด้วยใบหน้าที่ไร้เดียงสาเพราะว่าไป่เสี่ยวโหรวเคยมาที่นี่มาก่อน เธอเคยคุยและหัวเราะกับฮวงเฟิง ดังนั้น เสี่ยวไป่จึงคิดว่าไป่เสี่ยวโหรวนั้นเป็นเพื่อนของฮวงเฟิง เมื่อเห็นเธอเข้ามามันก็ไม่ได้โจมตีเธอ
“พอเถอะอย่าไปโทษหมาเลย เขาคงคิดว่าพวกเราเป็นเพื่อนกัน” ไป่เสี่ยวโหรวมองไปที่เสี่ยวไป่ที่มีแววตาเหมือนมนุษย์และพูดว่า: “พวกเราเป็นเพื่อนกัน ใช่ไหม?”
”ใครเป็นเพื่อนของคุณกัน?”ฮวงเฟิงพึมพำ อย่างไรก็ตามเขาเองก็เดาเหตุผลที่เสี่ยวไป่ไม่โจมตีคู่ต่อสู้ของเขาได้
ไป่เสี่ยวโหรวทำราวกับว่าเธอไม่ได้ยินเสียงพึมพำของฮวงเฟิงและพูดว่า:”ไม่ต้องกังวล ฉันจะไม่อยู่ที่นี่นานเกินไปหรอก”
ฮวงเฟิงยังรู้อีกว่าเธอเป็นใครและเขาจะไม่ยึดติดกับมันอย่างแน่นอน
”ฝีมือการทำอาหารของคุณค่อนข้างดีเลยนะ”ขณะที่ฮวงเฟิงกำลังทำอาหารอยู่ในครัว ไป่เสี่ยวโหรวยืนอยู่ข้างประตูและมองไปที่ ฮวงเฟิงด้วยความสนใจขณะที่พูด
ฮวงเฟิงไม่ได้สนใจเธอและในเวลาไม่นานเขาก็ทำอาหารเสร็จเพียงแค่นั้นเขาไม่ได้คาดหวังว่าไป่เสี่ยวโหรวจะนั่งที่โต๊ะตรงหน้าเขา
“ฉันก็ยังไม่ได้กินอะไรมาเหมือนกัน”ไป่เสี่ยวโหรวเห็นฮวงเฟิงมองมาที่เธอด้วยความสงสัยและพูดอย่างตรงไปตรงมา
“คุณที่คงไม่รู้จักคำว่ามารยาทสินะ”ฮวงเฟิงกล่าว แต่เขายังคงหยิบตะเกียบสองคู่ออกมาและส่งให้ไป่เสี่ยวโหรว
”อืมฝีมือการทำอาหารของคุณนี่ค่อนข้างดีจริงๆ!” หลังจากที่ไป่เสี่ยวโหรวได้ชิมแล้วดวงตาของเธอก็สว่างวาบขึ้นและเธอก็อยากรู้อยากเห็นเกี่ยวกับฮวงเฟิงมากขึ้น เธอไม่เคยคิดเลยว่านอกจากฝีมือของเขาจะไม่แย่แล้วฝีมือการทำอาหารของเขาก็โดดเด่นเช่นกัน
“คุณมาครั้งนี้เพราะเรื่องที่เกิดขึ้นครั้งที่แล้วงั้นเหรอ?”ฮวงเฟิงไม่ได้สนใจเรื่องศิลปะการทำอาหาร แต่กลับถามคำถามที่เกี่ยวข้องกับเขาแทน
เกี่ยวกับเรื่องก่อนหน้านี้ฮวงเฟิงยังคงกังวลมากเกี่ยวกับเรื่องนี้ แม้ว่าเขาจะไม่ได้แสดงใบหน้าของเขาต่อหน้าคนเหล่านั้นไม่ว่าจะไม่ค่อยชัดสักเท่าไรแต่เขาก็ยังคงเปิดเผยใบหน้าของเขาไปแล้ว
“ใช่แล้วล่ะ”ไป่เสี่ยวโหรวไม่ได้ปฏิเสธเรื่องนี้
“งั้นคุณก็บอกผมหน่อยว่าเกิดอะไรขึ้น?ผมอยากรู้จริงๆ” ฮวงเฟิงกล่าว
“ได้สิ!”ไป่เสี่ยวโหรวไม่ได้ปฏิเสธอย่างที่คิด
“จริงเหรอ?”ฮวงเฟิงรู้สึกแปลกใจนิดหน่อยว่านี่พวกเขาไม่ได้มีนโยบายปกปิดความลับอย่างนั้นเหรอ?
“ได้สิแต่ว่ามีข้อแลกเปลี่ยนนะ นั่นก็คือ คุณต้องร่วมมือกับฉันด้วย!” ไป่เสี่ยวโหรวกล่าวด้วยรอยยิ้ม
“ร่วมมือกับคุณงั้นเหรอ?”ฮวงเฟิงขมวดคิ้ว เขาไม่คิดว่าเธอจะสร้างเงื่อนไขเช่นนี้ “แล้วองค์กรของคุณเห็นด้วยงั้นเหรอ?”
“ไม่มีทางแต่ฉันได้สืบประวัติคุณมาแล้ว และฉันจะก็จะจ้างคุณในฐานะงานนอก แต่ถ้าคุณอยากจะมาเป็นส่วนหนึ่งของทางราชการ คุณต้องได้รับอนุญาตจากหัวหน้าโดยตรง” ไป่เสี่ยวโหรวกล่าว
หากเขาต้องการที่จะเข้าร่วมงานที่สำนักงานปฏิบัติการความมั่นคงแห่งชาติแน่นอนว่ามันจะไม่ง่ายอย่างนั้นสิ่งแรกที่เธอต้องทำคือไปสืบประวัติของเขาและเพราะเธอสนใจฮวงเฟิง ไป่เสี่ยวโหรวจึงได้ตรวจสอบประวัติของฮวงเฟิงมาอย่างละเอียดแล้ว แม้แต่เรื่องในวัยเด็กของเขา นี่เป็นเหตุผลหลักที่ทำให้เธอกลับมาที่นี่ในครั้งนี้
อย่างไรก็ตามแม้ว่าเธอจะได้ตรวจสอบหลายสิ่งเกี่ยวกับฮวงเฟิงแล้วแต่ไป่เสี่ยวโหรวก็ยังไม่รู้ว่าใครเป็นอาจารย์ของฮวงเฟิง ตามวิถีชีวิตของแล้ว ดูเหมือนว่าเขาจะไม่มีโอกาสได้ติดต่อกับโลกกำลังภายในเลย
บทที่ 320 จู่โจม
“แล้วผมจะได้รับประโยชน์อะไรถ้าเข้าร่วมองค์กรของคุณ?”ฮวงเฟิงถาม
“ผลประโยชน์งั้นเหรอ?”จะมีผลประโยชน์อะไรล่ะ ในเมื่อเรารับใช้ประเทศชาติ?” ไป่เสี่ยวโหรวมองดูฮวงเฟิงด้วยสายตาว่างเปล่า เห็นได้ชัดว่าเธอถึงกับอึ้งกับคำพูดของเขา
อย่างไรก็ตามฮวงเฟิงกำลังถูกดูถูกอยู่ในใจ ในเมื่อไม่มีผลประโยชน์เขาคงจะไม่ยอมแพ้หรอกนะ
ในเวลานี้ไป่เสี่ยวโหรวเองก็มีปฏิกิริยาโต้ตอบเช่นกันและกล่าวว่า“มาร่วมกับองค์กรของเรานั่นก็เป็นสิทธิพิเศษอยู่แล้ว ยกตัวอย่างเช่น ถ้าคุณสงสัยว่าอีกฝ่ายนั้นเป็นอันตรายคุณสามารถที่จะโจมตีและแม้กระทั่งฆ่าเขาได้”
“ฆ่างั้นเหรอ?”ดวงตาของฮวงเฟิงเบิกกว้าง แต่จากนั้นเขาก็รู้สึกว่าอำนาจนี้ ตัวเขาเองไม่เห็นว่าจะมีประโยชน์ ทำไม่เขาจะต้องฆ่าคนอื่นด้วยในเมื่อเขาไม่เห็นจะต้องทำเช่นนั้น? ยิ่งไปกว่านั้นเขาก็ไม่ใช่คนโง่ เพราะถึงแม้ว่าเขาจะมีสิทธิ์แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเขาจะฆ่าก็ได้ตามที่เขาต้องการ ถ้าเขาฆ่าคนผิดเขาก็จะต้องเกิดปัญหาอยู่ดี
ดูเหมือนว่าไป่เสี่ยวโหรวจะต้องการที่จะพูดอะไรบางอย่างเธอได้ยินเสียงเคาะประตู เธอจึงหยุดและไม่ได้พูดอะไรอีกแต่เธอกลับขยิบตาให้กับฮวงเฟิง
“บางทีคงเป็นเพื่อนบ้านน่ะ”ฮวงเฟิงกล่าว เขาคิดว่ากัวเมิ่งหานคงอยู่ที่นี่แต่เขาได้ยินว่ามีหลายเรื่องที่ต้องจัดการที่โรงงาน ดงนั้นกัวเหลียงและอีกสองคนนั้นคงจะกำลังทำโอทีกันอยู่ในคืนนี้ ดังนั้นอาจจะเป็นกัวเมิ่งหานก็เป็นได้ที่กลับบ้านมาก่อน?
ฮวงเฟิงเดินไปดูอย่างสงสัยและเตรียมพร้อมที่จะเปิดประตูแต่ไป่เสี่ยวโหรวนั้นไปซ่อนตัวเสียแล้ว ถึงแม้ว่าคนที่เข้ามาจะไม่รู้จักตัวตนของเธอ แต่เธอก็ไม่ต้องการให้มีคนเห็นเธอมากนัก
“ใครน่ะ?”หลังจากที่ฮวงเฟิงเปิดประตู สิ่งแรกที่เขาเห็นก็คือคนแปลกหน้าสองคน ซึ่งไม่ว่าเขาจะคิดทบทวนอย่างไรเขาก็ไม่คิดว่าเขาเคยรู้จักสองคนนี้มาก่อน หรือว่าเขาจะมาผิดบ้าน?
“นายคือฮวงเฟิงงั้นเหรอ?”หนึ่งในนั้นถามด้วยภาษาจีนแปลกๆ
เมื่อฮวงเฟิงได้ยินเสียงของอีกฝ่ายเขาก็รู้สึกไม่ดีนี่เป็นเพราะเขาเพิ่งได้ยินสำเนียงจีนเมื่อไม่นานมานี้
”ใช่ฉันเอง” แม้ว่าเขาจะระมัดระวังอยู่ในใจ แต่ฮวงเฟิงก็ไม่แน่ใจในตัวตนของอีกฝ่าย
หลังจากที่ทั้งสองคนได้ยินคำของฮวงเฟิงพวกเขาก็ไม่พูดอะไรอีก แต่เลือกที่จะโจมตีแทนโดยมีคนหนึ่งชกไปที่ฮวงเฟิง ส่วนฮวงเฟิงเองนั้นก็ตื่นตัวอยู่แล้วดังนั้นเมื่ออีกฝ่ายเรียกเขาก็เตรียมพร้อมไว้แล้ว
ร่างกายของฮวงเฟิงแวบก่อนเพื่อหลบหลีกการโจมตีของพวกเขาจากนั้นด้วยเสียงฟ้าร้องที่แผ่วเบา หมัดของเขาก็กระแทกไปที่อีกฝ่าย
เห็นได้ชัดว่าบุคคลนั้นไม่ได้คาดคิดว่าการตอบโต้ของฮวงเฟิงจะเร็วขนาดนี้เมื่อหมัดของทั้งสองชนกันทำให้ร่างของเขาลอยออกไปทันที เห็นได้ชัดว่าความแข็งแกร่งของฮวงเฟิงนั้นไม่ใช่สิ่งที่เขาสามารถเปรียบเทียบได้
สำหรับคนที่ฮวงเฟิงเพิ่งจะกระโดดหลบเขาก็ก้าวไปข้างหน้าและโจมตีฮวงเฟิงต่อ ฮวงเฟิงก้าวถอยหลังและร่างของเขาก็เข้ามาในบ้าน
ทันใดนั้นเองก็มีร่างหนึ่งลอยออกมาจากห้องด้านในพุ่งเข้าหาชายคนนั้นชายคนนั้นเห็นเพียงแค่แวบเดียวและลูกเตะก็พุ่งเข้าที่หน้าท้องของเขา เขาลอยเข้าหากำแพงและหลังจากที่ชนกำแพงเขาก็ร่อนลงอีกครั้ง
”เร็วเข้ารีบพาอีกคนเข้ามาด้วย” ไป่เสี่ยวโหรวกล่าวกับฮวงเฟิง
ฮวงเฟิงพยักหน้าเล็กน้อยและร่างของเขาก็ออกจากบ้านไปแล้วคนที่อยู่ข้างนอกห้องดูเหมือนจะค้นพบว่าเป้าหมายของเขาไม่ได้อ่อนแออย่างที่ทั้งสองคนคิด และยิ่งไปกว่านั้นเป้าหมายก็ยังมีใครบางคนอยู่ในบ้านด้วย
อย่างไรก็ตามหลังจากที่โดนฮวงเฟิงต่อยแล้วในตอนนี้เขาก็ได้รับบาดเจ็บบางส่วน ความเร็วของเขาจึงไม่เร็วเท่าของฮวงเฟิง
”กลับมานี่สิ!”ฮวงเฟิงจับที่ไหล่ของเขาเพราะต้องการจับตัวเขาและพาเขากลับมา
ชายคนนั้นดูเหมือนจะรู้ว่าเขาจะไม่สามารถจะหลบหนีได้ดังนั้นเขาจึงหันกลับมาและด้วยความโหดเหี้ยมในดวงตาของเขาเขาก็ดึงกริชออกมาจากอกของเขาและแทงไปที่ฮวงเฟิง ฮวงเฟิงได้เตะไปที่ข้อมือของชายคนนั้นและปฏิกิริยาของชายคนนั้นก็ไม่ช้าเช่นกันโดยการหมุนตัวเล็กน้อยเขาก็หลบการโจมตีได้ จากนั้นก่อนที่ ฮวงเฟิงจะรวบรวมพละกำลังของเขากริชได้แทงทะลุเข้าไปที่หน้าท้องของฮวงเฟิงแล้ว
อย่างไรก็ตามปฏิกิริยาของฮวงเฟิงก็ไม่ช้าเช่นกันก่อนที่เท้าของเขาจะตกลงบนพื้นหมัดได้ถูกเหวี่ยงออกไปแล้ว
คราวนี้อีกฝ่ายไม่ที่จะสามารถหลบได้และข้อมือของเขาถูกฟาดจากนั้นกริชในมือของเขาก็ร่วงลงที่พื้นทันทีอย่างไรก็ตามก่อนหน้านั้นกริชได้ตัดเสื้อผ้าของฮวงเฟิง และโชคดีที่มันไม่ทำให้ฮวงเฟิงเป็นรอย
ก่อนที่คู่ต่อสู้จะทันได้ตอบสนองฮวงเฟิงก็ออกหมัดอีกครั้งทำให้เขาล้มลง
หลังจากนั้นฮวงเฟิงก็ลากอีกฝ่ายกลับเข้าไปในห้องของเขาเขาแน่ใจว่าเขาต้องเข้าใจที่มาที่ไปของคนเหล่านี้ถ้าไม่เช่นนั้นเขาคงจะไม่สบายใจ
”คุณเอามันกลับมางั้นเหรอ?”ภายในบ้าน ไป่เสี่ยวโหรวได้ปราบอีกฝ่ายเรียบร้อยแล้ว
”ใช่”ฮวงเฟิงวางคนในมือของเขาไว้ข้างๆ คนที่อยู่ในห้อง ตอนนี้พวกเขาสองคนอาจได้ถูกนำให้กลับมาอยู่ด้วยกันอีกครั้ง
”เป็นแกนั้นเอง?!”คนที่ถูกฮวงเฟิงลากเข้าไปในห้องเห็นไป่เสี่ยวโหรวและร้องออกมาด้วยความตกใจ เขาไม่คาดคิดว่าจะได้เห็นเธอที่นี่จริงๆ
ไป่เสี่ยวโหรวขมวดคิ้วขณะมองไปที่พวกเขา”แกเป็นคนของคาวาชิมะใช่ไหม?”
คนๆนั้นส่งเสียงฮึดฮัดและไม่ตอบกลับ แต่ไป่เสี่ยวโหรวก็มีคำตอบอยู่ในใจแล้ว
ในบรรดาพวกเขาสองคนหนึ่งในนั้นเคยเห็นไป่เสี่ยวโหรวมาก่อนเขาจึงรู้จักเธอ
“คุณรู้จักพวกเขาไหม?”ฮวงเฟิงกล่าวขณะที่เขามองไปที่ไป่เสี่ยวโหรว
”อืมถ้าฉันจำไม่ผิดพวกเขามาจากคาวาชิมะ คนที่ไล่ล่าฉันเมื่อวานนี้” ไป่เสี่ยวโหรวกล่าว
“เป็นพวกนั้นแหละแล้วทำไมพวกมันถึงไล่ตามพวกเรามาถึงนี่? พวกเขารู้เรื่องผมเหรอ?” เมื่ออีกฝ่ายจำไป่เสี่ยวโหรวได้เขาก็ประหลาดใจ นอกจากนี้เมื่อเขาอยู่ที่ทางเข้า พวกนั้นได้ถามชื่อของเขาซึ่งหมายความว่าอีกฝ่ายมาที่นี่เพื่อตามหาเขาไม่ใช่ไป่เสี่ยวโหรว
นี่คือคำพูดของคนเหล่านั้นจากเมื่อวานนี้นี่เขาถูกเปิดโปงแล้วใช่ไหม? ฮวงเฟิงรู้สึกกังวลเล็กน้อยเขามีความคิดที่ดีว่าอีกฝ่ายเป็นคนแบบไหน หากเขาตกเป็นเป้าหมายของอีกฝ่ายจริงๆ วันเวลาของเขาคงไม่ดีนักและเขาจะตกอยู่ในอันตรายได้ทุกเมื่อ
”ฉันเองก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน”ไป่เสี่ยวโหรวกล่าวขณะที่เธอขมวดคิ้ว ไม่ว่าจะเป็นอย่างไร ฮวงเฟิงก็ตกอยู่ในอันตรายเพราะเขาช่วยชีวิตไว้ดังนั้นเธอจึงรู้สึกไม่ดีนัก
ฮวงเฟิงและไป่เสี่ยวโหรวเริ่มซักถามพวกเขาทั้งสองคนแต่ทั้งสองคนไม่ได้ปริปากและในช่วงเวลาสั้นๆ ฮวงเฟิงและไป่เสี่ยวโหรวจึงไม่ได้อะไรจากพวกเขาเลย
“เราจะทำยังไงดี?”ฮวงเฟิงถาม เห็นได้ชัดว่าเขามีประสบการณ์มากขึ้นในการจัดการเรื่องเหล่านี้
”งั้นก็ทำให้พวกมันสลบเสียก่อนคราวนี้ฉันมาที่นี่เพื่อจัดการเรื่องนี้ไม่ต้องกังวลฉันจะรับประกันความปลอดภัยของคุณเอง” ไป่เสี่ยวโหรวกล่าว
“แค่เธอคนเดียวงั้นเหรอ?”เมื่อวานเขาเห็นไป่เสี่ยวโหรวถูกตามล่าดังนั้นเขาจึงไม่สบายใจที่ไป่เสี่ยวโหรวมาคนเดียวในครั้งนี้