กล่องจักรวาล (Universe Storage Box) - บทที่ 342 ถูกลักพาตัว
บทที่ 342 ถูกลักพาตัว
การที่ได้ยินเสียงของตัวเองแทนที่จะเป็นเสียงตอบรับยิ่งทำให้ความประทับใจของฮวงเฟิงที่มีต่อหลี่ปิงอวิ๋นลงลด คนอะไร ใช้ไม่ได้เลยจริงๆ
แต่ไม่ว่าอีกฝ่ายจะมีนิสัยอย่างไรเธอก็เป็นพรีเซนเตอร์ของบริษัท นอกจากนี้ เหตุที่ทำให้เขามาที่นี่ก็เพื่อนำโทรศัพท์มาคืนเท่านั้น หลังจากนั้นเขาและเธอก็ไม่จำเป็นต้องติดต่อกันอีก
ด้วยเหตุนี้ฮวงเฟิงจึงตัดสินใจที่จะเพิกเฉยต่อเรื่องเล็กๆน้อยๆ
“คุณหลี่ปิงอวิ๋นผมเอาโทรศัพท์มาคืนครับ ผมขอเข้าไปข้างในได้ไหมครับ?” เนื่องจากอีกฝ่ายยังไม่ตอบ ฮวงเฟิงจำต้องเป็นฝ่ายถือวิสาสะเดินเข้าไปเอง ไม่เช่นนั้นจะให้เขายืนรออยู่เฉยๆรึไง?
อีกฝ่ายยังคงเงียบฮวงเฟิงจึงพูดต่อว่า “ถ้างั้นผมขอเข้าไปข้างในนะครับ”
ขณะที่พูดฮวงเฟิงก็ผลักประตูและเดินเข้าไป แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังไม่มีเสียงจากคนในห้อง เหมือนกับว่าไม่มีใครอยู่อย่างไงอย่างนั้น
ในตอนที่ผลักประตูและเดินเข้าไปฮวงเฟิงก็เห็นชุดพ่อบ้านสองชุดหล่นอยู่บนพื้น เขาตกใจอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นก็ตระหนักได้ว่าอาจมีเรื่องเกิดขึ้นที่นี่
จากนั้นเขาก็เริ่มสำรวจภายในห้องทันทีเป็นไปตามคาด เขาไม่เห็นวี่แววของหลี่ปิงอวิ๋นเลยแม้แต่น้อย
ฮวงเฟิงรีบเดินไปอีกห้องและเคาะประตูห้องของผู้ช่วยหลี่ปิงอวิ๋นไม่นานนัก ประตูก็เปิดออก
”ไม่ทราบว่าคุณหลี่ปิงอวิ๋นอยู่กับคุณหรือเปล่าครับ?”ฮวงเฟิงถามด้วยความกังวล
”ปิงอวิ๋นเหรอ?”เธอไม่ได้อยู่กับฉันแล้ว” จากนั้นเธอก็จ้องฮวงเฟิงอย่างใจเย็นแล้วถามกลับว่า “คุณมาช้าไป ว่าแต่ ทำไมคุณได้ตามหาหลี่ปิงอวิ๋นด้วยล่ะ?”
ฮวงเฟิงไม่ต้องการรบกวนผู้หญิงเจ้ากี้เจ้าการคนนี้เท่าไหร่นักทันใดนั้น เขาก็ตระหนักได้ว่าอาจมีเรื่องเกิดขึ้นกับหลี่ปิงอวิ๋นจริงๆ
อีกฝ่ายกลับมาที่โรงแรมแล้วในตอนแรกเขาคิดว่าเธออาจแอบออกไปเที่ยวกับผู้ช่วย แต่มันกลับไม่ได้เป็นแบบนั้น เพราะในห้องของเธอมีชุดพ่อบ้านสองชุด เพราะฉะนั้น ตอนนี้เธออาจตกอยู่ในอันตรายได้
ฮวงเฟิงไม่ได้บอกผู้ช่วยของหลี่ปิงอวิ๋นว่าเกิดอะไรขึ้นเพราะเกรงว่าอีกฝ่ายจะกังวลมากเกินไป อีกทั้งฮวงเฟิงเองก็ไม่ได้คิดว่าเรื่องจะลงเอยด้วยการเกิดขึ้นขึ้นกับหลี่ปิงอวิ๋นจริงๆ
แม้ว่าฮวงเฟิงจะไม่อยากเข้าไปจุ้นจ้านแต่เขาก็ยังแอบรู้สึกผิดต่ออีกฝ่าย เขาจึงรีบถามและรีบจากไปโดยเร็ว ในเมื่อวันใหม่ยังไม่มาถึง ตอนนี้ เขาก็ต้องทำหน้าเป็นคนขับรถและบอดี้การ์ดของหลี่ปิงอวิ๋นต่อ
”จริงสิสามคนนั้น!” จู่ๆ ฮวงเฟิงก็โพล่งขึ้นมา ทำให้ผู้ช่วยของหลี่ปิงอวิ๋นสะดุ้งโหย่ง ทว่าฮวงเฟิงไม่ต้องการรบกวนอีกฝ่ายเท่าไหร่นักจึงรีบวิ่งไปที่ลิฟต์
”เจ้าบ้าเอ้ย!ฉันไม่เข้าใจเลยจริงๆว่าคนอย่างนายขึ้นมาเป็นผู้จัดการรปภ.ได้ยังไงเนี่ย” ผู้ช่วยของหลี่ปิงอวิ๋นมองดูแผ่นหลังของฮวงเฟิงพลางก่นด่า จากนั้นก็ปิดประตูห้องแล้วกลับเข้าไปพักผ่อนทันที
แม้ว่าเธอจะรู้สึกว่าฮวงเฟิงดูแปลกไปเล็กน้อยแต่เธอไม่รู้ว่าแปลกไปอย่างไร
ฮวงเฟิงรีบกดลิฟต์ถี่ๆหวังให้ประตูลิฟต์เปิดออกโดยเร็ว ก่อนหน้านี้เขารู้สึกว่าสามคนนั้นดูแปลก ๆ เล็กน้อย อีกทั้งยังรู้สึกคุ้นเคยกับผู้หญิงที่อยู่ในอ้อมกอดของชายคนนั้น……Aileen-novel
แม้ว่าเขาจะไม่เห็นใบหน้าของอีกฝ่ายชัดๆแต่เขาก็รู้ว่าเธอสวมใส่เสื้อผ้าที่เพิ่งเห็นมาแต่กลับนึกไม่ออกว่าเคยเห็นที่ไหน แต่ตอนนี้ เขานึกออกแล้วว่ามามันคือเสื้อผ้าที่หลี่ปิงอวิ๋นสวมในตอนบ่าย
ในตอนที่ฮวงเฟิงเห็นสภาพห้องของหลี่ปิงอวิ๋นเธอเขาก็เอาแต่สงสัยว่าเกิดอะไรขึ้นกับหลี่ปิงอวิ๋น แต่เขาก็ไม่กล้าด่วนสรุปว่าเกิดอะไรขึ้นกับเธอ
แต่จากที่เห็นสารรูปของหลี่ปิงอวิ๋นก่อนหน้านี้เขาขอฟันธงว่าจะต้องเกิดเรื่องไม่ดีขึ้นกับอีกฝ่ายแน่นอน
เมื่อลิฟต์มาถึงฮวงเฟิงก็รีบลงไปชั้นล่างทันที หลังจากนั้นเขาก็รีบวิ่งสุดฝีท้าวไปที่ทางเข้าโรงแรม ในที่สุดเขาก็ได้พบกับทั้งสามคน
แต่ภาพที่เขาเห็นกลับเป็นชายคนหนึ่งขึ้นรถไปแล้วรถก็ขับไปทันที
ฮวงเฟิงไม่รอช้าเขารีบวิ่งไปยังรถของตน แต่เนื่องจากรถของเขาจอดอยู่ไกล จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้เขามาช้าไปและคลาดกับหลี่ปิงอวิ๋น
แต่เพราะสายตาของฮวงเฟิงยังดีอยู่แค่แวบเดียวเขาก็จำรุ่นกับทะเบียนรถของอีกฝ่ายได้แล้ว ด้วยเหตุนี้ แม้ว่าเขาจะตามหลังอีกฝ่ายอยู่ในตอนที่สตาร์ทรถ แต่เขาก็ยังจับตาดูอีกฝ่ายไม่ให้คลาดสายตา
นอกจากนี้ยังมีการจราจรติดขัดต่อให้พวกเขาออกรถไปก่อน ก็ยังรถติดอยู่
ฮวงเฟิงขับรถออกไปแต่ขับไปได้ไม่ไกลมากนักเขาก็เห็นรถของคนพวกนั้นยังดีที่ฮวงเฟิงยังจำทะเบียนรถของคนพวกนั้นได้ ไม่อย่างนั้นเขาคงตามคนพวกนั้นไม่ทันแน่
“รอดปากเหยี่ยว*จริงๆ!”ฮวงเฟิงยังคิดว่าจะต้องเรื่องเกิดขึ้นกับหลี่ปิงอวิ๋นในช่วงกลางวันแน่ ไม่คิดเลยว่ามันจะเกิดขึ้นกับเธอในเวลาดึกดื่นป่านนี้แทน
คงจะดีกว่านี้ถ้าเขาไม่ทราบเรื่องแต่ในเมื่อเขารู้แล้ว ไม่ว่าฮวงเฟิงจะยินดีหรือไม่ เขาก็ไม่สามารถนั่งดูอยู่เฉยๆได้
แม้ว่านี่จะไม่ใช่ภารกิจของเขาแต่เขาก็ไม่สามารถเอาแต่มองดูอีกฝ่ายตกอยู่ในอันตรายโดยที่ไม่ทำอะไรเลย
ในตอนนี้ชาวต่างชาติสองคนที่อยู่ในรถคันข้างหน้ายังไม่รู้ว่าตัวเองกำลังถูกฮวงเฟิงจับตาอยู่ พวกเขายังคงขับรถมุ่งหน้าไปยังนอกเมืองเพื่อพบกับคนที่กำลังรอพวกเขาอยู่
และในขณะเดียวกันหลี่ปิงอวิ๋นก็ได้ส่งเสียงงัวเงียในตอนที่รู้สึกตัว วินาทีแรกที่เธอลืมตาขึ้น เธอยังไม่รู้ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นตัวเอง
”หุบปากได้แล้วร้องให้ตายยังไงก็ไม่มีใครได้ยินหรอก” ชายที่นั่งข้างๆหลี่ปิงอวิ๋นพูด อีกฝ่ายมมีหน้าตาที่โหดเหี้ยม เมื่อบวกกับรอยแผลเป็นบนใบหน้าแล้วยิ่งทำให้อีกฝ่ายดูน่าเกรงขามมาก
ในตอนนี้หลี่ปิงอวิ๋นเห็นภาพรอบตัวได้อย่างชัดเจน เธอรู้ว่าตัวเองไม่ได้อยู่ที่โรงแรมแต่อยู่ในรถคันหนึ่ง ในสถานการณ์แบบนี้ ไม่ว่าเธอจะร้องตะโกนเสียงดังขนาดไหนก็เปล่าประโยชน์
”พวกนายเป็นใครกันแน่?”หลี่ปิงอวิ๋นถามด้วยใบหน้าซีดเผือด เธอนอนขดตัวอยู่มุมรถและมองไปทางคนทั้งสองที่อยู่ในรถราวกับแกะที่ได้รับบาดเจ็บ
จากใบหน้าและท่าทางของทั้งสองแล้วเห็นได้ชัดว่าพวกเขาไม่ใช่คนดีและพละกำลังของพวกเขาก็ไม่มีใครเอาชนะได้ นี่จึงเป็นเรื่องที่ยากมากสำหรับเธอที่ต้องการหลบหนีไปจากคนทั้งสอง
“เพื่อนพี่ชายของคุณ” คนข้างๆเขากล่าวด้วยรอยยิ้ม เพียงแค่ว่าฟันสีเหลืองขนาดใหญ่ที่เขาเปิดเผยไม่ได้ให้ความรู้สึกที่ดี
”หรือว่าจะเป็นเพื่อนของพี่ชาย?ไม่ใช่ คนอย่างพวกนายไม่มีทางเป็นเพื่อนของพี่ชายฉันแน่ พี่ชายของฉันไม่มีเพื่อนเหมือนแบบพวกนายหรอก อีกอย่าง เพื่อนของพี่ชายฉันไม่มีทางทำกับฉันแบบนี้!” หลี่ปิงอวิ๋นูดพลางส่ายหน้าไปมา
“คิดไม่ถึงเลยว่าดาราอย่างคุณหลี่ของเราจะฉลาดเหมือนกันนะเนี่ย”ชายคนหนึ่งหัวเราะเบา ๆ และพูดต่อว่า “ผมจะบอกอะไรให้คุณรู้ก็แล้วกัน ความจริงแล้ว พวกเรามีเรื่องบาดหมางกับพี่ชายของคุณ แต่ในเมื่อตอนนี้ พวกเราจัดการเขาไม่ได้ เราก็เลยต้องเปลี่ยนไปจัดการน้องสาวที่น่ารักของเขาแทนยังไงล่ะครับ”
”ไอ้พวกสารเลว!”หลี่ปิงอวิ๋นด่าเสียงดังฟังชัด แต่เมื่อนึกย้อนไปถึงสิ่งที่เธอเพิ่งเจอ จู่ๆเธอก็รู้สึกกลัวขึ้นมา เพราะยังไงซะ เธอก็เป็นแค่สาวน้อยวัยยี่สิบต้นๆเท่านั้น