กล่องจักรวาล (Universe Storage Box) - บทที่ 353 เก็บไปหนึ่ง
แต่ไม่ว่าเขาจะอยากรู้คำตอบมากขนาดไหนตอนนี้เขาก็รู้แล้วว่าเขาถูกซุ่มโจมตี และคนที่ซุ่มโจมตีก็คงจะเป็นคนเดียวกับคนที่สังหารโคลด์และอีไลแน่นอน!
ในตอนที่โทบี้ตระหนักถึงความจริงข้อนี้เขาก็พยายามดิ้นรนสุดความสามารถ แต่จู่ๆเขาก็สัมผัสได้ถึงของมีคมบริเวณลำคอ จากนั้นเขาก็นึกขึ้นมาได้ว่าโคลด์กับอีไลถูกเชือดคอตายนี่…
ทันใดนั้นโทบี้ก็รู้สึกหวาดกลัวขึ้นมาและต่อต้านฮวงเฟิงสุดแรง
แต่เพราะพละกำลังของฮวงเฟิงไม่ใช่สิ่งที่คนธรรมดาจะสู้ได้แม้อีกฝ่ายจะเป็นถึงทหารก็ตาม!
นอกจากนี้ฮวงเฟิงยังมีของวิเศษอีกสองอย่าง หลังจากที่สวมผ้าคลุมล่องหนแล้ว มันยังทำให้ความแข็งแกร่งและความคล่องตัวของเขาเพิ่มขึ้นอีกด้วย
และของวิเศษทั้งสองสิ่งนี้ไม่ได้ใช้งานได้แค่ในเกมเท่านั้น!ในโลกแห่งความจริงของวิเศษทั้งสองสิ่งนี้ยังใช้งานได้อีกด้วย!
ด้วยเหตุนี้พลังของฮวงเฟิงในตอนนี้เรียกได้ว่าแข็งแกร่งมากกว่าก่อนหน้านี้เสียอีกดังนั้นไม่ว่าอีกฝ่ายจะดิ้นรนสุดกำลังก็ไม่มีประโยชน์ เพราะเขาไม่สามารถหลบหนีการควบคุมของฮวงเฟิงได้
ฮวงเฟิงรับรู้ได้ว่ายังมีทหารคนอื่นๆอยู่รอบตัว ด้วยเหตุนี้ เขาจึงไม่รอช้าที่จะตัดสินใจทำบางอย่าง
หลังจากปิดปากโทบี้ไว้เพื่อไม่ให้อีกฝ่ายส่งเสียงร้องออกมาฮวงเฟิงใช้ดาบวายุปาดไปที่ลำคอของโทบี้อย่างไร้ปรานี
ตอนนี้บาดแผลบนลำคอของโทบี้ลึกมากกว่าเดิมแม้ว่าเขาจะพยายามหายใจอย่างสุดกำลังแต่มันก็ไม่ได้ทำให้เขาสูดอากาศไปมากกว่านี้ได้
ดังนั้นเขาจึงใช้พละกำลังที่เขาที่เหลือพยายามดิ้นรนให้หลุดพ้นจากฮวงเฟิงจนกระทั่งเขาก็หมดเรี่ยวแรงและขาดอากาศหายใจไปในที่สุด
ท้ายที่สุดเขาก็เสียชีวิตโดยที่ดวงตายังคงเบิกกว้างแม้ว่าเขาจะเสียชีวิตไปแล้วเขาก็ยังคงไม่เห็นว่าคนร้ายเป็นใครหรือแม้แต่ใช้วิธีอะไรในการสังหารเขา
อย่างไรเสียในตอนนี้เห็นได้ชัดว่าฮวงเฟิงไม่ได้มีเวลาและกำลังเพียงพอที่จะรับรู้ได้ถึงความรู้สึกของชายคนนี้เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายหมดลมหายใจไปแล้วจริง ๆ
ฮวงเฟิงค่อยๆวางร่างไร้วิญญาณลงบนพื้นเบาๆจากนั้นก็หยิบปืนพกและมีดสั้นบนร่างของชายคนนั้นออกมา
ฮวงเฟิงยังคงต้องการมีดพกเอาไว้ใช้ในเวลาคับขันแม้ว่าก่อนหน้านี้เขาจะได้ปืนพกมาจากทหารสองคนแล้วก็ตาม
ฮวงเฟิงบอกตัวเองว่าเขาควรใช้ปืนยิงคนพวกนั้นแต่ในสภาพแวดล้อมแบบนี้ ขืนเขายิงคนพวกนั้นจริงๆ จะต้องเรียกความสนใจจากคนแถวนี้แน่นอน
ถึงตอนนั้นคนที่อยู่แถวนี้ก็คงจะพากันมาล้อมเขา ดีไม่ดีอีกฝ่ายอาจโจมตีเขาด้วย และเหตุการณ์หลังจากนี้ จะกลายเป็นหายนะแน่นอน
ด้วยเหตุนี้ฮวงเฟิงจึงเก็บปืนและถือมีดสั้นเอาไว้ จากนั้นเขาก็ปีนขึ้นไปบนต้นไม้อีกครั้ง
ครั้งนี้ฮวงเฟิงไม่ได้กระโดดขึ้นไปโดยตรงแต่ใช้ถุงมือวิเศษในการปีนต้นไม้ เนื่องจาก ก่อนหน้านี้เขาต้องอุ้มหลี่ปิงอวิ๋นขึ้นไปบนต้นไม้ แม้วิธีนี้จะไม่ค่อยสะดวกสำหรับเขา แต่ก็ต้องทำเพราะปกปิดเรื่องถุงมือวิเศษ
ในขณะที่ฮวงเฟิงกำลังจะกระโดดขึ้นไปหาหลี่ปิงอวิ๋นนั้น เขาดันเผลอเงยหน้าขึ้นไปมองเห็นอะไรบางอย่างที่ไม่ควรมองเข้า
”สีชมพู?”ฮวงเฟิงถึงกับหลุดปาก เป็นที่ทราบกันดีว่าแม้ท่อนบนของหลี่ปิงอวิ๋นจะมีเสื้อของฮวงเฟิง แต่วันนี้เธอสวมกระโปรง และกระโปรงตัวนั้นก็ถูกฮวงเฟิงฉีกขาดเพราะมันเกะกะและทำให้หญิงสาวเดินได้ไม่คล่องตัว
”คะ..คนทะลึ่ง!”แม้จะอยู่ในสถานที่เต็มไปด้วยอันตราย แต่หลังจากที่ได้ยินคำพูดจากฮวงเฟิง หลี่ปิงอวิ๋นก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกอาย
เดิมทีเธอต้องการจะถามอีกฝ่ายด้วยความห่วงใย แต่ก็ต้องเปลี่ยนเป็นจ้องฮวงเฟิงตาเขม็งด้วยใบหน้าที่แดงก่ำและเปลี่ยนจากคำถามเป็นคำด่าแทน….Aileen-novel
ฝ่ายฮวงเฟิงก็รู้สึกเก้อเขินไม่น้อยเขาดันไปเห็นอะไรที่ไม่ควรเห็นของคนอื่นซะได้ ไม่แปลกเลยที่อีกฝ่ายจะตะโกนเสียงดังขนาดนั้น ว่าแต่ การที่หลี่ปิงอวิ๋นตะโกนออกมาแบบนี้ก็เท่ากับการรนหาที่ตายไม่ใช่เร๊อะ?
”อะแฮ่มผมไม่ได้ตั้งใจจริงๆนะ…” ฮวงเฟิงพยายามอธิบาย จากนั้นก็รีบเปลี่ยนเรื่องทันที
”ตอนนี้คนพวกนั้นยังตามหาพวกเราอยู่ ถ้าเรายังอยู่ที่นี่ พวกเขาอาจจะหาเราพบ ผมจะไปลอบฆ่าพวกเขาทีละคน ส่วนคุณอยู่ที่นี่รอจนกว่าผมจะกลับมานะครับ” ฮวงเฟิงบอกกับหลี่ปิงอวิ๋น
”หานายจะไปคนเดียวจริงๆเหรอ? มันอันตรายเกินไป ฉันว่าพวกเราควรรออยู่ที่นี่ อีกไม่นาน ตำรวจก็จะมาถึงแล้ว” หลี่ปิงอวิ๋นรีบท้วง เพราะหลังจากที่เธอได้ยินฮวงเฟิงบอกแบบนั้น เธอก็ลืมไปเลยว่าตัวเองกำลังโมโหฮวงเฟิงอยู่
ก่อนที่กลุ่มคนเหล่านั้นจะเข้าไปในป่าพวกเขาเห็นว่าอีกฝ่ายมีกันทั้งหมดสี่คน แม้ว่าฮวงเฟิงจะฆ่าคนหนึ่งด้วยการลอบโจมตี แต่จำนวนของอีกฝ่ายก็ยังมีมากกว่าอยู่ดี เรื่องนี้ทำให้หลี่ปิงอวิ๋นกังวลไม่น้อย
“ป่านี้กว้างใหญ่มากพวกเราไม่รู้ว่าเจ้าหน้าที่กู้ภัยจะมาถึงตอนไหน ถ้าพวกเขาเห็นว่าเรามีปืน มีหวังพวกเขาคงไม่ปล่อยพวกเราไปง่ายๆหรอก” ฮวงเฟิงว่า
”คุณไม่ต้องห่วงไม่ใช่ว่าผมจัดการไปแล้วสามคนเหรอครับ? เหลืออีกแค่สามคน! เรื่องแค่นี้ ง่ายมาก!”
เห็นฮวงเฟิงมั่นใจขนาดนี้หลี่ปิงอวิ๋นจึงไม่คัดค้านอีก เพราะเธอทราบดีว่าสิ่งที่ฮวงเฟิงพูดมานั้นเป็นความจริงทั้งหมด “ถ้างั้น นายก็ระวังตัวด้วยนะ ส่วนฉันจะรอนายอยู่ที่นี่”
เมื่อเห็นแววตาของหลี่ปิงอวิ๋นฮวงเฟิงก็เกือบจะเสียสูญ ถูกจ้องด้วยสายตาแบบนี้ แถมคนจ้องยังหน้าตาหน้ารักขนาดนี้ ในฐานะที่เป็นผู้ชายอกสามศอก เขาไม่มีทางต้านทานสายตาแบบนั้นได้หรอกนะ!
ฮวงเฟิงเบนสายตาไปอีกทางแล้วพูดว่า”ไม่ต้องห่วงนะครับ คุณรอผมแปปนึง ถ้าผมจัดการคนพวกนั้นเสร็จแล้ว ผมจะรีบมาหาคุณแน่นอน”
”อืม”หลี่ปิงอวิ๋นพยักหน้าอย่างเชื่อฟัง เธอลืมไปแล้วว่าเมื่อกี้ฮวงเฟิงจัดการกับคนพวกนั้นได้รวดเร็วและรอบคอบขนาดไหน
หลังจากปลอบโยนหลี่ปิงอวิ๋นเสร็จฮวงเฟิงก็กระโดดลงไปใต้ต้นไม้ เขาหันมองซ้ายขวาจากนั้นก็หายไปจากสายตาของหลี่ปิงอวิ๋น
“หวี่”หลังจากฮวงเฟิงจากไป จู่ๆหลี่ปิงอวิ๋นก็รู้สึกว่าเสียงแมลงรอบตัวส่งเสียงร้องดังเข้าหูของเธอ ราวกับว่ามันกำลังร้องอยู่ข้างๆหูของเธอยังไงอย่างนั้น
หลี่ปิงอวิ๋นใช้มือจับกิ่งไม้ไว้ข้างหนึ่งส่วนอีกข้างกำลังกอดร้างตัวเอง เธอมองไปตามทางที่ฮวงเฟิงจากไปด้วยความโศฏเศร้า เธอได้แต่ภาวนาให้ฮวงเฟิงกลับมาโดยเร็ว
ในตอนที่ฮวงเฟิงมั่นใจว่าเขาไม่ได้อยู่ในสายตาของหลี่ปิงอวิ๋นแล้วเขาก็บินทันที หากไม่มีหลี่ปิงอวิ๋นอยู่ข้างกาย เขาก็ไม่จำเป็นต้องซ่อนของวิเศษอีกต่อไป ช่างเป็นอะไรที่สะดวกต่อเขาจริง
ฮวงเฟิงบินสูงขึ้นเรื่อยๆ จากทิวทัศน์ด้านบนและสายตาอันเฉียบแหลมของเขา ทำให้มองเห็นตำแหน่งของอีกสามคนที่เหลือได้อย่างชัดเจร ทั้งสามยังคงเดินตามหาเขาไปเรื่องโดนที่ไม่รู้ว่ามีสหายคนหนึ่งตายแล้ว
ฮวงเฟิงบังคับร่างกายและบินไปหาชายคนหนึ่งเนื่องจากว่าความสนใจของคนๆนั้นกำลังจดจ่ออยู่กับสิ่งรอบตัว ทำให้เขาไม่ทันสังเกตเห็นสิ่งที่อยู่สูงขึ้นไปบนท้องฟ้า