กล่องจักรวาล (Universe Storage Box) - บทที่ 365 ตกต่ำ
ผู้หญิงน่ารักและไร้เดียงสาอย่างเทียนหลินเป็นที่ชื่นชอบอยู่แล้วโดยไม่ต้องสงสัยแต่เด็กผู้หญิงในตอนนี้กลับเดินไม่ได้และไม่มีโอกาสได้เห็นสีสันของโลกใบนี้ มันช่างเป็นเรื่องน่าเสียดายจริง ๆ
เมื่อฮวงเฟิงนึกถึงกำลังภายในของตัวเองเขาก็นึกถึงฉากในภาพยนตร์ขึ้นมาทันทีในทีวีผู้ที่มีกำลังภายในที่แข็งแกร่งสามารถรักษาอาการบาดเจ็บและถอนพิษได้ซึ่งผู้ที่มี่ความสามารถวิเศษนี้มักจะใช้กำลังภายในในการรักษาโรคสะส่วนใหญ่
แม้ว่าฮวงเฟิงจะรู้ว่ากำลังภายในนั้นไม่ได้มีอยู่แค่ในโทรทัศน์แต่มีอยู่จริงๆ บนโลกใบนี้ แต่ในภาพยนตร์แสดงให้เห็นว่ามีการใช้กำลังภายในในการขับพิษหรือของเหลวในร่างกายออกมาเป็นเรื่องที่ทำและควบคุมได้ยากมาก
แต่อย่างไรฮวงเฟิงนั้นสามารถใช้พลังวิเศษในร่างกายของเขาเพื่อทำสิ่งนี้ได้และที่สำคัญที่สุดก็คือเขานั้นเคยเรียนวิชาลมปราณภูติอุดรของสำนักแปดมังกรฟ้ามาก่อนต้วนอวี้เองก็เคยใช้วิชาลมปราณภูมิอุดรชักนำกำลังภายในแปรเปลี่ยนเป็นพลังเจิ้นชี่ที่แท้จริงได้
ดังนั้นกำลังภายในของฮวงเฟิงในตอนนี้เมื่อรวมเข้ากับลมปราณภูติอุดรมันจึงเป็นไปได้ที่เขาจะรับไหวในความเป็นจริงสิ่งที่อยู่ในร่างกายของเขาทั้งหมดแม้ว่าจะเป็นพลังที่ต่างกันแต่มันอาจช่วยรักษาอาการเจ็บป่วยของได้ แต่ตอนนี้เขายังไม่ค่อยมีความมั่นใจนักเขาจึงยังไม่ได้พูดอะไรกับเทียนจุน
หลังจากที่ฮวงเฟิงกล่าวลาเทียนจุนเรียบร้อยแล้วเขาก็กลับบ้านอย่างไรก็ตามตอนนี้ก็ยังมีอีกคนซึ่งเป็นคนที่เขาคุ้นเคยกำลังยุ่งอยู่ คนคนนี้ก็คือ ถงเฉียนอดีตนายน้อยอันดับหนึ่งแห่งเมืองชิง
นับตั้งแต่ที่พ่อของเขาถูกจับและถูกจำคุกชีวิตถงเฉียนก็เหมือนตกสวรรค์ลงสู่นรกโดยแท้ นายน้อยหนุ่มที่กำลังเดินไปมาเป็นวงกลมตลอดเวลากำลังง่วนอยู่กับการโทรซึ่งสายที่เขาโทรไปหานั้นไม่รับสายไม่ก็กดตัดสายเขาทิ้งเนื่องจากคนอื่นๆไม่ยินดีนักที่จะกลับไปคบค้าสมาคมกับเขาแล้ว
”บัดซบไอพวกสารเลว! พอตอนนี้ฉันมีปัญหาพวกมันกลับพยายามหลบหน้าแล้วยังทำเป็นไม่รู้จักกันอีก !” หลังจากออกจากคลับแล้ว ถงเฉียนก็พูดก่นด่า
เดิมทีคืนนี้เขาต้องการเชิญพวกเพื่อนๆ มาทานอาหารก่อนจากนั้นจึงอยากจะร้องขอให้พวกเขาช่วยตามหาพ่อและในขณะเดียวกันก็เรียกมาเคลียร์เรื่องความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาด้วยแต่เขากลับไม่คาดคิดว่าคนพวกนี้จะไม่มากันเลยและบางคนก็พูดกับถงเฉียนอย่างตรงไปตรงมาอีกว่าต่อไปอย่าโทรมาอีก
ถงเฉียนที่เคยทะนงตนและหยิ่งผยองมาตลอดซึ่งการที่เขาทำตัวแบบนี้จะมีใครที่จะสามารถทนเขาได้ในความคิดของเขาเขาคิดว่าการกลับไปเผชิญหน้ากับเพื่อนๆ ขึ้นแรกคงต้องเชิญพวกเขามาทานอาหารเสียก่อนและต้องจัดการเลี้ยงพวกเขาอีกด้วยเพราะตลอดมาเขาก็ใช้วิธีนี้มาโดยตลอดเวลาต้องการให้ใครทำตามที่เขาต้องการ…ไอรีนโนเวล
แต่ตอนนี้คนพวกนั้นกลับไม่มีใครมาสักคนอีกทั้งยังพูดจาหยาบคายใส่จนทำให้เขาถึงกับเลือดขึ้นหน้าจนหัวแทบจะระเบิด ส่วนผู้จัดการคลับก็ยังมามองเขาด้วยสีหน้าแปลก ๆ อีกเพราะโดยปกติแล้วผู้จัดการจะเข้ามาโค้งคำนับต้อนรับเนื่องจากว่าเขามาที่คลับแห่งนี้บ่อย แต่วันนี้เขากลับไม่ได้รับการต้อนรับแสนอบอุ่นเช่นเดิมแต่กลับได้รับความรู้สึกที่แสนจะเย็นชามาแทน เมื่อเขาเห็นแขกคนอื่นเข้ามา ผู้จัดการก็ได้สั่งให้บริกรไปพาแขกเข้าไปในห้อง ซึ่งในวันนี้เขาเองก็ไม่ได้รับการปฏิบัติเช่นนี้
และนอกเหนือจากสิ่งเหล่านี้ที่สร้างความรำคาญให้กับถงเฉียนแล้วยังมีเพื่อนร่วมธุรกิจของพ่อเขาในอดีตที่ในตอนนี้ก็กลับแสดงท่าทีเย็นชาใส่เขา ทั้งที่เมื่อก่อนเป็นฝ่ายสนับสนุนพ่อของเขา ตอนนี้ทุกคนเกือบทั้งหมดต่างเข้ามาซ้ำเติมและดูถูกเขาว่าตอนนี้เป็นสิ่งที่เขาต้องใช้โดยให้เหตุผลว่าเพราะพ่อของเขาที่ทำให้การดำเนินงานของบริษัทได้รับผลกระทบ ส่วนเพื่อนที่มาหาเขาถึงหน้าประตูบ้านนั้นก็เพื่อมาซ้ำเติมกับความพ่ายแพ้ของเขาในครั้งนี้
เมื่อเขาคิดถึงสิ่งที่เกิดขึ้นในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมาถงเฉียนก็รู้สึกไม่สบายใจมากจนอยากจะเป็นบ้า เขาไม่เคยคิดมาก่อนว่าจะต้องเจอกับสถานการณ์เช่นนี้ อีกทั้งเพื่อนรอบตัวทุกคนก็ต่างหนีหายไปและยังมีพวกท้วงหนี้มาหาเขาที่บ้านทุกวันแล้วไหนจะพวกตำรวจที่มักจะมาเคาะประตูบ้านเพื่อถามเรื่องขอพ่อเขาอีก
”เอ๊ะนั่นผู้ชายที่เพิ่งถังแตกไม่ใช่เหรอ?” เช่นเดียวกับตอนนี้ที่คนรอบข้างต่างพูดถึงเขาในขณะเขากำลังจะออกจะคลับด้วยความโกรธและโมโมอย่างบ้าคลั่งซึ่งเสียงเหล่านั้นมันชัดเจนและทิ่มแทงเข้ามาในหูของเขา เขาตัดสินใจหาที่ดื่มใหม่เพื่อทำให้ตัวเองเมาและหมดสติไป
ฉ่ายเทียนที่เป็นอาจารย์หนุ่มทายาทเศรษฐีรุ่นที่สองแต่ก่อนเขามีสภาพครอบครัวที่แย่กว่าถงเฉียนเล็กน้อยและนั้นเป็นผลทำให้ในแวดวงของพวกคนรวยถูกถงเฉียนข่มเหงอยู่เสมอและนั่นก็ทำให้ทั้งสองไม่ถูกกันด้วย
โดยปกติแล้วถงเฉียนจะถูกล้อมรอบไปด้วยกลุ่มคนซึ่งรวมไปถึงฉ่ายเทียนด้วยแต่การที่เหล่าทายาทมหาเศรษฐีรุ่นที่สองมาอยู่ตรงถงเฉียนเมื่อยิ่งมีจำนวนมากก็ยิ่งทำให้ถงเฉียนมีอำนาจมากยิ่งขึ้น เช่นนั้นฉ่ายเทียนจึงรู้สึกไม่มั่นคงแต่ในครั้งนั้นเขาไม่มีทางเลือกจึงทำได้เพียงอยู่กับถงเฉียนแต่เมื่อได้ยินเรื่องเกี่ยวกับพ่อของถงเฉียน เขาจึงรู้สึกตื่นเต้นเป็นอย่างมากและคิดว่าในที่สุดเวลาของเขาได้มาถึงแล้ว
ความจริงที่ทำให้เขารู้สึกสมหวังก็คือหลังจากที่เรื่องของถงเฉียนถูกเปิดโปงแล้ว พวกเศรษฐีรุ่นที่สองก็ตัดความสัมพันธ์กับเขาทั้งหมดอย่างแนบเนียนและทุกคนก็มารวมตัวกับฝ่ายของเขาแทนซึ่งความรู้สึกที่ถูกผู้คนรายล้อมทำให้ฉ่ายเทียนมีความสุขเป็นอย่างมาก
แต่ก็ยังมีเรื่องหนึ่งที่ทำให้เขารู้เสียใจนั่นก็คือยังไม่มีโอกาสได้พูดอวดต่อหน้าถงเฉียนเพื่อต้องการทำให้อับอายและปล่อยให้เขาได้สัมผัสในสิ่งที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน
อย่างไรก็ตามความเสียใจนี้ได้รับการแก้ไขแล้วเพราะในคืนนี้เขาได้เห็นถงเฉียนตอนที่ออกมาจากคลับก่อนหน้านี้เขาอยากเจอถงเฉียนอยู่แล้วเพราะเพียงแค่มองไปที่อีกฝ่ายเขาก็สามารถจินตนาการถึงความรู้สึกที่แตกต่างระหว่างพวกเขาสองคนได้
และคำพูดเหล่านั้นที่เขาเตรียมไว้ก่อนหน้าในที่สุดก็ได้มีโอกาสบอกถงเฉียนเสียที
”ฉ่ายเทียนนายมาทำอะไรที่นี่?” ถงเฉียนขมวดคิ้ว
”จุ๊จุ๊ จุ๊ จุ๊ นี่คือบ้านของนายเหรอ? ดูนายน้อยของเราตอนนี้สิ ยังดูพูดหยิ่งยโสไม่เปลี่ยน นี่เขากำลังคิดว่ายังเป็นนายน้อยอันดับหนึ่งของเมืองชิงอยู่อีกเหรอเนี่ย? ฮ่า ฮ่า ฮ่า” ฉ่ายเทียนหัวเราะไปที่ถงเฉียนพร้อมกับคนอื่น ๆ ที่ยืนอยู่รอบ ๆ เขารอวันที่จะเยาะเย้ยถงเฉียนมานานและวันนี้ก็มาถึง
“ใช่ แม้จะเป็นลูกชายของอาชญากรก็ยังคงหยิ่งยโสไม่เปลี่ยน!”
”พี่เทียนเป็นนายน้อยอันดับแห่งเมืองชิงของเรานะพี่เขาเป็นและจะเป็นตลอดไป!”
“ใช่ เขา ถงเฉียนถือได้ว่าเป็นสารเลวเขายังจะมีหน้ามีพูดด้วยท่าทางทะนงตนแบบนั้นอยู่อีกจริง ๆ เหรอ!” คนข้างๆ พูดสะท้อนความรู้สึกของในใจเขา