กล่องจักรวาล (Universe Storage Box) - บทที่ 366 เหล่าอวี้
หลังจากที่ถงเฉียนได้ยินคำพูดจากคนเหล่านั้นเขาก็โกรธจนหน้าแดงนี่เขาถูกทำให้อับอายต่อหน้าคนอื่นขนาดนี้ได้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน ที่ยิ่งไปกว่านั้นคือยังมีคนอีกมากมายที่ยังทำมันอย่างหน้าไม่อาย
”ไอ้สารเลวฉ่ายเทียนคนชั้นต่ำแบบนายมีอะไรให้หน้าภูมิใจกัน เมื่อก่อนตอนอยู่ต่อหน้าฉัน ไม่ใช่ว่าเป็นแกเหรอที่ก้มหัวให้และยังเรียกฉันว่านายน้อยอีก?”ถงเฉียนกล่าวขณะที่เขาชี้ไปที่ฉ่ายเทียน
“และพวกนาย!ก่อนที่พ่อของฉันจะตกที่นั่งลำบาก พวกแกก็ต่างพากันมาตามฉันอย่างกับหมา แม้ว่าฉันจะไม่ได้ตั้งใจโยนกระดูกให้แต่มันก็ทำให้พวกนายมีความสุขไปได้ถึงครึ่งวัน แต่เมื่อตอนนี้มีเรื่องเกิดกับครอบครัวฉัน พวกแกก็เปลี่ยนไปทันที”
ถงเฉียนนั้นรู้สึกโมโหเมื่อได้ยินในสิ่งที่เขาเหล่านั้นพูดจนตอนนี้เขาได้ก่นด่าคนเหล่านั้นพลางชี้ไปที่ทุกคนตอนนี้เขายังไม่ได้ปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ที่ต้องเผชิญอยู่ได้อย่างเต็มที่ ดังนั้นเขาจึงไม่ได้รู้สึกกลัวพวกเขา
แต่คำพูดของถงเฉียนนั้นทำให้ทุกคนไม่พอใจจริงๆ ตอนนี้ฉ่ายเทียนชี้ไปที่ถงเฉียนพร้อมกล่าวว่า: “ไอ้เศษสวะ นี่แกยังคิดอยู่อีกหรอว่าตอนนี้มันจะยังเป็นเหมือนเมื่อก่อนอยู่อีก ถึงเมื่อก่อนพ่อแกจะรวยที่สุดในเมืองชิง แตตอนนี้เขากลายเป็นแค่นักโทษเท่านั้น! แล้วตอนนี้แกคิดว่าตัวเองเป็นใครถึงกล้ามาพูดกับฉันแบบนี้ ห๊ะ? ทุกคนฟังฉัน กระทืบไอ้นี่ให้ตายคาตีนซะ!”
ทันทีที่ฉ่ายเทียนพูดจบทุกคนที่อยู่รอบข้างก็ต่างรุมเข้าไปที่ถงเฉียนทันที สาเหตุหนึ่งที่พวกเขาทำเช่นนั้นนั้นก็คือเป็นคำสั่งของฉ่ายเทียนส่วนอีกหนึ่งเหตุผลก็คือถงเฉียนเคยก่นด่าพวกเขามาก่อนหน้านี้เช่นกัน แม้ว่าพวกเขาจะไม่อยากทำเช่นนี้แต่ยังไงพวกเขาก็ไม่สามารถทนต่อการกระทำที่ดูหยิงผยองได้อีกต่อไป
ในเมื่อฉ่ายเทียนพูดแล้วพวกเขาก็คงไม่กล้าที่จะขัด
”พว..พวกแกต้องการอะไร?” เมื่อเห็นผู้คนมากมายเริ่มรายล้อมมาที่เขา ถงเฉียนจึงรู้สึกกลัวซึ่งในตอนนั้นเองที่เขาเพิ่งจะตระหนักได้ว่าเขาไม่ได้เป็นนายน้อยอันดับหนึ่งแห่งเมืองชิงอีกต่อไป
”จะอะไรสะอีกล่ะ?แน่นอนว่าพวกเราก็จะจัดการสั่งสอนคนอย่างแกไง!”
”ใช่ฉันจะจัดการแกทั้งๆ ที่ยังหน้าด้านได้ขนาดนี้!”
หลังจากที่ทุกคนพูดจบพวกเขาต่างก็ใช้มือของตนชกไปที่ถงเฉียน แม้ว่าพวกเขาจะเป็นทายาทเศรษฐีรุ่นที่ 2แต่ร่างกายกลับไม่ได้แข็งแรงและมีพละกำลังมากนักแต่ด้วยจำนวนที่มากจึงสามารถเอาชนะถงเฉียนได้ แค่สามารถทำให้เขาเจ็บปวดได้นั้นก็เพียงพอสำหรับพวกเขาแล้ว ไม่นานต่อมาจมูกของถงเฉียนก็มีเลือดไหลออกมาจนเลอะจมูกและไหลลามลงมาถึงมุมปาก
แต่สิ่งที่ถงเฉียนมีปฏิกิริยาออกมานตอนนี้นั้นแสดงให้เห็นได้ชัดว่าเขาไม่มีทางยอมแพ้อย่างที่พูดหลังจากที่เขาถูกทำร้ายเขาก็เริ่มร้องขอโทษไม่หยุดปากแต่พวกนายน้อยเหล่านี้ไม่มีทีท่าที่จะหยุดลงราวกับว่าพวกเขาไม่ได้ยินในสิ่งที่ถงเฉียนพูด
”เอาล่ะทุกคนหยุดก่อน อย่าบอกนะว่าพวกนายอยากจะตีนายน้อยถงให้ตายในสภาพแบบนี้??” ฉ่ายเทียนที่เฝ้าดูเหตุการณ์อยู่ด้านหลังในที่สุดก็พูดขึ้นมา เขาต้องการมาพบถงเฉียนเพียงเพื่ออวดเท่านั้น ไม่ได้คิดที่จะเอาชนะถงเฉียนจนต้องตายกลายเป็นเหมือนเศษขยะเช่นนี้ซึ่งมันไม่คุ้มค่ากับการหาเรื่องใส่ตัวแบบนี้
เมื่อได้ยินคำพูดของฉ่ายเทียนทุกคนจึงหยุดลงแต่ยังมีอยู่อีกหนึ่งคนที่ยังคงไม่หยุดทำร้ายถงเฉียนและเขาก็เป็นคนที่เคยโดนเล่นงานหนักที่สุดในบรรดาของทุกคนมาก่อนหน้านี้ด้วยและตอนนี้แม้จะเป็นคำสั่งของฉ่ายเทียนเขาก็ดูไม่มีทีท่าที่จะหยุดลงแต่อย่างใดเนื่องจากเขามีความแค้นใจที่ฝังลึกต่อถงเฉียนเป็นอย่างมาก
“พอได้แล้วเหล่าอวี้ ถ้าขืนนายยังไม่หยุด เจ้าหนุ่มถงของเราได้ตายขึ้นมาจริง ๆ แน่” ฉ่ายเทียนกล่าวพลางขมวดคิ้วเนื่องจากไม่พอใจกับการกระทำของเหล่าอวี้ แม้ว่าเดิมทีเหล่าอวี้จะคับแค้นใจถงเฉียนเป็นอย่างมากแต่ในเมื่อเขาได้กล่าวให้หยุด เขาก็ควรที่จะหยุดเดี๋ยวนั้น เพราะหากการหาเรื่องในครั้งนี้ดูไม่เข้าท่า เขาเองก็จะหาเรื่องถงเฉียนอีกในภายหลังแทนการเผชิญหน้าโดยตรง…ไอลีนโนเวล
”อ่าโอ้ โอ้ ขอโทษด้วยครับพี่เทียน ผมเกลียดไอ้ถงเฉียนมันมานานแล้ว ผมเลยควบคุมตัวเองไม่ค่อยได้!” ต่อมาเหล่าหยูก็ยืนขึ้นและตอบกลับฉ่ายเทียนด้วยสีหน้าสำนึกจนทำให้ในเวลานี้ท่าทางของฉ่ายเทียนดีขึ้นมาเล็กน้อย
เมื่อก่อนเหล่าอวี้มักวนเวียนอยู่รอบๆเขาตลอดและเป็นหนึ่งในไม่กี่คนที่ใกล้ชิดกับเขามากที่สุดด้วยแต่เขากลับไม่เคยคิดว่าคนที่เขาเคยทำร้ายหนักที่สุดในตอนนั้นจะเป็นคนที่ทำร้ายเขาได้มากที่สุดในตอนนี้
”เหล่าอวี้?!เป็นนายเหรอ!” ทำไมกัน? “ถงเฉียนเพิกเฉยต่อความเจ็บปวดบนร่างกายของเขาและได้ตั้งคำถามกับเหล่าอวี้แทน แม้ว่าบางคนที่ทำร้ายเขาเมื่อก่อนจะอยากเป็นที่ชื่นชอบของเขาแต่พวกเขาเหล่านั้นก็ไม่ได้รับความใกล้ชิดจากเขา ส่วนคนอื่น ๆ ที่เหลือก็เพียงติดตามเขาเท่านั้น ดังนั้นถงเฉียนจึงไม่แปลกใจที่พวกเขานำเช่นนี้
แต่กับเหล่าอวี้นั้นแตกต่างออกไปเพื่อนของเขาก่อนหน้านี้ที่ไม่ได้มาพบเขา พวกเขาก็ไม่ได้ทำร้ายเขาเช่นกัน แต่เหล่าอวี้ อดีตเพื่อนของเขาในตอนนี้กลับทำร้ายเขาและยังเป็นหนึ่งในบรรดาที่ทำร้ายเขาอย่างหนักอีกด้วย!
”ทำไมน่ะเหรอ?นายก็รู้ดีไม่ใช่เหรอ? เมื่อก่อนไม่ว่าจะทำอะไรฉันทำให้นายด้วยความจริงใจมาตลอดแต่แกกลับตอบแทนฉันด้วยการปฏิบัติกับฉันเยี่ยงหมาตัวนึงโดยที่ไม่เคยเกียรติกันเลยแม้แต่น้อย ! ทำไมเศษขยะแบบแกถึงทำกับฉันได้ขนาดนั้นกันวะ เพียงแค่ว่าฐานะครอบครัวของนายดีกว่าฉันนิดหน่อยแค่นั้นเหรอ? หื้อ?” เหล่าอวี้พูดพลางต่อยและแตะเข้าไปที่ถงเฉียน
อย่างไรก็ตามสิ่งที่เหล่าอวี้เพิ่งพูดไปก็เป็นสิ่งที่ฉ่ายเทียนเองก็ไม่ทราบมาก่อนเช่นกันและนั่นก็ทำให้เขารู้สึกอึดอัดขึ้นมาเล็กน้อยเขายังคิดในใจอีกว่าทำไมคนเช่นนี้ถึงได้เชื่อมั่นในตนเองขนาดนั้น
”พอแล้วปล่อยเขา เราอย่าเอาเศษสวะนี่มาทำให้เราต้องเสียเวลาสนุกในชีวิตสิ” ฉ่ายเทียนตัดสินใจว่าจะปล่อยเขาไปในวันนี้พร้อมกับถอนหายใจออกมาในขณะที่เขาอยู่ในอารมณ์ดี “คืนนี้ ฉันจะรักษานายเอง!”
“พี่เทียนช่างเป็นวีรบุรุษจริง ๆ!”
“พี่เทียน คืนนี้ถ้าพี่ไม่เมายังไม่ต้องกลับบ้าน!”
ในกลุ่มคนต่างโห่ร้องขณะที่พวกเขาพาฉ่ายเทียนออกไปและเหล่าอวี้ก็เป็นหนึ่งในนั้นด้วยแต่ก่อนที่เขาจะจากไปเขาได้เตะทิ้งท้ายถงเฉียนด้วยความโกรธแค้นไปอีกครั้งเพื่อย้ำความแค้นที่มีต่อเขาไม่ให้ลืม คราวนี้เขาเตะเข้าที่มุมตาจนทำให้การมองเห็นของถงเฉียนมืดลง
ก่อนหน้านี้เหล่าอวี้เองก็เป็นคนปฏิญาณไว้ว่าจะจงรักภักดีต่อฉ่ายเทียนหลังจากที่รู้เรื่องของถงเฉียนแล้วเขารู้ว่าถงเฉียนคงต้องจบแล้วแน่ซึงนั้นก็ไม่เป็นผลดีกับเขาในภายหลังเช่นกัน ดังนั้นเขาจึงทิ้งและตัดสินใจตัดขาดจากถงเฉียนและหันมาเข้าร่วมกับฉ่ายเทียนแทน
และในวันนี้วันที่เขาสามารถทำร้ายถงเฉียนได้เขาจึงได้ทำสุดกำลังเท่าที่มีโดยไม่คิดยับยั้งเลยแม้แต่น้อยและเพื่อแสดงให้ฉ่ายเทียนเห็นด้วยว่าเขาตัดขาดกับถงเฉียนแล้วจริงๆ
การกระทำของเหล่าอวี้ในตอนนี้จริงๆ ยังไม่ถือว่าบรรลุตามเป้าที่ฉ่ายเทียนคิดไว้ ความจริงในใจของเขานั้นยังคงเจ็บแค้นฝังลึกและยังคาดโทษถงเฉียนให้ตายอยู่แต่เขายังไม่ได้คิดที่จะยอมรับเหล่าอวี้ในตอนนี้เช่นกัน
เหล่าอวี้และคนอื่นๆ ในตอนนี้แม้ว่าพวกเขาจะเกลียดถงเฉียนแต่นั้นก็ยังไม่ทำให้สามารถเชื่อได้ว่าพวกเขาแปรพรรคมาแล้วจริง ๆ สุดท้ายถ้าเป็นเขาที่เห็นว่าอดีตคู่ต่อสู้พ่ายแพ้ลงต่อหน้า นั่นจะถือว่าทำให้เขากลายเป็นผู้ที่อยู่เหนือกว่าพวกคนอื่น ๆ ที่เป็นคนก่อเรื่องขึ้นซึ่งแน่นอนว่านั่นไม่ได้แปลว่าถงเฉียนจะไม่เกลียดพวกเขาแต่เขาเลือกที่จะไม่เกลียดเพียงแต่ในใจของเขามีความรู้สึกคับแค้นใจเข้ามาแทนที่ซึ่งก็คล้ายกับคนอื่น ๆ ที่รู้สึกต่อเขาเช่นเดียวกัน แต่ความแค้นของเขาถ้าให้เทียบกับคนพวกนั้นยังถือว่าน้อยกว่า
และคนที่คับแค้นใจมากที่สุดจะเป็นใครไปได้นอกจากชายคนนี้เหล่าอวี้!
ถงเฉียนนึกได้ว่าแต่ก่อนเขาก็เคยปฏิบัติต่อเหล่าอวี้ค่อนข้างดีและยังเป็นหนึ่งในคนที่ใกล้ชิดมากที่สุดอีกด้วยแต่ในตอนนี้เขากลับกลายเป็นคนที่ทำต่ำช้าที่สุดต่อเขาซึ่งนั่นก็เป็นเรื่องยากยิ่งที่ถงเฉียนจะยอมรับได้ในเวลาเดียวกันนั้นความคับแค้นใจที่มีต่อเหล่าอวี้จึงยิ่งเพิ่มเท่าทวีคูณยิ่งกว่าใคร ๆ
“นายกำลังให้อาหารกับหมาลอบกัดนะคอยดูเถอะ ฉันจะไม่ยอมจบแค่นี้แน่” ถงเฉียนลากขาที่บาดเจ็บของเขาค่อยๆเดินกระเพกกลับไปยังคลับเฮาส์อย่างช้า ๆ ในทางตรงกันข้ามในใจของเขาไม่ได้เป็นเช่นเดียวกับสภาพร่างกายในตอนนี้แม้ว่าเขาจะจากมาแล้วแต่ก็ยังนึกหาหนทางแก้แค้นคนที่ทำร้ายเขาอย่างโหดร้ายโดยเฉพาะเหล่าอวี้!
และในขณะเดียวกันเหล่าอวี้ก็กำลังติดตามเจ้านายของเขาโดยที่ไม่รู้ตัวว่าได้สร้างความคับแค้นใจให้กับถงเฉียนไว้มากเพียงใดซึ่งความรู้นั้นก็เกินกว่าคำว่าแค้นไปแล้วด้วยซ้ำ