กล่องจักรวาล (Universe Storage Box) - บทที่ 383 รอกินข้าว
“กลับมาแล้วเหรอ?”เป็นยังไงบ้าง?” เมื่อฮวงเฟิงกลับมายังที่พักของเขา ไป่เสี่ยวโหรวกำลังนั่งอยู่บนโซฟา ขณะที่กำลังดูทีวีไปด้วยและกินขนมไปด้วยในเวลาเดียวกัน สีหน้าของเธอไม่เป็นกังวลเลยแม้แต่น้อยและเสี่ยวไป่นั้นก็กำลังนอนหนุนต้นขาที่ขาวและนุ่มของเธอพร้อมกับหลับตาพริ้มอย่างมีความสุข
เป็นครั้งแรกที่ฮวงเฟิงมองดูเสี่ยวไป่ด้วยความอิจฉาจากนั้นก็กล่าวว่า“เจ้าคนนั้นได้ถูกผู้กำกับชิวควบคุมตัวไปแล้วและผมก็ส่งมอบสมุดบัญชีเล่มนั้นให้กับผู้กำกับชิวไปแล้ว
ฮวงเฟิงเดินเข้าไปที่ด้านข้างของไป่เสี่ยวโหรวและนั่งลงขณะที่มองดูของเธอและเขาก็ขมวดคิ้วและถามว่า “นี่คุณกินของพวกนี้งั้นเหรอ?”
“แล้วจะให้ทำไงล่ะ?ทำไมคุณถึงไม่กลับมาทำอาหารให้ฉันล่ะ?” ไป่เสี่ยวโหรวกรอกตาและกล่าว
“แล้วคุณทำเองไม่เป็นหรือไง?”ฮวงเฟิงกล่าวอย่างพูดอะไรไม่ออก
“ไม่มีทาง!”ไป่เสี่ยวโหรวกล่าวอย่างเด็ดขาด
“นี่คุณมาเป็นหัวหน้าทีมได้ยังไงกันเนี่ย”ฮวงเฟิงพึมพำขณะที่เขาเดินไปยังห้องครัวเพื่อทำอาหารให้ไป่เสี่ยวโหรว
“การเป็นหัวหน้าทีมไม่เห็นจะเกี่ยวกับการทำอาหารเลยสักหน่อย”ไป่เสี่ยวโหรวพิงอยู่ที่กำแพงห้องครัวขณะที่มองดูฮวงเฟิงทำกับข้าว
จากนั้นไป่เสี่ยวโหรวก็ขมวดคิ้วและกล่าวว่า“คุณส่งมอบทั้งคนและสมุดบัญชีให้กับผู้กำกับชิวแล้ว เขาไว้ใจได้หรือเปล่า?”
สิ่งที่ไป่เสี่ยวโหรวกังวลนั้นไม่มีเหตุผลถ้าผู้กำกับชิวอยู่ข้างเดียวกับคนพวกนั้น ถ้าอย่างนั้นการสิ่งที่ฮวงเฟิงส่งมอบให้เขาไปก็จะหายไปอย่างไร้ร่องรอย ไม่เพียงแต่พวกเขาจะจับคนที่อยู่เบื้องหลังของถงเฉียนจุ้นไม่ได้แล้วคนอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องก็จะรู้ว่าพวกเขาสืบเรื่องนี้อยู่และพวกเขาจะตกอยู่ในอันตรายด้วย
“เขาน่าจะไม่เป็นอะไรนะ”ฮวงเฟิงคิดใคร่ครวญเกี่ยวกับเรื่องนี้และกล่าวออกมา เขาเป็นคนที่ช่วยชีวิตชิวหนิงซวงเอาไว้และจากคำบอกเล่าของชิวหนิงซวงและปฏิกิริยาของผู้กำกับชิวที่มีต่อเขา เขาเองก็รู้สึกว่าผู้กำกับชิวไม่ใช่คนเช่นนั้น นั่นคือที่ว่าทำไมเขาจึงได้ส่งมอบสมุดบัญชีให้เขาไป
“ผมถ่ายรูปสมุดบัญชีไว้ในโทรศัพท์มือถือของผมด้วยนะ”ฮวงเฟิงกล่าว ถึงแม้ว่ามันจะไม่ใช่ภาพต้นฉบับแต่มีภาพเหล่านี้ไว้ก็ยังดีกว่าไม่มีอะไรไว้หลักฐานเป็นแน่
ไป่เสี่ยวโหรวพยักหน้าและกล่าวว่า“ฉันเองก็บอกไม่ได้เหมือนกัน แต่ยังไงคุณก็ต้องระวังตัวไว้ด้วยนะ”
“ถูกต้องแล้ว”ฮวงเฟิงกล่าว
หลังจากนั้นไม่นานฮวงเฟิงก็เตรียมอาหารเย็นเสร็จโดยมีไป่เสี่ยวโหรวเฝ้าดูอยู่ เพราะว่านี่ก็ดึกมากแล้ว ฮวงเฟิงจึงไม่ได้ทำอะไรซับซ้อน และเธอก็เพียงแค่สั่งก๋วยเตี๋ยว แต่ถึงแม้จะเป็นแค่ก๋วยเตี๋ยวธรรมดาแต่มันก็หอมจนเตะจมูกของไป่เสี่ยวโหรว ถึงแม้ว่าเธอจะเพิ่งกินขนมไปแต่เธอก็ยังคงรู้สึกหิวอยู่ดีเมื่อฮวงเฟิงนำก๋วยเตี๋ยวขึ้นโต๊ะ
ขณะที่ไป่เสี่ยวโหรวกำลังกินก๋วยเตี๋ยวชามเล็กที่ฮวงเฟิงทำให้ผู้กำกับชิวนั้นก็เพิ่งเริ่มที่จะยุ่ง เขารู้ว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องท้าทายสำหรับเขาแต่นี่ก็เป็นโอกาสเช่นกัน ดังนั้นหลังจากที่ได้รับสมุดบัญชีมาแล้วเขาก็ขับรถตรงไปที่บ้านของผู้นำอันดับหนึ่งของจังหวัด ถึงแม้ว่าจะดึกแล้วก็ตามแต่ผู้กำกับชิวก็ไม่ได้รีรอ
“ผู้กำกับชิวทำไมคุณถึงมาที่นี่ได้ล่ะ?” ผู้นำคนนั้นค่อนข้างประหลาดใจที่เห็นผู้กำกับชิวมาหา
“ครับมีเรื่องด่วนมาก” ผู้กำกับชิวกล่าว.ไอลีนโนเวล.
“เอาล่ะเข้ามาในห้องทำงานผมสิ”ท่านผู้นำกล่าวกับผู้กำกับชิวอย่างไม่ลังเล เมื่อผู้กำกับชิวมารายงานเขาดึกดื่นขนาดนี้เห็นได้ชัดว่ามันต้องเป็นเรื่องที่ไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน
ผู้กำกับชิวเดินตามติดท่านผู้นำเข้าไปในห้องทำงานนี่เป็นโอกาสของเขาแล้ว คนที่อยู่เบื้องหลังของเขาก็คือพ่อบุญธรรมของเขาแต่ชายชราคนนั้นได้เสียชีวิตไปแล้ว ดังนั้นเขาจึงได้สืบทอดตำแหน่งของเขาในฐานะผู้กำกับมาเป็นเวลานานและดูเหมือนว่าน่าจะต้องขยายเวลาออกไปอีกเรื่อยๆ
ในเวลานี้ผู้นำของรอบแรกก็คือนายใหญ่ถาน ที่สืบเชื้อสายมาและกลายมาเป็นผู้นำชั้น อย่างไรก็ตามหมายเลขสองนั้นก็อยากจะตะโกนดังๆ ไม่ให้กระทำการใดๆ
ขณะที่นายใหญ่ถานได้สืบทอดมากจากเมืองหลวงแต่เขากลับไม่ได้มีส่วนร่วมในการสร้างจังหวัดชิงมากนัก ในฐานะผู้นำหมายเลขสองเขาได้ขับเคลื่อนจังหวัดชิงมาเป็นเวลาหลายปีมีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งมากโดยมีเชื้อสายโดยตรงมากมาย อย่างไรก็ตามในเวลานี้เขาก็ยังไม่สามารถที่จะก้าวไปข้างหน้าได้อย่างที่ใจหวัง ดังนั้นจึงมีความคิดและความขัดแย้งบางประการเกิดขึ้นในใจของเขา
ความจริงแล้วหลังจากที่นายใหญ่ถานเข้ามามีบทบาทก็มีหลายคนที่แอบสังเกตุเขาอยู่เงียบๆ เขาต้องการที่จะดูว่านายใหญ่ถานนั้นคู่ควรพอที่เขาจะยอมสยบให้ในฐานะผู้นำคนที่สองหรือไม่ โดยปกติแล้วหัวหน้าของผู้กำกับชิวไม่ได้ชอบการกระทำของเขามากนักดังนั้นเขาจึงพยายามหลีเลี่ยงที่จะไม่เข้าใกล้เขาเกินไป นั่นจึงเป็นสาเหตุที่ว่าทำไมเขาจึงยังไม่เดินหน้าต่อไป
ในทางกลับกันนายใหญ่ถานเป็นคนที่ดีที่พอจะพึ่งพาได้แต่เขาเคยคิดเรื่องนี้มาก่อน แม้ว่าเขาจะเป็นหัวหน้าของสถานีตำรวจ แต่เขาก็ไม่ได้มาโดยสะเพร่าและอีกฝ่ายอาจจะสงสัยเขาเสียด้วยซ้ำ
หากเขาต้องการสอบสวนคดีนี้ต่อไปเขาก็ต้องหาคนมาสนับสนุน ดังนั้นเขาจึงนึกถึงนายใหญ่ถานและแน่นอนว่ามีอีกเหตุผลหนึ่งเพราะมีใครบางคนที่อยู่ในสมุดบัญชีค่อนข้างจะสนิทสนมกับผู้นำหมายเลขสอง เป็นผลให้ผู้กำกับชิวไม่สามารถที่จะมองข้างผู้นำหมายเลขสองได้
ผู้กำกับชิวจะรู้ดีว่าถึงแม้ว่าเขาจะเพิ่งเข้ามาภายในบ้านของนายใหญ่ถานแต่ข่าวนี้ก็ได้แพร่กระจายไปยังผู้คนมากมายอย่างรวดเร็ว พวกเขาอาจจะพากันคาดเดาว่าเขาคงจะมาเพื่อสิโรราบให้กับนายใหญ่ถาน แต่ในเมื่อผู้กำกับชิวได้ตัดสินใจไปแล้วเขาก็จะไม่มีวันเสียใจภายหลัง
ยิ่งไปกว่านั้นนายใหญ่ถานก็กำลังต้องการกำลังคนดังนั้นเขาจึงเป็นคนแรกที่ไปหาตราบใดที่นายใหญ่ถานยังยืนหยัดอยู่ได้ในอนาคตยังไงเสียเขาก็จะได้รับแต่ผลประโยชน์ทั้งนั้น
ในเวลานี้นายใหญ่ถานกำลังเดินนำหน้าไปเขาเองก็รู้สึกว่าสาเหตุที่ผู้กำกับชิวมาถึงที่นี่นั้นก็เพื่อแสดงเจตนาดี และเพื่อที่จะรายงานเรื่องราวซึ่งทั้งหมดนั่นก็เป็นเพียงข้ออ้าง และนายใหญ่ถานเองก็ต้องการคนที่ไว้ใจได้เช่นกัน ไม่เช่นนั้นงานของเขาก็จะเริ่มไม่ได้เสียทีและตัวตนของผู้กำกับชิวเองก็ไม่เลวนักซึ่งนั่นเป็นสิ่งที่เขาต้องการ ดังนั้นเขาจึงยอมรับอีกฝ่ายด้วยความเต็มใจ
เพียงแค่เวลาสิบนาทีหลังจากที่เขาเข้ามาภายในบ้านของนายใหญ่ถานผู้นำของจังหวัดก็รู้ทั้งหมดเกี่ยวกับภูมิหลังของเขา ในเวลานี้เขาก็ยังคงต้อง “รายงาน” งานของเขาซึ่งเห็นได้ชัดว่าไม่ใช่เรื่องธรรมดาอย่างที่คนอื่นคิด บางคนคงกำลังเข่นเขี้ยวเคี้ยวฟันเกี่ยวกับสิ่งที่เขาทำ ถึงแม้ว่าโดยผิวเผินแล้วพวกเขาจะไม่เห็นแต่ในใจของพวกเขาแล้วพวกเขาได้ถูกผู้กำกับชิวขึ้นบัญชีดำไว้เรียบร้อยแล้ว
“ปัง!”ภายในห้องทำงานที่ถูกตกแต่งไว้อย่างเรียบง่าย หลังจากที่ผู้นำหมายเลขสองของจังหวัดชิงได้ทราบว่าเกิดอะไรขึ้นกับผู้กำกับชิว เขาจึงกระแทกถ้วยน้ำชาลงบนโต๊ะอย่างแรง ถึงแม้ว่าเขาจะไม่ได้พูดอะไรออกมา แต่ทั้งการกระทำและสีหน้าของเขาเห็นได้ชัดว่าเขาอารมณ์ไม่ดีเป็นอย่างมาก