กล่องจักรวาล (Universe Storage Box) - บทที่ 401 แขก
“วันนี้คนเยอะจัง”
ฮวงเฟิงและคนอื่นๆ กำลังพูดคุยกันอยู่ที่มุมห้องขณะรับประทานอาหาร จนถึงตอนนี้ก็มีคนจำนวนไม่น้อยมาที่นี่
ฮวงเฟิงไม่ทราบทำไมส่วนชิวหนิงซวงและสองคนที่เหลือนั้นเข้าใจดีว่าทำไมอีกฝ่ายถึงถามคำถามนี้ด้วยความสงสัย
เจิ้งฉ่วยที่เหมือนจะทราบอะไรบางอย่างตอบกลับไปว่า”ฉันว่าต้องเป็นเพราะนายน้อยคนที่มาจากเมืองหลวงแน่ ฉ่ายเทียนคงพยายามทำให้เขาเป็นที่รู้จัก เลยจัดงานเลี้ยงฉลองและเชิญแขกมากหน้าหลายตามายังไงล่ะ”
”ถ้าเป็นถงเฉียนล่ะก็ไม่มีทางทำแบบนั้นได้หรอกต้องเป็นฉ่ายเทียนสิ ถึงจะทำแบบนั้นได้” ฉ่ายเทียนประชด
เนื่องจากฉ่ายเทียนถูกถงเฉียนข่มอยู่เสมอในตอนนั้น เขายังไม่เคยเห็นอีกฝ่ายพูดจาแบบนี้มาก่อน
เห็นได้ชัดว่าเขาต้องการแทนที่ถงเฉียนและกลายเป็นที่หนึ่งของเมืองชิงครั้งนี้ มีแขกจากเมืองหลวงมาร่วมงาน เขาถึงได้เชิญทายาทเศรษฐีในเมืองชิงเพื่อประกาศให้คนพวกนั้นรู้ว่าเขาร่ำรวยขนาดไหน
”ใช่สองคนนั้นไม่เห็นจะมีอะไรดี” เจิ้งฉ่วยว่า
ฮวงเฟิงไม่ได้ใส่ใจเท่าไหร่นักเขาเพียงแค่จิบเครื่องดื่มของตนเงียบๆอยู่ข้างๆ
ฉ่ายเถียตั้งใจจัดงานอย่างยิ่งใหญ่นอกจากการตกแต่งห้องรับรองที่สวยงามแล้ว อาหารและเครื่องดื่มของที่นี่ล้วนเป็นของที่มีคุณภาพสูงทั้งหมด มั่นใจได้เลยว่าอีกฝ่ายต้องใช้เงินไม่น้อยแน่
แม้ฮวงเฟิงจะไม่ได้ต้องการมาพบฉ่ายเทียนแต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ไม่ได้ปฏิเสธ
นอกจากนี้หลังเลิกงาน เขาก็ตรงมาที่นี่ทันที แม้แต่น้ำสักแก้วเขาก็ยังไม่ได้กิน เพราะฉะนั้นตอนนี้เขาจึงหิวจัด
”นี่นายเบื่อไหม?” ชิงหนิงซวงเอ่ยถามฮวงเฟิงด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน
อันที่จริงเธอรู้สึกเสียใจกับการตัดสินใจของตัวเองโดยเฉพาะกับการที่ทั้งสองมาร่วมงานเลี้ยงที่อีกฝ่ายไม่ชอบหากพวกเขาสองคนไปหาร้านอาหารอร่อย ๆ ทานด้วยกันก็คงจะดีกว่านี้
อย่างไรก็ตามจุดประสงค์ที่ทำให้เธอมาที่นี่ก็เพื่อจะทำให้ฉ่ายเทียนรู้ว่าเธอมี‘คนรัก’ อยู่แล้ว หากไม่ใช่เพราะสิ่งนี้เธอก็คงไม่มีทางมาที่นี่เด็ดขาด
”นิดหน่อยน่ะ”ฮวงเฟิงพยักหน้าตอบ การรวมตัวครั้งนี้มีแต่คนที่เขาไม่รู้จัก และเขาก็ไม่อยากทำความรู้จักกับคนเหล่านี้ ไม่แปลกที่เขาจะรู้สึกเบื่อหน่าย
”น่าเบื่อ?ถ้างั้นหลังจบงาน ก็มากับผมสิ ผมจะพาคุณไปผ่อนคลายเอง” ในตอนนั้นเอง เจิ้งฉ่วยปรากฏตัวและพูดแทรกพลางเหลือบมอง บนใบหน้าผุดรอยยิ้มจอมปลอมที่ทำให้คนที่ได้มองต่างพากันเข้าใจเขาผิดไป
”นี่เจ้าอ้วน อย่าพูดจาเหลวไหลลกับฮวงเฟิงนะ” ฮวงเฟิงไม่ตอบ หากแต่เป็นชิวหนิงซวงที่จงใจกล่าวเตือนอีกฝ่าย
”ฉันจะไปทำแบบนั้นได้ยังไงฉันแค่อยากพาฮวงเฟิงไปกินของว่างตอนเที่ยงคืนเอง” เจิ้งฉ่วยตอบตะกุกตะกัก จากนั้นก็มองไปที่ชิวหนิงซวงด้วยสายตาอันลึกซึ้ง “ทำไมคุณต้องห่วงเขาขนาดนี้ อย่าบอกนะว่าพวกคุณทั้งสองคนเป็น…”
”เพื่อน!ใช่ ฉันเป็นห่วงเขา” ชิวหนิงซวงตอบ “นายคิดว่าฉันไม่รู้ว่าเหรอว่านายเป็นใคร?”
คำตอบของชิวหนิงซวงทำให้เจิ้งฉ่วยหน้าแดงเล็กน้อยเขากับชิวหนิงซวงรู้จักกัน ไม่แปลกที่ชิวหนิงซวงจะรู้ภูมิหลังของเขา
แม้ว่าเจิ้งฉ่วยจะสังเกตเห็นท่าทางของเสี่ยวซวนและชิวหนิงซวงตอนที่พูดกับเขาแต่เนื่องจากเขาไม่ใช่คนดีและเขาก็เป็นผู้ชายที่ยังคงมีความต้องการทางเพศ
เมื่อพบเจอกับสถานการณ์แบบนี้เขาจึงพูดจาหยอกล้อเป็นปกติ ส่วนตัวเขาไม่ได้คิดมากอะไร เพราะถึงยังไงเขาก็ยังไม่ได้แต่งงานและไม่มีแฟน
แต่ในสายตาของชิวหนิงซวงและเสี่ยวซวนคนประเภทนี้ไม่ใช่คนนิสัยดีเลยแม้แต่น้อย
”ฉันก็แค่อยากเลี้ยงข้าวแล้วก็ทำความรู้จักกับเขาเอง”เจิ้งฉ่วยเน้นย้ำ
”ได้ถ้างั้นเสี่ยวซวนกับฉันก็จะไปด้วย” ชิวหนิงซวงกล่าว
”ไม่ได้!”เจิ้งฉ่วยยกมือขึ้นมาห้ามปรามทันที.ไอลีนโนเวล.
”ผู้ชายอย่างเราก็มีเรื่องที่ต้องคุยกันแบบสองต่อสองเหมือนกันนะถ้ามีผู้หญิงไปด้วยแล้วจะเรียกว่าคุยกับแบบแมนๆได้ยังไงล่ะ ถ้าเธออยากให้ฉันเลี้ยงข้าว เอาไว้วันหลังฉันจะพาเธอไปภัตตาคารร้าน”
ชิวหนิงซวงกำลังจะแย้งแต่ถูกเสี่ยวซวนพูดแทรกขึ้นมาว่า “พอแล้ว เธอไม่ต้องไปต่อปากต่อคำกับหมอนั่นเลยนะ ไม่เห็นเหรอเจ้าอ้วนนั่นไม่อยากให้เราไปด้วยตั้งแต่แรก”
จากนั้นก็หันไปมองเจิ้งฉ่วยที่กำลังหัวเราะคิดคักและไม่ปฏิเสธ
ชิวหนิงซวงไม่ต่อปากกับอีกฝ่ายต่อไม่ใช่เพราะสิ่งที่เสี่ยวซวนบอกหรือท่าทางของเขาแต่เป็นเพราะเธอเชื่อว่าระหว่างเขากับฮวงเฟิงจะไม่มีเรื่องอะไรเกิดขึ้น
หากครั้งนี้เธอยังคงบังคับฮวงเฟิง ฮวงเฟิงก็คงรู้สึกไม่พอใจ
ดังนั้นหลังจากที่ชิวหนิงซวงใช้สายตาตักเตือนเจิ้งฉ่วยเขาก็ไม่กล้าหัวเราะอีก แต่ถึงอย่างนั้นเจิ้งฉ่วยก็ยังคงยิ้มกรุ้มกริ่มออกมาอยู่ดี
ฮวงเฟิงถึงกับพูดไม่ออกเจิ้งฉ่วยคนนี้ชวนเขาเนี่ยนะ? แม้ว่าเขายังไม่ทันได้แนะนำตัวให้อีกฝ่ายรู้จัก แต่ในเมื่อเป็นการตัดสินใจองทุกคน ฮวงเฟิงจึงไม่ปฏิเสธ
เนื่องจากเขาเองต้องการรู้จักเจิ้งฉ่วยเช่นกันและเขาก็ไม่ค่อยมีเพื่อนในเมืองชิงเท่าไหร่นัก
ดังนั้นการที่เขาจะมีเพื่อนเพิ่มขึ้นมาอีกหนึ่งคนนับว่าเป็นเรื่องที่ดีไม่น้อยอย่างน้อยเจิ้งฉ่วยคู่ควรกับการเป็นสหายของเขาเพราะอีกฝ่ายสามารถทำให้ผู้อื่นรู้สึกดีได้
ในตอนกับที่ฮวงเฟิงและคนอื่นๆ กำลังพูดคุยกันอยู่นั้น ฉ่ายเทียนก็ปรากฏตรงหน้าทุกคน ครั้งนี้เขาไม่ได้เดินไปหาชิวหนิงซวง แต่เดินไปที่ด้านหน้าของห้องโถง ข้างๆกายเขาคือชายหนุ่มคนหนึ่ง
ดูเหมือนฉ่ายเทียนจะเดินตามเขาด้วยความระมัดระวังอีกทั้งยังไม่เดินนำเขาแม้แต่ก้าวเดียว
”ทุกคนเงียบเสียงลงหน่อย” เมื่อทั้งสองคนเดินไปถึงตรงกลาง ฉ่ายเทียนก็ปรบมือส่งสัญญาณให้ทุกคนเงียบเสียง วินาทีที่เขาเห็นว่าทุกคนต่างจับจ้องมาที่เขา มันช่างทำให้เขารู้สึกพึงพอใจไม่น้อย
แต่ทันทีที่เขาเห็นชายหนุ่มข้างๆเขาก็รีบหุบยิ้มทันที
”ยินดีต้อนรับแขกผู้มีเกียรติทุกท่านในค่ำคืนนี้หากคุณต้องการแนะนำใครสักคนให้คนอื่นได้รู้จัก และต้องการจัดการเรื่องเสื้อผ้าให้เขาคนนั้น ทุกท่านครับ คนที่ยืนอยู่ข้างๆผม เขาช่างเป็นผู้ชายที่หน้าตาดีจริงๆ ผมพูดถูกไหมครับ? ถ้าสาวๆคนไหนสนใจ ผมว่าพวกคุณอย่ามัวรอช้าอยู่เลยครับ หนุ่มหล่อคนนี้ยังไม่มีเจ้าของนะครับ”
คงต้องบอกว่าชายหนุ่มคนนั้นหน้าตาหล่อเหลาไม่เบาแต่ก็มีส่วนที่คล้ายผู้หญิงอยู่บ้าง ซึ่งจุดนี้อาจทำให้บางคนถึงกับรู้สึกแปลกๆ แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังมีหญิงสาวไม่น้อยที่จ้องมองเขาตาลุกวาว
ในตอนที่ทุกสายตาจับจ้องมาที่เขามันช่างทำให้ชายหนุ่มรู้สึกพึงพอใจทำให้ความตื่นเต้นเริ่มลดลงเล็กน้อย
”เอาล่ะครับผมคิดว่าคงมีแขกไม่น้อยอยากรู้แล้วว่าหนุ่มหล่อคนนี้คือใคร เขาก็คือเผิงเฉิงฝูจากตระกูลเผิงแห่งเมืองหลวงยังไงล่ะครับ! ผมรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่คุณชายเผิงเดินทางมาเยือนเมืองชิงของเรา ผมขอเป็นตัวแทนจากเมืองชิง ต้อนรับการมาเยือนของคุณชายเผิงครับ”
ฉ่ายเทียนกล่าวต้อนรับอีกฝ่ายในนามของทุกคนด้วยความมั่นใจตามมาด้วยการปรบมือต้อนรับ นอกจากนั้นก็มีแขกไม่น้อยเริ่มตามน้ำเขาไป มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่ไม่ได้ทำตามที่เขาพูด
คนที่เหลือจ้องมองชายหนุ่มที่ชื่อเผิงเฉิงฝูด้วยความสนอกสนใจและคาดเดาจุดประสงค์ที่อีกฝ่ายมาที่เมืองชิง