กล่องจักรวาล (Universe Storage Box) - บทที่ 418 ตายยังไง?
ฮวงเฟิงขมวดคิ้วขณะที่เขามองไปยังผู้กำกับชิวและถามว่า: “ถงเฉียนจุนตายยังไง?”
”สันนิษฐานแรกสุดคือฆ่าตัวตาย” ผู้กำกับชิวกล่าว
”ฆ่าตัวตายเหรอ?!”หน้าฮวงเฟิงแสดงความเย้ยหยัน: คุณเชื่องั้นเหรอ?
“ผมไม่เชื่อหรอก”ผู้กำกับชิวกล่าวพลางส่ายหัว เขารู้ว่าฮวงเฟิงก็ไม่เชื่อเช่นกัน และเขาก็ไม่เชื่อด้วย
ฮวงเฟิงเคยพบกับถงเฉียนจุนมาก่อนถงเฉียนจุนมีความปรารถนาอย่างแรงกล้าที่จะมีชีวิตอยู่ เขาอยู่ที่นี่มานาน อยู่อย่างอดทนจนกระทั่งมีคนมาช่วยเขา ดังนั้นฮวงเฟิงจึงไม่เชื่อหรอกว่าเขาจะฆ่าตัวตาย
“แล้วตอนนี้เราจะทำอะไรล่ะ?”ฮวงเฟิงถาม ถงเฉียนจุนตายไปแล้ว เบาะแสหลายอย่างก็ถูกทำลายดังนั้นจึงไม่มีทางที่จะไปต่อได้ แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าพวกเขาหมดหนทาง พวกเขายังคงมีสมุดบัญชีสองเล่มและปากกาบันทึกเสียงอยู่ในมือ
“สืบสวนต่อไป!”ผู้กำกับชิวกล่าวเสียงต่ำ “ไม่ต้องผิดหวังเกินไปหรอก อันที่จริงอาจเป็นเรื่องดีที่ถงเฉียนจุนตายไป”
”เรื่องดีงั้นเหรอ?”ฮวงเฟิงสงสัย หากไม่มีถงเฉียนจุนสำนวนทางคดีที่ได้จะน้อยกว่าที่คาดไว้ นี่จะเป็นเรื่องดีได้อย่างไรกัน?
“เป็นเรื่องที่ดีในทางหนึ่งแน่นอน”เขารู้ว่าฮวงเฟิงไม่ค่อยรู้เกี่ยวกับการเมืองมากนัก เขาจึงกล่าวว่า: “ก่อนหน้านี้ ท่านถาน ได้รายงานเรื่องนี้ไปยังบุคคลในระดับสูงกว่าแล้ว จุดมุ่งหมายของบุคคลในระดับสูงกว่าคือตรวจสอบหาความจริง แต่ในขณะเดียวกันเราต้องดูโดยภาพรวม ไม่ให้ส่งผลต่อการเปิดเผยแสดงตัวตน และไม่ส่งผลต่อความมั่นคง ท่านถานก็แสดงจุดยืนเดียวกัน ดังนั้นคดีนี้จะต้องได้รับการสอบสวนอย่างแน่นอน ต้องมีคนถูกจับ แต่เราไม่สามารถจับกุมทุกอย่างพร้อมกันได้ เพราะต้องคำนึงถึงเศรษฐกิจ วัฒนธรรมและการเมืองของเมืองชิง ที่อาจก่อให้เกิดความวุ่นวายขึ้นได้ทันที”.Aileen-novel.
ฮวงเฟิงขมวดคิ้วขณะฟังผู้กำกับชิวพูดจริงๆ แล้วมันก็ไม่ยากหรอกที่จะเข้าใจ ตัวเขาเองนั้นต้องการจับกุมทุกคนที่เกี่ยวข้องก่อนหน้านี้ และสันนิษฐานว่าทั้งผู้กำกับชิวและท่านถาน ผู้ที่เขาไม่เคยพบเจอมาก่อน ก็มีความคิดเช่นเดียวกันกับเขา
แต่เรื่องนี้ไม่สามารถดำเนินการได้ในทันทีเดิมทีมีคนจำนวนมากที่เกี่ยวข้องในเขตเจียง แต่หากคนอีกกลุ่มต้องสูญเสียเมืองชิงของตน ผลกระทบก็จะมีมากเกินไป
“ผู้กำกับกำลังบอกว่าเบื้องบนไม่สนงั้นเหรอ?” แม้ว่าฮวงเฟิงเข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น แต่เขาก็พบว่ายังรู้สึกลำบากใจอยู่บ้างที่จะยอมรับ
”ใครสนล่ะทำไมผมจะไม่สน” ผู้กำกับชิวพูด: “ไม่ว่าจะตอนนี้หรือไม่ คนที่เกี่ยวพันก็มีมาเป็นชุดๆ คนพวกนี้จะเที่ยวได้เสวยสุขแค่สักพักเท่านั้นแหละ สุดท้ายชะตาของพวกเขาก็ได้ถูกลิขิตไว้แล้ว และหลังจากเรื่องนี้ ท่านถาน จะมีอำนาจมากมายในเมืองชิงอย่างแน่นอน ทั้งบารมีและอำนาจของ ท่านถาน จะเพิ่มพูนขึ้นอย่างมาก และในเวลานั้นการจัดการกับคนพวกนั้นก็จะไม่ใช่อุปสรรค ไม่ยุ่งยากเหมือนเช่นตอนนี้”
ไม่ใช่เพียงเพราะฮวงเฟิงเป็นคนของสภาความมั่นคงแห่งชาติแต่ยังเป็นเพราะเหตุผลส่วนตัวอีกส่วนหนึ่งด้วย ลูกสาวของเขามีความประทับใจที่ดีต่อฮวงเฟิง ดังนั้นผู้กำกับชิวจึงพยายามอย่างที่สุดเพื่อช่วยอธิบายให้ฮวงเฟิงเข้าใจบางสิ่ง เพื่อที่เขาจะสามารถผสานเข้ากับบุคคลในระดับสูงกว่าของเมืองชิง ถ้าฮวงเฟิงเป็นเพียงสมาชิกของสภาความมั่นคงแห่งชาติ เขาจะไม่คุยกับฮวงเฟิงมากขนาดนี้หรอก
อีกทั้งชื่อเสียงเรียงนามของฮวงเฟิงในเวลานี้อาจเป็นที่จดจำของหลายคนคนอื่นอาจจะไม่รู้จักเขา แต่ ท่านถาน รู้แล้วว่าฮวงเฟิงมีตัวตนอยู่ และ ท่านถาน ก็สนใจในตัวเขาเป็นอย่างมาก ฮวงเฟิงแตกต่างจากสมาชิกคนอื่น ๆ ของสภาความมั่นคงแห่งชาติ เขามีธุรกิจเป็นของตัวเองในเมืองชิง ดังนั้นเรื่องนี้จึงส่งผลกระทบต่อตัวเขาเป็นอย่างมาก
เมื่อได้ยินคำพูดของผู้กำกับชิวฮวงเฟิงก็รู้สึกดีขึ้นหน่อย แต่เขารู้ว่าหากเขาไม่ถอนรากถอนโคนอีกฝ่ายให้สิ้นซาก เขาจะต้องประสบปัญหาภายหลังแน่นอน
หลังจากได้คุยกับผู้กำกับชิวนานกว่าเดิมฮวงเฟิงก็จากไป เขาไม่จำเป็นต้องจัดการเรื่องที่เหลืออีก เพราะอีกฝ่ายได้กำจัดถงเฉียนจุนไปแล้ว และทั้งสองฝ่ายต่างก็เห็นดีด้วย ดังนั้นทางสภาฯ จึงไม่ได้ตามเรื่องนี้ต่อ และอีกฝ่ายก็ไม่ก้าวล่วงมากเกินไปอีก
ตอนแรกฮวงเฟิงคิดว่าจะกลับไปกินข้าวได้แล้วแต่เมื่อจากกับผู้กำกับชิวได้ไม่นาน เขาก็ได้รับโทรศัพท์จาก เทียนจุ้น เทียนจุ้นโทรมาบอกว่าน้องสาวเขาอยากจะเลี้ยงข้าวฮวงเฟิง
ฮวงเฟิงคิดและไม่ได้ตอบปฏิเสธดังนั้นเขาจึงตรงมายังบ้านของเทียนจุ้นแทน เพื่อมาหาน้องสาวของเทียนจุ้น เขาทำได้แต่กินขนมของเขาต่อ
“พี่ใหญ่ฮวงพี่มาแล้วเหรอ?!” เทียนหลินเปิดประตูให้เมื่อเขามาถึง แม้ว่าเธอจะมองไม่เห็น แต่ประสาทเธอไวมาก
”ใช่พี่มากินข้าวที่นี่” ขณะที่เดินเข้ามา เขาหัวเราะเบาๆ และพูดว่า “พี่ชายเธออยู่ไหนเนี่ย”
”เขาอยู่ในครัว”เทียนหลินกล่าวพร้อมรอยยิ้มบนใบหน้า
เป็นเพราะสภาพทางร่างกายของเทียนหลินทำให้เธอไม่มีเพื่อนเธอได้คุยแค่กับเทียนจุ้นกับแค่ฟังวิทยุเท่านั้นดังนั้นตอนนี้ เมื่อเธอ “เห็น” ฮวงเฟิงอีกครั้ง เธอจึงรู้สึกสุขใจมาก ยังไม่รวมถึงเรื่องที่ฮวงเฟิงเคยช่วยเธอมาก่อนอีก
”ฮวงเฟิงมาแล้วเหรอรอสักครู่ยังมีอาหารอีกจานจวนใกล้เสร็จละ” เมื่อได้ยินเสียงเปิดประตู เทียนจุ้นก็ออกมาจากห้องครัวเพื่อทักทายเขา หลังจากเทียนจุ้นพูดจบ เขาก็กลับไปยังครัวเพื่อทำอาหารต่อ
”พี่ใหญ่ฮวงมาตรงนี้” เทียนหลินพาฮวงเฟิงไปที่ห้องนั่งเล่นและนั่งลง พื้นที่ที่นี่ไม่ใหญ่เท่ากับที่ฮวงเฟิงอยู่ แต่เทียนหลินก็พอใจกับที่ที่นี่มาก
“มาพี่ทำเอง” เมื่อเห็นเทียนหลินจะเทน้ำให้เขาดื่ม ฮวงเฟิงจึงรีบก้าวเข้าไปฉวยทำแทน
แต่ไม่มีถ้วยอยู่แถวนี้เทียนหลินยังคงพูดกับฮวงเฟิง: “พี่ใหญ่ฮวง ไม่ต้องมองหาถ้วยหรอก หนูมองไม่เห็นแต่หนูจำได้แม่นว่าของอยู่ที่ไหน”
เมื่อมองไปยังสีหน้าภูมิใจของเทียนหลินแล้วฮวงเฟิงก็ยิ่งรู้สึกสงสารเธอจับใจ ช่างเป็นหญิงที่มีใจกล้าแกร่ง เธอมองไม่เห็นหน้าของตัวเอง หนำซ้ำยืนยังไม่ได้อีก สวรรค์ช่างไม่ยุติธรรมกับเธอมากเกินไป
เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ฮวงเฟิงก็คิดว่าจะใช้พลังของเขาเข้าช่วยเธอเดิมทีเขาวางแผนว่าจะช่วยเธอ แต่จะรออีกสักหน่อย แต่พอดีวันนี้เขามาหาเธอแถมยังไม่มีอะไรจะทำ เลยคิดจะช่วยเธอเลยในวันนี้ แต่เขาต้องตรวจอาการร่างกายของเธอก่อน
ดังนั้นฮวงเฟิงจึงพูดกับเทียนหลินว่า:”เทียนหลิน สาวน้อยของพี่ ที่พี่เคยบอกว่าพี่พอมีความรู้ทางแพทย์แผนจีนเบื้องต้น ตอนนี้พอมีเวลา ขอพี่ตรวจชีพจรเธอหน่อยนะ”