กล่องจักรวาล (Universe Storage Box) - บทที่ 425 ฉันมาแล้ว
”ฉันลงเครื่องมาแล้วตอนนี้นายอยู่ไหน”
ในขณะที่ฮวงเฟิงเริ่มเหลืออดกับชายคนนี้โทรศัพท์ของเขาก็ดังขึ้นซึ่งต่อมาก็ปรากฎเป็นข้อความจากหลี่ปิงอิว้น
จริงๆแล้วหลี่ปิงอวิ้นได้บอกเซี่ยเมิ่งเจียวกับคนอื่น ๆ เรื่องที่เธอมาเมืองเจียงไว้ล่วงหน้าแล้ว นั่นก็เพื่อที่จะให้พวกเขาจัดการให้ฮวงเฟิงมารับเธอและคอยติดตามเธอในวันต่อมา อย่างไรก็ตามเธอเองก็ไม่กล้าแสดงออกชัดเจนเนื่องจากในเวลานั้นเธอได้แต่กล่าวชมเซี่ยเมิ่งเจียวและคนอื่น ๆ ในบริษัทอย่างไม่เป็นทางการซึ่งเธอได้กล่าวไปว่าพนักงานในบริษัทของพวกเขานั้นไม่เลวเลยจริง ๆ ครั้งที่แล้วสามารถจัดการได้อย่างเข้าที่เข้าทางได้อย่างดีซ้ำยังดีกว่าบอดี้การ์ดของเธอเสียอีก
ในเวลานั้นเธอไม่รู้ว่าคำพูดของเธอจะมีผลอะไรหรือไม่แต่เซี่ยเมิ่งเจียวที่ไม่ต้องการให้ฮวงเฟิงอยู่เฉยๆอยู่แล้วเธอจึงตัดสินใจได้ในเวลาไม่นาน ตอนนั้นเธอบอกับหลี่ปิงอวิ้นว่าเมื่อเร็ว ๆ นี้เพิ่งมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยฝีมือดีอยู่คนนึง ถ้าหลี่ปิงอวิ้นไม่ว่าอะไรเธอก็จะให้เขาเป็นคนไปรับเธอที่สนามบิน
ดังนั้นฮวงเฟิงจึงถูกจัดการให้มาทำเช่นนี้และหลังจากนั้นในระหว่างที่หลี่ปิงอวิ้นทำธุระยู่ที่นี่เขาก็ได้กลายเป็นทั้งคนขับรถและบอดี้การ์ดของเธอไปโดยปริยาย
การเตรียมการของเซี่ยเมิ่งเจียวในครั้งนี้ทำให้หลี่ปิงอวิ้นมีความสุขมาเพียงแต่เธอไม่แสดงออกมาให้เห็นเท่านั้นอาจกล่าวได้ว่าหลังจากเกิดเรื่องครั้งที่แล้ว ฮวงเฟิงก็ได้มีความสำคัญกับเธอเป็นอย่างมาจนสามารถเทียบเท่าพี่ใหญ่ของเธอได้เลย เมื่อฮวงเฟิงมาอยู่เคียงข้างเธอเธอก็จะมีความรู้สึกปลอดภัยมากขึ้น
”ผมอยู่ตรงหัวมุมทางด้านขวา”ฮวงเฟิงตอบ
”ก็อย่างที่พูดไปอะนะคุณยังมือใหม่ ตอนนี้เครื่องบินก็ลงจอดแล้ว หลี่ปิงอวิ้นเธอสามารถออกมาได้ทุกเมื่อ คุณก็ยังเล่นแต่โทรศัพท์อยู่จนอาจพลาดช็อตเด็ด ๆ ไป”
”ผมไม่รู้ว่าคุณมาจากหนังสือพิมพ์ไหนจริงๆ ไม่รู้ว่าสำนักพิมพ์นั้นใช้คนไม่รอบคอบแบบคุณได้ยังไง” ชายวัยกลางคนที่อยู่ข้างๆ ฮวงเฟิงพูดกับเขาเหมือนกำลังสอนบทเรียนให้กับรุ่นน้อง เขาส่ายหัวพร้อมถอนหายใจราวกับว่าเขารู้สึกน่าเสียดายที่ฮวงเฟิงทำตัวไม่เป็นมืออาชีพเช่นนี้
“พี่ใหญ่ กางเกงคุณเปียกน่ะ” ฮวงเฟิงไม่สนใจเขาแต่กลับชี้ไปที่กางเกงของเขาแทน
อีกฝ่ายก้มศีรษะลงมองกางเกงของตนด้วยความสับสนแน่นอนว่าเขาเห็นความเปียกชื้นเป็นหย่อม ๆ บนเป้ากางเกงราวกับว่าเขาสูญเสียการควบคุมและกำลังฉี่อยู่.ไอรีนโนเวล.
อ้า!”จู่ๆเขาก็ตะโกนออกมาเหมือนเด็กผู้หญิง หลังจากนั้นก็ไม่ได้สนใจที่จะสอนบทเรียนให้กับฮวงเฟิง เขารีบคลุมร่างกายท่อนล่างของไว้แล้ววิ่งไปที่ห้องน้ำ
ฮวงเฟิงมองไปที่ร่างที่น่าสังเวชของอีกฝ่ายแล้วส่ายหัวบทเรียนที่เขามอบให้นั้นยังไม่ถือว่าเป็นบทเรียนที่หนัก มิฉะนั้นคาถากระสุนวารีของเขาคงไม่เพียงแต่ทำให้กางเกงของเขาเปียกแต่อาจจะทำให้สิ่งที่อยู่ภายใต้กางเกงนั้นเสียหายจนใช้การไม่ได้ชั่วคราว
เห็นได้ชัดว่าฮวงเฟิงไม่ต้องการให้อีกฝ่ายเห็นว่าหลี่ปิงอวิ้นกำลังจะมาอีกอย่างใครจะไปรู้ว่าปาปารัสซี่มาหน้าตาแบบนั้น เพราะถ้าเป็นเช่นนั้นคนพวกนนี้จะสามารถเก็บข้อมูลมาง่าย ๆ ได้อย่างไร
ในที่สุดฮวงเฟิงก็เห็นหลี่ปิงอวิ้นตรงทางออกในช่วงเวลาที่เธอปรากฏตัวแฟน ๆ โดยรอบต่างก็ส่งเสียงกรี๊ดออกมา บางคนเข้าไปขอลายเซ็นจากเธอบางคนถึงกับอยากจะถ่ายรูปกับเธอด้วย ส่วนหลี่ปิงอวิ้นก็ยังคงรักษารอยยิ้มบนใบหน้าของเธอไว้ตลอดเวลาเพื่อเป็นการตอบแทนแฟนของเธอทุกคน
ฮวงเฟิงตระหนักได้กว่าเวลานี้มีเพียงหลี่ปิงอวิ้นที่มีผู้ช่วยอยู่เคียงข้างเธอเท่านั้นบอดี้การ์ดจากครั้งที่แล้วหายไปทั้งหมด การรักษาความปลอดภัยของที่สนามบินยังคงเป็นไปอย่างเรียบร้อยจนถึงตอนนี้แต่มันก็ทำให้ฮวงเฟิงสงสัยเล็กน้อย ตามสิ่งที่เกิดขึ้นครั้งที่แล้วความปลอดภัยของหลี่ปิงอวิ้นน่าจะเข็มงวดมากกว่านี้
ฮวงเฟิงไม่ได้รอเธออยู่ที่เดิมแล้วเนื่องเขากังวลว่ามีลูกหมาตัวอื่นๆ อยู่ใกล้ ๆ บริเวณนั้นและถ้าพวกเขาเห็นเขาไปพร้อมกับหลี่ปิงอวิ้น พวกเขาจะต้องทำอะไรบางอย่างแน่ ดังนั้นหลังจากที่แน่ใจแล้วว่าหลี่ปิงอวิ้นได้เห็นตัวเขาแล้ว เขาจึงได้เดินไปด้านหน้าและพาเธอออกไปข้างนอกตรงที่จอดรถโดยที่เขาเข้าไปในรถก่อนที่จะตามด้วยหลี่ปิงอวิ้น
”ฮวงเฟิงไม่เจอกันนานเลยนะ” น้ำเสียงร่าเริงของเธอทำให้ผู้จัดการที่นั่งข้างเธอถึงกับแอบเม้มริมฝีปาก พวกเขาทั้งสองยังห่างกันไม่ถึงสิบวัน เธอเอาที่ไหนมาพูดว่าไม่เจอกันเสียนาน เธอไม่เคยเห็นหลี่ปิงอวิ้นสนิทสนมกับใครมาก่อน เป็นไปได้ไหมว่าเธอมีความรู้สึกกับเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยคนนี้ต่างจากคนอื่น
”ใช่ไม่ได้เจอกันนานเลย” ฮวงเฟิงตอบกลับด้วยท่าทีสบายๆ ในขณะที่กำลังขับรถ
”คุณยังสวยและป็อปปูล่าเหมือนเดิมเลยนะ”
”ค่ะ”หลี่ปิงอวิ้นรู้สึกปลื้มปริ่มเมื่อได้ยินคำชมจากฮวงเฟิง แม้กระทั่งความเหนื่อยล้าจากที่ต้องเซ็นลายเซ็นให้กับแฟน ๆ ของเธอก็หายไปเป็นปลิดทิ้ง
“คราวนี้คุณวางแผนจะอยู่ที่เมืองเจียงนานแค่ไหน?” ฮวงเฟิงถาม เขาไม่ได้สนสถานะตอนนี้ของเขาเสียเท่าไหร่ว่ากำลังอยู่ในฐานะคนขับรถและบอดี้การ์ดให้กับเธอ ในใจของเขาคิดว่าความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาทั้งสองเป็นเพียงเพื่อนธรรมดาทั่วไป ไม่ใช่พนักงานกับเจ้านาย
“ประมาณสิบวันค่ะ” หลี่ปิงอวิ้นกล่าว คำพูดเหล่านี้ทำให้ผู้จัดการของเธอแอบเม้มริมฝีปากแน่นเพราะโดยปกติอย่างมาหลี่ปิงอวิ้นจะใช้เวลาเพียงสามวันในการถ่ายโฆษณาแต่หากทุกอย่างเป็นไปได้ด้วยดีก็จะอาจจะเสร็จก่อนกำหนดการเป็นหนึ่งหรือสองวันแทน แแต่คราวนี้หลี่ปิงอวิ้นตั้งใจที่จะอยู่ที่นี่เป็นเวลาสิบวัน
ผู้จัดการของเธอย่อมไม่ได้คัดค้านเรื่องนี้และคงไม่กล้าที่จะคัดค้านใดๆ ต่อมาเธอก็ได้รับรู้เกี่ยวกับสถานะทางบ้านของหลี่ปิงอวิ้นและรู้ว่าการที่หลี่ปิงอวิ้นกลายเป็นดารานั้นเป็นเพราะเธอสนใจในด้านนี้จริง ๆไม่ใช่เหตุเรื่องเงินหรือผลประโยชน์อื่นและครอบครัวของเธอไม่ได้ขัดสนเรื่องเงินแต่อย่างใด ดังนั้นเธอจึงไม่ได้มีความกดดันมากนั้นเวลาที่เธอต้องทำงาน
แต่อย่างไรที่ผ่านมาหลี่ปิงอวิ้นหาเวลาพักได้ยากเช่นกันเธอมักจะพูดเสมอว่าหากเธอต้องแต่งงานและมีครอบครัว หากครอบครัวฝ่ายสามีคงอยากจะให้เธอรับงานแสดงลดลง เธอจึงคิดเผื่อไว้ว่าจะลาจากวงการหากต้องแต่งงานหรืออาจดูตามสถานการณ์ของครอบครัวฝั่งสามีของเธอในออนาคตซึ่งถ้าครอบครัวฝั่งสามีของเธอเป็นตระกูลเก่าแก่และเข้มงวดก็คงอาจเป็นไปได้ยากที่เธอจะรับงานแสดงได้อีก
อย่างไรก็ตามหลี่ปิงอวิ้นผู้ที่ต้องการใช้เวลาให้กับการถ่ายภาพยนตร์และร้องเพลงให้มากขึ้นตอนนี้กลับมีความคิดริเริ่มอยากพักผ่อนสักชั่วระยะหนึ่งซึ่งการกระทำของเธอในครั้งนี้เห็นได้ชัดว่าต้องมีเหตุผลอะไรบางอย่างแน่
”สิบวันเลยหรอ?ครั้งสุดท้ายที่คุณมาที่นี่คุณรีบจนไม่มีเวลาเที่ยวในเมืองเจียงขนาดนั้นเลยเหรอ” ฮวงเฟิงกล่าว
”ใช่ฉันแค่อยากเที่ยวรอบ ๆ เมืองเจียง นายพอมีเวลาไหมล่ะ มาเป็นไกด์นำเที่ยวของฉันเอาไหม?” หลี่ปิงอวิ้นกล่าวอย่างความคาดหวัง