กล่องจักรวาล (Universe Storage Box) - บทที่ 435 สงคราม
ณคฤหาสน์หลังใหญ่ในเมืองหมังชาน ในตอนนี้มีผู้คนจำนวนมากำลังนั่งอยู่ภายในห้องนั่งเล่นที่โอ่อ่า ถ้ามีคนจากโลกแห่งศิลปะการต่อสู้อยู่ที่นี่พวกเขาจะต้องจำคนที่อยู่ที่นี่ได้อย่างแน่นอน เพราะพวกเขาคือหัวหน้าสำนักทั้งหลายของอาณาจักรสำเภาสวรรค์ แต่อย่างไรก็ตามสำนักเหล่านี้ก็ยังไม่ใช่สำนักชั้นยอด
ถึงอย่างไรก็เห็นได้ชัดว่าในคราวนี้คนเหล่านี้มาถึงเมืองหมังชานก่อนเวลา สาเหตุหนึ่งเป็นเพราะพวกเขาไม่อยากที่จะทำให้สิ่งต่างๆ ต้องล่าช้าเพราะการมาสาย และอีกเหตุผลหนึ่งก็คือพวกเขาต้องการมาก่อนเวลาเพื่อที่จะทำความคุ้นเคยกับสภาพแวดล้อมของสถานที่และดูว่าจะมีผลประโยชน์อะไรหรือไม่
อย่างไรก็ตามหลังจากที่คนเหล่านี้อยู่ที่นี่เพียงไม่กี่วันพวกเขาก็ยังไม่ได้รับผลประโยชน์ใดๆ แต่การต่อสู้หลายครั้งเกิดขึ้นเป็นเรื่องปกติ เหล่าศิษย์ที่พวกเขาพามาที่นี่ด้วยมีความขัดแย้งส่วนตัวกับศิษย์จากสำนักอื่น และเมื่อพวกเขามาพบกันที่นี่พวกเขาก็จะสร้างปัญหาให้กันและกันอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เป็นเพียงเพราะข้อจำกัดที่กำหนดโดยหัวหน้าสำนักที่เกี่ยวข้องว่าห้ามไม่ให้มีการต่อสู้ด้วยอาวุธขนาดใหญ่
อย่างไรก็ตามนี่เป็นเพียงการชั่วคราวเท่านั้นหากไม่มีใครรักษาสิ่งต่างๆ ให้อยู่ภายใต้การควบคุมได้ ความขัดแย้งระหว่างผู้คนก็อาจจะกลายเป็นความขัดแย้งแขนขาของกองทัพไปเสียได้
ท้ายที่สุดอาณาจักรสำเภาสวรรค์ก็ได้รับผลกระทบเพียงเท่านั้นกองกำลังและโลกศิลปะการต่อสู้แห่งอาณาจักรวายุโชยและประเทศรอบข้างไม่อาจที่จะเทียบได้และสิ่งนี้นำไปสู่อาณาจักรสำเภาสวรรค์และในโลกศิลปะการต่อสู้ที่ไม่มีใครสามารถที่จะใช้พลังและมีความสามารถที่เหนือสำนักอื่นๆ ได้เช่นปรมาจารย์กงหมิง
ยิ่งไปกว่านั้นคนเหล่านี้ที่เพิ่งมาถึงก็เป็นเพียงกลุ่มที่อยู่ในอันดับต้นๆของอาณาจักรสำเภาสวรรค์ ไม่มีใครคิดที่จะยอมใคร ดังนั้นหลังจากที่เห็นสมาชิกในสำนักของพวกเขาต้องพ่ายแพ้ พวกเขาก็ไม่เต็มใจที่จะแบกรับมันไว้อย่างแน่นอน
โชคดีที่ผู้นำสำนักและผู้อาวุโสของสำนักเหล่านี้ทุกคนมีวิจารณญาณที่ดีพวกเขารู้ว่าพวกเขาไม่สามารถต่อสู้กันภายในได้ในเวลานี้มิฉะนั้นพวกเขาก็คงจะจบเห่แล้วจริงๆ
ส่วนคนที่นั่งอยู่ภายในห้องโถงที่เพิ่งจะยุติข้อพิพาทอย่างไรก็ตามพวกเขาดูไม่มีความสุขเลย สิ่งเหล่านี้มีมากเกินไปซึ่งอาจทำร้ายผู้อื่นและทำร้ายตัวเองได้
“นี่เป็นเรื่องที่ไม่สมควรทำ!” ไอรีนโนเวล
จู่ๆชายวัยกลางคนคนหนึ่งก็ตบเก้าอี้และลุกขึ้นยืนเขามองไปที่ฝูงชนขณะที่เขากล่าวว่า “ทุกคนรู้ดีว่าเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับความอยู่รอดของพวกเราทุกคน”
เมื่อได้ยินคำพูดของเขาทุกคนก็ขมวดคิ้วแม้ว่าคำพูดของเขาจะฟังดูไม่ถูกใจ แต่ทุกคนก็รู้ว่าสิ่งที่เขาพูดนั้นถูกต้อง แม้ว่าโดยปกติตอนที่พวกเขาอยู่ในอาณาจักรสำเภาสวรรค์และเมื่อพวกเขาต้องต่อสู้กับสำนักอื่นๆ พวกเขาต่างก็คิดว่าพวกเขาเป็นสำนักใหญ่ แต่ในเวลานี้ไม่มีใครเชื่อว่าความแข็งแกร่งของพวกเขานั้นจะแข็งแกร่งกว่าอาณาจักรวายุโชย
“แล้วท่านคิดว่าพวกเราควรจะทำอย่างไรกันดี?ศิษย์พวกนั้นมักจะทะเลาะกัน แต่ตอนนี้ในเมื่อพวกเราได้มาหารือกันแล้วพวกเรากลับทำอะไรไม่ได้เลย” ไม่ใช่ว่าเขาไม่ต้องการที่จะแก้ปัญหา แต่นั่นไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะแก้ปัญหา
ทุกคนกำลังคิดหาวิธีในเวลานี้พวกเขาสามารถอยู่รอดได้ก็ต่อเมื่อพวกเขาเป็นหนึ่งเดียวกันและจากนั้นพวกเขาก็จะได้ไม่พ่ายแพ้อย่างน่าสังเวชเกินไปในการต่อสู้กับอาณาจักรวายุโชย
อันที่จริงแล้วการโต้เถียงและต่อสู้ที่นี่ไม่ใช่สิ่งที่คนเหล่านี้กังวลมากที่สุดสิ่งที่พวกเขากังวลก็คือในการต่อสู้ในอนาคต หากพวกเขาไม่สามารถไว้วางใจซึ่งกันและกันได้และหันหลังให้กับคนข้างๆ ก็จะส่งผลกระทบต่อความแข็งแกร่งของพวกเขาเป็นอย่างมาก
“ดังนั้นพวกเรา ซึ่งเป็นผู้นำสำนักจึงได้ออกแถลงการณ์ร่วมกัน โดยแจ้งพวกเขาว่าพวกเขาไม่ได้รับอนุญาตให้ต่อสู้กันในช่วงเวลานี้ และพวกเขาไม่ได้รับอนุญาตให้ทะเลาะวิวาทกันอีกด้วย สำหรับผู้ที่มีความขัดแย้งกับสำนักอื่นๆ พวกเราจะพาพวกเขามารวมตัวกันและให้ทุกคนจะนั่งทานข้าวด้วยกันและดื่มเหล้าด้วยกันสักแก้วเพื่อเปิดเผยความคับข้องใจใดๆ ที่มีต่อกัน” ใครบางคนแนะนำ
”ข้าคิดว่าพวกเราลองดูก็ได้ไม่ว่าจะยังไงก็ตามมันก็ไม่มีอันตรายใดๆในการทำเช่นนั้น แล้วอีกอย่างอาหารมื้อนี้ก็ยังถือได้ว่าเป็นรูปแบบหนึ่งของการขับเคลื่อนอีกด้วยนะ” ใครบางคนเอ่ยขึ้นทันที
คนอื่นๆต่างก็คิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ แต่ไม่มีใครคัดค้าน ดังนั้นจึงได้ตัดสินใจ
หลังจากนั้นผู้นำสำนักจำนวนมากก็กลับมาและนับจำนวนคนในหมู่ศิษย์ที่พวกเขาพามาซึ่งมีความขัดแย้งกับศิษย์ของสำนักอื่นหลังจากนั้นก็พาพวกเขาไปที่ร้านอาหารและนั่งที่โต๊ะ
ในตอนแรกยังคงมีบางคนที่ไม่เต็มใจที่จะกินอาหารร่วมกับศัตรูของพวกเขาแต่ตอนนี้ผู้นำสำนักจากทั้งสองฝ่ายมาพร้อมพวกเขาด้วย ดังนั้นพวกเขาจึงต้องเผชิญหน้ากันพวกเขาทั้งหมดจึงพร้อมใจกันนั่งลง .
เมื่อรู้ว่าพวกเขาไม่สามารถออกไปข้างนอกได้ทุกคนจึงตัดสินใจทำแบบเดียวกันบนโต๊ะแม้ว่าทั้งโต๊ะจะเต็มไปด้วยกลิ่นของดินปืนแต่ก็ยังมีเหล้า เมื่อผู้นำสำนักอยู่ที่นั่นด้วยมันก็ยากสำหรับพวกเขาที่จะทำอะไรได้ แต่หลายคนที่เคยเขม่นกัน ในตอนที่พวกเขากำลังกินดื่มอยู่นี้ไม่เพียงแต่จะช่วยแก้ไขความขัดแย้งระหว่างพวกเขาเท่านั้น แต่ยังทำให้กลายเป็นเพื่อนกันอีกด้วย
สำหรับผู้ที่มีความเป็นปฏิปักษ์กันอย่างลึกซึ้งเห็นได้ชัดว่าไม่ใช่สิ่งที่สามารถแก้ไขได้ด้วยเหล้าแต่อย่างไรก็ตามคนเหล่านี้ก็ได้ให้คำสัญญาแก่หัวหน้าสำนักว่าจะไม่โจมตีศัตรูของพวกเขาในขณะที่อยู่ที่เมืองหมังชาน หรือแม้กระทั่งในระหว่างการสู้รบ แน่นอนว่านั่นถึงขีดจำกัดพวกเขาแล้วและเห็นได้ชัดว่าเป็นไปไม่ได้ที่พวกเขาจะช่วยศัตรู
แต่ถึงอย่างนั้นก็ตามผู้นำสำนักเหล่านี้ก็พอใจแล้วและจากนั้นมาจำนวนความขัดแย้งในเมืองหมังชานก็ลดลงมากไม่เพียงแต่ทำให้หัวหน้าสำนักอื่นๆ สบายใจขึ้น แม้แต่แม่ทัพที่ดูแลสถานที่ก็โล่งใจเพราะเรื่องของผู้คนในโลกศิลปะการต่อสู้ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะจัดการได้ หากมีสักหนึ่งหรือสองคนก็คงจะไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับพวกเขาที่จะดำเนินการ แต่โชคดีที่ได้รับการแก้ไขเป็นการภายในแล้ว
และในเย็นวันนี้หัวหน้าสำนักของสำนักเจ็ดนพเคราะห์ก็ได้พาศิษย์ของเขาไปยังเมืองหมังชานคราวนี้นอกจากจะทิ้งคนที่เฝ้าประตูภูเขาไว้ไม่มากแล้วเขายังพาคนที่เหลือไปด้วยทั้งหมด
”นี่เจ้ากำลังจะบอกว่ากลุ่มคนของสำนักอัคคีโลหิตกำลังมายังงั้นเหรอ?”ใครบางคนมองไปที่หัวหน้าสำนักด้วยสีหน้าตกใจและถามออกมา
”เป็นไปไม่ได้มีคนเพียงน้อยนิดที่มารวมตัวกันอยู่ที่นี่กับอาณาจักรสำเภาสวรรค์ของเรา พวกเขาไม่กลัวงั้นหรือว่าคนของอาณาจักรวายุโชยจะมาที่นี่โดยไม่ได้กลับไป?” ผู้นำสำนักจากสำนักเล็กๆ กล่าว เห็นได้ชัดว่าเขาไม่เชื่อว่าอีกฝ่ายจะวิ่งมาหาความตาย