กล่องจักรวาล (Universe Storage Box) - บทที่ 448 ประลอง (8)
ฮวงเฟิงยังคงตื่นตัวในขณะที่ชายหน้าบากนั้นชกใส่ฮวงเฟิงทั้งๆที่ยังไม่ได้ประกาศชื่อของเขาเสียด้วยซ้ำ ภายในพริบตาเดียวเขาก็มาอยู่ที่ด้านข้างของฮวงเฟิงเสียแล้ว
”ปัง!”ฮวงเฟิงยกมือทั้งสองข้างของเขาในแนวนอนที่ตรงหน้าหน้าอกของเขาในท่าทางปิดกั้นและบังคับให้หมัดของเขาปิดกั้น
ฮวงเฟิงต้องถอยหลังไปถึงสามก้าวก่อนที่เขาจะทรงตัวได้ส่วนร่างกายของคู่ต่อสู้นั้นกลับมั่นคงดั่งต้นสนไม่ไหวติงเลยแม้แต่น้อย!
“เมื่อครู่นี้ดูเหมือนว่าเจ้าจะแค่ซ้อมมือสินะงั้นเจ้าต้องระวังตัวแล้วล่ะนะ!” ไม่คาดคิดเลยว่าฮวงเฟิงจะถอยหลังไปเพียงแค่สามก้าวเท่านั้น ความแข็งแกร่งของฮวงเฟิงดูเหมือนว่าจะมาถึงอันดับสองแล้ว ถึงแม้ว่าเขาจะไม่แข็งแกร่งเท่ากับชายหน้าบาก แต่ฮวงเฟิงนั้นก็หนุ่มกว่าเขาและความแข็งแกร่งก็ยังเทียบเท่ากับยอดฝีมือระดับสองด้วย เห็นได้ชัดว่าอนาคตของเขานั้นไร้ขีดจำกัดจริงๆ !
ตอนนี้เขายิ่งคิดที่จะฆ่าฮวงเฟิงให้ได้เห็นได้ชัดว่าบุคคลเช่นนี้ไม่อาจที่จะปล่อยมีชีวิตอยู่ได้ต่อไปได้ มิฉะนั้นฮวงเฟิงก็จะกลายเป็นศัตรูตัวฉกาจของอาณาจักรวายุโชยและศิลปะการต่อสู้หลินได้
และผู้ที่มีสามารถสังเกตเห็นได้อย่างชัดเจนว่าไม่ได้มีเพียงแค่ชายหน้าบากเพียงเท่านั้นแต่หัวหน้าสำนักทั้งหลายที่อยู่บนเวทีก็สามารถที่จะบอกได้ว่าฮวงเฟิงนั้นมีฝีมืออยู่ในอับดับสองแล้ว
“เขายังเด็กมากแต่เขาเป็นยอดฝีมืออันดับสองแล้วงั้นเหรอ?” มีคนพูดด้วยความไม่เชื่อ
”ทำไมจะไม่ได้ล่ะ?ตอนที่ข้าอายุสามสิบห้าปีและก้าวขึ้นสู่อันดับสองข้าก็ถือได้ว่าเป็นอัจฉริยะ เมื่อเทียบกับคนที่อยู่ตรงหน้าข้าตอนนี้ ข้าใช้ชีวิตเหมือนสุนัขตลอดเวลาหลายปีที่ผ่านมาแล้วจะเรียกข้าว่าเป็นอัจฉริยะได้ยังไงกัน?” คนที่อยู่ใกล้ ๆ ก็ถอนหายใจเช่นกัน
”มันน่าเสียดายแม้ว่าจะเป็นเรื่องยากสำหรับเขาที่จะกลายเป็นยอดฝีมืออันดับสองตั้งแต่อายุยังน้อยแต่เขาก็ยังไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเจ้าหน้าบากหรอก”
”อ่าบอกข้ามาสิ พวกเราต้องคิดหาทางช่วยเขาด้วยหรือเปล่า?อัจฉริยะอย่างเขาหายากนะ”
”จริงด้วยพวกเราจะแพ้การแข่งขันครั้งนี้อย่างแน่นอน แต่อย่างไรก็ตามพวกเราก็ต้องระวังหากสหายหนุ่มคนนั้นพ่ายแพ้ พวกเราก็จะต้องทำอะไรสักอย่าง พวกเราไม่อาจจะที่จะปล่อยให้เจ้าหน้าบากนั่นมีโอกาสฆ่าเขาได้!”
“แน่นอนที่สุด!”
ความสามารถของฮวงเฟิงนั้นได้ประจักษ์แก่สายตาของพวกเขาสำหรับคนอย่างพวกเขาถ้าหากต้องตายโดยเปล่าประโยชน์มันจะเป็นการพ่ายแพ้ของโลกศิลปะการต่อสู้ของอาณาจักรสำเภาสวรรค์
นอกจากนี้ฮวงเฟิงยังเป็นเพียงผู้ฝึกตนแบบสันโดษและหัวหน้าสำนักทั้งหลายก็ได้วางแผนไว้แล้วว่าพวกเขาจะใช้วิธีใดในการดึงดูดซับฮวงเฟิงให้เข้าร่วมสำนักของพวกเขาเอง
การต่อสู้บนเวทีไม่ได้เปลี่ยนไปเพราะความคิดที่ป่าเถื่อนของหัวหน้าสำนักทั้งหลายและเป็นไปตามที่คาดไว้ฮวงเฟิงยังคงตั้งรับป้องกันอยู่และแม้จะรู้สึกว่าเขานั้นขาดแคลนทักษะ
อันที่จริงมีเพียงฮวงเฟิงที่กำลังต่อสู้อยู่กับคู่ต่อสู้ของเขาเท่านั้นที่จะเข้าใจว่าเขายังไม่ถึงอันดับที่สองอย่างมากที่สุดเขาก็คงจะอยู่ที่จุดสูงสุดของอับดับที่สามแต่ยังไม่ถึงจุดสูงสุดของอันดับสาม
เหตุผลที่เขาสามารถแสดงฝีมือเช่นนี้ก็เป็นเพราะพลังงานที่แปลกประหลาดในร่างกายของเขาพลังงานนั้นสามารถทำให้เขาแข็งแกร่งขึ้นอย่างรวดเร็วและดีกว่าคนอื่นๆ ในระดับเดียวกัน!
อย่างไรก็ตามความแตกต่างของระดับยังคงชัดเจนมากแม้ว่าฮวงเฟิงจะสามารถป้องกันการโจมตีของฝ่ายตรงข้ามได้บางส่วน แต่เขาก็ยังไม่สามารถปิดกั้นการโจมตีทั้งหมดได้
เป็นผลให้อาการบาดเจ็บของฮวงเฟิงทวีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ และการเคลื่อนไหวของเขาก็เฉื่อยลงเล็กน้อย ไม่ค่อยคล่องตัวเหมือนแต่ก่อนอีกต่อไป
ด้วยสถานการณ์ในตอนนี้ของฮวงเฟิงเห็นได้ชัดว่าเขาไม่สามารถที่จะหลบหนีจากคู่ต่อสู้ของเขาได้และชายหน้าบากก็ไม่สามารถหลบหนีจากหัวหน้าสำนักทั้งหลายที่อยู่ข้างบนได้พวกเขาทุกคนรู้ดีว่าความพ่ายแพ้ของฮวงเฟิงว่ามันเป็นเพียงเรื่องของเวลา ไอรีนโนเวล
”เจ้าสารเลวเจ้ามาที่นี่มารนหาที่ตายเอง อย่ามาโทษข้าทีหลังละกัน!” ใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยมีดกล่าวกับฮวงเฟิง ในขณะที่กระทืบฮวงเฟิงครั้งแล้วครั้งเล่าแต่เขาก็ยังไม่หยุด แต่เขาก็ยังไม่หยุดการโจมตี
”ขอให้เก่งอย่างที่พูดเถอะ!”ฮวงเฟิงตอบ
“เต๋อหยูทำไมพี่ฮวงถึงได้มีพลังขนาดนี้?” ที่ด้านล่างเวทีหลิวหมิงเจี๋ยถามหลี่เต๋อหยูด้วยความตกใจ แม้ว่าฮวงเฟิงจะอยู่ในตำแหน่งที่เสียเปรียบบนเวทีอย่างเห็นได้ชัด แต่การที่จะสามารถต่อสู้กับยอดฝีมือระดับสูงสุดอันดับสองได้เป็นเวลานานก็เห็นได้ชัดว่าความแข็งแกร่งของฮวงเฟิงเองก็ไม่ได้ด้อยเช่นกัน อย่างน้อยที่สุดเขาก็มีการฝึกตนอยู่ในอันดับสองซึ่งเก่งกว่าพวกเขาทั้งสองคนเสียอีก
ในตอนที่หลิวหมิงเจี๋ยรู้สึกได้ว่าฮวงเฟิงมีพลังเขาก็รู้สึกตกใจอย่างมากเพราะในเมื่อฮวงเฟิงนั้นมีความแข็งแกร่งระดับยอดฝีมืออันดับสองแล้วเขาจะถูกโจรเพียงไม่กี่คนปล้นได้อย่างไร? เขาคิดไม่ออกเลยจริงๆ
“บางทีพี่ฮวงคงจะมีความลับบางอย่างที่ไม่อยากจะบอก”หลี่เต๋อหยูคาดเดา
“นี่เป็นความเป็นไปได้เพียงอย่างเดียวพี่ฮวงมีพลังมากเสียจนฉันไม่อยากจะเชื่อว่าเขาจะถูกปล้น” หลิวหมิงเจี๋ยกล่าว
เพราะว่าฮวงเฟิงเป็นผู้มีพลังมากในสายตาของหลิวหมิงเจี๋ยและสถานการณ์ในปัจจุบันก็ยังไม่ดีนักเขารู้สึกได้ว่าเขากำลังจะแพ้และการรุกของฝ่ายตรงข้ามก็ไม่ได้แผ่วลงเลยแม้แต่น้อยแถมยังดุดันมากขึ้นเรื่อย ๆ
“ดูเหมือนว่าจะอาศัยกำลังภายในเพียงอย่างเดียวไม่ได้เสียแล้ว”ฮวงเฟิงคิดในใจ อันที่จริงแล้วสิ่งที่เขาแสดงออกมาในตอนนี้เป็นเพียงส่วนเล็กๆ ของพลังของเขาและเขาเพียงใช้กำลังภายในของเขาเท่านั้นจนถึงจุดที่เขาไม่ได้ใช้หมัดสายฟ้าเจ็ดดาวเคราะห์ มันเป็นเพียงการที่เขาอาศัยความคล่องตัวและความแข็งแกร่งของเขาในการต่อสู้กับคู่ต่อสู้
อย่างไรก็ตามดูจากเหตุการณ์แล้วมันเป็นไปไม่ได้ที่จะดำเนินต่อไปเช่นนี้
”ไอ้สารเลวเจ้าควรจะเชื่อฟังนะ ตายซะเถอะ!” ใบหน้าที่มีรอยแผลเป็นพบข้อบกพร่องในตัวของฮวงเฟิง และเหวี่ยงหมัดไปที่หน้าอกของฮวงเฟิง และจากฝีมือของฮวงเฟิงก่อนหน้านี้ เขาไม่สามารถหลบหมัดนี้ได้ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น! ตราบใดที่หมัดนี้พุ่งเข้าไปหาฮวงเฟิงเขาจะต้องได้รับบาดเจ็บสาหัสอย่างแน่นอน!
อย่างไรก็ตามฮวงเฟิงก็ไม่สนใจเขาเขารู้ว่าตัวเขาเองกำลังตกอยู่ในอันตราย ดังนั้นจึงตัดสินใจที่จะไม่ปิดบังมันอีกต่อไป เขาได้ตัดสินใจใช้ท่าเท้าท่องคลื่นที่เขาเพิ่งจะเรียนรู้เมื่อไม่นานมานี้และยังไม่คุ้นเคยกับมันมากนัก!
ในขณะที่หมัดของชายหน้าบากกำลังจะปะทะเข้าที่หน้าอกของฮวงเฟิงและหัวหน้าสำนักทั้งหลายก็กำลังที่จะช่วยเขา อยู่ๆ ร่างของฮวงเฟิงก็โน้มลงในทิศทางที่เหลือเชื่อจนดูคล้ายกับว่าร่างของเขานั้นได้กลายเป็นเส้นบะหมี่และแข็งแกร่งขึ้นอย่างมาก ในขณะที่เท้าของเขานั้นยังคงนิ่งอยู่ที่พื้นไม่เคลื่อนไหวเลยแม้แต่น้อย
“เฮ้ย!”
หลายคนอุทานออกมาด้วยความตกใจรวมไปถึงเจ้าหน้าบากและหัวหน้าสำนักทั้งหลายด้วย
ถึงแม้ว่าฮวงเฟิงจะกระโดดหลบหมัดแต่เขาก็ยังไม่ได้เป็นฝ่ายจู่โจมเลยสักครั้งเดียวหมัดของเจ้าหน้าบากไม่ได้ผลเลยแม้แต่น้อยแต่เขาก็ยังคงไม่ท้อถอย
ส่วนร่างของฮวงเฟิงนั้นอยู่ในสภาพที่ไม่อาจที่จะยืนขึ้นได้ร่างของเขาโค้งลงอีกครั้งไปทางด้านข้าง ในขณะที่กำปั้นของเจ้าหน้าบากนั้นปะทะเข้าใกล้กับเสื้อผ้าของฮวงเฟิงแต่ก็ไม่สามารถที่จะทำอันตรายเขาได้เลยแม้แต่น้อย
ทุกคนมองทั้งสองคนบนเวทีด้วยความประหลาดใจโดยเฉพาะอย่างยิ่งตอนที่ฮวงเฟิงโจมตีเจ้าหน้าบากอย่างต่อเนื่องร่างกายของฮวงเฟิงบิดและหมุนอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าทุกครั้งดูเหมือนว่าเขาจะล้มลงแต่เขาก็ไม่ได้ล้มลงและยิ่งไปกว่านั้นก็เกิดขึ้นทุกครั้งที่เขาหลบการโจมตีของเจ้าหน้าบาก
สำหรับเท้าของฮวงเฟิงนั้นไม่ได้ขยับเลยสักเซ็นเดียวตั้งแต่ต้นจนจบราวกับว่าเท้าทั้งสองข้างถูกตอกลงบนพื้น!
“นี่มันเป็นศาสตร์การต่อสู้แบบไหนกันเนี่ย?”มีคนถามด้วยความประหลาดใจ