กับดักรักในรอยแค้น - ตอนที่ 282-283
กับดักรักในรอยแค้น – ตอนที่ 282 ขว้างงูไม่พ้นคอ / ตอนที่ 283 เธอไม่ต้องการ
ตอนที่ 282 ขว้างงูไม่พ้นคอ
เพียงพริบตาเดียว ความมืดมนในดวงตาของฉู่อีอีก็หายไป เงยใบหน้าน้อยๆ ที่สดใสมองเผยหนานเจวี๋ยอยู่ที่ข้างๆ พร้อมเอ่ย “หนานเจวี๋ย คุณดูสิว่าพี่สาวเต้นเก่งแค่ไหน พวกเราก็เข้าไปเต้นกันเถอะ”
เสียงที่งดงามดังออกมาจากปากของเธอ แววตามีรอยยิ้ม ราวกับว่าเธอเพียงต้องการจะเต้นรำจริงๆ
เผยหนานเจวี๋ยยืนอยู่ข้างฉู่อีอี เมื่อเห็นฉู่เจียเสวียนกับกงจวิ้นฉือสองคนเต้นรำสวยงามอยู่ในฟลอร์เต้นรำแล้ว ไฟโกรธเอ่อล้นอยู่ในดวงตาของเขา
มือที่ถือแก้วไวน์กำแน่น ริมฝีปากบอบบางเม้มกันแน่น สายตาเรากับว่าอดไม่ไหวต้องการจะหั่นมือของกงจวิ้นฉือที่วางอยู่บนตัวของฉู่เจียเสวียนทิ้งไปซะ
เมื่อได้ยินคำพูดของฉู่อีอี ริมฝีปากเขากระซิบแผ่วเบา “ไม่ล่ะ ใกล้จะจบแล้ว”
เป็นไปตามคาด ทันทีที่เขาพูดจบ การเต้นรำก็มาถึงช่วงสุดท้าย เพียงเห็นฉู่เจียเสวียนกับกงจวิ้นฉือเต้นรำท่าสุดท้ายจบแล้ว เสียงปรบมือกึกก้องดังขึ้น
“สมเป็นกิ่งทองใบหยกเลยนะ”
“คุณฉู่กับคุณกงเต้นเก่งมากเลย”
“……”
ฉู่เจียเสวียนออกมาจากฟลอร์เต้นรำกับกงจวิ้นฉือ ผู้คนเริ่มกระซิบกระซาบกัน
ฉู่อีอีได้ยินเสียงพูดคุยกันของแขกเหรื่อพวกนั้นแล้ว ในใจโมโหจนทนไม่ได้
น่าเจ็บใจจริงๆ เธอแย่งความโดดเด่นไปอีกแล้ว เมื่อนึกถึงชุดเดรสบนตัวของเธอ ในใจฉู่อีอียิ่งโมโห ทำไมเรื่องที่ตั้งใจไว้ถึงไม่เกิดขึ้นกันนะ
“หนานเจวี๋ย…ฉันขอตัวไปห้องน้ำก่อน” ฉู่อีอีเงยหน้าพูดกับเผยหนานเจวี๋ย เมื่อเห็นว่าสายตาของเขายังคงอยู่บนตัวฉู่เจียเสวียน เธอกัดริมฝีปากเบาๆ หันหลังเดินไปยังห้องน้ำ
ขณะที่เธอออกมา พบว่าฉู่เจียเสวียนยืนอยู่ในมุมนั้นตามลำพัง รู้สึกดีใจ ก้าวเท้าเดินไปหาฉู่เจียเสวียน
กวาดสายตามองหาเงาของเผยหนานเจวี๋ย เห็นว่าเขากำลังพูดคุยกับแขก ในเวลานั้นเองก็เดินไปหาฉู่เจียเสวียนโดยปราศจากความหวาดกลัว
ฉู่อีอีคำนวณระยะฝีเท้าไว้ดีแล้ว ขณะที่กำลังจะถึงตัวฉู่เจียเสววียนก็แกล้งไม่ระวังสะดุดล้ม เธอโซซัดโซเซไปหาฉู่เจียเสวียน เธออาศัยตอนที่ไม่ทันระวังตัวยื่นมือออกไปอย่างรวดเร็วต้องการจะดึงชุดเดรสของฉู่เจียเสวียน
และในขณะที่ฉู่อีอีพุ่งปรี่เข้ามาหาเธออย่างกะทันหันนั้น ฉู่เจียเสวียนถอยหลังไปก้าวหนึ่งตามสัญชาตญาณ นี่คือความสามารถของเธอ
มือฉู่อีอียังไม่ทันจะถึงชุดเดรสของฉู่เจียเสวียน เธอก็ล้มลงไปกับพื้นแล้ว
“แควก”
ทั้งๆ ที่ห้องโถงใหญ่เสียงดังวุ่นวายแบบนั้น แต่ว่าเสียงชุดเดรสขาดกลับชัดเจนมาก ในชั่วขณะหนึ่งทั้งงานก็เงียบลง
สายตาของแขกทุกคนหันไปหาฉู่อีอีคนแล้วคนเล่า
เห็นเพียงชุดเดรสที่ฉู่อีอีสวมใส่ตอนนี้ขาดลงมาถึงหน้าอกแล้ว หากขยับตัวเพียงนิดเดียว หน้าอกวัยสาวอันอวบอิ่มของเธอก็จะโผล่ออกมาแล้ว ผิวขาวบริสุทธิ์เผยออกมาด้านนอก ทำเอาชายหนุ่มหลายคนกลืนน้ำลาย
ฉู่อีอีเป็นใครเหรอ เธอคือดาราดังในตอนนี้ รูปร่างหน้าตายิ่งดีเป็นอันดับหนึ่ง ถ้าหากไม่ใช่เพราะฉู่อีอีมีเผยหนานเจวี๋ยคอยสนับสนุน เชื่อว่าเธอจะต้องใช้บางอย่างแลกมาอย่างแน่นอน
ในขณะนั้นเอง พวกนักข่าวก็หยิบมือถือออกมาถ่ายรูปฉู่อีอี
ฉู่อีอีล้มอยู่บนพื้น ใบหน้าซีดขาว หลบหน้าหลบตาทำตัวไม่ถูก ทำไมถึงกลายเป็นแบบนี้ คนที่ล้มลงบนพื้นควรจะเป็นฉู่เจียเสวียนไม่ใช่เหรอ
น้ำตาแห่งความอับอายผุดอยู่ในดวงตาของฉู่อีอี แววตาไร้เดียงสาบนใบหน้าเห็นแล้วชวนให้นึกเอ็นดู
คราวนี้เป็นความอับอายขายหน้าครั้งใหญ่จริงๆ ต้องการจะทำให้ฉู่เจียเสวียนขายหน้าก็ไม่สำเร็จ ครั้งนี้ทำให้เธอต้องอัปยศอดสูต่อหน้าผู้คน เธอจะต้องถูกหัวเราะเยาะแน่นอน
“น้องสาว เธอไม่เป็นไรนะ” ฉู่เจียเสวียนมองฉู่อีอีที่กองลงไปกับพื้น แววตามีความเย็นชา
เธอกล้ารับประกันว่าฉู่อีอีจงใจอย่างแน่นอน
ตอนที่ 283 เธอไม่ต้องการ
แม้เมื่อครู่ฉู่อีอีจะเคลื่อนไหวเร็วกว่านี้ แต่ว่าฉู่เจียเสวียนก็ไม่พลาดอากัปกิริยาที่เธอยื่นมือออกมา ฉะนั้นเธอจึงแกล้งถอยหลังไปก้าวหนึ่งอย่างไม่ระวัง
เงยหน้าขึ้น สบตาที่เย็นยะเยือกของฉู่เจียเสวียน แม้ว่าในใจฉู่อีอีจะโมโห แต่ว่าก็ไม่สามารถทำอะไรได้ เพราะว่าตอนนี้ถูกล้อมรอบโดยแขกมากมายแล้ว
“นี่มันฉู่อีอีดาราชื่อดังไม่ใช่เหรอ”
“อัยยา หุ่นเธอดีมากเลยนะ”
“เธอใส่แบบนี้ก็ดูต่ำไปหน่อยไหม”
“คนประเภทนี้ดูครั้งแรกก็ไม่ได้โดดเด่นอะไร ดีไม่ดีเธออาจจะตั้งใจดึงดูดความสนใจของคนอื่นก็ได้นะ”
“ผู้หญิงแบบเขาฉันเห็นมาเยอะแล้ว ดูแวบเดียวก็รู้ว่าอยากได้ยอดไล้ค์”
“……”
ฉู่อีอีได้ยินเสียงวิพากย์วิจารย์ของบรรดาแขก มองดูพวกเขาชี้มือชี้ไม้มาที่เธอ ใบหน้าแดงก่ำ
เผยหนานเจวี๋ยที่คุยกับคนอื่นในที่ไกลๆ ในตอนแรก ได้ยินเสียงฮือฮา เขาตามเข้าไป กลับคิดไม่ถึงว่าฉู่อีอีจะนั่งอยู่บนพื้น อีกทั้งมือของเธอปิดอยู่บนตำแหน่งหน้าอก ริมฝีปากแดงกัดแน่น
ในชั่วขณะนั้นเอง เผยหนานเจวี๋ยไม่คิดมาก ถอดเสื้อตัวนอกออกแล้วคลุมบนตัวของฉู่อีอีทันที
ลมหายใจที่อบอุ่นและคุ้นเคยเข้าสู่ปลายจมูก ฉู่อีอีดีใจ ทันใดนั้นร่างกายก็ว่างเปล่าและถูกเผยหนานเจวี๋ยดึงขึ้นมาจากพื้น
“คุณเป็นยังไงบ้าง?” กระซิบถามแผ่วเบา เผยหนานเจวี๋ยถามด้วยน้ำเสียงเป็นกังวล ในเวลานี้ กงจวิ้นฉือก็เดินมาถึงข้างกายของฉู่เจียเสวียนแล้ว มองหน้าฉู่เจียเสวียนจากนั้นก็พูดกับผู้ช่วยข้างๆ “ปิดข่าวนี้ไว้ อย่าให้เรื่องนี้แพร่งพรายออกไป”
ผู้ช่วยรับคำสั่ง พยักหน้าแล้วจากไป
เผยหนานเจวี๋ยมองดูฉู่อีอีที่เนื้อตัวสั่นเทา กอดเธอไว้ในอ้อมอก เงยหน้าขึ้นเห็นแววตาที่เปิดเผยไร้เล่ห์เหลี่ยมของฉู่เจียเสวียนคู่นั้น เขาบอกไม่ได้ว่าในใจเขารู้สึกอย่างไร
ยังไม่ทันคิดอะไร จู่ๆ ก็รู้สึกว่าคนในอ้อมแขนอ่อนปวกเปียก ก้มหน้าลงมอง พบว่าฉู่อีอีผล็อยหลับอยู่ในอ้อมอกของเขา
ช้อนอุ้มฉู่อีอีขึ้นมา อุ้มเธอแล้วหันหลังออกไปจากงานอย่างรวดเร็ว ปล่อยให้กลุ่มแขกกระซิบกระซาบกัน
ฉู่เจียเสวียนเห็นเงาของเผยหนานเจวี๋ยที่อุ้มฉุ่อีอีหายไป ริมฝีปากแดงยกยิ้ม
ทันใดนั้นการเปลี่ยนแปลงอย่างกะทันหันก็สิ้นสุดลงเช่นนี้
หลังจากเผยหนานเจวี๋ยกับฉู่อีอีจากไปแล้ว งานยังคงดำเนินต่อไป
วันต่อมา เมื่อฉู่อีอีตื่นอนแล้วเห็นพาดหัวข่าวของวันนี้ เธอโมโหจนใบหน้าซีดขาว
โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเธอเห็นเนื้อหาของพื้นที่แสดงความคิดเห็นแล้ว เธอแทบจะหายใจไม่ออก
มือที่ถือหนังสือพิมพ์กำแน่นไม่หยุด ตอนนี้เธอจะต้องกลายเป็นตัวตลกของวงการบันเทิงไปแล้ว
จู่ๆ ได้ยินเสียงประตูเคลื่อนไหว ฉู่อีอีเงยหน้าขึ้นก็เห็นเผยหนานเจวี๋ย เพียงเห็นเขาขมวดคิ้วเข้าด้วยกัน เดินมานั่งข้างๆ ฉู่อีอี
ไม่ทันรอให้เผยหนานเจวี๋ยพูด ฉู่อีอีเบิกตาโตที่เต็มไปด้วยน้ำตา กล่าวด้วยน้ำเสียงสะอึกสะอื้น “หนานเจวี๋ย อาชีพนักแสดงของฉันจะถูกทำลายหรือเปล่า ฉันไม่ต้องการ ฉันไม่ต้องการจริงๆ…”
เมื่อคืนทั้งๆ ที่กงจวิ้นฉือปิดข่าวแล้ว แต่ว่าเขาคิดไม่ถึงว่ามันยังรั่วไหลออกไป เขาเข้าบริษัทไปจัดการเรื่องนี้ตั้งแต่เช้าแล้ว
ดังนั้นเขาจึงไปตรวจสอบกล้องวงจรปิดของงานเมื่อคืน เห็นว่าฉู่อีอีล้มลงไปเอง อีกทั้งเขายังเห็นมือของเธอที่ยื่นออกไป เห็นได้ชัดว่าต้องการจะดึงชุดของฉู่เจียเสวียน
ดูจนกระทั่งถึงตอนท้ายที่เขาพาฉู่อีอีออกไปจากงาน
“อีอี!” เขามองดูฉู่อีอีที่ร้องไห้จนกลายเป็นมนุษย์เจ้าน้ำตา ความโมโหปรากฏอยู่ในดวงตา
ไม่ได้คาดหวังว่าน้ำเสียงของเผยหนานเจวี๋ยจะขึงขังอย่างกะทันหัน น้ำตาของฉู่อีอีค้างเติ่งอยู่ในดวงตา
“เมื่อคืนคุณตั้งใจใช่ไหม ผมเคยบอกแล้วว่าคุณอย่าไปรบกวนเขาอีก!” น้ำเสียงเยือกเย็นดังขึ้น บนใบหน้าของเผยหนานเจวี๋ยมีความน่ากลัว