กับดักรักในรอยแค้น - ตอนที่ 300
กับดักรักในรอยแค้น – ตอนที่ 300 การเปลี่ยนแปลงอย่างฉับพลัน / ตอนที่ 301 อาหารเป็นพิษ
ตอนที่ 300 การเปลี่ยนแปลงอย่างฉับพลัน
ดีไซเนอร์หลายคนต่างได้ยินถึงชื่อเสียงของฉู่เจียเสวียน
เพียงพริบตาเดียว นิทรรศการเสื้อผ้าฤดูร้อนมาถึงตามกำหนดเวลา ฉู่เจียเสวียนวุ่นวายไม่หยุด
เพื่อให้สามารถจัดนิทรรศการออกแบบเสื้อผ้าฤดูร้อนครั้งนี้ออกมาดี ฉู่เจียเสวียนตรวจสอบรายการทั้งหมดอย่างละเอียดถี่ถ้วน จากนั้นจึงปล่อยให้ผู้คนเข้าไปในห้องแต่งตัว
เพื่องานนิทรรศการครั้งนี้แล้ว ฉู่เจียเสวียนทุ่มเทแรงใจไปมาก เพื่อไม่ให้มีสิ่งที่ไม่คาดฝันเกิดขึ้น แต่ว่าคิดไม่ถึงว่าจะยังมีอุบัติเหตุเกิดขึ้นจริงๆ
“พี่เจียเสวียน แย่แล้ว นางแบบคนนึงแคทวอล์คจู่ๆ ก็ปวดท้อง เดินไม่ไหวแล้ว ทำไงดี” ผู้ช่วยมองฉู่เจียเสวียนร้อนใจจนแทบจะร้องไห้ออกมา
ฉู่เจียเสวียนเดินไปยังนางแบบที่เกิดเรื่อง “เธอเป็นยังไงบ้าง”
เห็นสีหน้าที่เจ็บปวดของคนนั้น ฉู่เจียเสวียนเรียกคนให้พาเธอไปที่โรงพยาบาลทันที ส่วนเธอจะคิดหาทางอีกที
“เจียเสวียน ฉันได้ยินว่ามีนางแบบคนนึงเกิดเรื่องใช่หรือเปล่า ทำไงดี” ทันใดนั้นถังถังเดินเข้ามาในห้องแต่งตัวหลังเวที มองฉู่เจียเสวียนพร้อมเอ่ยกระวนกระวาย
ฉู่เจียเสวียนไม่ได้ตอบคำถามของถังถัง เพียงแต่พยักหน้า มองดูชุดเดรสวันพีซสีขาวส่ายเดี่ยวที่แขวนอยู่บนผนัง ฉู่เจียเสวียนกัดฟัน
“พี่เจียเสวียน ใกล้จะถึงคิวเขาแล้วทำไงดี”
“ฉันจะเดินเอง เธอปรับลำดับการเดินให้ที ฉันอยู่ที่สุดท้าย”
“เธอแน่ใจ?” ถังถังเข้าใจคำพูดของฉู่เจียเสวียนแล้วเอ่ยปากอย่างประหลาดใจ เธอคิดไม่ถึงว่าฉู่เจียเสวียนจะเป็นคนขึ้นไปเดินเอง
ก้าวเท้าเดินไปหาชุดเดรสวันพีซ ยื่นมือหยิบชุดลงมา จากนั้นก็พยักหน้า “ใช่ ฉันขึ้นเอง”
“ผมเชื่อว่าคุณทำได้” เสียงอบอุ่นดังขึ้น ฉู่เจียเสวียนเงยหน้าขึ้นก็เห็นกงจวิ้นฉือปรากฏตัวอยู่ในห้องแต่งหน้า
พยักหน้าให้กงจวิ้นฉือ จากนั้นก็เดินเข้าห้องแต่งตัวไป หลังจากเปลี่ยนเสื้อเสร็จแล้วก็ให้ช่างแต่งหน้าช่วยแต่งหน้าให้เธอ
ปกติฉู่เจียเสวียนมักจะแต่งหน้าอ่อนๆ ทาลิปสติกชั้นบางๆ
ครั้งนี้เพื่อให้การแสดงชุดของเธอสามารถจบลงอย่างโดดเด่น เธอจำเป็นต้องอยู่ในสภาพที่สวยที่สุด
“พี่เจียเสวียน คิวต่อไปก็ตาพี่แล้ว” ผู้ช่วยเอ่ยปากกับฉู่เจียเสวียน
เธอพยักหน้าเบาๆ มองดูตัวเองที่มีรัศมีเปล่งปลั่งทั้งตัว เธอสูดหายใจลึก จากนั้นก็เดินขึ้นเวทีไป
ในมือของฉู่เจียเสวียนถือช่อดอกไม้ เดินไปข้างหน้าทีละก้าวๆ แสงไฟหลากสีจากเพดานสาดส่องอยู่บนใบหน้าของเธอทีละน้อยๆ ชวนน่าหลงใหล
ทันทีที่ฉู่เจียเสวียนออกมาก็ดึงดูดสายตานับไม่ถ้วน ผู้คนด้านล่างเวทีกระซิบกระซาบกัน
นี่เป็นครั้งแรกที่เธอเดินแคทวอร์ค ขณะที่สายตากวาดเห็นเผยหนานเจวี๋ยที่อยู่ด้านล่างเวทีโดยไม่ตั้งใจ รอยยิ้มบนใบหน้าของฉู่เจียเสวียนยิ่งสดใสกว่าเดิม
เผยหนานเจวี๋ยเห็นฉู่เจียเสวียนบนเวทีที่ดูสดใสและเป็นประกาย ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความประหลาดใจ เขาไม่เคยคิดเลยว่าเธอจะสวยและมั่นใจได้ถึงเพียงนี้
ฉู่อีอีที่ยืนอยู่ข้างเผยหนานเจวี๋ยเห็นฉู่เจียเสวียนที่สุกใสอยู่บนเวทีก็โมโหจนกัดฟันกรอด หันไปเห็นเผยสายตาของหนานเจวี๋ยจ้องฉู่เจียเสวียนอยู่ตลอดเวลา เธอยิ่งรู้สึกไม่พอใจ
ทันใดนั้น เสียงปรบมือเกรียวกราวดังขึ้นด้านล่างเวที
ฉู่เจียเสวียนโค้งให้กับผู้คนที่อยู่ด้านล่างเวที จากนั้นก็เริ่มพูด
“ขอขอบคุณทุกคนที่สละเวลาเข้าร่วมงานแสดงชุดของฉันนะคะ…”
การแสดงเสื้อผ้าสิ้นสุดลงอย่างราบรื่น อีกทั้งได้การตอบรับที่ดีทำให้ชื่อเสียงของฉู่เจียเสวียนยิ่งแพร่หลายมากขึ้นในโลกของการออกแบบ
ในโรงพยาบาล
ทันทีที่งานแสดงเสื้อผ้าจบลง ฉู่เจียเสวียนกับกงจวิ้นฉือก็รีบไปที่โรงพยาบาลแล้ว
“คุณหมอคะ เขาเป็นยังไงบ้าง” ฉู่เจียเสวียนเพิ่งจะถึงห้องผู้ป่วย ก็เห็นคุณหมออยู่ข้างใน เอ่ยถาม
“อ๋อ ไม่ได้ร้ายแรงนะครับ เขาเพียงแค่กินอาหารที่ไม่สะอาดทำให้เกิดกระเพาะและลำไส้อักเสบเฉียบพลันครับ” หลังจากคุณหมอพูดจบก็เดินออกจากห้องผู้ป่วยไปแล้ว
อาหารที่ไม่สะอาด? ฉู่เจียเสวียนขมวดคิ้ว หันไปมองกงจวิ้นฉือและสามารถเห็นความงงงวยในสายตาของเขา
ตอนที่ 301 อาหารเป็นพิษ
“เธอพักผ่อนก่อนเถอะ” หลังจากฉู่เจียเสวียนพูดกับนางแบบจบแล้วก็หันหลังออกไปจากห้องผู้ป่วย กงจวิ้นฉือตามหลังเธอไป
อาหารเป็นพิษ? เป็นไปได้ยังไง อาหารของนางแบบล้วนผ่านกาารตรวจสอบจากบริษัทมาแล้วทั้งนั้น จะมีปัญหาได้ยังไง ทำไมต้องมาปวดท้องในช่วงเวลาที่สำคัญแบบนี้ด้วย
ฉู่เจียเสวียนยิ่งคิดยิ่งรู้สึกข้องใจ
“จวิ้นฉือ เรื่องนี้มันแปลกเกินไปแล้ว อาหารที่นางแบบกินก็ผ่านการตรวจสอบจากบริษัทมาแล้วถึงจะให้พวกเขากิน จะไม่สะอาดได้ยังไง” ฉู่เจียเสวียนเงยหน้าขึ้น คิ้วขมวดกัน มองกงจวิ้นฉือพร้อมเอ่ยปาก
“มันน่าสงสัยอยู่จริงๆ คนตั้งเยอะกินแล้วก็ไม่เป็นอะไร แต่เธอดันกินแล้วเกิดเรื่อง เรื่องนี้ควรจะสืบดู ดีไม่ดีอาจมีคนจงใจก่อกวน” กงจวิ้นฉือเอ่ยปาก บนใบหน้าก็เปี่ยมด้วยความสงสัย
ฉู่เจียเสวียนพยักหน้า จากนั้นก็ออกจากโรงพยาบาลด้วยกันกับกงจวิ้นฉือ
กลับมาถึงบริษัท ฉู่เจียเสวียนรีบตรวจดูกล้องวงจรปิดในวันนั้นทันที เป็นไปตามคาด ในขณะที่กำลังจะเริ่มการแสดงเสื้อผ้านั้น เห็นคนที่มีลักษณะเหมือนพนักงานใส่ยาลงไปในอาหาร
ฉู่เจียเสวียนดูถึงตรงนี้ รู้สึกโมโหในใจ รีบให้คนตามหาคนในคลิปทันที
“ทำไมคุณถึงใส่ยาลงในอาหาร?” ฉู่เจียเสวียนมองพนักงานคนนั้น เอ่ยปากเย็นชา
ในขณะนี้พนักงานคนนั้นตกใจจนสั่นไปทั้งตัวไม่หยุด
“ผม…คุณหนูฉู่ขอโทษนะครับ ผมต้องการใช้เงิน แม่ของผมยังป่วยอยู่ ผมก็เลยตกลงทำแบบนี้…คุณอย่าโทษผมได้ไหมครับ” คนนั้นกล่าวตัวสั่น พูดจาติดๆ ขัดๆ
“ขอเพียงคุณบอกว่าว่าใครเป็นคนสั่งคุณ ฉันก็จะไม่เอาเรื่องคุณ ไม่อย่างนั้นคุณต้องรับผลที่ตามมา!”
“ผมพูด ผมพูด คุณหนูฉู่คนนั้นเป็นคนสั่งให้ผมทำ วันนี้เขามาหาผม ให้ผมช่วยงานเขา แถมยังบอกว่าไม่เป็นอันตรายถึงแก่ชีวิต ผม…”
‘ฉู่อีอี เป็นเธออีกแล้ว!’ ฉู่เจียเสวียนทายถูกอยู่แล้ว เพียงแต่ก่อนหน้านี้เธอไม่มีหลักฐานจึงไม่อยากกล่าวหาเลื่อนลอย นึกไม่ถึงว่าเธอจะชักใยอยู่เบื้องหลังจริงๆ
มือที่อยู่ข้างลำตัวกำแน่น ดวงตาของฉู่เจียเสวียนเปี่ยมด้วยความโมโห
เพื่อทำให้เธอพ่ายแพ้ เธอไม่ลังเลที่จะทำร้ายคนอื่นงั้นเหรอ จิตใจของเธอโหดร้ายถึงเพียงนั้นเชียวเหรอ
เมื่อกงจวิ้นฉือได้ยินว่าเป็นฉู่อีอีแล้วไม่ประหลาดใจเลยแม้แต่น้อย ยิ่งไปกว่านั้นเขาเดาไว้แล้วว่าฉู่อีอีเป็นคนสั่งการเรื่องนี้ ถึงอย่างไรแล้วสิ่งที่ฉู่อีอีทนดูไม่ได้ที่สุดคือการที่ฉู่เจียเสวียนได้ดี
“เจียเสวียน เรื่องนี้คุณคิดจะจัดการยังไง” กงจวิ้นฉือเอ่ย มองดูฉู่เจียเสวียนข้างกายที่โกรธจัดจนยากที่จะสงบลงได้
“ฉันจะไปหาเขา ทางนี้คุณจัดการที” ฉู่เจียเสวียนพูดจบ เดินออกไปจากห้องกล้องวงจรปิด
หลังจากขึ้นรถแล้ว ฉู่เจียเสวียนขับรถไปที่วิลล่าบ้านเผยทันที
ลงรถ ฉู่เจียเสวียนกดกริ่ง คนใช้เปิดประตู เมื่อเห็นฉู่เจียเสวียนท่าทางเกรี้ยวกราดก็ตกตะลึง ไม่รอให้เธอตอบสนอง ฉู่เจียเสวียนก็พรวดพราดเข้าไปข้างในทันที
“ฉู่อีอี!” ทันทีที่เข้ามาห้องรับแขก ก็เห็นฉู่อีอีนั่งอยู่บนโซฟา
ได้ยินเสียงที่ดังขึ้นกะทันหัน ฉู่อีอีหันไปเห็นฉู่เจียเสวียนที่โกรธจัด นึกสงสัยในใจ เธอมาทำไม
มุมปากยกยิ้ม ริมฝีปากอ้าเบาๆ “ฉู่เจียเสวียน? วันนี้ลมอะไรหอบเธอมาที่นี่ได้ล่ะ”
“คุณหนู…” คนรับใช้เอ่ยพร้อมมองดูฉู่อีอี ฉู่อีอีส่งสายตาให้เธอออกไป คนรับใช้พยักหน้า จากนั้นก็หันหลังออกจากห้องรับแขก
“ทำไมเธอต้องทำแบบนี้” ฉู่เจียเสวียนกัดฟันพูด เข้าใกล้ฉู่อีอีทีละก้าวๆ ดวงตาคู่นั้นที่มองเธอลุกเป็นไฟ
ได้ยินคำพูดของฉู่เจียเสวียน ฉู่อีอีอึ้งไป จากนั้นก็ดึงสติกลับมา เธอพูดถึงเรื่องที่เธอให้คนวางยาสินะ เธอรู้เรื่องเร็วแบบนี้เลยเหรอ
ริมฝีปากแดงยกขึ้น นั่งลงบนโซฟาด้วยท่าทีสงบนิ่งท่ามกลางอารมณ์ที่ดุเดือด เหลือบตาขึ้นมอง
ฉู่เจียเสวียน ในดวงตาเต็มไปด้วยรอยยิ้ม “ไม่อยากให้เธออยู่อย่างเป็นสุขไง เหตุผลแค่นี้เพียงพอไหม”
กล่าวด้วยความชั่วร้าย ฉู่อีอีพูดด้วยสีหน้าเมินเฉย
ไม่อยากให้เธออยู่อย่างเป็นสุข? ดังนั้นเธอจึงทำร้ายเธอแบบนี้?
“ฉู่อีอี เธอนึกว่าเธอทำแบบนี้แล้วจะจู่โจมฉันได้เหรอ เธอดูสิ เธอทำตั้งเยอะขนาดนั้น มีเรื่องไหนที่ทำร้ายฉันได้บ้าง ตรงกันข้าม ฉันกลับชนะอย่างงดงาม เธอเห็นฉันพลิกตัวกลับมาได้อย่างหมดจด หรือว่าไม่รู้สึกขายหน้าบ้างเหรอ ทำไมถึงยังกล้าหาเรื่องฉันครั้งแล้วครั้งเล่า”
ฉู่เจียเสวียนกล่าวเยาะเย้ย น้ำเสียงเต็มไปด้วยการดูถูก
ได้ยินคำพูดของฉู่เจียเสวียนแล้ว ฉู่อีอีโมโห “ฉู่เจียเสวียน เธอคิดว่าเธอจะโชคดีทุกครั้งหรือไง”