กับดักรักในรอยแค้น - ตอนที่ 390
กับดักรักในรอยแค้น – ตอนที่ 390 เขาดูท่าทางตื่นเต้นมาก / ตอนที่ 391 ผมจะแย่งของที่คุณมีอยู่ในตอนนี้
ตอนที่ 390 เขาดูท่าทางตื่นเต้นมาก
“ตอนนี้ฉันยังไม่ได้คิดไกลขนาดนั้น ไว้ค่อยว่ากันเถอะ” ฉู่เจียเสวียนรู้ว่ากงจวิ้นฉือเป็นคนดีมาก เธอไม่อยากทำร้ายความรักของเขา เพียงแต่ว่าตอนนี้เธอยังไม่ได้เตรียมตัวที่จะพัฒนาไปอีกขั้นกับเขาจริงๆ
ถังถังได้ยินฉู่เจียเสวียนแล้วพยักหน้า จู่ๆ ก็นึกถึงตอนที่เจอเผยหนานเจวี๋ยที่บาร์คราวก่อน นึกถึงคำพูดของเขา ในใจอดห่วงไม่ได้ว่าฉู่เจียเสวียนยังรักเขาอยู่ หลังจากครุ่นคิดแล้ว ถังถังก็เอ่ยขึ้นอีกครั้ง
“เจียเสวียน เธอก็ลืมเรื่องของคนกับอดีตซะเถอะ ต้องรักษาคนตรงหน้าให้ดีรู้หรือเปล่า ฉันไม่อยากให้เธอเจ็บอีกแล้วจริงๆ” ถังถังกุมมือของฉู่เจียเสวียน พูดกับเธอด้วยความเป็นห่วงเป็นใย
ได้ยินคำพูดของถังถังแล้ว ฉู่เจียเสวียนพยักหน้าด้วยความจริงจัง แน่นอนเธอรู้ว่าถังถังเป็นห่วงเรื่องอะไร เธอจะไม่กลับไปทำพลาดเหมือนเดิมอีกอย่างแน่นอน
ในบริษัทกลุ่มเผย พนักงานเลิกงานไปนานแล้ว แต่ไฟในห้องทำงานของเผยหนานเจวี๋ยยังคงสว่างอยู่
ห้องทำงานของเขาอยู่ชั้นบนสุด ทั้งตึกมืดไปนานแล้ว มีเพียงห้องทำงานของเขาที่ยังมีไฟส่องสว่าง เพิ่มสีสันให้กับทิวทัศน์ยามค่ำคืน
เผยหนานเจวี๋ยนั่งอยู่ที่โต๊ะทำงาน ดวงตาที่มืดมนจ้องอยู่บนเอกสารในมือ ท่าทางตั้งใจและจริงจัง
บนโต๊ะทำงานมีไอแพดวางอยู่ มีเอกสารที่ยังไม่ได้ตรวจทานอยู่ด้านซ้าย ส่วนทางขวาก็มีเอกสารกองหนึ่งวางอยู่
หลังจากเผยหนานเจวี๋ยทวนเอกสารในมือเสร็จแล้ว ก็หยิบไอแพดออกมา สองมือเริ่มร่ายรำอยู่บนแป้นพิมพ์อย่างรวดเร็ว
ไม่ต้องสงสัยเลยว่าผู้ชายที่ตั้งใจทำงานนั้นมีเสน่ห์เป็นที่สุด ในตอนนี้ เสน่ห์ของชายหนุ่มผู้ประสบความสำเร็จแผ่ซ่านออกมาจากตัวของเผยหนานเจวี๋ย
ทันใดนั้นเองเสียงโทรศัพท์มือถือดังขึ้น
“กริ๊งๆ…” โทรศัพท์มือถือบนโต๊ะสั่น เผยหนานเจวี๋ยหยุดทำงาน ยื่นมือหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาเพื่อรับสาย
“ฮัลโหล คุณเผย”
ทันทีที่รับโทรศัพท์ เสียงที่คุ้นเคยก็ดังมากจากปลายสาย เผยหนานเจวี๋ยตื่นตระหนกทันที
“ฮัลโหล มีอะไรก็พูดมา ฉันฟังอยู่” เผยหนานเจวี๋ยรีบพูด ความมืดมนผ่านวูบในแววตา
“บ้านเลขที่สิบสามถนนตะวันออก ผมจะรอคุณที่นั่น”
“ได้” หลังจากเผยหนานเจวี๋ยจดที่อยู่แล้วก็พูดทันที เมื่อวางหู เผยหนานเจวี๋ยรู้สึกว่ามือของตัวเองสั่น
เลือกมาเจอเวลานี้ หวังว่าจะไม่มีเรื่องแย่ๆ นะ
เผยหนานเจวี๋ยไปถึงที่นัดหมายโดยไม่พิรี้พิไร เมื่อเดินเข้าไปในร้านกาแฟ ก็เห็นเงาของเฉิงเฮ่ารออยู่ตรงนั้นแล้ว
หลังจากที่ทำการตรวจสอบเฉิงเฮ่าแล้ว เผยหนานเจวี๋ยก็รู้ว่าเฉิงเฮ่าเป็นบุคคลอันตราย อีกทั้งเป้าหมายวันนี้ของเขาก็ไม่ชัดเจน
“เฉิงเฮ่า ดึกป่านนี้แล้วเรียกฉันมามีอะไร” เผยหนานเจวี๋ยเดินไปนั่งลงข้างเขาโดยตรง ลากเก้าอี้แล้วนั่งลงตรงข้ามเขา
เฉิงเฮ่าหัวเราะให้เผยหนานเจวี๋ย รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ โดยเฉพาะรอยยิ้มในแววตาที่มืดมนของเขา เผยให้เห็นอารมณ์ที่ไม่สามารถคาดเดาได้
ไอเยือกเย็นจากเผยหนานเจวี๋ยนั้นไม่เหมือนกับความมืดมนของเฉิงเฮ่า ความเยือกเย็นของเขาราวกับว่ามีมาแต่กำเนิด เพียงเห็นก็รู้สึกหนาวเหน็บแล้ว
ในร้านกาแฟ แม้คนจะไม่มากแต่ว่าความเยือกเย็นของทั้งสองคนทำให้ผู้คนที่นั่งข้างๆ พวกเขาก่อนหน้านี้ต่างทยอยออกจากที่นั่งไป ราวกับว่าหากคนใดคนหนึ่งไม่พอใจก็จะทำให้พวกเขาพลอยเดือดร้อนไปด้วย
หลังจากบริกรรวบรวมความกล้าเพื่อเสิร์ฟกาแฟให้ทั้งสองคนแล้ว ก็ถอยออกไปอย่างร้อนรน
เผยหนานเจวี๋ยมองเฉิงเฮ่าที่ยิ้มอย่างสบายอารมณ์ตรงหน้าด้วยสายตาเย็นชา จู่ๆ หัวใจของเขาก็รู้สึกกังวลเล็กน้อย
“คุณเผย นัดคุณออกมาดึกแบบนี้ รบกวนคุณแล้ว” เฉิงเฮ่ามองเผยหนานเจวี๋ยพร้อมเอ่ยด้วยน้ำเสียงสบายๆ
“มีอะไรนายก็รีบพูดเถอะ” เผยหนานเจวี๋ยพูดขึ้นเรียบๆ น้ำเสียงเปี่ยมด้วยความจริงจัง เขาอยู่ในที่แจ้งอีกฝ่ายอยู่ในที่ลับ เขาจำเป็นต้องระมัดระวังจึงจะถูก
“คุณเผยดูท่าทางคุณตื่นเต้นมากเลยนะ ผมดูเหมือนมนุษย์กินคนงั้นเหรอ” เฉิงเฮ่ามองเผยหนานเจวี๋ยแล้วหัวเราะ แววตาเปี่ยมด้วยรอยยิ้ม
“เฉิงเฮ่า ฉันไม่รู้ว่านายต้องการทำอะไรกันแน่ ฉันไม่มีเวลาเล่นกับนายขนาดนั้น ถ้านายอยากเล่นกันฉันก็จัดมาได้เลย” เผยหนานเจวี๋ยเอ่ยขึ้น มองเฉิงเฮ่าเป็นเชิงเตือน
“นายกลับมาเพราะฉู่อีอีใช่ไหม” เผยหนานเจวี๋ยครุ่นคิด ในที่สุดก็เอ่ยปาก แววตาคมกริบ
ถ้าหากเขาเป็นศัตรูกับเขาเพราะฉู่อีอีล่ะก็ เรื่องทั้งหมดนี้ก็กระจ่างแจ้งแล้ว
ตอนที่ 391 ผมจะแย่งของที่คุณมีอยู่ในตอนนี้
ได้ยินคำพูดของเผยหนานเจวี๋ยแล้ว เฉิงเฮ่าหัวเราะขึ้นมาฉับพลัน ดวงตาหรี่ลงเล็กน้อย
การที่เขากลับมาส่วนหนึ่งก็เพราะฉู่อีอีจริงๆ แต่ว่าเหตุผลที่ยิ่งใหญ่กว่านั้นก็คือเขาต้องการแย่งทุกสิ่งทุกอย่างที่อยู่ในมือของเผยหนานเจวี๋ยในตอนนี้
“คุณเผย คุณอยากรู้ขนาดนั้นเลยเหรอว่าผมกลับมาเพราะอะไร?” เสียงทุ้มต่ำของเฉิงเฮ่าดังขึ้น มองเขาพร้อมถามด้วยสีหน้าจริงจัง
“ก็ไม่เชิง ฉันก็แค่อยากบอกกับนาย ถ้าหากนายกล้าทำอะไรไม่ดีกับคนข้างกายฉันล่ะก็ ฉันจะไม่มีทางปล่อยนายอย่างแน่นอน แน่นอนว่าเป้าหมายที่นายกลับมาจะเป็นอะไรฉันก็ไม่อยากรู้ จะเป็นศัตรูหรือเป็นมิตร ทั้งหมดขึ้นอยู่กับนาย” เผยหนานเจวี๋ยกล่าวเย็นชา มองเฉิงเฮ่าด้วยสายตามืดมน
ไม่ว่าเป้าหมายที่เขากลับมาคืออะไร เขาก็ไม่กลัว สำหรับพจนานุกรมของเผยหนานเจวี๋ยแล้วไม่เคยมีคำว่าเกรงกลัว ศัตรูยิ่งแข็งแกร่งเขายิ่งกล้า นี่คือนิสัยของเขา
“อ๋อ? งั้นเหรอ คนข้างกายที่คุณเผยพูดถึงหมายถึงคุณหนูฉู่เจียเสวียนหรือคุณหนูฉู่อีอีล่ะ” เสียงทุ้มต่ำที่เจือปนความสงสัยดังขึ้น สายตาของเผยหนานเจวี๋ยที่มองเฉิงเฮ่าเปล่งประกาย
ได้ยินเฉิงเฮ่าพูดถึงฉู่เจียเสวียน ในใจของเผยหนานเจวี๋ยก็จุกโดยไม่รู้ตัว แววตาที่เย็นชายิ่งเยือกเย็นกว่าเดิม
เฉิงเฮ่าเห็นความตื่นตระหนกวูบผ่านดวงตาของเผยหนานเจวี๋ย แม้ว่ามันจะหายไปอย่างรวดเร็วมาก แต่ว่าเขาก็ยังสังเกตเห็นได้
“นายคิดจะทำอะไรกันแน่” เสียงที่เยือกเย็นเข้ากระดูกดังออกมาจากปากของเผยหนานเจวี๋ย แววตาที่มองเขานั้นเย็นเยียบ
คนคนนี้กลับมาเพราะอะไรกันแน่ เขาต้องการทำอะไร ตอนนี้เขาอยู่ในที่แจ้งอีกฝ่ายอยู่ในที่มืด เขาไม่มีทางควบคุมสถานการณ์ได้เลย
“เชื่อว่าคุณเผยน่าจะไม่เคยรู้สึกว่าการสูญเสียสิ่งที่รักมันเป็นยังไงสินะ ผมก็แค่อยากบอกคุณเผย สิ่งที่คุณมีทั้งหมดในตอนนี้ ผมจะแย่งมันมา ผมก็แค่บอกคุณ เตือนคุณเท่านั้น” เมื่อเฉิงเฮ่าพูดจบ ร่างที่สูงใหญ่ก็ลุกขึ้นยืน ริมฝีปากบางยกยิ้ม หลังจากจ่ายเงินเสร็จแล้วก็ออกไปจากร้านกาแฟ
ปล่อยให้เผยหนานเจวี๋ยนั่งอยู่ในร้านกาแฟเพียงลำพัง
มองดูเฉิงเฮ่าที่ไกลออกไปเรื่อยๆ จนกระทั่งลับสายตาไปแล้วเขาจึงละสายตา ถ้าหากไม่มีกาแฟที่เฉิงเฮ่าเพิ่งดื่มวางอยู่ตรงหน้าเขาล่ะก็ เขาก็นึกว่าเขานั่งอยู่ตรงนี้คนเดียวตั้งแต่ต้นจริงๆ
หลังจากนั่งอยู่ครู่หนึ่งแล้ว เผยหนานเจวี๋ยก็ออกจากร้านกาแฟไป
เมื่อกลับถึงวิลล่า เผยหนานเจวี๋ยนั่งอยู่บนโซฟา นึกถึงคำพูดที่เฉิงเฮ่าพูดกับเขา เขาไม่เข้าใจจริงๆ ว่าเฉิงเฮ่าโทรหาเขากลางดึกเพียงเพื่อเตือนเรื่องนี้กับเขาเท่านั้นเหรอ
นึกถึงเฉิงเฮ่าที่พูดถึงฉู่เจียเสวียน เผยหนานเจวี๋ยรู้สึกแน่นในหัวใจ
ทำไมเขาถึงรู้จักฉู่เจียเสวียน หรือว่าเขาสืบเรื่องของเธอแล้วงั้นเหรอ หรือว่าเขาอยากสู้กับเขาผ่านฉู่เจียเสวียนงั้นเหรอ แต่ว่าตอนนี้พวกเขาก็หย่ากันแล้วนี่นา
เมื่อคิดว่าเฉิงเฮ่าอาจทำอะไรไม่ดีต่อฉู่เจียเสวียน เขาก็เริ่มเป็นกังวลใจ นึกถึงตอนที่ฉู่เจียเสวียนเกือบถูกทำร้ายคราวก่อน เขาก็อดไม่ได้ที่จะเป็นห่วง
ไม่ได้ เขาต้องบอกกงจวิ้นฉือ บอกให้เขาปกป้องฉู่เจียเสวียนให้ดีถึงจะถูก ไม่เช่นนั้นหากรอจนกระทั่งเธอเป็นอะไรไปจริงๆ มันจะไม่ทันการ
ยังมีฉู่อีอีอีก ตกลงว่าตอนนี้ระหว่างเฉิงเฮ่ากับฉู่อีอีเป็นอะไรกันแน่
ช่างเถอะ ตอนนี้เขาทำอะไรไม่ได้มากขนาดนั้น เขาหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาหาเบอร์ของกงจวิ้นฉือแล้วโทรออกไปแล้ว
หลังจากเงียบอยู่สักพัก ก็มีคนรับสาย เสียงงัวเงียของกงจวิ้นฉือดังขึ้น “คุณเผย หาผมดึกป่านนี้มีอะไรเหรอ”
“คุณกง ไม่รู้ว่าคุณเคยได้ยินคนที่ชื่อเฉิงเฮ่าหรือเปล่า”