กับดักรักในรอยแค้น - ตอนที่ 400
กับดักรักในรอยแค้น – ตอนที่ 400 อย่าเสียงดัง / ตอนที่ 401 หัวใจทั้งดวงอยู่ที่ฉู่เจียเสวียนจนหมดแล้ว
ตอนที่ 400 อย่าเสียงดัง
“เจียเสวียน รีบกินเถอะ คุณดูสิกับข้าวเย็นหมดแล้ว” รอจนฉู่เจียเสวียนนั่งแล้ว กงจวิ้นฉือก็คีบกับข้าวให้เธอ มองเธอด้วยรอยยิ้มอบอุ่นบนใบหน้า
ฉู่เจียเสวียนเก็บอารมณ์เอาไว้ หลังจากยิ้มให้กงจวิ้นฉือแล้วก็เริ่มกินข้าว
“เมื่อกี้ฉันเจอเผยหนานเจวี๋ย เขาบอกให้ฉันระวังเฉิงเฮ่าให้ดี” ฉู่เจียเสวียนแสร้งทำเป็นพูดอย่างไม่ใส่ใจ เธอคิดว่าบอกเรื่องนี้ให้กงจวิ้นฉือฟังจะดีกว่า เพื่อป้องกันไม่ให้เขาเข้าใจผิดในภายหลัง
กงจวิ้นฉือคิดไม่ถึงว่าฉู่เจียเสวียนจะบอกเขาเรื่องนี้ รู้สึกใจทันใด ความอ่อนโยนในดวงตายิ่งลึกซึ้งกว่าเดิม
“เหรอ งั้นคุณก็ระวังตัวสักหน่อยดีกว่า” กงจวิ้นฉือกล่าว น้ำเสียงก็เปลี่ยนเป็นอ่อนโยนขึ้นมาก
อีกด้านหนึ่ง หลังจากฉู่เจียเสวียนจากไปแล้ว เผยหนานเจวี๋ยก็กลับมานั่งที่ เพียงแต่สายตายังคงมองไปที่ฉู่เจียเสวียนเป็นครั้งคราว
ส่วนฉู่อีอีนั้นกำลังโมโหกงจวิ้นฉือ ตอนนี้เผยหนานเจวี๋ยกลับมาก็ยังมองฉู่เจียเสวียนอีก ในตอนนี้เธอแทบจะข่มอารมณ์ไว้ไม่ไหวแล้ว
ยื่นมือวางตะเกียบลงบนโต๊ะ ดวงตามองเผยหนานเจวี๋ยไม่กระพริบนั้นเจือปนไฟโกรธเล็กน้อย
กิริยาของฉู่อีอีทำให้เผยหนานเจวี๋ยอึ้งไปชั่วขณะ จากนั้นก็เข้าใจทันที
“หนานเจวี๋ย คุณอยากไปนั่งกับพี่สาวหรือเปล่า” ฉู่อีอีพูดด้วยความโกรธ แววตาเปี่ยมไปด้วยความน้อยใจ ตั้งแต่ที่เขารู้ว่าฉู่เจียเสวียนมาที่นี่ หัวใจของเขาก็อยู่ที่ฉู่เจียเสวียนแล้ว
ถ้าเขาชอบขนาดนั้นเขาก็เดินไปกินข้าวกับพวกเขาเสียก็หมดเรื่อง ยังจะนั่งอยู่กับเธอที่นี่เพื่อกินอะไรล่ะ
ยิ่งคิดก็ยิ่งน้อยใจ ระยะหลังมานี้ เธอโทรไปหาเขา พูดคุยกันไม่ถึงสองคำเขาก็วางสายแล้ว ไม่เห็นหน้ากันก็ช่างประไร แต่บางครั้งเวลาที่ไปหาเขาที่บริษัท เขาก็มักจะติดประชุม เหมือนกับว่าเขากำลังหลบหน้าเธออย่างไรอย่างนั้น
ก็ได้ ในที่สุดวันนี้สามารถผูกมัดให้เขาออกมากินข้าวกับเธอได้อย่างยากลำบากแล้ว แต่กลับคิดไม่ถึงว่าจะเจอกับฉู่เจียเสวียนคนเลวคนนี้ ยิ่งคิดก็ยิ่งโมโห ฉู่อีอีรอไม่ไหวที่จะให้ฉู่เจียเสวียนหายไปต่อหน้าต่อตาเธอเสียจริง!
เธอเข้าใจเป็นอย่างดีว่าเผยหนานเจวี๋ยชอบฉู่เจียเสวียนเข้าเสียแล้ว แม้ว่าฉู่เจียเสวียนจะมีกงจวิ้นฉืออยู่ข้างกาย แต่ว่าเผยหนานเจวี๋ยก็ยังชอบเธอ!
ฉู่อีอีอย่างเธอเทียบฉู่เจียเสวียนไม่ได้ตรงไหน เธอไม่เข้าใจเลยจริงๆ
เผยหนานเจวี๋ยเห็นสีหน้าของฉู่อีอี คิ้วก็ขมวดกันจนแทบมองไม่เห็น “อีอี อย่าเสียงดัง” หลังจากพ่นคำที่เย็นชาออกมาแล้ว เผยหนานเจวี๋ยก็ก้มหน้ากินข้าว
“ฉันเสียงดัง? หนานเจวี๋ย คุณดูคุณสิ ตั้งแต่ที่พี่สาวเข้ามา ใจของคุณก็ไม่อยู่กับเนื้อกับตัวแล้ว” ฉู่อีอีพูดไปพูดมา น้ำตาก็เอ่อล้นขอบตา มองเผยหนานเจวี๋ยพร้อมแสดงความน้อยใจของเธออยู่เงียบๆ
ฉู่อีอีอย่างเธอเป็นตัวอะไรในใจของเขากันแน่ ทำไมตั้งแต่ที่ฉู่เจียเสวียนกลับมาทุกอย่างก็เปลี่ยนไป แม้แต่ใจของเผยหนานเจวี๋ยก็เริ่มเปลี่ยนไปด้วย?
เธอเคยคิดว่าเธอกำหัวใจของเผยหนานเจวี๋ยอยู่ในมือแล้ว แต่ว่าตอนนี้เธอคิดผิด ฉู่เจียเสวียน ไม่ว่าจะอย่างไร เธอจะมีชีวิตอยู่ต่อไปอีกไม่ได้แล้ว
ตราบใดที่เธอยังอยู่ เธอยังเผยหนานเจววี๋ยก็จะไม่มีวันได้อยู่ด้วยกัน เธอจะต้องทำให้ฉู่เจียเสวียนตาย ขอเพียงเธอหายไป เธอกับเผยหนานเจวี๋ยจึงจะสามารถอยู่ด้วยกันได้
คนที่ขัดขวางไม่ให้เธอกับเผยหนานเจวี๋ยได้อยู่ด้วยกัน เธอจะต้องทำให้คนนั้นหายไป!
“อีอี” แววตาของเผยหนานเจวี๋ยปรากฏความไม่พอใจต่อคำพูดของฉู่อีอี หลังจากรู้ว่าฉู่อีอีกับเฉิงเฮ่าเคยมีความสัมพันธ์แบบนั้นแล้ว เขาไม่ได้ขุดคุ้ยกับเธอก็นับว่าไว้หน้าเธอมากแล้ว
“หนานเจวี๋ย ตอนนี้คุณยังคิดจะดุฉันอีกเหรอ” น้ำตาในดวงตาของฉู่อีอีร่วงลงมา ไม่สนใจโดยสิ้นเชิงว่าที่นี่คือที่สาธารณะ ร่างสั่นเทาเล็กน้อย
เผยหนานเจวี๋ยรู้สึกปวดหัวเล็กน้อย ยื่นมือนวดคลึงคิ้ว จากนั้นก็พูดขึ้น “พอเถอะ อีอี กินข้าวเถอะ ถ้าคุณอิ่มแล้วงั้นพวกเราก็กลับกันเถอะ”
ที่จริงแล้วเขาเกลียดฉู่อีอีไม่ลง เมื่อคิดถึงเรื่องที่เธอเคยช่วยเขา เขาก็ไม่สามารถไม่สนใจเธอได้
ตอนที่ 401 หัวใจทั้งดวงอยู่ที่ฉู่เจียเสวียนจนหมดแล้ว
ฉู่อีอีได้ยินคำพูดของเผยหนานเจวี๋ยแล้ว มือที่อยู่ใต้โต๊ะกำแน่น ขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน มีประกายวูบในแววตา
มื้อนี้เธอยังไม่ได้แตะต้องตะเกียบเลยตั้งแต่ต้น เขามองไม่เห็นหรือไง หัวใจของเขาทั้งดวงอยู่ที่ฉู่เจียเสวียนจนหมดแล้ว!
“พวกเรากลับเถอะ” ฉู่อีอีสูดหายใจลึก จากนั้นก็เอ่ยปาก มีความขุ่นเคืองเล็กน้อยในน้ำเสียง แต่ว่าตอนนั้นจิตใจของเผยหนานเจวี๋ยกำลังว้าวุ่น จึงไม่ได้สังเกตความไม่พอใจในน้ำเสียงของเธอ
เพียงแค่ได้ยินว่าฉู่อีอีจะกลับ ก็ยกมือเรียกบริกรให้คิดเงินแล้ว
อีกด้านหนึ่ง ฉู่เจียเสวียนกับกงจวิ้นฉือก็กินข้าวเสร็จแล้ว กงจวิ้นฉือก็เรียกบริกรให้คิดเงินเช่นกัน
ขณะที่ทั้งสองคนมาถึงประตู ก็เหมือนจะชนกันโดยบังเอิญแล้ว
“พี่คะ บังเอิญจริงๆ เลยนะ ไปที่ไหนก็เจอกันตลอด” ฉู่อีอีควงแขนของเผยหนานเจวี๋ยพร้อมเอ่ย น้ำเสียงระคนความไม่พอใจ
ฉู่เจียเสวียนได้ยินความขมขื่นในน้ำเสียงของฉู่อีอีอย่างชัดเจน ริมฝีปากก็ยกยิ้ม เธอยิ้มด้วยใบหน้าที่สดใส
“นั่นสิ คุณหนูฉู่ บังเอิญจริงๆ คิดไม่ถึงว่ากินข้าวก็เจอ แต่ว่าฉันกับกงจวิ้นฉือกินอิ่มแล้ว เดี๋ยวยังมีธุระต่อ พวกเราขอตัวก่อนล่ะ” ฉู่เจียเสวียนพูดจบ ก็พยักหน้าให้เผยหนานเจวี๋ยกับฉู่อีอีอย่างสง่างาม จากนั้นก็จูงมือของกงจวิ้นฉือจากไป
เผยหนานเจวี๋ยยืนอยู่ตรงนั้นเงียบๆ ริมฝีปากบางเม้มกันแน่น มองกงจวิ้นฉือกับฉู่เจียเสวียนที่ยิ่งไกลออกไปตาปริบๆ
ฉู่อีอีเงยหน้าเห็นเผยหนานเจวี๋ยมองฉู่เจียเสวียนด้วยความอาลัยอาวรณ์ก็ปล่อยมือของเผยหนานเจวี๋ยอย่างหัวเสีย ก้าวเดินไปข้างหน้าด้วยความโมโห
เผยหนานเจวี๋ยดึงสติกลับมา เมื่อเห็นว่าฉู่อีอีจากเขาไปไกลระยะหนึ่งแล้วก็ยิ้มขมขื่น จากนั้นก็เดินตามไป
เวลาไหลผ่านไปอย่างไม่รู้เนื้อรู้ตัว ในอีกไม่ช้าผู้จัดงานกลุ่มปารีสที่มีชื่อเสียงจะเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันการออกแบบ ส่วนฉู่เจียเสวียนก็เป็นตัวแทนบริษัทของกงจวิ้นฉือไปเข้าร่วมการแข่งขันนี้
และวันนี้เป็นรอบแรกของการออกแบบที่ปารีส ถ้าหากผ่านรอบแรกไปได้ล่ะก็ ก็สามารถเข้าร่วมการแข่งขันรอบต่อไปได้ ถ้าผ่านไปได้ก็จะได้เข้าร่วมในรอบสุดท้าย บริษัทที่ชนะการแข่งขันก็จะได้ร่วมงานกับกลุ่มบริษัทปารีส
การร่วมงานเป็นเรื่องเล็ก กุญแจสำคัญคือการทำให้ชื่อเสียงของบริษัทเป็นที่รู้จัก และชื่อเสียงก็จะยิ่งสูงขึ้นไปอีก
ฉู่เจียเสวียนรู้สึกตื่นเต้นตั้งแต่เช้า แม้ว่าเธอจะมีความมั่นใจในผลงานของตัวเอง แต่เมื่อเธอเห็นว่าผู้เข้าแข่งขันล้วนเป็นนักออกแบบที่มีชื่อเสียงระดับนานาชาติ เธอก็ยังรู้สึกว่าไม่มั่นใจเต็มร้อย
กงจวิ้นฉือยืนอยู่ข้างฉู่เจียเสวียน เห็นท่าทางที่ตื่นเต้นของเธอ ยื่นมือไปจับมือของเธอ เอ่ยกับเธอด้วยความอ่อนโยน “ไม่ต้องตื่นเต้น ผมเชื่อว่าคุณทำได้”
เขาเชื่อในความสามารถของฉู่เจียเสวียน เธอจะต้องชนะอย่างแน่นอน
คำพูดของกงจวิ้นฉือทำให้เธอสงบใจลงอย่างน่าประหลาด พยักหน้ากับเขา
ไม่นาน สาวน้อยผู้เปิดงานและพิธีกรเดินขึ้นไปบนเวที หลังจากกล่าวคำอวยพรเล็กน้อยแล้ว คณะกรรมการก็เดินขึ้นไปบนเวที
เมื่อกวาดสายตาเห็นเผยหนานเจวี๋ยอยู่ในคณะกรรมการแล้ว หัวใจของฉู่เจียเสวียนก็เต้นตึกตัก กระพริบตาถี่ราวกับว่าเหลือเชื่ออย่างไรอย่างนั้น
ทำไมเขาถึงได้เป็นคณะกรรมการล่ะ
“ทำไมเขาถึงได้เป็นกรรมการ” ฉู่เจียเสวียนหันไปมองกงจวิ้นฉือพร้อมถามเสียงเบา น้ำเสียงเปี่ยมไปด้วยความสงสัย
กงจวิ้นฉือส่ายหน้า แสดงให้เห็นว่าเขาก็ไม่รู้
“เจียเสวียน คุณอย่าตื่นเต้นไปเลย มีผมอยู่นะ” กงจวิ้นฉือนึกว่าฉู่เจียเสวียนเห็นเผยหนานเจวี๋ยแล้วตื่นเต้น จึงเอ่ยปากพูด
ฉู่เจียเสวียนรู้ว่าเขาเข้าใจผิดแล้ว แต่ว่าก็ไม่ได้อธิบายอะไร เพียงแต่พยักหน้า