กับดักรักในรอยแค้น - ตอนที่ 402
กับดักรักในรอยแค้น – ตอนที่ 402 เผยหนานเจวี๋ย คุณทำอะไร / ตอนที่ 403 ถ้าคุณไม่อยากให้ผมจูบคุณตรงนี้
ตอนที่ 402 เผยหนานเจวี๋ย คุณทำอะไร
เขาเป็นกรรมการแล้วยังไงเหรอ เธอจะกลัวเขางั้นเหรอ เธอมีความมั่นใจในความแข็งแกร่งของเธอเอง
ไม่ว่าจะอย่างไร เธอจะไม่มีทางอ่อนข้อให้อย่างแน่นอน
นางแบบสวมเสื้อผ้าของนักออกแบบ และเดินขึ้นมาบนเวทีทีละคนๆ
สายตาของฉู่เจียเสวียนมองไปที่นางแบบบนเวที ในใจตื่นเต้นอย่างอธิบายไม่ถูก จนกระทั่งเห็นนางแบบที่ใส่ชุดเจ้าสาวที่เธอออกแบบเดินออกมา หางตากวาดไปเห็นสีหน้าที่ชื่นชมของคณะกรรมการ เธอจึงโล่งอก
รอบแรกนั้นมีที่นั่งจำกัดเพียงแค่ห้าคนเท่านั้น แต่ว่าผู้เข้าแข่งขันการออกแบบครั้งนี้กลับมีถึงหนึ่งร้อยยี่สิบคน
นั่นก็หมายความว่าฉู่เจียเสวียนจะต้องเอาชนะถึงหนึ่งร้อยสิบห้าคน จึงจะมีโอกาสเข้าสู่ห้าอันดับแรก
เมื่อเสียงประกาศผู้เข้ารอบแรกดังขึ้น หัวใจของฉู่เจียเสวียนก็ตื่นเต้นตามไปด้วย
“เฉิงฉิง ตงนี ฉู่เจียเสวียน…”
เมื่อได้ยินชื่อของตัวเอง ฉู่เจียเสวียนจึงถอนหายใจโล่งอก วินาทีที่เธอดึงสติกลับมาก็พบว่ามือตัวเองกุมมือของกงจวิ้นฉือไว้แน่น อีกทั้งฝ่ามือมีเหงื่อซึมไม่หยุด
กงจวิ้นฉือเห็นท่าทางที่ตื่นเต้นของฉู่เจียเสวียนแล้วก็เอ่ยปากด้วยน้ำเสียงผ่อนคลาย “ผมบอกแล้ว ว่าให้คุณเชื่อมั่นในตัวเอง คุณดูคุณสิ ยังตื่นเต้นขนาดนี้อีก”
หลังจากที่ฉู่เจียเสวียนรู้สึกโล่งใจแล้ว ก็ปล่อยมือของกงจวิ้นฉือ เพียงแค่การแข่งขันรอบแรกเท่านั้นเธอก็ตื่นเต้นขนาดนี้แล้ว แล้วเวลาเข้ารอบสุดท้ายล่ะ เธอจะต้องทำตัวอย่างไร
“ขอแสดงความยินดีกับผู้เข้ารอบทั้งห้าคนด้วยครับที่ได้เข้าร่วมการแข่งขันรอบต่อไปของพวกเรา” พิธีกรบนเวทีพูดขึ้น หลังจากพูดด้วยภาษาจีนแล้ว ก็เปลี่ยนเป็นพูดภาษาอังกฤษกับคนที่อยู่ด้านล่างเวที ฉู่เจียเสวียนเหลือบตาขึ้นมองก็สบตาของเผยหนานเจวี๋ยโดยไม่ตั้งใจแล้ว ริมฝีปากยกยิ้ม เธอค่อยๆ ละสายตาออกจากเขา
เป็นธรรมดาที่ผู้ที่ผ่านเข้ารอบจะต้องอยู่ต่อ คนอื่นที่ไม่ผ่านการคัดเลือดก็ทยอยกันจากไปแล้ว
เมื่อพิธีกรแจ้งพวกเราถึงผู้ที่ผ่านการคัดเลือก พวกเราจะต้องเลือกที่ปรึกษาจากบรรดาคณะกรรมการห้าคน และทำตามที่ปรึกษาในขั้นตอนต่อไป
การแข่งขันระหว่างประเทศก็คือการแข่งขันระหว่างประเทศ การแข่งขันรอบถัดไปจะไม่เพียงแต่แสดงผลงานของตัวเองบนเวทีเท่านั้น ยังต้องสร้างผลงานต่อหน้าทุกคนด้วยตัวของคุณเอง นี่คือวิธีที่ดีที่สุดในการป้องกันการลอกเลียนแบบ
แต่ว่าการเลือกที่ปรึกษานั้นควรจะเลือกใครล่ะ? ฉู่เจียเสวียนสงสัยในใจ เธอไม่มีข้อขัดข้องใดๆ สำหรับกติกาของการแข่งขันนี้ แต่ว่าที่ปรึกษานั้นเธอออกจะเลือกยากอยู่สักหน่อย
ระหว่างที่ฉู่เจียเสวียนกำลังคิดอยู่นั้น เงาที่สูงใหญ่ของเผยหนานเจวี๋ยก็ปรากฏอยู่ตรงหน้าของเธอ ได้ยินเพียงเผยหนานเจวี๋ยพูดว่า “ผมจะเป็นที่ปรึกษาของคุณ”
ฉู่เจียเสวียนอึ้งไปครู่หนึ่ง เห็นได้ชัดว่าคิดไม่ถึงว่าเผยหนานเจวี๋ยจะเสนอตัวเป็นที่ปรึกษาของเธอจริงๆ จู่ๆ เธอรู้สึกว่ามีสายตาที่เร่าร้อนหลายคู่จับจ้องมาที่เธอ
เงยหน้าขึ้นก็เห็นผู้หญิงสองคนที่อายุห่างจากเธอไม่มากนักในบรรดาผู้เข้ารอบ กำลังจับจ้องมาที่เธออย่างดุดัน
ไม่ต้องเดาก็รู้ว่าพวกเธอจะต้องอยากให้เผยหนานเจวี๋ยเป็นที่ปรึกษาของพวกเธออย่างแน่นอน เพียงแต่คิดไม่ถึงว่าเธอจะถูกเผยหนานเจวี๋ยเลือกก็เท่านั้น
แต่เห็นได้ชัดว่าฉู่เจียเสวียนไม่ต้องการให้เผยหนานเจวี๋ยเป็นที่ปรึกษาของเธอเลยแม้แต่นิดเดียว
“ฉันอยากเลือกที่ปรึกษาคนอื่น ไม่รบกวน…เผยหนานเจวี๋ย คุณทำอะไรน่ะ” ฉู่เจียเสวียนยังไม่ทันพูดจบ ก็ถูกเผยหนานเจวี๋ยลากจากเวทีแล้ว
ฉู่เจียเสวียนตามหลังเขาไปอย่างไม่เต็มใจนัก จนกระทั่งเผยหนานเจวี๋ยลากเธอมาที่รถของเขา ยื่นมือเปิดปะตูรถ เผยหนานเจวี๋ยเอ่ยปากอย่างเย็นชา “เข้าไป”
“เผยหนานเจวี๋ย ฉันไม่อยากให้คุณเป็นที่ปรึกษาของฉัน!” ฉู่เจียเสวียนพูดขึ้นอย่างโมโหพร้อมจ้องมองเขาอย่างเย็นชา
ตอนที่ 403 ถ้าคุณไม่อยากให้ผมจูบคุณตรงนี้
เธอไม่ต้องการมีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ กับเขาอีก แม้แต่ในการแข่งขันก็ไม่อยาก
ฉู่เจียเสวียนต้องการจากไปด้วยความโมโห แต่ว่าเผยหนานเจวี๋ยกลับดึงมือของเธอไว้ไม่ให้เธอไปไหน เผยหนานเจวี๋ยเข้าใกล้เธออย่างต่อเนื่อง เธอยังสามารถได้กลิ่นมินท์สดชื่นของเขาได้อย่างชัดเจน
ร่างกายที่สูงของเขากำลังเผชิญหน้ากับเธอ เธอรู้สึกได้ถึงแรงกดดันในทันที
“ฉู่เจียเสวียน ถ้าคุณไม่อยากให้ผมจูบคุณตรงนี้ คุณก็ขึ้นรถจะดีที่สุด” เผยหนานเจวี๋ยกล่าว ประกายเยือกเย็นวูบผ่านแววตา เขามีกลิ่นอายของความเย็นชาในตัวเขาอยู่แล้ว ตอนนี้รังสีความเย็นที่เขาจงใจแผ่ออกมานั้นยิ่งหนักหน่วงกว่าเดิม
เผยหนานเจวี๋ยทำให้ฉู่เจียเสวียนตะลึงงันเพราะความกลัวไปชั่วขณะ ยืนแข็งทื่ออยู่ที่เดิม ลืมตอบสนอง
ฉู่เจียเสวียนจ้องมองตาของเผยหนานเจวี๋ย มองดูแววตาที่อันตรายและจริงจังผิดปกติของเขา หัวใจของเธอก็เต้นรัว
เผยหนานเจวี๋ยก็คือเผยหนานเจวี๋ย เขามักจะเอาแต่ใจอยู่เสมอ ขอเพียงเขาต้องการ ไม่มีอะไรที่เขาไม่กล้าทำ!
มือที่อยู่ข้างลำตัวกำแน่น ฉู่เจียเสวียนกัดฟัน สุดท้ายก็ข่มอารมณ์เอาไว้แล้วก้มตัวเข้าไปนั่งในรถ
ขณะที่ฉู่เจียเสวียนก้มตัวเข้าไปในรถนั้น รอยยิ้มปรากฏอยู่ในดวงตาของเผยหนานเจวี๋ย
หลังจากเห็นว่าฉู่เจียเสวียนเข้าไปแล้ว เขาก็เข้าไปนั่งด้วย
เพราะว่ากงจวิ้นฉือเป็นเจ้านายของกลุ่มบริษัทกง จึงไม่สามารถตามมาที่สนามแข่งขันได้
เมื่อเห็นฉู่เจียเสวียนขึ้นรถของเผยหนานเจวี๋ย เขาเม้มปาก โบกไม้โบกมือให้ฉู่เจียเสวียน “เจียเสวียน ถ้ามีอะไรคุณโทรหาผมนะ”
ฉู่เจียเสวียนลดกระจกรถลง พยักหน้าให้กับกงจวิ้นฉือ “คุณวางใจเถอะ” เพิ่งจะพูดจบ เผยหนานเจวี๋ยก็ล็อคหน้าต่างรถด้วยรีโมทแล้ว
ฉู่เจียเสวียนกลับไม่โกรธ ในเมื่อเธอไปแข่งขันเธอจะกลัวไปทำไม
หลังจากนั่งอย่างดีแล้ว ฉู่เจียเสวียนก็เริ่มหลับตา ไม่สนใจเผยหนานเจวี๋ยที่อยู่ข้างๆ
ความเงียบและความกระสับกระส่ายทำให้ดวงตาของเผยหนานเจวี๋ยกลอกอยู่บนตัวเธอ ใบหน้าของฉู่เจียเสวียนสงบนิ่งไร้ซึ่งอารมณ์ แต่ในใจกลับมีคลื่นขนาดใหญ่ก่อตัวขึ้น
เธอยิ่งดูไม่ออกขึ้นทุกวันว่าเผยหนานเจวี๋ยคิดจะทำอะไรกันแน่ ก่อนหน้านี้ทำไมเธอถึงไม่เห็นว่าเผยหนานเจวี๋ยก็ด้านที่อันธพาลแบบนี้
สถานที่ใช้ในการสร้างแบบในครั้งนี้คือ มันร้านอาหารปารีส ได้ยินมาว่าที่นั่นคือฟาร์มแห่งหนึ่งที่ได้รับการดัดแปลง พื้นที่ส่วนใหญ่หวนคืนให้กับระบบนิเวศน์ก่อนหน้านี้ มีชาวบ้านอาศัยอยู่ภายใน และชาวบ้านที่อาศัยอยู่ที่นั่นก็เป็นผู้จัดการฟาร์มแห่งนี้
เมืองอยู่ค่อนข้างไกลจากสถานที่ออกแบบ ต้องขับรถสามถึงสี่ชั่วโมง
หลังจากที่รถขับมาได้สองชั่วโมงรถก็จอด ฉู่เจียเสวียนลงมาจากรถ เธอได้กลิ่นหอมแต่ว่าไม่มีความอยากอาหารเลย
เดินมานั่งที่บริเวณพักผ่อน เหม่อมองไปที่ลูกบอลดอกไม้ที่อยู่ไม่ไกล เผยหนานเจวี๋ยถืออาหารอยู่ในมือ แล้วเริ่มมองหาเงาของฉู่เจียเสวียน
เมื่อเห็นเธอ ดวงตาก็มีแววยินดี เดินเข้าไปหาแล้วนั่งลงข้างๆ ฉู่เจียเสวียนโดยตรง
“กินเถอะ” เสียงที่ทั้งเยือกเย็นและคุ้นเคยลอยเข้าหูของฉู่เจียเสวียน ฉู่เจียเสวียนเงยหน้าขึ้น ก็สบตาของเผยหนานเจวี๋ยที่ล้ำลึกลงไปในความหนาวเย็น
เห็นเพียงเขายื่นแซนวิชและนมแก้วหนึ่งในมือมาให้เธอ
เมื่อเห็นสีหน้าของเขา ฉู่เจียเสวียนรู้สึกไม่พอใจ แต่ว่าเธอก็ยังข่มเอาไว้ ถึงอย่างไรเขาก็เป็นที่ปรึกษา ส่วนเธอก็เป็นเพียงนักออกแบบคนหนึ่งเท่านั้น
“ฉันไม่หิว ขอบคุณ” เสียงที่เย็นชาหลุดออกมาจากปากของฉู่เจียเสวียน แววตาที่มองเขาเย็นเยียบ
ลุกขึ้นยืนต้องการจะออกไปจากที่ที่เผยหนานเจวี๋ยอยู่ แต่ว่ากลับถูกเขาดึงมือเอาไว้
“ฉู่เจียเสวียน คุณเกลียดผมขนาดนี้เลยเหรอ ไม่อยากอยู่กับผมหรือไง” เสียงที่ทุ้มต่ำและมืดมนดังออกมาจากปากของเผยหนานเจวี๋ย ระคนความเจ็บปวดที่อธิบายไม่ได้