กับดักรักในรอยแค้น - ตอนที่ 406
กับดักรักในรอยแค้น – ตอนที่ 406 ในหัวผมมีแต่คุณ / ตอนที่ 407 คุณคู่ควรกับฉู่อีอีแล้วเหร
ตอนที่ 406 ในหัวผมมีแต่คุณ
ฉู่เจียเสวียนโมโหอยู่ในใจแต่กลับระบายออกมาไม่ได้ เดินไปยังหน้าต่างด้วยความหงุดหงิดเล็กน้อย มองดูทิวทัศน์นอกหน้าต่าง ต้องการจะข่มความว้าวุ่นภายในใจ
ทันใดนั้นเอง เธอก็รู้สึกถึงความกดดันอยู่ด้านหลังเธอ ไม่ต้องเดาฉู่เจียเสวียนก็รู้ว่าเผยหนานเจวี๋ยอยู่ด้านหลังของเธอ
ยังไม่ทันจะตอบสนอง เผยหนานเจวี๋ยก็โอบเอวของเธอไว้ ฉู่เจียเสวียนตัวแข็งทื่อ
เธอดิ้นรนไปตามสัญชาตญาณต้องการจะแกะมือของเขาที่โอบรอบตัวเธอ
“เผยหนานเจวี๋ย คุณต้องการจะทำอะไรกันแน่” ฉู่เจียเสวียนกัดฟันพูด ความเย็นชาในแววตายิ่งชัดเจน
“ฉู่เจียเสวียน ให้ผมให้กอดคุณสักหน่อยได้หรือเปล่า อย่างน้อยคุณอยู่ตรงนี้แล้วได้โปรดอย่าเย็นชากับผมนักเลย” เสียงที่ทุ้มต่ำของเผยหนานเจวี๋ยลอยเข้าหูของฉู่เจียเสวียน หัวใจของฉู่เจียเสวียนสั่น
หัวใจเต้นแรงอีกครั้งโดยไม่มีการเตือนล่วงหน้า มือที่ต้องการจะแกะมือเขาก็หยุดชะงัก
ฉู่เจียเสวียนรู้ดีว่าเธอไม่ควรใจอ่อน เธอบอกกับตัวเองอยู่เสมอว่าจะไม่ปล่อยให้ตัวเองเจ็บอีกอย่างแน่นอน
“เผยหนานเจวี๋ย ตกลงคุณจะเอายังไงกันแน่ คุณโผล่หน้ามาหาฉันทั้งวันแบบนี้ คุณไม่กลัวว่าจะทำร้ายจิตใจของฉู่อีอีเหรอ” หัวใจของฉู่เจียเสวียนนั้นเต็มไปด้วยความโกรธ แต่กลับเผยอาการสับสนในขณะที่เขามองไม่เห็น
เผยหนานเจวี๋ยไม่ได้พูดอะไร ริมฝีปากบางเม้มกันแน่น
เขาไม่ต้องการอะไรมาก เขาเพียงต้องการดื่มด่ำช่วงเวลาที่ได้อยู่ด้วยกันกับเธออย่างดี เพราะว่าระยะหลังนี้ เขาคิดถึงมากจริงๆ คิดถึงมากๆ
“ฉู่เจียเสวียน คุณยังรักผมใช่หรือเปล่า” เงียบงันเนิ่นนาน จู่ๆ เผยหนานเจวี๋ยก็เอ่ยปาก ออกแรงดึงร่างของฉู่เจียเสวียนกลับมา บังคับให้เธอมองเขา
แววตาที่คบกริบมองทะลุดวงตาของฉู่เจียเสวียน ราวกับต้องการมองทะลุหัวใจของเธออย่างไรอย่างนั้น
หัวใจของฉู่เจียเสวียนหดตัวอย่างกะทันหัน เมื่อได้ยินคำพูดของเผยหนานเจวี๋ย ในใจก็เกิดความรู้สึกขมขื่นเลือนลาง
“ใช่ ฉันเคยรักคุณมากๆ แต่ว่า นั่นมันเมื่อก่อน ไม่ใช่ตอนนี้ ตั้งแต่ที่ฉันหย่ากับคุณ ความรักที่ฉันมีต่อคุณก็หายไปแล้ว และหัวใจที่ฉันรักคุณก็ได้ตายไปแล้ว”
“เผยหนานเจวี๋ย ตอนนี้คุณได้อยู่กับฉู่อีอีสมใจแล้ว คุณยังมีเหตุผลอะไรที่จะมาเกี่ยวข้องกับฉันอีก อย่าลืมสิ ว่าตอนนั้นคนที่บังคับให้ฉันหย่าก็คือคุณ ตอนนี้…”
“อือ…” ฉู่เจียเสวียนยังไม่ทันพูดจบ ริมฝีปากก็ถูกเผยหนานเจวี๋ยประกบแล้ว
เผยหนานเจวี๋ยจูบเธออย่างลึกซึ้ง จูบนั้นบ้าคลั่งราวกับพายุ
ฉู่เจียเสวียนโมโห มือปัดป้องดิ้นรนไม่หยุด เงื้อมมือตบหน้าเผยหนานเจวี๋ยอย่างไร้ความปรานี
‘เพี๊ยะ’ เสียงตบนั้นได้ยินดังชัดเป็นพิเศษภายในห้อง
ฉู่เจียเสวียนมองเผยหนานเจวี๋ยด้วยดวงตาแดงก่ำ เม้มปากจากนั้นก็พูดขึ้น “เผยหนานเจวี๋ย คุณหายบ้าแล้วยัง”
มือของฉู่เจียเสวียนปวดแสบปวดร้อน แม้แต่ยังคงสั่นเล็กน้อย การตบครั้งนี้ เธอตบด้วยความตกใจสุดขีด
เผยหนานเจวี๋ยถูกฉู่เจียเสวียนตบจนหันไปด้านข้าง ผมที่ยุ่งเหยิงอยู่แล้วในเวลานี้ดูแล้วมันยิ่งยุ่งเหยิงกว่าเดิม
“มันเป็นความผิดของคุณ ฉู่เจียเสวียนคุณโผล่มาทำไม ทำไมคุณต้องรบกวนชีวิตของผมด้วย…” เผยหนานเจวี๋ยหันมองฉู่เจียเสวียน เอ่ยปากด้วยความเจ็บปวดเล็กน้อย
“ในหัวผมมีแต่คุณ…ไม่ว่าผมจะบอกตัวเองว่าไม่ให้คิดยังไง…แต่ว่าคุณก็ยังโผล่มา คุณจะให้ผมทำยังไง” เผยหนานเจวี๋ยพูดไปพูดมา จู่ๆ แววตาของเขาก็เปลี่ยนเป็นมืดมน ไอแห่งความโหดร้ายแผ่ซ่านออกมาจากร่างกาย
ฉู่เจียเสวียนมองดูเผยหนานเจวี๋ยที่เปลี่ยนไปอย่างฉับพลัน หัวใจก็อดไม่ได้ที่จะเต้นรัว กลืนน้ำลาย ข่มความกลัวเอาไว้ในใจ
จู่ๆ เผยหนานเจวี๋ยก็คว้ามือของฉู่เจียเสวียน แววตายิ่งมืดมน
“คุณจะทำอะไรน่ะ ปล่อยฉันนะ!” มือของฉู่เจียเสวียนดิ้นรนไม่หยุด ต้องการจะหลุดจากพันธนาการของเขา
ฉู่เจียเสวียนถูกแววตาที่เหมือนสัตว์ป่าของเผยหนานเจวี๋ยจับจ้องจนขนลุกในใจ ร่างกายก็สั่นเทิ้มตามไปด้วย
นานแค่ไหนแล้ว นานแค่ไหนแล้วที่ไม่ได้รู้สึกหวาดกลัวแบบนี้
ตอนที่ 407 คุณคู่ควรกับฉู่อีอีแล้วเหรอ
จู่ๆ เผยหนานเจวี๋ยก็กดตัวเองอยู่บนฉู่เจียเสวียน ฉู่เจียเสวียนตกใจจนรีบเอ่ยปาก “เผยหนานเจวี๋ย ตอนนี้ที่คุณทำแบบนี้ คุณคู่ควรกับฉู่อีอีแล้วเหรอ”
เผยหนานเจวี๋ยตัวแข็งทื่อ สีหน้าเปลี่ยนเป็นน่าเกลียดเป็นอย่างยิ่ง
ก้มหน้าจ้องมองฉู่เจียเสวียนเป็นเวลาเนิ่นนาน ริมฝีปากเม้มกันจนเป็นเส้นตรง ในที่สุดก็ปล่อยมือของฉู่เจียเสวียน หันหลังออกไปจากห้องแล้ว
ทันที่ที่เสียงประตูดังขึ้น ฉู่เจียเสวียนโล่งอกทันที แววตาของเผยหนานเจวี๋ยเมื่อครู่ช่างน่ากลัวจริงๆ นี่เป็นครั้งแรกที่เผยหนานเจวี๋ยน่ากลัวขนาดนั้นนับตั้งแต่ที่เธอรู้จักเขา
แม้กระทั่งสามปีก่อนที่เขาจะบังคับให้เธอหย่า เธอก็ไม่เคยเห็นแววตาที่อาฆาตของเขาเช่นนี้
แววตาของเขาเมื่อครู่ราวกับต้องการจะกลืนกินเธออย่างไรอย่างนั้น
เมื่อนึกถึงท่าทางของเขาเมื่อครู่ หัวใจของเธอยังคงรู้สึกหวาดกลัวไม่หยุด
ระหว่างที่เหม่อลอย โทรศัพท์มือถือของฉู่เจียเสวียนที่ดังขึ้นทำเอาเธอสะดุ้งโหยง ยื่นมือหยิบมาดู หลังจากเห็นคำว่า ‘กงจวิ้นฉือ’ สามคำนี้เด้งอยู่บนหน้าจอแล้ว เธอจึงถอนหายใจโล่งอกอย่างแรง
ฉู่เจียเวียนหยิบโทรศัพท์มือถือพร้อมกดปุ่มรับสาย “ฮัลโหล จวิ้นฉือ” เธอสงบสติอารมณ์ ทำน้ำเสียงของตัวเองให้ฟังดูเป็นปกติ
“ถึงแล้วยัง” น้ำเสียงที่อบอุ่นของกงจวิ้นฉือดังขึ้น เจือปนความเป็นห่วง
“เพิ่งจะถึง” ฉู่เจียเสวียนเอ่ย ริมฝีปากยกยิ้ม หัวใจยังคงเต้นเร็ว
“งั้นก็ดีแล้ว ผมจะถึงช้าหน่อยนะ” กงจวิ้นฉือกล่าวด้วยน้ำเสียงมีความสุข
เมื่อได้ยินกงจวิ้นฉือบอกว่าจะมา ฉู่เจียเสวียนตื่นตกใจทันที “คุณจะมาเหรอ”
“ทำไมล่ะ ฟังน้ำเสียงคุณแบบนี้ เหมือนไม่อยากให้ผมไปเลยนะ” กงจวิ้นฉือพูดขึ้น แสร้งทำเป็นจริงจัง
“เปล่า แต่ว่าผู้จัดงานบอกแล้วไม่ใช่เหรอว่าคนที่ดูแลบริษัทมาไม่ได้?” ฉู่เจียเสวียนออกความเห็น
“อ๋อ ผมบอกกับผู้จัดงานแล้วว่าคุณเป็นแฟนผม ผมแค่จะมาดูแลคุณในฐานะแฟนของคุณ ไม่เกี่ยวอะไรกับกลุ่มบริษัทกง พอพวกเขาได้ยินที่ผมพูดแล้วก็ตกลง คุณวางใจเถอะ” เสียงที่อบอุ่นของกงจวิ้นฉือลอยเข้าหูของฉู่เจียเสวียน ทำให้จิตใจของฉู่เจียเสวียนที่ว้าวุ่นก่อนหน้านี้สงบลงอย่างประหลาด
เธอไม่รู้ว่าจะต้องพูดอะไรจริงๆ กับการที่กงจวิ้นฉือดีกับเธอ บางครั้งเธอรู้สึกเหมือนไม่ยุติธรรมต่อเขา
“งั้นเมื่อไรคุณจะมาถึงล่ะ” ริมฝีปากแดงยกยิ้ม แววตาของฉู่เจียเสวียนเปื้อนรอยยิ้ม
“ผมจะถึงตอนกลางคืน ถึงแล้วผมจะโทรหาคุณ” พูดจบ กงจวิ้นฉือก็วางสาย
ฉู่เจียเสวียนได้ยินเสียงสัญญาณในโทรศัพท์ตัดไป จู่ๆ ก็รู้สึกปวดหัว ถ้าปล่อยให้กงจวิ้นฉือรู้ว่าเธอพักอยู่ห้องเดียวกันกับเผยหนานเจวี๋ย ไม่รู้ว่าเขาจะคิดอย่างไรกับเธอ
เพิ่งจะวางหูได้ไม่นาน เผยหนานเจวี๋ยก็เข้ามาจากข้างนอก ทำเอาฉู่เจียเสวียนสะดุ้งโหยง เมื่อเห็นว่าเธอกำลังถือโทรศัพท์อยู่ในมือก็ถามขึ้น “กงจวิ้นฉือโทรมาเหรอ?”
ฉู่เจียเสวียนเม้มปาก ไม่ได้เอ่ยปากพูด เดินไปนั่งที่โซฟา
เผยหนานเจวี๋ยไม่ได้ถามต่อ หลังจากนั่งลงบนเก้าอี้อีกฟากหนึ่งแล้ว ทั้งสองคนก็เข้าสู่ความเงียบ จนกระทั่งเมื่อโทรศัพท์มือถือของเผยหนานเจวี๋ยดังขึ้น หลังจากเขาออกไปจากห้องแล้วเข้าไปรับสายในห้องน้ำแล้ว ฉู่เจียเสวียนจึงรู้สึกหายใจสะดวกขึ้น
เผยหนานเจวี๋ยจากไปไม่ทันไร ฉู่เจียเสวียนก็รู้สึกปวดท้อง สีเลือดบนใบหน้าจางหายไปกลายเป็นซีดขาว
เธอกุมท้องเอาไว้และทนต่อความเจ็บปวดอย่างเอาเป็นเอาตาย ยื่นมือคลำหาแก้วน้ำบนโต๊ะ ต้องการจะดื่มน้ำเพื่อบรรเทาความปวด แต่กลับคิดไม่ถึงว่าเพิ่งจะถือแก้วไว้ในมือแต่ถือไว้อย่างไม่มั่นคง แก้วจึงร่วงลงพื้นส่งเสียงดังชัดเจน