CatNovel
  • หน้าหลัก
  • นิยายทั้งหมด
Advanced
  • หน้าหลัก
  • นิยายทั้งหมด
  • โดจิน
  • นิยายทั้งหมด
  • จบแล้ว
  • นิยายวาย Yaoi
ตอนก่อน
ตอนต่อไป
สล็อตเว็บตรง

การกลับมาของฮีโร่ - ตอนที่ 58

  1. Home
  2. การกลับมาของฮีโร่
  3. ตอนที่ 58
ตอนก่อน
ตอนต่อไป

ตอนที่ 58

“อะไรกัน ฉันมาที่นี่ไม่ได้เหรอ”ซูฮยอนถาม

“ไม่ใช่อย่างงั้นครับ ผมหมายถึง…เอ่อ”ฮักจุนรู้สึกกระดากอายเล็กน้อย

เมื่อซูฮยอนเห็นท่าทีที่ฮักจุนแสดงออกมา เขาก็หัวเราะออกมาเบาๆ ไม่แปลกใจว่าทำไมฮักจุนถึงตกใจขนาดนั้น เพราะซูฮยอนไม่ได้เป็นสมาชิกของกิลด์เทพสงคราม ฉะนั้นเขาจึงไม่ควรมาอยู่ทีนี่

“เอาละช่างมันเถอะ ฉันก็พึ่งเข้ามาเมื่อไม่นานนี้เอง”

“จริงเหรอครับ?”ฮันจุนถาม

“จริงสิ..พอดีเห็นว่าประตูมันเปิดกว้างไว้อยู่ ฉันก็เลยถือวิสาสะเดินเข้ามา เผอิญเจอการ์ดรักษาความปลอดภัยขอตรวจบัตรประจำตัว ฉันเลยให้บัตรผู้ตื่นขึ้นไปแทน จากนั้นเขาก็ให้ฉันเข้ามาง่ายๆเลย”

ดูเหมือนการ์ดรักษาความปลอดภัยจะคิดว่าซูฮยอนคือแขกคนสำคัญของกิลด์เทพสงคราม เลยทำให้ซูฮยอนเดินเยื่ยมชมกิลด์เฮาส์ได้ด้วยความสบายใจ

“แล้วทำไมพี่ถึงมาอยู่ที่นี่”ฮันจุนถาม

ฮักจุนคิดว่ากิลด์เทพสงครามก็เหมือนกับถ้ำของเสือ เขาดีใจที่เห็นซูฮยอนก็จริง

แต่มันไม่ใช่ประเด็นสำคัญ ประเด็นสำคัญจริงๆคือจองดงย็องหัวหน้ากิลด์ของเขา สนใจตัวซูฮฺยอนมานาน ถ้าเกิดเขาคิดทำอะไรแผลงๆขึ้นมาซูฮยอนได้เจอกับปัญหาแน่ๆ

“หืม…อะไรกัน นายไม่ดีใจเหรอที่เจอฉัน?”ซูฮยอนยิ้มกว้างแล้วถามออกไป

“แน่นอนว่าผมดีใจ แต่ผมก็ไม่เข้าใจอยู่ดีว่าพี่มาที่นี่ทำไม จริงสิแล้วพี่รู้ได้ไงว่าผมอยู่ที่นี่?”

“ก็ฉันไปถามยันซอนมานะสิ ทำไมนายถึงไม่รับมือถือ ฉันอุสาโทรไปหาตั้งหลายสาย”

คำตอบของซูฮยอนทำให้สีหน้าของฮักจุนเปลี่ยนไปอย่างกะทันหัน ตั้งแต่รู้จักกันมาซูฮยอนไม่เคยเห็นสีหน้าเช่นนี้ของฮักจุนมาก่อนเลยสักครั้ง

ฮักจุนสูบหายใจเข้าไปลึกๆแล้วถามด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำ “พี่หาเธอเจอได้ยังไง?”

“ฉันต้องการตรวจสอบอะไรสักอย่าง ก็เลยสืบค้นประวัติของนายมาเล็กน้อย”

“แล้วเหตุผลที่พี่ทำไป พี่ทำไปเพื่ออะไร”

“นายถามสินะว่าทำไมฉันถึงมาอยู่ที่นี้?”

ซูฮยอนกลับมาสู่โหมดจริงจังอีกครั้ง ก่อนถามคำถามกับฮักจุน

“จองดงย็องอยู่ที่นี่ใช่ไหม?”

“ใช่ครับ”

คำถามที่ซูฮยอนถามออกมา เป็นคำถามที่ฮักจุนคิดไม่ถึง…เพราะเขาไม่รู้จริงๆว่าซูฮยอนจะถามถึงหัวหน้ากิลด์ทำไม?

แถมน้ำเสียงที่เปล่งออกมายังมีความเป็นศัตรูปะปนมาด้วย ทำให้สมองของฮักจุนเริ่มถูกแช่แข็งและไม่สามารถหาคำพูดอื่นมาตอบได้นอกจากบอกความจริงออกไป

“จองดงย็องอาศัยอยู่ห้องไหน พอดีฉันมีธุระกับเขานิดหน่อย”

ฮักจุนสายหัวไปมาและรวบรวมสติสตางค์ให้กลับคืนมาเหมือนเดิม “เขาอยู่ในห้องสมุดแถวสุดทางเดินตรงนั้นนะครับ”

“ตรงนั้นเหรอ?”

หลังจากได้ยินคำตอบจากฮักจุน ซูฮยอนก็หันหน้าไปมองก่อนเดินจ้ำอ้าวด้วยความเร่งรีบ

เมื่อฮักจุนเห็นดังนั้น..จึงรีบวิ่งตามไป ก่อนดึงแขนของซูฮยอนเอาไว้และถามด้วยความสงสัย

“พี่ซูฮยอน พี่รู้จักหัวหน้ากิลด์ผมได้ยังไง พี่จะทำอะไรกับเขาต่อกันแน่?”

“ก็แค่พูดคุยอะไรกันนิดหน่อย”

“พี่จะคุยเรื่องอะไร?”

“อืม…ว่าจะคุยกันเกี่ยวกับสรีระร่างกาย”

“อะไรนะ?”

“ทำไมนายทำสีหน้าอย่างงั้นละ ไม่ต้องกังวล ถ้าสถานการณ์ยังควบคุมได้อยู่ ฉันจะไม่ใช้กำลัง”

ซูฮยอนพูดออกไปด้วยท่าทีสบายๆก่อนหันไปถามฮักจุน “แล้วนายจะเอาไง..ไปด้วยกันไหม?

***************

ณ. ห้องทำงานของผู้อำนวยการ

“เอกสารของใครกัน?”ผู้อำนวยการถามออกไปด้วยความหงุดหงิด

คิมดูอุยก้มหน้าอ่านเอกสารที่อยู่ในมือก่อนตอบออกไป “เอกสารที่อยู่ในมือของผม มันเป็นของซูฮยอน ท่านจะรับไหมครับ?”

คำตอบของคิมดูอุยทำให้ผู้อำนวยการหันหน้าไปจ้องมองเอกสารอีกครั้ง ซึ่งเนื้อหาภายในมีรายงานเรื่องคร่าวๆของซูฮยอนที่บันทึกเอาไว้

“เจ้าหนุ่มนั่นต้องการอะไร?”ผู้อำนวยการถาม

“ผมคิดว่า เขาคงกำลังขอร้องให้ท่านช่วยสืบสวนเรื่องราวอะไรสักอย่าง”

“ขอร้อง? ขอร้องตูดมันสิ”ผู้อำนวยการบ่นอู้อี้ออกมา

ซูฮยอนไม่ได้ขอร้อง เขาก็แค่เสแสร้งเป็นคนสุภาพเรียบร้อยเท่านั้น เอกสารที่คิมดูอุยนำมาให้ผู้อำนวยการ

มันเปรียบเสมือนคำสั่งมากกว่า ถ้าเขาไม่ยอมทำ คลิปเสียงที่ซูฮยอนแบล็คเมล์เอาไว้ คงได้เวลาเปิดเผยสู่โลกภายนอก

“แล้วท่านจะเอายังไงครับ?”คิมดูอุยถามออกไป

ผู้อำนวยการจุดบุหรี่ขึ้นมาแล้วสูดเข้าไปเต็มปอด เพื่อลดความเครียด

เมื่อพ่นควันบุหรี่ออกมา สมองของเขาก็ปลอดโปร่งอย่างเห็นได้ชัด

“เอาล่ะ ซูฮยอนต้องการอะไรเธอก็ไปจัดการให้เขา อ๊ะ..จริงสิเอาคังซึงชอลไปกับเธอด้วย”ผู้อำนวยการสั่งออกมา

“ท่านหมายถึงหัวหน้าแผนกคังซึงชอลใช่ไหมครับ”

“ใช่..พาเขาไปยืดเส้นยืดสายซะบ้าง ไม่ใช่หมกอยู่แต่ในห้องฝึกฝน”

“ได้ครับท่าน”

“ดีมาก ถ้าไม่มีอะไรแล้วเธอก็ไปทำงานของเธอได้”

หลังจากคิมดูอุยออกไปจากห้องทำงาน ผู้อำนวยการก็ก้มหน้าลงไปอ่านเอกสารอีกครั้ง

ก่อนจะบ่นพึมพำออกมา “ทำไมถึงรู้สึกว่า สำนักงานรับรองเหล่าสหายผู้ตื่นขึ้น ถูกสร้างมาเพื่อเจ้าหนุ่มซูฮยอนกันนะ”

ซึ่งความคิดของผู้อำนวยการก็ไม่ผิดซะที่เดียว เพราะซูฮยอนตั้งใจให้เขารู้สึกอย่างงั้นอยู่แล้ว.

*******************

ภายในห้องเล็กๆแห่งหนึ่ง บรรยากาศโดยรอบเต็มไปด้วยควันบุหรี่ลอยฟุ้งจนขาวโพลนไปหมด

จองดงย็องนั่งอยู่บนเก้าอี้พร้อมกับคุยมือถือกับใครสักคน

“ใช่..การประชุมผ่านไปได้ด้วยดี หึ..แน่นอน จิตใจของคนในยุคสมัยนี้ค่อนข้างโสมม ฉะนั้นการหาเงินจากพวกมันถึงหาได้เยอะกว่าปกติ ก็ดีเหมือนกันจะได้ไม่ต้องออกแรงเยอะ”

ก๊อก ก็อก

เมื่อได้ยินเสียงเคาะประตู การแสดงออกของจองดงย็องก็เต็มไปด้วยความดุร้าย

“แค่นี้ก่อน เดี๋ยวโทรกลับไปทีหลัง”

จองดงย็องวางสายในมือแล้วตะโกนถามคนนอกห้อง “ใคร?”

“ฮักจุนครับ”

“ฮักจุนเหรอ? เข้ามาได้”

เมื่อคนที่จองดงย็องต้องการพบ มาถึงตามนัด เขาก็จุดบุหรี่ขึ้นมาดูดอีกมวน

ประตูหน้าห้องค่อยๆเปิดแง้มออกมา หลังจากฮักจุนก้าวมาอยู่ในห้องที่เต็มไปด้วยควันบุหรี่เขาก็ขมวดคิ้วขึ้น…

“ขมวดคิ้วทำไม..ควันบุหรี่มันทำอะไรนายไม่ได้อยู่แล้ว ในเมื่อนายเป็น ผู้ตื่นขึ้น ร่างกายของนายก็ก้าวข้ามคนธรรมดาไปแล้ว ว่าแต่สักมวนไหม?”

จองดงย็องเป็นคนที่สูบบุหรี่จัดมาตั้งแต่ไหนแต่ไร หลังจากก้าวมาเป็นผู้ตื่นขึ้น สิ่งที่เขาชื่นชอบมากที่สุดรองลงมาจากการใช้กำลังคงเป็นการสูบบุหรี่

สำหรับผู้ตื่นขึ้นสารอันตรายจากบุหรี่ไม่มีปัญหาต่อสุขภาพของพวกเขา ดังนั้นพวกเขาจึงดูดมันได้ตามความต้องการ

“งานว่าจ้างของกิลด์เรา คือการเป็นบอดี้การ์ด เพื่อคุ้มกันความสงบเรียบร้อยของงานพบปะสังสรรค์ ฉันอนุญาตในนายเป็นหัวหน้าของภารกิจนี้ เพื่อดูแลรุ่นเยาว์ของกิลด์เรา นายพร้อมหรือยัง….”

“ผมขอเวลาเตรียมตัวอีกนิด แต่ก่อนหน้านั้นมีคนอยากเจอกับท่านครับ”

“อยากเจอกับฉัน ใครกัน?”

“เขาชื่อ คิมซูฮยอนครับ คนที่ท่านกำลังตามหาอยู่”

“คิมซูฮยอนงั้นเหรอ…”

ดวงตาของจองดงย็องมืดมนลงทันที

คิมซูฮยอนคือคนที่ฮักจุนเคยติดต่อกันมาก่อน ข่าวลือล่าสุดที่ปล่อยออกมา ว่ากันว่าเขาคือผู้ตื่นขึ้นหน้าใหม่ที่มาเขย่าบัลลังก์แรงค์ S

ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาประชาชนมากมายต่างประเมินกันเอาไว้ว่า คิมซูฮยอนอาจเป็นคนที่แข็งแกร่งที่สุดในบรรดาแรงค์ S ทั้งหมดในประเทศเกาหลี…..

“ใช่ครับ เขามาหาท่าน เพราะมีเรื่องอยากจะคุยด้วย”

“เจ้าหนุ่มนั้นอยากคุยกับฉันงั้นเหรอ?”

“เป็นเด็กที่ใจกล้าจริงๆ ถึงขนาดกล้ามาหากิลด์มาสเตอร์แห่งเทพสงครามด้วยตัวคนเดียว”

“อืม…..”จองดงย็องใคร่ครวญอยู่ครู่หนึ่งก่อนอ้าปากพูด “นี่ฮักจุน”

เสียงโทนต่ำที่ฟังดูมีเมตตากรุณาดังออกมา ซึ่งมันเป็นน้ำเสียงที่ฮักจุนเกลียดที่สุด เพราะเขาไม่รู้ว่าหัวหน้ากิลด์คิดอะไรแผลงๆอยู่อีก

“ครับ?”ฮักจุนตอบ

“นายคงไม่ได้วางแผนอะไรโง่ๆไว้ลับหลังฉันหรอกนะ?”

“?”

หลังจากได้ยินคำพูดของหัวหน้ากิลด์….ฮักจุนก็ก้มหน้าลงด้วยความหวาดกลัว

เมื่อจองดงย็องเห็นปฏิกิริยาที่ฮักจุนแสดงออกมา เขาก็ยิ้มออกมาอย่างพอใจ ก่อนยกมือของตัวเองขึ้นมากุมไว้หน้าหน้า

“ช่างเถอะ…ไปตามเจ้าตัวมาหาฉันสิ”

“ได้ครับท่าน…แต่ว่า…”

“แต่อะไร?”

“เดือนนี้ ท่านยังไม่ได้ให้ยาผมเลยครับ”

“อ่อเจ้านี้นะเหรอ”

จองดงย็องหยิบขวดอะไรบางอย่างขึ้นมาจากกระเป๋าแล้วกลิ้งมันไปมาบนฝ่ามือ

“ฉันขอเก็บมันไว้ก่อน ถ้าไม่มีเรื่องน่าปวดหัวเกิดขึ้น ฉันจะให้นายก็แล้วกัน”

“ท่านหมายความว่าไงครับ?”

“คิมซูฮยอน…นายซ่อนเขาเอาไว้ไม่ใช่หรือไง”

“นั่นมัน…!”

“หุบปากซะ…แกไม่มีสิทธ์พูด ถ้าวันนี้การพูดคุยของฉันกับซูฮยอนผ่านไปได้ด้วยดี ฉันจะกลับไปคิดบัญชีแกทีหลัง”

ฮักจุนกัดฟันด้วยความโกรธ เขาเคยบอกหัวหน้ากิลด์ไปหลายรอบ ว่าเรื่องระหว่างเขากับซูฮยอนไม่มีความสัมพันธ์อะไรกัน แต่หัวหน้ากิลด์ก็ไม่เชื่อ ขนาดลงไม้ลงมือทุบตีฮักจุนไปแล้ว เขาก็ยังไม่ล้มเลิกความคิดบ้าๆแบบนั้นอีก

“แต่ท่านครับ ถ้าไม่ให้ยากับผม…”

“ฉันรู้ แฟนสาวของนายคงตกอยู่ในความทุกข์ทรมานสินะ แต่ช่วยไม่ได้ ในเมื่อยามันมีอย่างจำกัด”

จองดงย็องตอบกลับด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนเหมือนกำลังปลอบประโลมน้องชายสุดที่รักของตัวเอง

น้ำเสียงของจองดงย็องทำให้จิตใจของฮักจุนเผาผลาญไปด้วยโทสะ

เขาจำได้อย่างขึ้นใจว่า ถ้าไม่ได้ยาในมือของหัวหน้ากิลด์ ความเจ็บปวดของคนขาดยามันทุกข์ทรมานขนาดที่เขายังไม่อยากสัมผัส…

“ฮักจุน ไอ้เด็กเหลือขอ แกกล้าทำสีหน้าไม่พอใจกับฉันงั้นเหรอ”

การแสดงออกทางสีหน้าของฮักจุน ทำให้จองดงย็องทุบโต๊ะด้วยความโกรธก่อนลุกขึ้นจากที่นั่งแล้วตวาดด้วยน้ำเสียงโมโห

“แกมันเป็นเด็กที่เลี้ยงเสียข้าวสุกจริงๆ”

ก๊อก ก๊อก

เสียงเคาะประตูดังขึ้นอีก..ของที่เจ้าตัวจะถือวิสาสะเข้ามาโดยไม่ได้รับอนุญาต

“ขอโทษที่ขัดจังหวะนะสหาย”

ฮักจุนและจองดงย็องหันหน้าไปมองพร้อมกัน

ซูฮยอนเดินเข้ามาภายในห้องและมองกลับไปกลับมาระหว่างฮักจุนกับจองดงย็อง

“ปล่อยให้แขกยืนฟังเลือกไร้สาระตั้งนาน ไม่คิดจะเชิญกันหน่อยเหรอ?”

“พี่ซูฮยอน?”ฮักจุนพูดด้วยความประหลาดใจ

“ซูฮยอน….นายนะเหรอซูฮยอน?”

เมื่อเห็นซูฮยอนเดินเข้ามาให้ห้องโดยไม่ได้รับอนุญาต จองดงย็องก็ขมวดคิ้วด้วยความไม่พอใจ ก่อนที่มันจะหายไปอย่างรวดเร็ว แล้วเปลี่ยนโหมดมาเป็นชายผู้แสนอ่อนโยน

“อ่า..ขอโทษที ปล่อยให้แขกยืนรอซะได้ เชิญนั่งได้เลยแขกกิตติมศักดิ์”

เหมือนจองดงย็องจะคิดว่าซูฮยอนคงไม่ได้ยินเรื่องที่เขาพึ่งคุยกับฮักจุนไป

ถ้าเขารู้ความจริงว่าซูฮยอนได้ยินเรื่องราวหมดทุกอย่าง จองดงย็องคงไม่มีทางยิ้มแย้มให้ซูฮยอนเห็นแน่ๆ ทั้งจองดงย็องกับผู้อำนวยการก็เป็นคนประเภทเดียวกัน

ซูฮยอนเดินไปนั่งบนเก้าอี้ที่จองดงย็องแนะนำ ฮันจุกที่กำลังยืนอยู่ก็ถอยห่างออกมาจากซูฮยอน

แล้วเดินไปยืนด้านหลังของหัวหน้ากิลด์

“เฮ้…นายจะเดินไปไหน ที่นั่งมีเยอะแยะ นั่งได้เลย” ซูฮยอนเปิดปากพูดกับฮักจุน

“หืม?”

“หาที่นั่งเถอะ จะยืนให้ปวดขาทำไมจริงไหม?”

ซูฮยอนพูดออกไปพร้อมกับเชื้อเชิญในฮักจุนมานั่งข้างๆเขา….ฮักจุนหันไปมองหัวหน้ากิลด์เพื่อรอคำอนุญาต

จองดงย็องย่นคิ้วด้วยความไม่พอใจเล็กน้อย ก่อนจะคลายคิ้วให้กลับไปสภาพเดิม

ในเมื่อฝ่ายตรงข้ามคือแขกคนสำคัญ เขาจึงต้องแสดงท่าที่ของคนมีน้ำใจออกให้มากกว่านี้

“ฮักจุนไปนั่งเถอะ ในเมื่อมีแขกมาเยี่ยมถึงที่ มาอยู่ด้านหลังฉันมันคงดูไม่ดี อย่างน้อยเขาก็เป็นพี่ชายของนาย ไปนั่งใกล้ๆเขาเถอะ”

ซูฮยอนสัมผัสได้ว่าจองดงย็องกำลังอารมณ์ไม่ดี เพราะแววตาและน้ำเสียงของเขามันสวนทางกับคำสั่งอย่างชัดเจน

‘อืม…เขาเป็นคนที่ควบคุมอารมณ์ไม่ค่อยเก่งเลยจริงๆ ถ้ามีคนกล้าขัดขืนคำสั่ง สติของเขาคงควบคุมไม่อยู่ ไม่แปลกใจว่าทำไมเขาถึงชอบข่มขู่คนอ่อนแอนัก แต่หากเจอผู้ที่มีพลังอย่างแท้จริงท่าทีของเขากลับเปลี่ยนไปจากหน้ามือเป็นหลังมือ’

ไม่ต้องบอกก็รู้ได้ทันทีว่าจองดงย็องเป็นคนประเภทไหน เพราะซูฮยอนเคยเจอคนประเภทนี้มาหลายครั้ง…

เมื่อฮักจุนได้รับคำอนุญาต เขาก็เดินไปหาซูฮยอนและนั่งลงไป แต่เมื่อก้นสัมผัสกับเบาะ

เขากลับรู้สึกว่าก้นของตัวเองเหมือนกำลังโดนเข็มขนาดเล็กๆทิ่มแทงอยู่

“ตอนอยู่หน้าห้อง เหมือนหูของฉันได้ยินเสียงทะเลาะกับฮักจุน…”

ก่อนที่ซูฮยอนจะพูดจบประโยค จองดงย็องกลับตัดบทพูดของเขาด้วยความรวดเร็ว

“ฮ่า ฮ่า มันไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร ในฐานะที่ฉันกับฮักจุนเจอกันทุกวัน..ก็ต้องมีเรื่องกระทบกระทั่งกันบ้าง พอดีฉันมีของบางอย่างต้องให้กับฮักจุนทุกเดือน แต่บังเอิญเกิดเหตุสุดวิสัย เลยทำให้เลื่อนวันไปก่อน ฉันก็ไม่ได้บอกสักหน่อยว่าจะไม่ให้เขา”

“แต่มันเป็นยาที่สำคัญไม่ใช่เหรอ?”

เมื่อจองดงย็องได้ยินคำถามของซูฮยอน เขาก็หันหน้าไปมองฮักจุนด้วยสายตามุ่งร้าย

ฮักจุนเมื่อรู้ว่ามีสายตาจ้องมองมา เขาจึงเงยหน้าขึ้นไปมอง จนเจอเข้ากับสายตาของหัวหน้ากิลด์ ที่กำลังทำหน้าเหมือนกำลังสอบสวนฮักจุนเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น? ทำไมซูฮยอนถึงรู้เรื่องยาได้?

แต่สีหน้าของจองดงย็องก็อยู่ได้ไม่นาน ก่อนจะกลับมาเป็นสีหน้าปกติเหมือนเดิมอีกครั้ง…

“อ่า…จะว่าเป็นยาสำคัญก็ใช่ แต่มันไม่ใช่ยารักษาโรคร้ายแรงอะไรมาก ตามจริงยาที่ฉันให้ไป กินมากไปก็ไม่ดี ฉะนั้นงดสัก 1-2 เดือนเพื่อพักตับบางคงไม่เป็นไร” จองดงย็องหาวออกมาด้วยท่าทีสบายๆก่อนพูดต่อ

“ความถนัดของฉันในฐานะ ผู้ตื่นขึ้น คือด้านยาและพิษ พอดีได้ยินฮักจุนบอกว่าแฟนสาวของตัวเองเป็นโรคที่รักษาไม่หาย ในฐานะพี่ชาย ฉันจึงปล่อยผ่านไปไม่ได้ ฉันจึงอาสาทำยาให้เธอเพื่อรักษาโรคร้ายที่ว่า…”

ฮักจุนกัดฟันไว้แน่นหลังได้ยินเรื่องเล่าที่ออกมาจากปากของจองดงย็อง

‘โรคที่รักษาไม่หายงั้นเหรอ…’

จริงอยู่ที่จองดงย็องทำยารักษาโรคให้กับยันซอน แต่โรคของยันซอนไม่ได้เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ มันเกิดจากตัวยาของจองดงย็องต่างหาก จะบอกว่าพิษก็พูดได้ไม่เต็มปาก เพราะยาที่ยันซอนกินเข้าไปมันเหมือนยาเสพติดมากกว่า

หลังจากได้กินยาเข้าไปร่างกายของยันซอนก็ทรุดลงอย่างหนักจนอยู่ในสภาพอ่อนแอ ถึงแม้ยันซอนพยายามเลิกยา แต่พิษในร่างกลับไม่หายไป…

“ฮักจุน ตั้งแต่วันนี้ไป นายคือน้องชายของฉัน”

น้ำเสียงของจองดงย็องเต็มไปด้วยความเป็นมิตร แต่เมื่อฮักจุนได้ยิน เขากับรู้สึกสะอิดสะเอียนจนอยากอ้วนออกมา แต่ฮักจุนก็ไม่มีทางเลือกมากนัก นอกจากทำตามคำสั่งของจองดงย็องต่อไป เขาไม่สามารถทนดูแฟนสาวของตัวเองตกอยู่ในสภาพทรมานได้…

“ไอ้กร๊วก แกอยากเห็นแฟนสาวของนาย ตายหรือไง?”

เมื่อฮักจุนมีความรู้สึกท้อแท้หรือไม่เชื่อฟังคำสั่งของจองดงย็อง เขามักยกแฟนสาวของฮักจุนมาข่มขู่ทุกครั้ง ยิ่งจองดงย็องให้ยาแก้พิษกับฮักจุนช้ากว่ากำหนด อาการเจ็บปวดของยันซอนก็ยิ่งทรมานมากขึ้น และถ้าไม่ได้ยาตามกำหนดชีวิตของเธอคงอยู่ในโลกหลังความตาย…

“ภายในเวลา 3 เดือน ถ้าแกไปไม่ถึงชั้นที่ 20 ยาที่แกควรได้ อย่างได้หวัง หึ…หวังว่าแฟนสาวของนายคงไม่กัดลิ้นตายไปเพราะความทรมานหรอกนะ”

หมับ

ฮันจุนพยายามหักห้ามใจตัวเองให้ลืมเรื่องราวทั้งหมด แต่แปลกที่สมองของเขายังหวนนึกถึงมันตลอดเวลาไม่ว่าจะตอนนอนหรือตอนตื่น เขากัดฟันของตัวเองด้วยความโกรธ

เขาโทษตัวเองเสมอถ้าไม่ใช่เพราะเขา แฟนสาวคงไม่ต้องมาเจอกับชะตากรรมเช่นนี้..

“ใจเย็นๆ”

ซูฮยอนหันไปมองฮักจุนที่กำลังกลั้นน้ำตาสุดความสามารถ เขาปลอบใจน้องชายสักครู่ ก่อนหันไปมองสายตาของจองดงย็อง

“เฮ้…แกน่ะ”

“ฉันเหรอ?”

“ใช่แกนั้นแหละ”

จองดงย็องแสดงสีหน้าแปลกใจออกมาหลักจากบรรยากาศรอบๆของซูฮยอนเริ่มเปลี่ยนไป

ซูฮยอนที่กำลังมีน้ำโหลุกขึ้นจากที่นั่ง แล้วมองต่ำลงไปยังใบหน้าของจองดงย็อง

“หยุดเสแสร้งแล้วลุกขึ้นจากที่นั่งของแกซะ!!”

==============

ตอนก่อน
ตอนต่อไป

ความคิดเห็นทั้งหมดของ "ตอนที่ 58"

ใส่ความเห็น ยกเลิกการตอบ

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

*

*

  • อ่านนิยาย
  • แทงหวย24

© 2020 cat-novel.com
เว็บอ่านนิยาย นิยาย pdf เว็บ “cat-novel.com” เว็บอ่านนิยายสนุกๆ เพลิดเพลินไปกับนิยายต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น นิยายวาย, นิยายจีน, นิยายรัก, แฟนตาซี, กำลังภายใน, ผจญภัย สุดยอดวิชากำลังภายใน อัพเดททุกวัน พร้อมรองรับการอ่านบนมือถือ คอมพิวเตอร์ ไอแพด หรือแท็บเล็ต อ่านได้ตลอดเวลา ไม่มีโฆษณา อ่านนิยายฟรีต้อง เว็บ ”cat-novel.com”
นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์