กำเนิดใหม่ชายาผู้ล่วงลับ - ตอนที่ 202
ตงฟางเจ๋อสายตาไหวระริกเล็กน้อย “หมอเทวดาเจียงหยวน?”
ซูหลีพยักหน้า กล่าวว่า “ถูกต้องแล้วเพคะ ท่านอ๋องรู้จักคนผู้นี้?”
ตงฟางเจ๋อยิ้ม “ไม่ได้รู้จักกันเป็นการส่วนตัว เคยพบกันเพียงหนเดียว ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ซูซูก็ไปกับข้าเถิด”
ยังจำได้ครั้งแรกที่มาหุบเขาฮวาอวี๋ เป็นเพราะปานบนใบหน้านาง แต่ครั้งที่สองนี้ กลับนำยาแก้พิษมาเพื่อแก้พิษดอกฉิงฮวาในร่างกายเขา
เจียงหยวนที่ไม่สวมหน้ากาก ในสายตาผู้อื่น ยังคงเป็นหมอเทวดาผู้เย็นชาหยิ่งยโสคนนั้น ยามนี้เจียงหยวนกำลังตากสมุนไพรอยู่ในสวน ได้ยินเสียงฝีเท้าด้านหลัง เขากลับไม่แม้แต่จะหันไปมอง
กระทั่งซูหลีขานเรียก “หมอเจียง!”
เจียงหยวนสะดุ้งเล็กน้อย รีบหันกลับไป ท่าทีไม่แยแสต่อสิ่งใดจางหายไปทันทีเมื่ออยู่ต่อหน้าสตรีที่มีดวงตากระจ่างใส ครั้นหันไปเห็นตงฟางเจ๋อที่มากับนาง สีหน้าตะลึงงันผุดขึ้นวูบหนึ่งก่อนจางหายไป เขายืนอยู่ที่เดิม กล่าวเสียงเย็นชา “พวกท่านมีธุระอันใดหรือ?”
เจียงหยวนไม่มีทางลืมเหตุการณ์ยามพบเจอกับตงฟางเจ๋อครั้งแรก คนผู้นี้แข็งกร้าวจนเหมือนไม่ว่าผู้ใดก็ไม่อาจขัดประสงค์ของเขาได้! เจียงหยวนเกลียดคนประเภทนี้ที่สุด หากมิใช่ว่าเห็นแก่ที่เขามากับนาง เจียงหยวนคร้านจะเอ่ยถามด้วยซ้ำ ฉะนั้นน้ำเสียงจึงค่อนข้างเย็นชา เซิ่งฉินได้ยินดังนั้นก็ขมวดคิ้ว เขาติดตามตงฟางเจ๋อมาหลายปี คนที่กล้าทำกิริยาไม่เกรงใจกับท่านอ๋องของเขาเช่นนี้มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้น เจียงหยวนผู้นี้ใจกล้าไม่ธรรมดา!
ซูหลีลอบเหล่มองตงฟางเจ๋อเงียบๆ เห็นเพียงเขามีสีหน้าปกติ คล้ายไม่ใส่ใจ ตงฟางเจ๋อหยุดก้าว ไม่เอ่ยคำใด แค่ยกมือขึ้นเล็กน้อยเป็นเชิงออกคำสั่ง เซิ่งฉินก็รีบเดินเข้ามายื่นกล่องผ้าต่วนในมือไปตรงหน้าเจียงหยวน
กล่องผ้าต่วนประณีต มิใช่สิ่งที่คนธรรมดาจะมีได้ พาให้ผู้คนอยากรู้อยากเห็นว่าด้านในมีสิ่งของล้ำค่าใดอยู่!
เจียงหยวนขมวดคิ้วเบาๆ เมื่อเงยหน้าไปเห็นซูหลีแย้มยิ้มเล็กน้อย สีหน้าท่าทางสงบนิ่งสบายๆ ก็อดสนใจไม่ได้ เอ่ยถามเสียงเย็น “คุณชายหายาแก้พิษได้แล้วหรือ?”
ตงฟางเจ๋อหว่างคิ้วฉายรอยยิ้ม ยื่นมือไปเปิดกล่อง ดอกไม้รูปร่างแปลกตาหายากดอกหนึ่งพลันปรากฏสู่สายตา “หมอเจียงรู้ใจข้าดังคาด”
เจียงหยวนดวงตาเป็นประกาย “เป็น…ดอกฉิงฮวา ของขลังของราชวงศ์เปี้ยนจริงๆ ด้วย!” เขากลับ…หามาได้แล้วจริงๆ!
ตงฟางเจ๋อกระดกคิ้ว กล่าวด้วยรอยยิ้ม “ครั้งที่แล้วหมอเจียงบอกว่าหากหายาแก้พิษได้ ก็มาขอคำชี้แนะวิธีแก้พิษจากท่านได้ ไม่ทราบว่าวาจานั้นเชื่อถือได้หรือไม่?”
เจียงหยวนเอ่ยเสียงขรึม “ย่อมเชื่อถือได้ เชิญเถิด” สายตาของเขาจดจ้องอยู่ที่ดอกฉิงฮวา แต่ฝีเท้ากลับสาวเข้าไปในห้องเร็วๆ ไม่มีหยุดชะงัก
ครั้นทุกคนนั่งลงในห้อง ซูหลีจึงกล่าวว่า “หมอเจียง ยาแก้พิษอยู่นี่แล้ว พิษของเขาสามารถแก้ได้หมดหรือไม่?”
เจียงหยวนนิ่งเงียบไปครู่หนึ่ง สายตากวาดมองนางอย่างพิจารณา เห็นชัดว่ากำลังสงสัย ก่อนจะกล่าวเหมือนไม่ใส่ใจ “ครั้งก่อนท่านทั้งสองมาขอรับการรักษาวันเดียวกัน คุณชายท่านนี้ยังเป็นห่วงอาการของคุณหนูไม่น้อย!”
ซูหลีอึ้งงัน อดไม่ได้ที่จะหันไปมองตงฟางเจ๋อ ครั้งที่แล้วเขาเคยมา?! เหตุใดไม่เคยได้ยินเขากล่าวถึงเลย?
ตงฟางเจ๋อยิ้มพลางบอกว่า “ครั้งก่อนเป็นเพียงเรื่องบังเอิญ ทุกเรื่องของซูซู ข้าล้วนใส่ใจ”
ซูหลีหัวใจสั่นไหว รีบก้มหน้ากล่าว “ขอบพระทัยท่านอ๋องเพคะ”
สายตาซักถามจดจ้องไปที่ใบหน้านาง “คุณชายท่านนี้เอ่ยคำสัญญาด้วยความจริงใจ คล้ายต้องการช่วยคุณหนูให้ได้ เพียงแต่ไม่รู้ว่ายาแก้พิษของคุณหนูหาได้แล้วหรือไม่?”
ภายนอกแสดงถึงความเป็นห่วง แท้จริงกำลังลอบส่งสารขอคำชี้แนะ มีเพียงซูหลีเท่านั้นที่เข้าใจ ในร่างกายของซูหลีและตงฟางเจ๋อมีพิษจากก้านดอกฉิงฮวาอยู่ แต่ดอกฉิงฮวาดอกนี้มีพอให้แก้พิษได้คนเดียวเท่านั้น! เจียงหยวนจึงไม่กล้าด่วนตัดสินใจโดยพลการ
ซูหลีเข้าใจความหมายของเขา จึงพยักหน้ากล่าวว่า “ขอบคุณหมอเจียงที่เป็นห่วง! ความจริงคราวที่แล้วข้ามาขอคำชี้แนะเรื่องลบปาน แท้จริงแล้วเป็นเพราะกลัวว่าสามีในอนาคตของข้าจะรังเกียจมัน แต่ นึกไม่ถึงว่าคุณชายกลับไม่รังเกียจ ฉะนั้นปานของข้า จะกำจัดหรือไม่ก็ไม่ใช่เรื่องสำคัญแล้ว!” นางแย้มยิ้มพลางหันไปมองตงฟางเจ๋อ สื่อความหมายชัดเจน
เจียงหยวนขมวดคิ้ว คล้ายยังคงกังวลอยู่ “ที่แท้ก็เป็นเช่นนี้นี่เอง! พิษดอกฉิงฮวานั้นโดนง่ายแก้ยาก แม้ทั้งสองท่านมีดอกฉิงฮวาอยู่ในมือ แต่พิษในร่างกายของคุณชายท่านนี้จะแก้ได้หรือไม่นั้น กลับขึ้นอยู่กับเจตจำนงของสวรรค์”
“หมายความว่าเช่นไร?” ตงฟางเจ๋อกับซูหลีขมวดคิ้วโดยมิได้นัดหมาย
เจียงหยวนกล่าวด้วยสีหน้าเคร่งเครียด “สาเหตุที่ของสิ่งนี้มีนามว่าดอกฉิงฮวา ประเด็นสำคัญอยู่ที่คำว่าฉิง! หากผู้ที่ถูกพิษต้องการแก้พิษ จำต้องใช้เลือดของคนรักเป็นกระสายยา ผสมกับของเหลวที่สกัดได้จากกลีบดอกเพื่อทำเป็นยาแก้พิษ เวลาจะใช้ให้อาบน้ำพร้อมกับคนรัก เพื่อเป็นการกระตุ้นแรงปรารถนา ในยามที่ร่างกายเกิดแรงปรารถนา ให้นำยาแก้พิษให้ผู้ถูกพิษดื่ม ยิ่งแรงปรารถนารุนแรงเท่าใด พิษในร่างกายก็ยิ่งถูกกำจัดได้หมดจดเท่านั้น นอกจากนี้ระหว่างแก้พิษก็จะยิ่งทรมานมาก อาจร้ายแรงถึงขั้นควบคุมสติไม่ได้ จนทำร้ายตนเองและผู้อื่นได้ง่ายๆ”
กลับยุ่งยากถึงเพียงนี้! เพียงอาบน้ำร่วมกันและกระตุ้นแรงปรารถนา ก็ทำให้ซูหลีหน้าถอดสีแล้ว พิษของดอกฉิงฮวา ไม่ธรรมดาดังคาด! หนำซ้ำยังต้องเป็นคนที่รัก…
นางหันไปมองตงฟางเจ๋อโดยสัญชาตญาณ กลับเห็นเขามองมาที่นางพอดี สายตาของทั้งสองสานประสบกลางอากาศ คนหนึ่งขัดแย้งสับสน คนหนึ่งลึกล้ำดั่งมหาสมุทร ครั้นสบตากัน ประกายไฟประหลาดกลับถูกจุดขึ้นในใจของทั้งสอง ซูหลีใจเต้นรัว รีบหลบสายตา ก่อนจะมองไปที่เจียงหยวน แล้วถามว่า “ถ้าหาก…คนคนนั้นไม่ใช่คนรักของเขาจะเป็นเช่นไร?”
เจียงหยวนชะงักเล็กน้อย ขมวดคิ้วตอบว่า “หากไม่ใช่ การแก้พิษอาจล้มเหลว!”
“ล้มเหลวแล้วจะเป็นอย่างไร?” ซูหลีเค้นถาม
เจียงหยวนตอบ “วรยุทธ์สูญสิ้น ไร้ซึ่งแรงปรารถนาไปชั่วชีวิต”
ร้ายแรงถึงเพียงนี้?! ซูหลีตกใจเล็กน้อย นางหันไปมองตงฟางเจ๋ออีกครั้ง เห็นเพียงคิ้วคมขมวดเบาๆ สีหน้าเคร่งขรึมขึ้นหลายส่วน นางอดตึงเครียดไม่ได้ ผลลัพธ์เช่นนี้เขาไม่อาจจะแบกรับไหว!
ตงฟางเจ๋อกล่าวอย่างครุ่นคิดเล็กน้อย “จะมั่นใจได้อย่างไรว่าอีกฝ่ายใช่คนรักของตนเองหรือไม่?”
เจียงหยวนตอบ “คนที่คุณชายนึกถึงยามที่แรงปรารถนาถูกกระตุ้น ก็คือคนผู้นั้น”
ตงฟางเจ๋อพลันคลายปมคิ้ว สายตาแฝงแววเสน่หา ยิ้มแล้วหันมาขานเรียกนาง “ซูซู เจ้าจะยอมช่วยข้าหรือไม่?”
ซูหลีมองเขา ไม่ได้ตอบคำถาม ในใจลังเลสับสน ยังไม่ต้องพูดถึงวิธีแก้พิษ สิ่งที่นางกังวลคือ ถ้าหากนางไม่ใช่คนที่อยู่ในใจเขา ผลลัพธ์ที่ตามมาอาจร้ายแรงจนไม่อาจคาดเดา!
ราวกับมองเห็นความกังวลในใจนาง ตงฟางเจ๋อหมุนกายกุมมือนาง สายตาจดจ้องใบหน้านางอย่างแน่วแน่ ถามอย่างอ่อนโยน “เจ้าไม่เชื่อข้าหรือ?”
ความเย็นชาและลึกล้ำในยามปกติหายไปจนสิ้น สายตาของเขาเปล่งประกาย รอยยิ้มอบอุ่น ราวกับเป็นเทวดาที่อยู่ในส่วนลึกของแสงตะวัน งดงามไร้ที่เปรียบ ทว่ากลับสามารถจับต้องได้
ซูหลีกล่าวเสียงเบา “ไม่ใช่ไม่เชื่อท่านอ๋อง…”
นางรู้ว่าเขาไม่เคยกระทำเรื่องที่ไม่มีความมั่นใจ แต่หากเข้าใจผิดคิดว่าชอบเป็นรัก ก็ไม่ใช่จะเป็นไปไม่ได้สำหรับคนที่ไม่เคยรักใคร
ตงฟางเจ๋อถามอีก “เช่นนั้นเจ้าไม่เชื่อตนเอง?”
ซูหลีชะงักงัน ไม่เชื่อตนเอง? อาจใช่กระมัง แต่หากจะพูดให้ถูกต้อง ต้องบอกว่าไม่เชื่อในความรัก นางก้มหน้าลงเล็กน้อย ทว่ากลับถูกสองมือของเขาประคองใบหน้าขึ้นบังคับให้สบตากับเขา นัยน์ตาลึกล้ำของเขาเหมือนดั่งน้ำวนแห่งห้วงอารมณ์ นางมองเพียงแวบเดียวก็เหมือนจะจมดิ่งเข้าไป ไม่อาจถอนตัว
…………………………………….