กำเนิดใหม่ชายาผู้ล่วงลับ - ตอนที่ 203
“ซูซู เชื่อข้า! แล้วก็เชื่อตัวเจ้าเองด้วย!” ราวกับรอบกายไร้ผู้คน เสียงทุ้มต่ำและอบอุ่นของเขาดังอยู่ข้างใบหูนาง เหมือนมีเวทมนต์ที่ทำให้นางพยักหน้าเบาๆ โดยไม่รู้ตัว
แสงตะวันนอกหน้าต่างพลันสว่างเจิดจ้า ขับไล่ความหนาวเหน็บในเหมันตฤดูไปกว่าครึ่ง สาดส่องเข้ามาในห้องเล็กๆ อย่างอบอุ่น ตงฟางเจ๋อแย้มยิ้มน้อยๆ หันไปกล่าวกับเจียงหยวนที่นั่งอึ้งอยู่อีกด้าน “รบกวนหมอเทวดาเจียงแล้ว!”
เจียงหยวนกลับไม่ขยับ สายตาสงสัยจดจ้องใบหน้าซูหลี แต่ซูหลีในยามนี้กำลังจ้องมองรอยยิ้มของตงฟางเจ๋ออย่างเหม่อลอยเล็กน้อย เขายิ้มอย่างนี้แล้วช่างงามนัก! เหมือนถอดหน้ากากอันเย็นชาออก กลายเป็นคนที่จริงใจและอบอุ่น จู่ๆ นางก็อยากรักษารอยยิ้มอบอุ่นหายากเช่นนี้เอาไว้
ยื่นมือออกไปให้เจียงหยวนเจาะเลือด เจียงหยวนกลับถอนหายใจ สตรีไม่ว่าจะใจเย็น มีไหวพริบ หรือฉลาดปราดเปรื่องเพียงใด เมื่ออยู่ต่อหน้าความรัก ก็มักใจอ่อนเสมอ บางทีอาจมีเพียงสตรีเช่นนางเท่านั้นที่สามารถเข้าไปอยู่ในดวงใจของบุรุษเช่นเจิ้นหนิงอ๋องได้!
หลังเจาะเลือด เจียงหยวนใช้เวลาในการปรุงยาแก้พิษครึ่งชั่วยาม ก่อนจะเดินนำทั้งสองเข้าไปในเรือนเล็กที่อยู่ในสวนด้านหลัง ในเรือนมีน้ำร้อนสำหรับอาบที่เพิ่งถูกยกมาวางหนึ่งถัง ในอากาศ มีกลิ่นหอมของยาโชยชาย ไอหมอกลอยกรุ่น กลิ่นหอมประหลาดชนิดหนึ่งจู่โจมประสาทสัมผัสของนาง ทำให้นางสั่นสะท้านไปทั้งใจอย่างไม่ทันตั้งตัว
ซูหลีขมวดคิ้วเบาๆ มองไปที่เจียงหยวน หมายจะเปิดปาก แต่กลับได้ยินตงฟางเจ๋อถามขึ้นก่อน “ในน้ำร้อนนี้ผสมสิ่งใดไว้?” เห็นชัดว่าไม่ได้มีเพียงนางที่รู้สึกผิดปกติ
ตงฟางเจ๋อสีหน้าเคร่งขรึม สายตาคมปลาบบีบคั้นผู้คนจนไม่อาจเงยหน้า เซิ่งฉินที่อยู่ข้างหลังรีบจับด้ามกระบี่ที่เอว ไอสังหารแผ่กำจายในพริบตา
สายตาเจียงหยวนเย็นชา ด้วยนิสัยในยามปกติของเขา หากถูกสงสัยเช่นนี้คงจะไม่สนใจไยดีสองคนนี้อีกแล้ว แต่…หันไปมองซูหลีที่ยืนเคียงไหล่อยู่กับตงฟางเจ๋อ เจียงหยวนข่มกลั้นความไม่พอใจอย่างสุดความสามารถ กล่าวเสียงเย็นชา “ในน้ำร้อนนี้ ผู้น้อยเจียงเติมยาชนิดหนึ่งลงไป นามว่ามายาปรารถนา มันจะทำให้พวกท่านตามหาสิ่งที่ใจปรารถนาที่สุดจนพบ หากในห้วงจินตนาการในใจของพวกท่านที่เต็มเปี่ยมไปด้วยแรงปรารถนาไม่มีอีกฝ่ายอยู่ จะให้ดีที่สุดก็หยุดการแก้พิษเสีย มิเช่นนั้นท่านทั้งสองจะเป็นอันตราย!”
ที่แท้เขาเห็นถึงความกังวลของนาง จึงได้คิดวิธีนี้ขึ้นมาเพื่อป้องกันเหตุไม่คาดฝัน ด้วยนิสัยส่วนตัวของเจียงหยวน การทำให้ถึงขนาดนี้ถือเป็นเรื่องที่ไม่ง่ายเลย ซูหลีอดไม่ได้ที่จะกล่าวอย่างซาบซึ้งใจ “หมอเจียงความคิดรอบคอบ ขอบพระคุณท่านยิ่งนัก!”
ซูหลีค้อมกายเล็กน้อย คนอื่นไม่รู้ความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขา จึงไม่รู้สึกแปลกใจ เจียงหยวนกลับสะดุ้ง แต่นางทำด้วยความจริงใจ! สี่นักฆ่าผู้ยิ่งใหญ่แห่งเฉินเหมินมิได้ถูกบ่มเพาะมาโดยน้ำมือนาง ทั้งวรยุทธ์และความสามารถของพวกเขาทุกคนไม่ได้ด้อยไปกว่านางแม้แต่น้อย โดยเฉพาะเจียงหยวนผู้นี้ นิสัยเย่อหยิ่งเย็นชา อารมณ์ขึ้นๆ ลงๆ แต่ติดตรงฐานะ จึงจำต้องฟังคำสั่งนาง หากเขาไม่ยินยอม เขาเพียงทำตามคำสั่งก็พอ ไม่จำเป็นต้องคิดพิจารณาเพื่อนางถึงเพียงนี้ เพราะถึงอย่างไรหากมีความผิดพลาดใดเกิดขึ้น นางก็โทษเขาไม่ได้อยู่แล้ว! ซูหลีไม่ใช่คนที่ไม่รู้ผิดชอบชั่วดี ฉะนั้นนางจึงคิดว่าการขอบคุณในครั้งนี้เป็นเรื่องสมควร
เห็นนางใบหน้าเกลื่อนยิ้ม สายตาจริงใจ เจียงหยวนสะท้านไปทั้งใจ รีบประคองนางขึ้น แล้วกล่าว “คุณหนู…เกรงใจเกินไปแล้ว!”
ตงฟางเจ๋อสายตาไหวระริก ยิ้มแล้วกล่าวว่า “เป็นข้าน้อยคิดมากไป หมอเจียงอย่าได้ถือสา”
เจียงหยวนเพียงแค่นเสียงเย็นชา ไม่สนใจเขา
ซูหลีถาม “ระหว่างแก้พิษ มีเรื่องใดต้องระวังเป็นพิเศษหรือไม่? หมอเจียงกรุณาชี้แจงด้วย! ยาตัวนี้…” เป็นยากระตุ้นแรงปรารถนา หรือสิ่งใด?
เจียงหยวนกล่าว “ความรู้สึกเกิดจากหัวใจ หัวใจเต้นไปตามความรู้สึก จากนั้นจึงกลายเป็นแรงปรารถนา ทั้งสองท่านจำต้องกำจัดความคิดฟุ้งซ่านออกไป มองอีกฝ่ายเป็นเพียงหนึ่งเดียวในชีวิต ครั้นความรู้สึกบริสุทธิ์ แรงปรารถนาก็จะถูกกระตุ้น หากไร้ความบาดหมางร้าวฉาน พิษจะถูกขับออกจนสิ้น”
วาจาเพียงไม่กี่คำของเจียงหยวน ฟังเหมือนง่าย แต่กลับทำยากมาก ระหว่างนางและตงฟางเจ๋อ มีอะไรกั้นขวางอยู่มากมาย พวกเขาไม่ได้มีความสัมพันธ์ที่บริสุทธิ์ใจต่อกัน แล้วจะทำให้เกิดความรู้สึกที่บริสุทธิ์ขึ้นได้เช่นไร?
ซูหลีขมวดคิ้วถาม “หากมีความบาดหมางร้าวฉาน ความรู้สึกไม่บริสุทธิ์ จะเป็นเช่นไร?”
เจียงหยวนกล่าว “การแก้พิษล้มเหลว”
ผลลัพธ์ที่ล้มเหลว เมื่อครู่เขาก็ชี้แจงแล้ว หัวใจซูหลีหนักอึ้ง ใบหน้าพลันตึงเครียด
เจียงหยวนหมุนกายหมายจะเดินจากไป ขณะผ่านข้างกายซูหลี เขาพลันก้มหน้าเอ่ยเสียงเบา “หลังจากส่งยาแก้พิษให้เขาดื่ม รีบออกมาเสีย มิเช่นนั้นจะต้องบาดเจ็บแน่นอน! จำไว้ให้ดี” เอ่ยจบก็สาวเท้ายาวๆ เดินออกจากห้องไป
ตงฟางเจ๋อมองแผ่นหลังของเจียงหยวนที่ก้าวเท้ายาวๆ ออกจากห้องไป หรี่ตาเล็กน้อย ซูหลีกล่าว “ท่านอ๋องอย่าตำหนิเขาเลยเพคะ ผู้มีพรสวรรค์มักมีนิสัยใจคอประหลาด หมอเทวดาชำนาญเรื่องหยูกยาและการแก้พิษ เขายอมทำให้ถึงขนาดนี้ ก็ไม่ง่ายแล้วนะเพคะ”
“ไม่ง่ายจริงๆ! แต่ความสามารถของเขา เหมือนไม่ได้ช่ำชองแค่เรื่องหยูกยาและการแก้พิษ!” สายตาของตงฟางเจ๋อเต็มไปด้วยความนัย เอ่ยจบก็หันมามองนาง แล้วกล่าวด้วยรอยยิ้ม “เขาคล้ายปฏิบัติกับซูซูต่างออกไป!”
ซูหลีตกใจ รีบเงยหน้ามองเขา ยิ้มบางพลางเอ่ยว่า “ที่ไหนกันเล่าเพคะ?”
ตงฟางเจ๋อกล่าว “หากเป็นสตรีอื่น เขาไม่มีทางยื่นมือมาประคอง ยิ่งไม่มีทางกำชับในตอนท้ายว่าให้เจ้าออกจากห้องไป เพราะเขากลัวข้าทำร้ายเจ้า!”
เขากล่าวอย่างจริงจัง เหมือนกำลังครุ่นคิดถึงเหตุผลที่เจียงหยวนปฏิบัติต่อนางเป็นพิเศษ
ซูหลีตึงเครียด นางระวังตัวมากแล้ว แต่บุรุษผู้นี้กลับความรู้สึกไวยิ่งนัก! ไม่อาจเปิดโอกาสให้เขาคิดมาก นางหมุนกลอกดวงตา จู่ๆ ก็กล่าวเสียงเข้ม “หม่อมฉันว่าพิษนี้ อย่าแก้เลยดีกว่า! ท่านอ๋องกลับไปเสียเถิดเพคะ!”
ตงฟางเจ๋ออึ้งงัน รีบรั้งนางไว้ “เจ้าจะกลับคำหรือ? พวกเราตกลงกันไว้แล้วนะ!”
นางช่วยเขาแก้พิษ เพื่อแลกกับระยะเวลาสัญญาสองปีของเขา
ตงฟางเจ๋อรั้งมือนางแล้วฉุดเข้ามาในอ้อมอก กอดนางจากข้างหลัง ลมหายใจอุ่นๆ เป่ากระทบใบหูนางซ้ำแล้วซ้ำเล่า พาให้รู้สึกจั๊กจี้
นางอยากหลบแต่กลับหลบไม่ได้ ทำได้เพียงถอนหายใจ “หม่อมฉันเปล่าเพคะ เพียงแต่หม่อมฉันรู้สึกว่าพวกเราสองคน มิอาจสร้างความรู้สึกที่บริสุทธิ์ขึ้นมาได้ พิษชนิดนี้อันตรายเกินไป”
ตงฟางเจ๋อชะงัก มองดูดวงหน้าจนใจระคนผิดหวังรางๆ ของนาง หัวใจสั่นไหว กล่าวอย่างครุ่นคิด “ไม่ลอง แล้วจะรู้ได้อย่างไร?”
ลอง? ซูหลีหันไปมองเขาอย่างตกใจ “ท่านอ๋องไม่ใช่คนที่จะเสี่ยงอันตราย!”
ตงฟางเจ๋อยิ้มอ่อนโยน เอ่ยว่า “ถูกดังที่เจ้าว่า แต่ถ้าหากทำเพื่อเจ้า ลองดูสักครั้งจะเป็นไรไป?”
“เพื่อหม่อมฉัน?” ซูหลีเหล่มองเขา เห็นๆ กันอยู่ว่านี่เป็นการแก้พิษให้เขา…
ตงฟางเจ๋อไม่ได้แก้ต่าง เพียงกอดนางแน่นๆ สายตาแปรเปลี่ยนเป็นอ่อนโยนลึกซึ้ง
ซูหลีอึ้งงัน อดไม่ได้ที่จะกล่าว “เมื่อครู่เหมือนท่านอ๋องยังสงสัยและหยั่งเชิงหม่อมฉันอยู่เลยนะเพคะ!”
“เมื่อครู่?” ตงฟางเจ๋อหัวเราะอย่างแปลกใจ ถามว่า “เจ้าหมายถึงเจียงหยวน?”
ซูหลีพยักหน้า สองมือที่โอบรอบเอวยิ่งรัดแน่นขึ้น ใบหน้าเคร่งขรึมของตงฟางเจ๋อขรึมลงอีกหลายส่วน เขาส่ายหน้าพลางกล่าวอย่างทอดถอนใจ “นั่นใช่สงสัยและหยั่งเชิงที่ใดกัน ข้าแค่ไม่ชอบที่มีบุรุษอื่นมาแอบส่องสตรีของข้า!”
ซูหลีอ้าปากค้าง พูดอะไรไม่ออก ใช่แล้ว คนอย่างเขาต้องมีความอยากเป็นเจ้าข้าวเจ้าของแต่เพียงผู้เดียวสูงมากแน่ๆ เพียงแต่เขาเข้าใจผิดคนแล้ว! เจียงหยวนไม่ได้เสน่หาในตัวนาง! นางผลักเขาออก คิ้วงามกระดกเล็กน้อย กล่าวเสียงเรียบ “หม่อมฉันยังไม่ใช่สตรีของท่านอ๋องเพคะ!”
ตงฟางเจ๋อไม่โกรธ มองนางแล้วกล่าว “สักวันก็ต้องใช่!” เขามั่นใจ และหนักแน่นมาก ราวกับมั่นใจแล้วว่านางคือสตรีคนนั้นที่เขาอยากได้ที่สุดในชีวิตนี้!
…………………………………………..